ก้าว ทัน โรค

การดูแลปอดให้แข็งแรง คงรูปได้ดีอยู่เสมอ ได้แก่

• รับประทานอาหารที่มีคุณค่าหลากหลายเพื่อให้ได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ
• รับประทานเนื้อปลา อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือรับประทานอาหารเสริมประเภทน้ำมันปลา
• รับประทานผักที่มีสีเหลืองและแดง ที่มีเบต้าแคโรทีนและวิตามินซีตามธรรมชาติในปริมาณสูง
• ไม่สูบบุหรี่ หรือหากคุณเป็นคนสูบบุหรี่ ลองวางแผนลดปริมาณลง และเลิกในที่สุด
• ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะน้ำจะมีประโยชน์มากในการผลิตน้ำเมือกอย่างเพียงพอ

รู้หรือไม่ว่า?

วิตามินเอนั้นจำเป็นต่อสุขภาพและการทำงานของเนื้อเยื่อหุ้มปอดและทางเดินหายใจ นอกจากนี้ สารอาหารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี เชื่อว่าจะช่วยป้องกันปอดจากการทำลายของอนุมูลอิสระได้ด้วย

(new) D-POT (ดี-พอต) ผลิตภัณฑ์บำรุงปอด ✔️ ช่วยในการรักษาและป้องกันโรคหวัดต่างๆ
✔️ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
✔️ ช่วยลดอาการที่เป็นผลมาจากสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
✔️ ช่วยควบคุมการทำงานของอินซูลินในร่างกายได้ดีขึ้น
✔️ ช่วยควบคุมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีส่วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อสู้กับโรคต่างๆได้ดีขึ้น
✔️ ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรงยิ่งขึ้น
✔️ ช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด
✔️ ช่วยยับยั้งการเจริญของเนื้อที่ผิดปกติ
✔️ มีฤทธิ์ต้านการเจริญของจุลชีพ รวมถึงแบคทีเรียและเชื้อรา
✔️ ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน แก้หอบไอ ขับเสมหะ แก้บิด
✔️ ช่วยยับยั้งการแข็งตัวของเลือด ช่วยขยายหลอดเลือด และ ลดการทำลายเซลล์จากการอักเสบที่เกิดขึ้นภายในเซลล์

D-POT (ดีพอต) 1 เม็ดประกรอบไปด้วย

1 Ascorbic acid (Vit.C) / กรดแอสคอร์บกิ 40
2 Zinc amino acid chelate 20% / ซิงค์ อะมิโ นแอซิด คีเลต 20% 30.5
3 Vitamin D3 / วิตามิน ดี3 0.5
4 Garlic extract / สารสกดัจากกระเทียม 300
5 Apple extract / สารสกดัจากแอปเปิล้ 180
6 Ginseng extract / สารสกดัจากโสม 100
7 Ginger root extract / สารสกดัจากขิง 80
8 Broccoli extract / สารสกดัจากบร็อคโคลี่ 55
9 Flax seed extract / สารสกดัจากเมล็ดแฟลกซ์ 50
10 Carrot extract / สารสกดัจากแครอท 45

1 กล่อง 30 มีเม็ด ราคา 1,765 บาท ทานได้ 30 วัน

โรคข้อเข่าเสื่อม
เกิดจากการที่กระดูกอ่อนซึ่งทำหน้าที่ปกป้องและดูดซับแรงกระแทกภายในข้อเข่ามีการสึกหรอและเสื่อมสภาพลง

หากกระดูกอ่อนนี้เสียหายเป็นพื้นที่กว้าง กระดูกในข้อเข่าจะเสียดสีกันเอง ทำให้เกิดการอักเสบและมีอาการปวด

โดยทั่วไปหากเกิดจากการเสื่อมของข้อมักจะเริ่มจากข้อเข่าด้านในก่อน เมื่อมีการสึกเพิ่มขึ้นจึงเสื่อมทั้งราางกาย

ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ

6 วิธีเบื้องต้น ป้องกัน #ไวรัสโคโรนา

1. สวมหน้ากากอนามัย และไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ

2. ปิดปาก ปิดจมูก เวลาไอ จาม ด้วยกระดาษทิชชู หรือต้นแขนด้านใน

3. หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น

4. หลีกเลี่ยงการไปตลาดที่ขายซากสัตว์ป่าหรือที่มีชีวิต และการสัมผัสโดยไม่ใช้ถุงมือ

5. ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ

6. รับประทานอาหารปรุงสุกร้อน หรือปรุงอาหารประเภทเนื้อสัตว์และไข่ให้สุกด้วยความร้อน

ทั้งนี้ ภายใน 14 วัน หลังเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น หากมีไข้ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ ได้แก่ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจ เหนื่อยหอบ ควรรีบพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทางไปประเทศจีน

เดินสักพัก >> ปวดน่อง ชาลงขา >> ต้องนั่งพัก ไปต่อไม่ไหว

วิธีดูแลตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงอาการการปวดหลังจากโรคกระดูกสันหลัง

- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้กล้ามเนื้อเส้นเอ็นกระดูกสันหลังแข็งแรง
- การนั่ง เดิน ยืน ให้ถูกต้อง เช่น ขณะนั่งทำงานควรนั่งหลังตรงพิงพนักเก้าอี้ ไม่ควรนั่งหลังค่อม
- ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนเกินไป เพื่อกระดูกสันหลังไม่รับน้ำหนักมากเกินไป
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ถ้าดูแลอยู่ แต่เริ่มมีอาการ night pain คือการปวดอย่างรุนแรงในตอนกลางคืน นอกจากนี้เมื่อได้พักผ่อนและรับการรักษา
ในเบื้องต้นแล้วอาการดังกล่าวยังคงไม่ดีขึ้น ให้สงสัยว่าเป็นอาการปวดหลังที่ไม่ปกติ

โรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ
พบได้บ่อยกับผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี สาเหตุการเกิดโรคอาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดการตีบแคบภายหลัง

ซึ่งความตีบแคบยิ่งมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น และพบได้บ่อยเกิดจากจากข้อต่อกระดูกสันหลังทำให้เส้นประสาท
ถูกกดเบียด อาการที่เคสมีอาการ ดังนี้

>>ปวดหนักบริเวณเอว สะโพก

>>ปวดหนักที่บริเวณน่องและขา จะเป็นมากเมื่อเดินนาน ๆ
>>ปวดมากขึ้นเมื่อแอ่นตัวไปด้านหลัง และอาการจะดีขึ้นเมื่อได้พักและแอ่นตัวไปด้านหน้า
>>บางครั้งอาการอาจรุนแรงจนไม่สามารถกลั้นอุจจาระ และปัสสาวะได้

อาจต้องผ่าตัด เพราะ การกดทับรากประสาท แพทย์จะผ่าตัดเพื่อระบายความกดเบียดภายในกระดูกสันหลังส่วนเอว

และบางครั้งอาจต้องเชื่อมข้อต่อกระดูกสันหลัง เพื่อให้กระดูกสันหลังส่วนเอวมั่นคง

หรือถ้าไม่ต้องการผ่าตัด มีทางเลือกนวัตกรรมหลีกเลี่ยงการผ่าตัดแบบธรรมชาติดูแล

***อย่าพลาด ติดตามช่วงต่อไปครับ คุณจะได้รับประโยชน์มาก***

ศูนย์ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน ข้อมูล ข่าวสาร ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนครับ

ปรึกษาปัญหาสุขภาพฟรี

เมื่อ เป็น เก๊าท์ ห้าม กิน สิ่ง นี้

: หัวใจไก่ ตับไก่ กึ๋นไก่ เซ่งจี้หมู ตับหมู ไต ตับอ่อน มันสมองวัว เนื้อไก่ เนื้อเป็ด ห่าน ไข่ปลา ปลาดุก ปลาไส้ตัน ปลาอินทรีย์ ปลาซาร์ดีน กุ้งชีแฮ้ หอย น้ำสกัดเนื้อ น้ำต้มกระดูก น้ำซุปต่างๆ ซุปก้อน ยีสต์ เห็ด ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง กระถิน ชะอม แตงกวา หน่อไม้ กะปิ เป็นต้น

สัญญาณเตือน 5 ข้อของโรคข้อเสื่อม มีอาการปวดข้ออยู่ตลอดเวลา อาการปวดจะมากขึ้นเมื่อมีการใช้งาน เช่น นั่งคุกเข่า นั่งยองๆ ข้อจะยึดหรือข้อติด หลังจากตื่นนอน หรืออยู่ท่าใดท่าหนึ่งนานๆ ข้อบวมหรือกดเจ็บ

#เก๊าท์ ถ้ามีอาการปวดห้ามบีบนวดเด็ดขาด เพราะการบีบนวดจะทำให้กรดยูริกวิ่งเข้ามาในข้อเยอะมากขึ้น
ทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น แต่ควรจะพักการใช้งานของข้อ ให้นอนพักและประคบเย็นเท่านั้นก็เพียงพอโดยใช้น้ำแข็งประคบเมื่อมีอาการปวดตามข้อเพื่อลดอาการปวด
และถ้าปวดที่เท้าให้ยกเท้าสูง เพื่อช่วยลดการอาการบวม

5 ท่าบริหารแก้ปวดคอและไหล่ แค่นั่งก็ทำได้ บอกลาออฟฟิศซินโดรม !

ท่าบริหารแก้ปวดคอและไหล่

หนุ่ม-สาวออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เกือบตลอดทั้งวันคงมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออย่างที่เรียกว่า

"ออฟฟิศซินโดรม" ตามมาอย่างไม่น่าแปลกใจเลยนะคะ โดยเฉพาะอาการปวดคอและไหล่ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการก้มหน้าเล่นสมาร์ทโฟนมากเกินไป การนั่งทำงานผิดท่า รวมทั้งปรับระดับความสูงของเก้าอี้ไม่เหมาะสม

จึงต้องก้มหน้าหรือเงยหน้ามองจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนาน ๆ จนทำให้บางคนมีอาการปวดคอและไหล่เรื้อรังถึงขนาดขาดสมาธิในการทำงานไปเลยก็มี

พรุ่งนี้นะ ใครยังไม่มีบัตรทักด่วน!!!

✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨
♦️H.P.A. Health product Academy ♦️ Special
15 พฤศจิกายน​ พ.ศ.2562

🔥[ 1 ปีมีครั้งเดียว ]​🔥

⛔จะพลาดได้อย่างไร​?⛔

👉ถ้าคุณคือที่ปรึกษาด้านสุขภาพ คอยตอบคำถามให้กับลูกค้า

♻️งานนี้จะทำให้คุณมีความเป็นมืออาชีพและเข้าใจหลักโภชนาการมากขึ้น📍

♦️พบกับอาจารย์สง่า ดามาพงษ์🥇

👉ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและนักจัดรายการทาง FM.99 รายการ สุข สุขภาพ

👉เลขาธิการคณะกรรมการแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
📍🔥รายละเอียดงาน🔥

📍การจัด บูธแสดงสินค้า
♦️ ผลลัพธ์​จาก ผู้ร่วมกิจกรรม Probody​ ( นักกีฑา ทีมชาติไทย เหรียญทอง ซีเกมส์)

♦️การบรรยาย โภชนาการ เพื่อสุขภาพ โดย อาจารย์​ ดร. สง่า ดามา​พงษ์​

[ โปรโมชั่นพิเศษ ในงานมากมาย ]​

📍บัตรราคา 300 บาท รับดีโปร หรือ ดีฟูร์ รสชาติใดก็ได้ 1 กล่อง ฟรี
-----------------------------------------------
👉ติดต่อซื้อบัตรได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ชั้น 2 หรือผู้แนะนำของท่านเอง♦️
------------------------------------------------

✨🎉พิเศษสุดๆ สำหรับผู้ที่มีบัตรเข้าร่วมงานรับ ฟรี ดีโปร หรือ ดีฟูร์ 1 กล่อง ทันที

( เฉพาะผู้ที่บัตร ร่วมงานเท่านั้น)​

⛔สงวนสิทธิ์​สำหรับผู้ที่มีบัตรเข้างานเท่านั้น⛔

" ปั ส ส า ว ะ "

เกิดจาก การที่ไตขับของเหลว (เสีย) ออกมาจากร่างกาย โดยในแต่ละวันไตจะผลิตน้ำปัสสาวะได้ประมาณวันละ 1 ลิตรครึ่ง
ในปัสสาวะประกอบด้วย น้ำ 95% ยูเรีย 2.5% และสารอื่น 2.5% แม้ว่าปัสสาวะจะมีสารต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นยูเรีย เกลือแร่ แคลเซียม โซเดียมคลอไรด์ และสารอื่นๆ แต่สารเหล่านี้มีปริมาณที่เกินความต้องการของร่างกายแล้ว ดังนั้น หากสะสมไว้มากเกิดไป อาจทำให้เกิดอันตรายได้ เช่น ภาวะความดันโลหิตสูง น้ำท่วมปอด หัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น
นอกจากนี้ น้ำปัสสาวะที่ขับออกมาอาจปนเปื้อนอุจารระทำให้มีเชื้อโรคปนอยู่ เช่น โรคบิด หากดื่มเข้าไปอาจทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้น เพราะต้องขับของเสียออกซ้ำ อีกทั้งยังอาจเกิดการคั่งค้างของสารต่างๆ ในร่างกาย ก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมา
ดื่มน้ำปัสสาวะจะเกิดอะไร ?
หากดื่มน้ำปัสสาวะจะส่งผลต่อร่างกาย ดังนี้
▪เสี่ยงทำอาการทรุดหนัก
▪โรคอาจลุกลามจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
▪อาจเกิดภาวะโรคแทรกซ้อน
**ในปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยทางการแพทย์ที่รับรองว่าปัสสาวะสามารถรักษาโรคได้
วิธีการรักษาโรคที่ดีที่สุด
สำหรับวิธีการรักษาโรคที่ดีที่สุด คือ การดูแลรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยสามารถทำได้โดย
▪ทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่
▪ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
▪หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
▪เลี่ยงการทานอาหารเค็มจัด ไขมันสูง
▪ตรวจสุขภาพประจำปี

-------------------------------------------------------
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร 0619156253 คุณเมธาสิทธิ์
หรือคลิกลิ้งค์เพื่อแอดไลน์ด้านล่าง
https://line.me/R/ti/p/%40goa6699i

อันตรายแจ้งเตือนภัยถึงผู้บริโภคหากท่านซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจาก 2 เว็ปไซต์ดังและเว็ปไซต์ย่อย ที่ผู้จำหน่าย อ้างว่า
1.ของแท้ 100 % ตัดโค๊ด
2.ตัดเลขล๊อตการผลิต

บริษัทขอประกาศแจ้งเตือนว่า สินค้าดังกล่าวไม่ใช่ของบริษัท ดี เน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด ซึ่งตัวแทนจัดจำหน่ายของแท้ จะต้องได้รับการแต่งตั้งและมีใบอนุญาตจากบริษัท

โรคข้อเข่าเสื่อม
เกิดจากการที่กระดูกอ่อนซึ่งทำหน้าที่ปกป้องและดูดซับแรงกระแทกภายในข้อเข่ามีการสึกหรอและเสื่อมสภาพลง หากกระดูกอ่อนนี้เสียหายเป็นพื้นที่กว้าง กระดูกในข้อเข่าจะเสียดสีกันเอง ทำให้เกิดการอักเสบและมีอาการปวด โดยทั่วไปหากเกิดจากการเสื่อมของข้อมักจะเริ่มจากข้อเข่าด้านในก่อน เมื่อมีการสึกเพิ่มขึ้นจึงเสื่อมทั้ง และปวด

สอบถามหรือปรึกษาฟรี!!
โทร 0619156253 คุณเมธาสิทธิ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมท่าสามารถคลิ๊กลิ้งค์ด้านล่างเพื่อแอดไลน์ได้เลยครับ
http://nav.cx/gbOVhGz

กระดูกสันหลัง เป็นกระดูกแกนกลางที่สำคัญของร่างกายในการรองรับน้ำหนักตัว กระดูกสันหลังมีลักษณะเป็นปล้องๆ ตั้งแต่คอถึงเอว โดยจะเรียกตำแหน่งตามตัวเลข ดังนี้

ส่วนคอ (cervical spine) ประกอบด้วยกระดูก 7 ชิ้น (เรียก C1-C7)

ส่วนอก (thoracic spine) ประกอบด้วยกระดูก 12 ชิ้น (เรียก T1-T12)

ส่วนเอว (lumbar spine) ประกอบด้วยกระดูก 5 ชิ้น (เรียก L1-L5) ซึ่งเป็นส่วนที่พบอาการปวดบ่อยที่สุด เนื่องจากเป็นส่วนที่รองรับน้ำหนักของร่างกายส่วนบน

ส่วนกระเบนเหน็บ (sacral spine) ประกอบด้วยกระดูก 5 ชิ้น (เรียก S1-S5) ซึ่งทั้งหมดจะรวมเป็นชิ้นเดียว เรียกว่ากระดูกก้นกบ

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ฟรี!! ได้ที่นี่!!
โทร 0619156253 คุณเมธาสิทธิ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมท่าสามารถคลิ๊กลิ้งค์ด้านล่างเพื่อแอดไลน์ได้เลยครับ
http://nav.cx/gbOVhGz

หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารดังต่อไปนี้ :

หัวใจไก่ ตับไก่ กึ๋นไก่ เซ่งจี้หมู ตับหมู ไต ตับอ่อน มันสมองวัว เนื้อไก่ เนื้อเป็ด ห่าน ไข่ปลา ปลาดุก ปลาไส้ตัน ปลาอินทรีย์ ปลาซาร์ดีน กุ้งชีแฮ้ หอย น้ำสกัดเนื้อ น้ำต้มกระดูก น้ำซุปต่างๆ ซุปก้อน ยีสต์ เห็ด ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง กระถิน ชะอม แตงกวา หน่อไม้ กะปิ

เนื้อหาหลักสูตรฯ Digital Gen
หัวข้อที่ 1 การตลาดออนไลน์ MSB
หัวข้อที่ 2 การตกแต่งภาพด้วยโปรแกรม Photo Scape
หัวข้อที่ 3 การตัดต่อวีดีโอ Kine Master
หัวข้อที่ 4 การใช้ Line Official Account
หัวข้อที่ 5 การใช้ Facebook
หัวข้อที่ 6 การสร้าง Canvas
หัวข้อที่ 7 การสร้างโฆษณา
หัวข้อที่ 8 การบริหารโฆษณา Facebook
หัวข้อที่ 9 การลงตารางการขาย
หัวข้อที่ 10 ผลิตภัณฑ์ที่น่าทำตลาดในปัจจุบันและอนาคต
หัวข้อที่ 11 การสร้างแบรนด์ & สูตร 4.1.4

สนใจเรียนออนไลน์ฟรีคลิกที่นี่
ดิจิตอล ออนไลน์" 🛰 ✔อบรมฟรี ✔เรียนฟรี ✔ ไม่มีค่าใช้จ่าย 🔥ต้องที่นี่🔥

"สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม"
โทรเลย 0619156253 Coach "ToM"

🔥คุณสามารถ ลงทะเบียนได้ที่นี่🔥
http://nav.cx/fwsFU4n
http://nav.cx/fwsFU4n

#ภาวะแทรกซ้อนของการกินยาเกินขนาด

นอกจากอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่เป็นผลจากการกินยาเกินขนาด ในบางครั้งผู้ป่วยก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ ดังนี้

อวัยวะได้รับความเสียหายอย่างถาวรจนทำให้อวัยวะเหล่านั้นทำงานผิดปกติ เช่น ตับ ไต และสมอง เป็นต้น
หากผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิตไม่ได้รับการรักษาอาการทางจิตอย่างเหมาะสม หรือผู้ที่ติดยาเสพติดไม่ได้รับการบำบัดให้หายขาด อาจเสี่ยงกลับมากินยาเกินขนาดซ้ำอีก
อาจเจ็บป่วยรุนแรงจนเสียชีวิตได้

ระวัง ! #ตาเสื่อมเพราะผงชูรส !

▪ ในชีวิตเรามีหลากหลายปัจจัยที่ทั้งส่งเสริมและทำลายดวงตาของเรา โดยเฉพาะสิ่งที่ทำร้ายดวงตา บางอย่างเป็นสิ่งที่เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีผลต่อดวงตาของเรา เช่น แสงจากหน้าจอ แสงแดด แสงไฟนีออน การสูบบุหรี่

▪นอกจากที่กล่าวมาแล้ว สิ่งที่ใกล้ตัวและเป็นอันตรายอาจะส่งผลให้ตาบอดได้คือ #ผงชูรส (monosodium glutamate)

🔸️มีงานวิจัย ของมหาวิทยาลัยฮิโรซากิ🔸️
ประเทศญี่ปุ่น ทำการทดลองโดยให้สารโมโนโซเดียมกลูตาเมทกับสัตว์ทดลอง
》》พบว่า ทำให้การมองเห็นลดลง เนื่องจากชั้นเรตินาถูกทำลาย

》นอกจากผงชูรสจะทำลายดวงตาแล้ว ยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย
》ไม่ใช่แค่ทำลายเรตินาเท่านั้น ผงชูรสยังก่อให้เกิดอาการ ตาแห้ง ตามัว
》ดังนั้นก่อนจะสั่งอาหารหรือทานอาหาร ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผงชูรส

❤ป้องกันดวงตา คือการรับประทานอาหารผัก ผลไม้ที่ช่วยบำรุงสายตาเช่น ผักสีเขียว สีเหลือง สีส้ม
❤อาหารเสริมที่มี วิตามินเอ ลูทีนที่มีอยู่ใน"ดีคอนแทค"ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระในลูกตา
❤ทำให้ลดสาเหตุการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้

#โค้ชอุ๋ยคุยเรื่องสุขภาพ

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงโรคเกาท์

โรคเก๊าท์เกิดจากภาวะกรดยูริก (uric acid) ในเลือดสูงติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกิดเป็นผลึกสะสมอยู่ในข้อ ทำให้เกิดการอักเสบ ปวดบวมอย่างรุนแรง ทั้งนี้ กรดยูริกเปรียบเสมือนของเสียในร่างกายที่เหลือจากการกำจัดเซลล์ที่หมดอายุลง โดยร่างกายของแต่ละคนจะมีกรดยูริกอยู่ประมาณร้อยละ 80 ส่วนอีกร้อยละ 20 มักได้รับจากอาหารที่รับประทานเข้าไป

ปัจจัยที่กระตุ้นให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงจนตกตะกอนเป็นผลึก ได้แก่

การรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลฟรุกโตส
อาการเจ็บป่วยที่มีผลต่อการสร้างเซลล์เพิ่มขึ้น เช่น โรคมะเร็ง โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) โรคสะเก็ดเงิน
อาการเจ็บป่วยที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างกรดยูริกขึ้นมามากกว่าปกติ ขณะเดียวกันก็ลดความสามารถในการกำจัดกรดยูริกออกจากร่างกาย เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคไต
การใช้ยาบางชนิด ที่ส่งผลให้ไตขับกรดยูริกออกทางปัสสาวะได้น้อยลง

"โรคสังคมก้มหน้า" โรคมาแรง เกิดมากในกลุ่มคนติดสมาร์ทโฟน

โรคสังคมก้มหน้า เป็นโรคสมัยใหม่ของคนยุคใหม่ ที่ไม่น่าเชื่อว่า จะทำให้เรามีสิทธิ์เสี่ยงตายได้ทุกเมื่อ เพราะการที่เราติดเทคโนโลยีสมัยใหม่ ถึงจะให้ข้อดีในการทำให้เราตามทันโลก และโรคที่เป็นอันตรายชนิดอื่น แต่มีข้อเสียที่เมื่อเราติดมันมากเกินไป จะทำให้ระบบของชีวิตปั่นป่วน เกิดปัญหาทางสุขภาพตามมา ชนิดที่เรียกว่าคาดไม่ถึง โรคสังคมก้มหน้า จึงถือว่าเป็นโรคที่มาแรงและน่ากลัวในกลุ่มคนหนุ่มสาวทั้งวัยเรียน และวัยทำงานยิ่งนัก

จะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นโรคสังคมก้มหน้า

เมื่อใดก็ตามที่เริ่มมีอาการวิตกกังวล, กระสับกระส่าย เพราะหาโทรศัพท์สมาร์ทโฟนไม่เจอ หรือรู้สึกไม่ดีเมื่อเวลาแบตกำลังจะหมด รู้สึกปวดหัว และปวดคออย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ รู้สึกปวดตา หรือแสบตาเมื่อต้องเจอแสง นั่นหมายความว่ามีสิทธิ์ที่จะเป็นโรคนี้แล้ว

Digital Marketing Digital marketing คืออะไร? ชื่อว่าหลายท่านก็ยังคงสงสัยกับคำๆนี้ Digital marketing คือการทำการตลาดรูปแบบหนึ่ง ที่ใช้หลักการ Marketing พ...

แสบตา (Eye Burning) คือ การระคายเคือง แสบ คันบริเวณดวงตา ซึ่งอาจมีผลจากสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ภูมิแพ้ หรือการติดเชื้อที่ดวงตา อาการแสบตามักไม่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือส่งผลกระทบรุนแรง แต่หากมีการติดเชื้อหรือไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องในเวลาอันเหมาะสม ก็อาจเป็นอันตรายจนทำให้เกิดความเสียหายต่อดวงตาหรือสูญเสียการมองเห็นได้

อาการแสบตา
อาการแสบตามักเกิดขึ้นร่วมกับอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ตาแดงเรื่อ ๆ หรือตาแดงมาก

เปลือกตาบวม

ตาแฉะ

มีขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว

มีคราบน้ำเหลืองบริเวณโคนขนตาหรือหัวตา

ไวต่อแสงหรือแพ้แสง

ลืมตาลำบากในตอนเช้าเนื่องจากดวงตาชื้นแฉะ

ในกรณีที่รุนแรง อาจมีรอยแผลหรือรอยขีดข่วนบนกระจกตา ซึ่งอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้

อาการสำคัญที่ควรได้รับการดูแล

เปลือกตาบวมอักเสบมากขึ้น

ขี้ตาเป็นสีเขียว ซึ่งอาจเป็นผลจากเชื้อแบคทีเรีย

เจ็บมากหรือดวงตาไวต่อแสงมากขึ้น

ความสามารถในการมองเห็นลดลง เห็นภาพมัว

หากอาการตาแดงไม่หายหรือดีขึ้นภายใน 3-5 วัน

สาเหตุของอาการแสบตา
ความผิดปกติของดวงตาอาจไม่มีอาการหรือสัญญาณเตือนที่ชัดเจน คนส่วนใหญ่จึงมักคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นผลจากความเสื่อมของร่างกายตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น เช่น การมองเห็นภาพชัดน้อยลง

วิธีป้องกันหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้อย่างไร?

1. ไม่ยกของหนัก หรือยกของท่าเดิมๆ มากเกินไป

2. ควรปรับเปลี่ยนอิริยาบถในการทำงานทุกๆ 2-3 ชั่วโมง

3. หมั่นออกกำลังกาย ทำการบริหารเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัง และหน้าท้องให้แข็งแรง

ท่ากายบริหารเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลัง และหน้าท้อง ป้องกันอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

- นอนหงาย ยกขาขึ้นข้างหนึ่งให้สูงจากพื้นประมาณ 1คืบ เข่าเหยียดตรง กระดกปลายเท้าเข้าหาตัว ค้างไว้ 5 วินาที แล้วทำสลับกับขาอีกข้าง

- นอนหงาย ใช้มือทั้งสองกอดเข่าข้างหนึ่ง โน้มเข่าลงมาให้ชิดลำตัว ค้างไว้ 5 วินาที แล้วทำสลับกับเข่าอีกข้าง

- นอนหงาย ชันเข่าขึ้น ประสานมือสองข้างไว้ด้านหลังบริเวณเอว จากนั้นแขม่วท้อง กดหลังลงค้างไว้ 5 วินาที

ในแต่ละท่า ควรทำซ้ำ 3-5 ครั้ง ทุกวัน

หากอ่านแล้วชอบอย่าลืมกดไลค์ กดแชร์เป็นกำลังใจให้แอดมินด้วยนะครับ

#ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม

การปรับเปลี่ยนอิริยาบถและสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมในชีวิต
ประจำวัน เพื่อมิให้ข้อเสื่อมมากขึ้นและยืดอายุการใช้งานของข้อให้ยาวนานที่สุด

• การนั่ง ควรนั่งบนเก้าอี้ ควรมีที่รองแขนเพื่อช่วยในการผยุงตัวลุกขึ้นยืนได้สะดวก ไม่ควรนั่งพับเพียบนั่งขัดสมาธิ นั่งคุกเข่า นั่งยองๆ หรือนั่งราบบนพื้น เพราะท่านั่งดังกล่าวจะทำให้ผิวข้อเข่าเสียดสีกันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความเสื่อมเร็วขึ้น

– หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนิ่งๆ นานๆ เพราะการที่ข้อเข่าอยู่ในท่าเดียวนานๆ จะทำให้กระดูกอ่อนซึ่งโดยปกติจะมีเลือดไปเลี้ยงน้อยมากอยู่แล้ว จะยิ่งขาดสารอาหารและออกซิเจนมากขึ้น จึงควรเปลี่ยนอิริยาบถ เช่น ลุกขึ้นเดินไปมาอย่างน้อยทุก 1-2 ชั่วโมง หรือนั่งเหยียดขา เตะขาเบาๆ บริหารกล้ามเนื้อต้นขาร่วมด้วยเป็นพักๆ เป็นต้น

– หลีกเลี่ยงการนั่งพื้นทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เลี้ยงเด็ก เตรียมอาหารทำการฝีมือ ทำงานบ้านต่างๆ เช่น

+ การซักผ้า หลีกเลี่ยงการนั่งยองๆ ซัก ควรซักทีละไม่มากชิ้น นั่งซักบนม้าเตี้ยๆ และเหยียดเข่า 2 ข้าง หรือนั่งเก้าอี้ หรือยืน หรือใช้เครื่องซักผ้า

+ การรีดผ้า หลีกเลี่ยงการนั่งพื้นรีดผ้า ควรใช้การนั่งเก้าอี้ หรือยืนรีด และมีม้าเตี้ย มารองพักขาข้างหนึ่งไว้เพื่อช่วยพักกล้ามเนื้อขาและหลัง

+ หลีกเลี่ยงการนั่งก้มถูพื้นบ้าน ทำความสะอาดห้องน้ำ ควรใช้ไม้มอ๊บถือพื้นแทน

+ ไปวัด ฟังเทศน์ นั่งสมาธิ สวดมนต์ที่บ้าน อาจหลีกเลี่ยงโดยนั่งเก้าอี้ หรือ ขอบบันไดแทน

• การนอน ควรนอนบนเตียงสูงระดับเข่า ไม่ควรนอนราบกับพื้นเพราะระหว่างล้มตัวลงนอนหรือลุกขึ้นยืนจะต้องใช้แรงจากข้อเข่าเพื่อช่วยในการเปลี่ยนท่าทางอย่างมาก ควรพักอาศัยอยู่ชั้นล่าง และขึ้นลงบันไดให้น้อยเที่ยวที่สุด จับราวบันไดเมื่อขึ้นลง เนื่องจากขณะก้าวขึ้น หรือลงบันได ข้อเข่าต้องรับน้ำหนักถึง 3-4 เท่า ขณะขึ้นบนได้ใช้เท้าข้างที่ไม่ปวดเข่าก้าวนำ และขณะลงบันไดใช้เท้าข้างที่ปวดเข่าก้าวนำ รวมทั้งเลี่ยงการเดินขึ้นลงที่ลาดชันซึ่งจะมีแรงที่ข้อมากกว่าการขึ้นลงบันได

• การยืน ควรยืนตรงให้น้ำหนักตัวลงขาทั้งสองข้างเท่าๆ กัน

• การเดิน ควรเดินบนพื้นราบ ควรใส่รองเท้าแบบมีส้นเตี้ยหรือไม่มีส้น พื้นนุ่ม กระชับพอเหมาะ จะช่วยลดแรกกระแทกต่อข้อได้ และถ้าไม่แน่ใจการทรงตัวควรใข้ไม้เท้า
หลีกเลี่ยงการยกหรือของหนักๆ ควรช่วยกันถือ หรือใช้เครืองทุ่นแรงช่วย เช่น
กระเป๋าที่มีล้อลาก รถเข็น

• การใช้ห้องน้ำ ควรใช้ชักโครก หรือถ้าเป็นห้องส้วมซึม หรือส้วมนั่งยอง ควรใช้เก้าอี้นั่งมีรูตรงกลาง หรืออุปกรณ์ 3 ขา มาวางคร่อมบนส้วมซึมแทน บริเวณด้านข้างที่นั่งชักโครกควรทำราวจับเพื่อพยุงตัวขึ้นยืนได้สะดวก
ในผู้ที่มีปัญหาเข่าอ่อน เข่าทรุด ควรมีราวเกาะในห้องน้ำ และในบ้าน ป้องกัน
การหกล้ม

หากผ่านแล้วชอบอย่าลืมกดไลค์กดแชร์ให้เราด้วยนะครับ

ขยับผิดท่าระวังชีวิตเปลี่ยน
กล้ามเนื้อสะโพกหนีบอักเสบเส้นประสาท (Piriformis Syndrome)

กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท
ภาวะกล้ามเนื้อสะโพกหนีบอักเสบเส้นประสาทเกิดขึ้น ได้อย่างไร.
เกิดจากมีพังผืด หรือเส้นเลือดที่อยู่รอบ กล้ามเนื้อเล็กๆ จะมีการแสดงออกเหมือนกับภาวะ การกดทับเส้นประสาทที่เอวจากหมอนรองกระดูก หรือภาวะโพรงกระดูกสัน

อาการบ่งบอก ผู้ป่วยมีอาการคล้ายกันกดทับของเส้นประสาทที่หลัง บริเวณเอว โดยจะมีอาการปวดจากก้นสะโพก ข้างใดข้างหนึ่งเราไปถึงข้อพับเข่า บางรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการชาและอ่อนแรงร่วมด้วย

โรคกระดูกทับเส้น หรือ Herniated Disc เกิดจากหมอนรองกระดูกที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังเคลื่อนไปทับบริเวณเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียงจนทำให้มีอาการ เช่น

- ปวดหลังบริเวณเอวส่วนล่าง มักมีอาการในท่านั่งนานๆหรืองอตัวไปทางด้านหน้า

- อาการปวด ชา หรืออ่อนแรงที่บริเวณขา แขน หรือส่วนอื่นๆตามร่างกาย เนื่องจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อในส่วนนั้นๆ

สาเหตุมักเกิดจาก การยกของหนักด้วยท่าที่ไม่ถูกวิธี นั่งทำงานเป็นเวลานาน อุบัติเหตุและการบาดเจ็บต่อกระดูกสันหลัง อ้วน น้ำหนักตัวเกิน เป็นต้น