นักกีฬา So Cute

"อ๋อม" อนงค์พร พรหมรัด อดีตนักวอลเลย์บอลยุวชนหญิงทีมชาติไทย วัย 31 ปี เล่นตำแหน่งบอลเร็ว เจ้าของส่วนสูง 182 เซนติเมตร เกิดวันที่ 2 มีนาคม 2535 สาวสวย หุ่นนางแบบจากพิษณุโลก😍🏐

📷วาร์ปสำหรับติดตาม
Facebook : Anongporn Promrat
IG : 12_anongporn

#นักกีฬา #นักกีฬาสาวสวย #สาวสวย #วอลเลย์บอล #นักวอลเลย์บอล #อ๋อมอนงค์พร

เซ็ตเตอร์คนสวยจากเกาหลีใต้❤️🫶🏼🇰🇷

"อี ดา-ยอง" Lee Da-Yeong อดีตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติเกาหลีใต้ วัย 26 ปี เล่นตำแหน่งเซตเตอร์ มีความสูง 179 เซนติเมตร ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรบอเลโร เลอ ก็องเนต์ (Volero Le Cannet)

#นักกีฬา #นักกีฬาสาวสวย #สาวสวย #วอลเลย์บอล #นักวอลเลย์บอล #อีดายอง

สาวลิเบอโร่ยิ้มหวาน😍

"ป๊อป นริศรา แก้วมะ" อดีตนักวอลเลย์บอลยุวชนทีมชาติไทย วัย 27 ปี สูง 158 เซนติเมตร ปัจจุบัน นริศราอยู่สังกัดสโมสรไอเดีย-ขอนแก่น วีซี 🏐

📷วาร์ปสำหรับติดตาม
Facebook : Pop Narissara
IG : narissara.16

#นักกีฬา #นักกีฬาสาวสวย #สาวสวย #วอลเลย์บอล #นักวอลเลย์บอล #ป๊อปนริศรา

สาวสวยจากยโสธร🥰

"น้องขนุน" มาริสา โคกสีอำนวย นักวอลเลย์บอลหญิงไทย จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ วัย 24 ปี เล่นตำแหน่งลิเบอโร เจ้าของส่วนสูง 165 เซนติเมตร🏐

📷วาร์ปสำหรับติดตาม
Facebook : Kanun Marisa
IG : marisa_kmc

#นักกีฬา #นักกีฬาสาวสวย #สาวสวย #วอลเลย์บอล #นักวอลเลย์บอล #ขนุนมาริสา

สาวใต้มันน่ารักก‼️❤️

"น้ำหวาน" อภิสรา พิริยะพฤทธิ์ นักกีฬากรีฑาทีมชาติไทย วัย 23 ปี มีความสูง 168 เซนติเมตร เกิดวันที่ 20 กรกฎาคม 2543 สาวใต้จากภูเก็ต

📷วาร์ปสำหรับติดตาม
Facebook : Apisara Piriyapruth
IG : _apisara

#นักกีฬา #นักกีฬาสาวสวย #สาวสวย #นักวิ่ง #น้ำหวานอภิสรา

อยากออกวิ่งเลย‼️😍

"แนน" ดลยา สุตานันท์ นางฟ้านักวิ่งจากแดนล้านนา ผู้ทำให้เส้นทางวิ่งทุกสายถูกฉาบเอาไว้ด้วยสีชมพู...

นักวิ่งสาวจากแดนล้านนา ที่สวยเซ็กซี่จนทำให้เส้นทางวิ่งทุกสายกลายเป็นสีชมพู และยังทำให้ใครหลายคนอยากลุกขึ้นมาวิ่งออกกำลังกายเผื่อจะได้เจอนักวิ่งสวย ๆ

📷วาร์ปสำหรับติดตาม
FB : Dollaya Sutanan
IG : stn_dollaya

#นักกีฬา #นักกีฬาสาวสวย #สาวสวย #นักวิ่ง #แนนดลยา

#เชิงลึกก่อนเกม
เกาะติดสถานการณ์ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกของหงส์แดงสัปดาห์ที่ 2..
พรีเมียร์ลีกเปิดทำการอย่างเป็นทางการไปแล้ว 1 สัปดาห์ ซึ่งบรรดาทีมท๊อป์ของตารางต่างก็ทำผลงานกันได้ดีในการออกสตาร์ทนัดแรกมีเพียงเชลซีของ แลมพาร์ดเท่านั้นที่พลาดท่าเสียทีให้กับแมนยูฯ ของโซซาไป 4-0 โดนรับน้องไปแบบเจ็บช้ำน้ำใจ
แต่ก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ เพราะทีมเชลซีถูกแบนไม่ให้ซื้อตัวนักเตะ แถมช่วงท้ายตลาดก็มาเสียดาวิด หลุยส์ ไปอีก ทำให้ต้องเข็ญเอาตัวสำรอง และดาวรุ่งลงกันถ้วนหน้า
แมนซิตี้ ที่ฤดูกาลนี้เสริมนักเตะระดับท๊อปเข้ามา 2 คน คือโรดรีกับกานเซโล ยังทำผลงานและรักษาฟอร์มการเล่นของแชมป์ 2 สมัยได้อย่างเหนียวแน่น บุกไปเอาชนะทีมเวสต์แฮมของเจ้านายเก่าได้ถึง 0-5 พร้อมกับแฮตทริกแรกของซีซั่นจากราฮีมสเตอร์ลิงขึ้นนำเป็นจ่าฝูงตั้งแต่สัปดาห์แรก
ทางด้านสเปอร์ทีมอันสามจากฤดูกาลก่อน เปิดบ้านเจอแอสตัน วิลลา ทีมน้องใหม่ก็เล่นเอาหืดจับเช่นกัน เพราะโดนนำไปก่อนในครึ่งแรก ก่อนที่จะมาเร่งในช่วง 15 นาทีสุดท้ายด้วยการยิงนัดแรกของนักเตะใหม่ค่าตัวแพงอย่างเอ็นดอมเบเล และการเหมาคนเดียว 2 ประตูของกองหน้าดาวยิงของสโมสรอย่างแฮรี่เคน ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย
ส่วนอาเซน่อลนั้น ทีมที่มีเงินในการเสริมทีมน้อย แต่ได้นักเตะเข้ามามากที่สุด ในนัดแรกที่ลงสนามไปเยือนนิวคาสเซิล อูไน กับใช้นักเตะดาวรุ่งของทีมลงสนามครึ่งค่อนทีม และต้องใช้เวลากว่า 58 นาทีกว่าจะทำประตูได้และเก็บสามแต้มเกาะกลุ่มผู้นำหัวตารางไปได้
ไฮไลท์ของสัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้นบิ๊กแมทช์ประจำสัปดาห์ที่แมนซิตี้จะเปิดรังเอติฮัด รับการมาเยือนของไก่เดือยทอง ในคืนวันเสาร์เวลา 23.30 ต่อจากคู่ของลิเวอร์พูลไปเยือนเซาแธมป์ตัน
#นี่จะเป็นการตัดแต้มกันเองของ2ทีมลุ้นแชมป์ในกลุ่มหัวตาราง และเปิดโอกาสให้ลิเวอร์พูลที่ลงแข่งก่อนมีโอกาสกดดันแมนซิตี้ตั้งแต่สัปดาห์ที่สอง ปีที่แล้วเป็นทางฝั่งแมนซิตี้ที่เอาชนะสเปอร์สได้ทั้งไปและกลับ 1-0 แต่ก็เป็นเกมที่พวกเขาไม่ได้ดูดีไปกว่าสเปอร์สมากนัก
#เกาะติดความพร้อมหงส์แดง
มาว่ากันถึงทีมหงส์แดงของเรา คล๊อปป์ตั้งเป้าลุ้นแชมป์จริงจังเป็นปีที่สองหลังจากปีที่แล้วก็เกือบสร้างตำนานได้ แต่เฉือนแพ้แมนซิตี้ไปเพียง 1 แต้ม ด้วยคะแนนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร 97 แต้ม ปีนี้ไม่เสริมผู้เล่นระดับท๊อปเข้ามายังยืนยันและเชื่อมั่นในการพัฒนานักเตะที่มีอยู่ในทีม
ช่วงสัปดาห์แรกหงส์แดงต้องเหนื่อยหน่อยเพราะต้องเล่นถึง 3 เกม ใน 1 สัปดาห์ จากเกมแรกที่เปิดบ้านต้อนนอริช มา 4-1 และยังต้องไปเล่นอีก 120 นาทีกับเชลซีในรายการยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ คล๊อปป์เองก็ออกอาการกังวลไม่น้อยกว่านักเตะของเขาจะล้าหรือไม่
เล่นมาสองนัด เสียไป 3 ประตู ก็สะท้อนให้เห็นว่าแนวรับของหงส์แดงปีนี้อาจไม่ได้เหนียวแน่นปึกเหมือนปีที่แล้ว อีกทั้งยังต้องเจอกับปัญหานักเตะมีอาการบาดเจ็บรบกวนตั้งแต่สัปดาห์แรกทั้งนาบี เกอิตา ที่เจ็บจนอดลงนัดชิงซุปเปอร์คัพ มิลเนอร์ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจนต้องเปลี่ยนตัวออก และที่สำคัญคือการบาดเจ็บของอลีสซง ที่น่าจะยาวนานกว่า 1-2 เดือนทีเดียว แถมล่าสุดนายทวานมือสองก็ยังมาเจ็บอีก
เมื่อมองในเกมรุกของทีมก็พบว่านักเตะอย่างแชมเบอเลนและโอริกี้ยังทดแทนด้านคุณภาพของ 3 ตัวจริงไม่ได้ ชากิรี่กับบริวสเตอร์ก็ยังไม่ได้รับโอกาสให้เล่น
สัปดาห์นี้ต้องออกไปเยือนเซาแธมป์ตัน น่าจะไม่ใช่งานยากอะไรสำหรับคล๊อปป์เพราะผูกปีชนะมา 5 นัดรวดแล้ว
ที่สำคัญคือต้องประคองทีมอย่างไรไม่ให้นักเตะบาดเจ็บเพิ่มเพื่อลุ้นต่อสู้กับแมนซิตี้ในระยะยาว และต้องฉวยโอกาสกดดันแมนซิตี้ให้ได้ จากการที่ลงเตะก่อนและแมนซิตี้ต้องเจอของแข็งอย่างสเปอร์ส เพราะนัดต่อไปหงส์แดงก็ต้องเจอศึกหนักอย่างอาร์เซน่อลเช่นกัน
ิงลึก #ลิเวอร์พูล

ปรบมือให้บอสสิครับ

รอดูฟอร์มของแมนยุทีมที่ใช้เงินเสริมทัพมากที่สุดในลีกกับเชลซีคู่แข่งของหงส์แดงในนัดชิงศึกยูฟ่าซุปเปอร์คัพวันพุธนี้

ิงลึก05 ว่าด้วยนักเตะคู่บุญนัดเปิดสนาม..
คล๊อปป์เริ่มมาคุมทีมลิเวอร์พูลเมื่อเดือนตุลาคมปี 2015 นับเป็นเวลา 4 ปีครึ่ง ที่เขาเข้ามาทำงานกับหงส์แดงตลอดระยะเวลานั้นเขาซื้อนักเตะไปทั้งหมด 27 คน ขายนักเตะไป 29 คน และมีนักเตะที่ถูกปล่อยตัวเพราะหมดสัญญาอีก 17 คน รวมแล้วมีนักเตะหมุนเวียนเปลี่ยนผันในทีมของคล๊อปป์มากถึง 73 คนเลยทีเดียว..
นั่นทำให้โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงนัดแรกของทุกปีจึงปรับเปลี่ยนไปเสมอ จนแทบจะไม่เหลือเค้าลางเดิมของทีมเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่เชื่อหรือไม่ครับ ไม่ว่าทีมจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนยังไง ก็ยังมีนักเตะถึง 2 คนที่ได้ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงของคล๊อปป์ในนัดเปิดสนามเกมแรกทุกครั้ง สองคนนั้นก็คือ ฟีร์มิโน่กับไวนาดุม นั่นเองครับ..

เรียบร้อยโรงเรียนบอนมัธ
คว้า แฮรี วัลสัน ไปใช้งานแบบยืมตัว
1 ฤดูกาล ภายใต้สัญญาว่าต้องให้ลงเล่น
ตามจำนวนนัดที่กำหนด ถ้าลงไม่ครบ บอนมัธต้องจ่ายเงินเพิ่ม

ข่าวลือข่าวใหญ่จริง ๆ
มีโอกาสเป็นไปได้สูงทีเดียวที่อาร์เซน่อลจะสร้างบิ๊กดีลด้วยการคว้าตัวคูติญโญ่มาก่อนปิดตลาด

“ศึกวัดกำลังใจ”..
ศึกโล่การกุศลคืนนี้ แม้จะไม่ใช่เกมที่ต้องเอาเป็นเอาตาย แต่เชื่อว่ากุนซือและนักเตะทั้งสองทีมต่างก็หวังจะชนะด้วยกันทั้งนั้น และยิ่งทั้งสองทีมต่างรู้ดีว่าอีกฝ่ายคือขู่แข่งแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้โดยตรง ยิ่งต้องการข่มขวัญกำลังใจของอีกฝั่ง การชนะอีกฝั่งได้ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจก่อนเปิดฤดูกาลได้ เผลอ ๆ อาจทำให้อีกฝั่งเปิดฤดูกาลแบบฝันร้ายไปเลย..
ไม่ว่าจะมองมุมไหน ทั้งสองทีมก็แพ้ไม่ได้ !..
ศึกชิงขวัญกำลังใจครั้งนี้ ใครจะเป็นฝ่ายคว้าชัยไปได้ก่อน คืนนี้ 3 ทุ่ม รู้กัน

ิงลึก

“กองกลาง 7 คน”..
หากจะหาว่าทีมไหนในพรีเมียร์ลีกมีกองกลางพร้อมใช้งาน ฝีเท้าในระดับเดียวกันมากที่สุด ผมคิดว่าคำตอบคือลิเวอร์พูลของคล๊อปป์แน่นอนครับ เพราะตอนนี้คล๊อปป์มีกองกลางที่เล่นได้ในระดับเดียวกัน ฝีเท้าไม่ห่างกันมากถึง 7 คน คือ เฮนเดอร์สัน, ไวนาดุม, ฟาบิญโญ่, มิลเนอร์, ลัลลานา, เกอิตา, แชมเบอเลน..
นี่คือโจทย์ใหม่ของคล๊อปป์ที่เขาคิดว่าจะทำอย่างไรกับทรัพยากรกองกลางที่มีมากขนาดนี้..
หากสังเกตช่วงปรีซีซั่น ผมว่าจุดหนึ่งที่คล๊อปป์ตั้งใจทดลองคือการปรับใช้นักเตะในตำแหน่งกองกลาง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการปรับตำแหน่งของลัลลานา จากมิดฟิลด์เชิงรุกมาเป็นโฮลดิ้งมิดฟิลด์ นอกจากนั้นหากสังเกตให้ดี ปรีซีซั่นนี้ เฮนเดอร์สัน แทบจะไม่ได้ลงเล่นในตำแหน่งโฮลดิ้งอีกเลย นั่นหมายความว่าปีนี้เฮนเดอร์จะลดบทบาทในตำแหน่งโฮลดิ้งลง เปิดทางให้ลัลลานาขึ้นมา ขณะที่ตัวเองจะไปเล่นเป็นบ๊อกทูบ๊อกมีส่วนร่วมในเกมรุกมากขึ้น..
อีกจุดหนึ่งคือ ไวนาดุมกับแชมเบอเลน ที่ได้ลองชิมกับการขึ้นไปเล่นเป็นตัวรุกกองหน้าอยู่สองนัด แม้จะฝืน ๆ ฝืด ๆ ไปบ้าง แต่ก็ได้เห็นมิติการทำเกมจากแถวกลางมากกว่าด้านข้าง หรือหากนับชากิรี่ที่นัดสุดท้ายคล๊อปป์ให้ถอยลงมาต่ำเป็นบ๊อกทูบ๊อก ก็เล่นได้ดี ทำให้เกมแดนกลางมีมิติเชิงรุก เร็ว มากขึ้น ก็เท่ากับว่าคล๊อปป์มีตัวเลือกแดนกลางถึง 8 คนทีเดียว..
น่าจับตามองว่ากองกลาง 7-8 คนของคล๊อปป์จะช่วยขับเคลื่อนเครื่องจักรสีแดงนี้ให้เดินทางไปในทิศทางใดบ้าง..
ิงลึก #ลิเวอร์พูล

ถ้าจะมีใครสักคนที่ทำให้แฟนบอลหงส์แดงต้องประหลาดใจในฤดูกาลนี้ คนๆ นั้น อาจจะเป็น อดัม ลัลลานา ....
สำหรับผม การปรีซีซั่นรอบนี้ นักเตะคนที่ทำให้ผมสนใจและจะเฝ้าติดตามเขาตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ใช่บริวสเตอร์, โฮเวอร์, หรือ เอเลียต แต่เป็นนักเตะที่ลงเล่นให้หงส์แดงมาแล้วกว่า 113 นัด อย่าง อดัม ลัลลานา....
สถานการณ์ของเขาก่อนปรีซีซั่นอาจพูดได้ว่า หมดอนาคต แล้ว ก็เป็นได้ เพราะมองจากตำแหน่งต่าง ๆ ในแผงกองกลาง ตัวรุกหรือบ๊อกทูบ๊อก ไม่มีที่ว่างให้เจ้าพ่อจอมม้วนคนนี้เลย แต่การที่คล๊อปป์ปรับให้ลัลลานามาเล่น โฮลดิง มิดฟิลด์ สำหรับผมเหมือนการชุบชีวิตของลัลลานาขึ้นมา แถมยังเหมือนกับว่าคล๊อปป์ได้นักเตะตำแหน่งโฮลดิงเพิ่มมาอีก 1 คน...
ผลงานในสนามกับตำแหน่งใหม่ของเขาถือว่ากำลังสดใส เนื่องจากหากว่ากันตามตรงในแผงกองกลางของเราที่มีอยู่ ลัลลานา เป็นนักเตะที่ทักษะดีที่สุด การเอาตัวรอดในที่แคบ การจ่ายบอล การวางบอล ความเร็ว ไม่เป็นรองกองกลางที่มีอยู่เลย ...
ลีลาการครองบอล การเชื่อมบอล วิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้า หาช่องให้เพื่อน กล้าจ่าย เป็นสิ่งที่เรา "เริ่มเห็น" ได้จากหลาย ๆ นัดที่เขาลงเล่นในปรีซีซั่นนี้ ...
ข้อดีอีกอย่างของการเล่นตำแหน่งนี้คือ ลัลลานา ไม่ต้องถูกเข้าบอลหรือปะทะหนักเท่ากับตอนที่ตัวเองเล่นเป็นตัวรุก เหลือเพียงเรื่องเดียวคือ สภาพร่างกายของเขาตอนนี้ หากไม่มีอาการบาดเจ็บ ฤดูกาลนี้เขาจะมีบทบาทกับทีมมาก ไม่ต่างจากเจมส์ มิลเนอร์ในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา คือเป็นนักเตะเอนกประสงค์ของทีมได้เลย...
ผมกล้าฟันธงว่าถ้าฤดูกาลนี้เขาไม่เจ็บ เสียงเรียกชื่อลัลลานาจะดังก้องทั่วสนามแอนฟิลด์อีกครั้ง

รายงานเพิ่มเติมว่า ลิเวอร์พูลยอมจ่ายถึง 6 ล้านปอนด์ สำหรับค่าตัวของเจ้าหนูรายนี้ คืนนี้มารอดูกันว่า นิว แกเรธ เบล หรือเปล่า