กรุงเทพธุรกิจ

กรุงเทพธุรกิจ สื่อเพื่อผู้สนใจทุกแง่มุมเศรษฐกิจ การลงทุน ธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศ

ติดต่อฝ่ายโฆษณากรุงเทพธุรกิจ:
📲ศิชล ภวัตโณทัย
โทร. 0-2338-3325, 085-255-6753
อีเมล [email protected]
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _
📲 อัลเลียซ สะอิ
โทร. 0-2338-3561, 087-519-1379
อีเมล [email protected]
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _
📲 สมัครสมาชิก นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
โทร. 0-2338-3000 กด 1, 086-310-3539

03/09/2024

เปิดประตูสู่อนาคตที่ยั่งยืน กับงานสัมมนา Road to Net zero : The Extraordinary Green ซึ่งจะพาคุณไปค้นพบแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน จากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน
งานสัมมนาที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน จัดเต็มด้วยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับแนวทางรับมือกับ Climate Change จากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะจากภาคพลังงาน และภาคขนส่ง ที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดกว่า 70%
ร่วมเดินทางสู่เป้าหมาย Net Zero กับงานสัมมนา Road to Net zero : The Extraordinary Green
ในวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2567 เวลา 08.30 – 16.30 น.
ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ (Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel)
#ฐานเศรษฐกิจ

02/09/2024

เร่งตั้งรัฐบาลแก้วิกฤติ ประชาชนกำลังล้มละลาย | บทบรรณาธิการกรุงเทพธุรกิจ
ในห้วงเวลาเช่นนี้ วิกฤติเศรษฐกิจยังเป็นปัญหาสำคัญ ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ให้เร็ว หากนับตั้งแต่ รัฐบาลเศรษฐา เรายังไม่เห็นมาตรการพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ไม่มีมาตรการช่วยเหลือใดๆ บรรเทาปัญหาปากท้องประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่
หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงและกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก ธุรกิจเองก็ไปไม่รอด ต้องปิดตัว ปิดกิจการกันมากมาย แต่กลับไร้คำตอบจากรัฐว่าจะช่วยเหลืออย่างไร เราตกอยู่ในห้วงสุญญากาศนานเกินไป ประชาชน ธุรกิจ กำลังจะตาย แต่รัฐบาล นักการเมือง กลับกำลังแย่งชิงเก้าอี้กันอย่างเมามัน
ห้วงวิกฤติเศรษฐกิจเช่นนี้ ยิ่งรัฐบาลเร่งหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่น อาจทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่ม ประชาชนมีงานทำ หารายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว บรรเทาปัญหาปากท้องได้ในระยะสั้น ยิ่งรัฐบาลคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหมาะสม ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นประชาชนและธุรกิจต่อระบบเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจกลับมาใช้จ่ายและลงทุนมากขึ้น เป็นกลไกสำคัญผลักดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว
การกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้เร็วยังช่วยควบคุมและลดผลกระทบด้านลบจากวิกฤติต่างๆ ทั้งเรื่องว่างงาน ค่าครองชีพ และปัญหาทางสังคมอื่นๆ ที่จะตามมา ทำให้ผ่านพ้นวิกฤติได้เร็วขึ้นเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอย่างยั่งยืน สร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้ประชาชนและภาคธุรกิจ เป็นปัจจัยสำคัญหนุนให้ประเทศก้าวผ่านวิกฤติได้อย่างมั่นคงแต่ถ้ารัฐบาลยัง “ช้า” ปัญหาจะยิ่งผุดออกมามากมาย ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในสังคม อาจลุกลามมากขึ้น
เนื่องจากประชาชนมีรายได้น้อยลง บางคนตกงาน ธุรกิจขนาดเล็กได้รับผลกระทบรุนแรงจากวิกฤติ แต่กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ และมีมาตรการรองรับอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ปัญหาความยากจนและการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมทวีความรุนแรงขึ้น เศรษฐกิจโดยรวมอาจชะลอตัวลงอย่างมาก การฟื้นตัวจะยากลำบากหากไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนให้การใช้จ่ายและการลงทุน โดยเฉพาะในภาคธุรกิจและครัวเรือน ซึ่งจะกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจโดยรวม
ระวังภาระหนี้และปัญหาการเงินของภาคธุรกิจ รวมถึงครัวเรือน อาจทวีความรุนแรงขึ้น จากผลกระทบจากวิกฤติที่มีต่อรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ เราจะเห็นวิกฤติการล้มละลายถี่ขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย สุดท้ายความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุนจะลดลงอย่างฮวบฮาบ เพราะความไม่แน่นอนและความไม่มั่นใจในการรับมือกับวิกฤติ ส่งผลเชิงลบต่อการใช้จ่ายและการลงทุนในอนาคต ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศไทยยากขึ้น หรือแทบไร้อนาคต...
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic #บทบรรณาธิการกรุงเทพธุรกิจ

02/09/2024

เบญจภาคี วันที่ 3 กันยายน 2567
ติดตามข่าวสาร บทวิเคราะห์ที่น่าสนใจในแวดวงตลาดหุ้น เพิ่มเติมได้ที่: https://www.bangkokbiznews.com/category/finance/stock
#กรุงเทพธุรกิจ #เบญจภาคี

02/09/2024

#ข่าวหน้าหนึ่งกรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 3 ก.ย. 67
🗞️หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจรูปแบบดิจิทัล i-NewsPaper พร้อมเสิร์ฟแล้ว ทุกที่ทุกเวลา
สามารถสมัครสมาชิกด้วยตัวเองได้ที่
👉https://inews.bangkokbiznews.com/
หรือสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสมาชิก โทร. 02 338 3770-1 , Line ID : sub3770
Email : [email protected]
#กรุงเทพธุรกิจ

02/09/2024

การผลิตสินค้าท่วมตลาดโลกอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ของ ‘จีน’ ทว่าสถานการณ์ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งที่ผ่านๆ มา และอาจทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเป็นภาคบังคับที่ทำให้จีนต้องเดิมพันกับ “การผลิตและส่งออก” และข้อมูลจากผู้เชียวชาญหลายคนมองไปถึง “ความเชื่อ” ของ ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ที่นำไปสู่เส้นทางของ “นโยบายเศรษฐกิจ” ที่ดุเดือดนี้
ขอบคุณข้อมูล : สุรินทร์ เจนพิทยา
#เศรษฐกิจจีน #วิกฤติอสังหาฯจีน #การค้าระหว่างประเทศ #สีจิ้นผิง #ยุทธศาสตร์จีน #ผลกระทบเศรษฐกิจโลก #นโยบายเศรษฐกิจจีน #กรุงเทพธุรกิจNEWS #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic

02/09/2024

อสังหาฯ ชี้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี ขจัดนอมินี จูงใจ แต่ไม่บูรณาการ แนะศึกษาผลกระทบจริงจังทุกมิติ
บิ๊กคอร์ป-สมาคมอสังหาฯ ยอมรับนโยบาย “ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี” ตามรอยอังกฤษ สิงคโปร์ กระตุ้นลงทุนขนาดใหญ่ จูงใจต่างชาติปักหลักไทยมากขึ้น ทั้งแก้ปัญหานอมินี ชี้ขาดบูรณาการรอบด้าน ต้องศึกษาผลกระทบจริงจังทุกมิติ กำกับดูแลให้เหมาะสม
เป็นกระแสร้อนอย่างต่อเนื่อง สำหรับแนวทางเปิดให้ชาวต่างชาติสามารถเช่าที่ดินระยะยาว 99 ปีในประเทศไทย ซึ่งอยู่ในความสนใจในวงกว้างมาโดยตลอด
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวคิดในการขยายระยะเวลาเช่า 99 ปี เป็นโมเดลเหมือนประเทศอังกฤษ สิงคโปร์ การซื้อขายที่อยู่อาศัยเท่ากับเช่า 99 ปี ส่วนหนึ่งจะทำให้การขายดีขึ้น จากเดิมเจ้าของที่ดินไม่ค่อยอยากขายที่ดิน แต่หากสามารถปล่อยเช่าระยะยาวจะทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น
ปัจจุบัน การพัฒนาและทำตลาดอสังหาริมทรัพย์มี 3 รูปแบบ ได้แก่ ซื้อขาด เช่า 30 ปี และ เช่ารายเดือน ซึ่งการเช่าระยะยาว 99 ปี เป็นภาวะที่จะทำให้เกิดการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ (Flexibility) และเกิดการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility)
"ไม่กระทบตลาดของเสนาฯ แต่จะกระทบตลาดที่จากเดิมเช่า 30 ปี คนอาจไม่ชอบ เพราะระยะเวลาเช่าสั้นไป ถ้าสามารถให้เช่า 99 ปีทำให้คนรู้สึกอยากเป็นเจ้าของมากขึ้น ซึ่งหากเรามีทางเลือกให้เช่ามากกว่า 30 ปี ก็เป็นการเพิ่มออปชั่นให้ธุรกิจ แต่ก็ต้องมองผลกระทบอื่นๆ ด้วย กฎหมายเปลี่ยนอย่างเดียว แต่การเงินไม่เปลี่ยน ไม่ได้”
ยกตัวอย่าง กรณีให้เช่า 60 ปี แต่เงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อไม่เปลี่ยน ไม่มีประโยชน์ เช่น กู้ซื้อบ้านได้ 90% จากมาตรการ LTV ถ้าเช่า 30 ปี น่าจะกู้ได้แค่ 60% ดังนั้นถ้าจะเปลี่ยนเช่า 99ปี กู้ซื้อบ้านก็ต้องใกล้เคียงกับราคาซื้อขายจะดีมาก ดังนั้นแนวคิดการปล่อยเช่า 99 ปี น่าจะดีกับการลงทุนขนาดใหญ่มากกว่า
📌 ทุนญี่ปุ่นมองเช่ายาวคืนทุนช้า
นายมาซะฮิโกะ โทดะ กรรมการบริหาร บริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป กล่าวว่า หากมีการให้สิทธิการเช่าระยะยาว 99 ปี ในเชิงการลงทุน หมายความว่า งบประมาณในการลงทุนจากชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อหรือทำโครงการจะต้องมากขึ้นด้วย หากเป็นผู้ประกอบการขนาดไม่ใหญ่มากจะมีต้นทุนสูง เมื่อเทียบกับการเช่า 30 ปี เงินที่เข้ามาลงทุนก่อสร้างหรือลงทุนเช่าที่ดินจะสั้นกว่า
ดังนั้นแม้ว่าจะได้เช่าระยะยาวขึ้นแต่การคืนทุนก็ยาวขึ้นเช่นเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบแล้วสำหรับนักลงทุนระยะเวลาเช่า 30 ปี อาจจะน่าลงทุนมากกว่า เพราะสามารถคืนทุนได้เร็วกว่า
📌 ย้ำไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่สำคัญต้อง “บูรณาการ”
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดภูเก็ต มองว่า แนวคิดเช่าระยะยาวรองรับต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่นั้น ภาคเอกชนนำเสนอประเด็นดังกล่าวมานับร้อยครั้งพันครั้งในหลายรัฐบาล โดยเฉพาะ 10 ปีที่ผ่านมา ยกตัวอย่างในจังหวัดภูเก็ต ธุรกิจมี 2 โมเดลด้วยกัน โมเดลแรก รายได้มาจากการท่องเที่ยว อีกโมเดลหนึ่งมีรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ ยิ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ชาวต่างชาติอยากย้ายมาอยู่อาศัยในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะ “ภูเก็ต” เป็นทำเลหลัก ทั้งการอยู่อาศัยและเข้ามาลงทุนเพื่อปล่อยเช่าได้ผลตอบแทนที่ดี
"สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับภาคเอกชนผลักดันนโยบายการให้เช่าระยะยาว สมัยก่อนเราคุยกันที่ระยะเวลา 60-70ปี แต่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พูดถึง 99 ปี หากถามภาคเอกชนในมุมมองของผมในฐานะอดีตประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต อดีตนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ระยะเวลาไม่ใช่ประเด็น เพราะอย่างไรต่างชาติเป็นเพียงผู้เช่า แค่เช่านานขึ้นจากเดิม และเปลี่ยนมือ เหมือนกับการซื้อบ้าน เพียงแต่เราไปเพิ่มคนที่ซื้อที่ไม่ใช่คนไทย”
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/property/1142884?anm=
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจBusiness #กรุงเทพธุรกิจRealEstate

02/09/2024

“กรุงเทพธุรกิจ” สรุปบทเรียนในการบริหารงานด้านนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ผ่านมา เพื่อเป็นแนวทางและคำตอบว่ารัฐบาลใหม่ที่ น.ส.แพทองธารที่กำลังจะเข้ามาทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมควบตำแหน่งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจถือว่าเป็นความท้าทายอย่างมาก และประเด็นที่ต้องติดตามและเตรียมพร้อมการทำงานใน 5 ประเด็นที่อาจส่งผลต่อการบริหารงานเศรษฐกิจในภาพรวมของนายกรัฐมนตรี
ขอบคุณข้อมูล : นครินทร์ ศรีเลิศ
#นโยบายเศรษฐกิจไทย #เศรษฐกิจไทย #รัฐบาลเศรษฐา #ทิศทางเศรษฐกิจไทย #แพทองธาร #กรุงเทพธุรกิจNEWS #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic

02/09/2024

น้ำกำลัง ‘ล้นมหาสมุทร’ เสียงเตือนจากเกาะทะเลใต้ เหตุภูมิอากาศโลกร้อนขึ้น
[เรื่อง: ดร.ไสว บุญมา | บ้านเขาเมืองเรา]
“น้ำกำลังล้นมหาสมุทร... ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เป็นวิกฤติอันเกิดจากการกระทำของมนุษย์เราทั้งสิ้น วิกฤติซึ่งในเวลาอีกไม่นานจะเพิ่มความร้ายแรง จนถึงขั้นแทบเกินจินตนาการและปราศจากเรือชูชีพ ที่จะนำเรากลับมาสู่ความปลอดภัย”
เป็นคำเตือนของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เมื่อต้นสัปดาห์นี้ที่ประเทศตองงา หนึ่งในเกาะขนาดเล็กในย่านตะวันออกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก
เลขาธิการสหประชาชาติเปล่งคำเตือนดังกล่าวเนื่องในโอกาสเข้าร่วมการประชุมผู้นำของ 18 ประเทศในย่านนั้น รวมทั้งนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย คำเตือนวางอยู่บนฐานของรายงานขององค์การสหประชาชาติและองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกเกี่ยวกับ ภาวะโลกร้อน และ ภูมิอากาศโลก ผลกระทบที่จะเกิดกับเกาะเหล่านั้น รายงานชี้ชัดว่า
ภูมิอากาศโลกที่ร้อนขึ้นในขณะนี้มีผลสูงต่อน้ำในมหาสมุทร 3 ด้านคือ
(1) อุณหภูมิน้ำทะเล สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำทะเลดูดซับราว 90% ของความร้อนอันเกิดจากการเผาผลาญถ่านหิน น้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติเพื่อเอาพลังงาน
(2) ระดับน้ำทะเล สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เพราะน้ำขยายตัวจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นพร้อมกับการละลายของธารน้ำแข็งในหลายพื้นที่และแผ่นน้ำแข็งในย่านขั้วโลก
(3) น้ำทะเลเป็นกรด มากขึ้นจากการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผาผลาญดังกล่าว
รายงานบ่งบอกด้วยว่า อุณหภูมิของมหาสมุทรในย่านทะเลใต้เพิ่มขึ้นราว 3 เท่าของการเพิ่มขึ้นทั่วโลกโดยเฉลี่ยในช่วงเวลา 45 ปีที่ผ่านมา และระดับน้ำทะเลในย่านนั้นเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าของการเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยทั่วโลก
ภาวะเหล่านั้นก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระบบนิเวศ รวมทั้งคลื่นความร้อนในอากาศซึ่งเกิดบ่อยขึ้นด้วยระดับอุณหภูมิที่สูงขึ้นและอยู่นานขึ้น ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลกระทบสูงมากต่อชีวิตของชาวเกาะ
ซึ่งเลขาธิการองค์การสหประชาชาติประสบด้วยตนเองในระหว่างการเข้าร่วมประชุม เมื่อพายุใหญ่ทำให้ฝนตกหนักจนน้ำท่วมอาคารศูนย์การประชุมสร้างใหม่ที่ใช้ในการประชุม ส่งผลให้การประชุมต้องหยุดชะงัก
ชาวเกาะในย่าน “ทะเลใต้” กำลังได้รับผลกระทบร้ายแรงจากภาวะโลกร้อนมากกว่าชาวโลกโดยทั่วไป ทั้งที่แทบไม่มีส่วนทำให้มันเกิดขึ้น
เนื่องจากการเผาผลาญเชื้อพลังงานส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศร่ำรวย ซึ่งให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยเหลือเพื่อลดผลกระทบร้ายแรงนั้น พร้อมกับลดการเผาผลาญเชื้อพลังงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่การช่วยเหลือยังเชื่องช้าและต่ำกว่าความจำเป็นมาก
นอกจากนั้น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่มีทีท่าว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตกลงกันไว้ ณ นครปารีสเมื่อ 9 ปีก่อน ตรงข้าม เมื่อปีที่ผ่านมา การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น 1%
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/environment/1142736?anm=
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจSustain #กรุงเทพธุรกิจClimate #กรุงเทพธุรกิจColumnist

02/09/2024

ผลสำรวจชี้ถ้า 'โดนัลด์ ทรัมป์' ชนะเลือกตั้งได้ครองตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 นักลงทุนจะเลือกถือ ‘ทองคำ’เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยให้ผลตอบแทนสูงสุด คาดนโยบาย 'ทรัมป์ 2.0' ดันเงินเฟ้อพุ่งกดดอลลาร์อ่อนค่า ย้อนดูข้อมูลตอนเป็นประธานาธิบดีพบราคาทองคำแท่งพุ่งกว่า 50%
#โดนัลด์ทรัมป์ #ทรัมป์ #ดอลลาร์ #ทองคำ #กรุงเทพธุรกิจ

02/09/2024

รวยกระจุก จนกระจาย เศรษฐีเงินเกษียณเพิ่มพูน
แต่คนรุ่น X ยังคงกังวลเงินเกษียณ
#กรุงเทพธุรกิจ

02/09/2024

ร้านกาแฟยังไม่ตาย แต่เปิดแล้ว ‘ไม่รวย’ ส่วนใหญ่ทำเพื่ออัพราคาที่ดิน
ธุรกิจร้านกาแฟถึงจุดอิ่มตัว? คนกินยังไปต่อได้แต่คนขายน้อยลงเรื่อยๆ ผู้ประกอบการหน้าใหม่เริ่มจาง ส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีมาเปิดเพิ่มมูลค่าที่ดิน-ปลุกย่านการค้าให้คึกคัก หากเด็กรุ่นใหม่หวังรวยคงเป็นเรื่องยาก อนาคตไปต่อได้แต่อย่าเปรียบเทียบความสำเร็จกับร้านยุคก่อน
“ร้านกาแฟ” คือหนึ่งในธุรกิจที่มีกลิ่นอายความเซ็กซี่อันดับต้นๆ สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีฝันอยากเป็นเจ้าของกิจการ แต่จากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาและสัดส่วนร้านกาแฟที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ธุรกิจร้านกาแฟไม่ได้คึกคักเหมือนในอดีต แม้กระทั่งกาแฟพิเศษเจ้าแรกๆ ของไทยอย่าง “Bottomless” ของ “หมู-นพพล อมรพิชญ์ปรัชญา” ที่เคยขายได้หลักแสนบาทต่อวัน ตอนนี้นพพลบอกว่า สถานการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว ซึ่ง Bottomless เอง ก็มีการปรับตัวด้วยการขยายโมเดล “Bottom Express” รองรับเซกเมนต์อื่นๆ ในตลาด ใช้ต้นทุนน้อยกว่า และสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
นพพลบอกว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการร้านกาแฟลดลงไปมาก เรียกว่า แทบจะไม่มีหน้าใหม่ในตลาดเกิดขึ้นเลย ส่วนใหญ่ที่ทยอยเปิดตอนนี้เป็นโปรเจกต์ค้างที่ปั้นกันมาก่อนหน้านั้น 2 ถึง 3 ปี ตั้งไข่มาแล้วก็ต้องไปต่อให้จบ ผลสะเทือนต่อมาคือคนซื้อเครื่องชงกาแฟน้อยลง เครื่องขายไม่ออก ทั้งเครื่องชงกาแฟ เครื่องคั่วกาแฟ และเครื่องบดกาแฟมือสองที่ไทยรับมาจากออสเตรเลียและเกาหลีใต้ เมื่อขายไม่ออกก็เจอปัญหาเรื่องการส่งต่อ หากจะส่งให้เพื่อนบ้านรอบข้างก็พบว่า ตลาดเหล่านั้นยังไม่มีความพร้อมเช่นกัน
ถ้าถามว่า สัดส่วนผู้ประกอบการที่ลดลงเช่นนี้จะทำให้อนาคตของร้านกาแฟถึงจุดเสี่ยงหรือไม่ “นพพล” ให้ความเห็นว่า อย่างไรกาแฟก็ยังมีคนกินตลอด ยังไม่ตาย ยังอยู่ได้เรื่อยๆ แต่ข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือเจ้าของร้านหน้าใหม่ขณะนี้ คือกลุ่มเศรษฐีมีอันจะกินที่มีวัตถุประสงค์ในการเปิดเพื่อเพิ่มมูลค่าที่ดินมากกว่าเปิดเพราะแพชชัน พบว่า รูปแบบดังกล่าวเพิ่มขึ้นราวๆ 10% ซึ่งเป็นคนละเกมกับการเปิดร้านกาแฟยุคก่อนๆ การเปิดร้านแบบนี้อาจจะไม่มีกำไรเลยก็ได้ เผลอๆ ขาดทุนด้วยซ้ำ แต่เป้าหมายต่างกัน ถึงเจ๊งก็ไม่เป็นไร
ส่วนเด็กรุ่นใหม่ที่มีความฝันอยากเป็นเจ้าของร้านกาแฟ นพพลบอกว่า อาจจะเหนื่อยขึ้น แต่ถ้าตั้งใจพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ยังขายได้ หากถามว่า ขายได้จนไปถึงจุดที่ร่ำรวยจากธุรกิจนี้หรือไม่ เขาให้ความเห็นว่า ในยุคนี้คงจะยากแล้ว อย่านำไปเปรียบเทียบกับการเปิดร้านกาแฟเมื่อ 15 ปีก่อน ตนก็เคยคิดเหมือนกันว่า ถ้าเข้ามาในวงการเร็วกว่านี้คงไปได้อีกไกลแต่ในเมื่อความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นก็ขอให้อยู่กับปัจจุบันไว้ดีกว่า เชื่อว่าอย่างไรก็ยังมีทางไปต่อได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้าน Bottomless มองว่า สภาพเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวดีในปัจจุบันไม่ได้มีนัยสำคัญกับการเติบโตของตลาดกาแฟไทยมากนัก เพราะการดื่มกาแฟขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ขายได้ด้วยสัดส่วนเท่านี้ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากแล้ว ขณะที่ร้านกาแฟในออสเตรเลียใช้เมล็ดกาแฟวันละ 10 กิโลกรัมเป็นอย่างน้อย ถ้าร้านไหนขายได้ต่ำกว่านี้อาจถูกจัดเกณฑ์อยู่ในเขตอันตรายได้เลยทีเดียว
เพราะระบบการซื้อขายกาแฟที่ออสเตรเลียมีสเกลใหญ่ในระดับที่โรงคั่วกาแฟใช้วิธี “ซื้อเมล็ดแถมเครื่องชง” ถ้าซื้อเมล็ดกาแฟกับโรงคั่วนี้ด้วยปริมาณเท่านี้ต่อเดือน จะได้เครื่องชงกาแฟยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ ไปใช้พร้อมๆ กัน ส่วนประเทศไทยแม้ภาพรวมตลาดจะยังไปไม่ถึง แต่บาริสต้าและคนทำครัวในร้านไทย “มีของ” กันหมด นพพลบอกว่า สกิลเด็กไทยในร้านกาแฟค่อนข้างดี ถูกฝึกมาให้ทำงานคราฟต์ได้

ด้านอนาคตของ “Bottomless” นพพลเล่าว่า ช่วงโควิด-19 ตนเคยวางแผนเปิดที่เยอรมนี เพราะมีเครือญาติอาศัยอยู่ที่นั่น ประกอบกับได้วีซาเชงเก้น (Schengen Visa) ระยะยาว ตั้งเป้าดูร้านที่ไทย 6 เดือน สลับกับร้านที่เยอรมนีอีก 6 เดือน แต่เมื่อเกิดโรคระบาดแผนโกอินเตอร์ก็ถูกพับเก็บไปก่อน รวมถึงกำลังซื้อที่หดหายจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
หากอนาคตคิดจะไปจริงๆ ต้องไปแบบมีพาร์ทเนอร์ ตอนนี้ขอโฟกัสที่ธุรกิจร้าน Bottomless ที่กำลังจะเปิดอีก 2 แห่งก่อน โดยเฉพาะสาขาเมืองทองธานีที่จะเป็นการกลับมาอีกครั้งของบรรยากาศแนวโฮมมี่ ให้ความรู้สึกเหมือนกับร้านในบ้านทาวน์เฮ้าส์ ที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Bottomless เมื่อ 14 ปีที่แล้ว
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1142807?anm=
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจBusiness #กรุงเทพธุรกิจRealEstate

02/09/2024

'หวยเกษียณ' ขายคนเกษียณ 'กอช.' ชงเพิ่มข้อเสนอ อายุ 60-70 ปี มีสิทธิ์ซื้อได้
กอช. เสนอขยายโอกาสสมาชิกอายุ 60-70 ปี มีสิทธิซื้อ “หวยเกษียณ” ระบุเงื่อนไขต้องถือบัญชี 10 ปี จึงจะถอนเงินออกซื้อสลากออกมาใช้ได้
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นโครงการ สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือ หวยเกษียณ มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากสมาชิก กอช. ให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้
โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) พิจารณาข้อเสนอดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ที่อายุ 61-70 ปี ที่เข้าร่วมโครงการจะไม่สามารถถอนเงินออมส่วนที่ซื้อสลากออกมาใช้ได้จนกว่าจะถือครบ 10 ปี
“หากซื้อเมื่ออายุ 61 ปี จะสามารถถอนเงินออมใช้ได้เมื่ออายุ 71 ปี และในกรณีที่เสียชีวิตทายาทผู้มีสิทธิสามารถรับผลประโยชน์ได้ทันที“
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1142914?anm=
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic

02/09/2024

กลุ่มบีเอส ผนึก ‘เดอะแลงแฮม’ เปิดโรงแรม 5 ดาวริมแม่น้ำเจ้าพระยา 6,000 ล้าน
แรบบิท โฮลดิ้งส์ ในเครือ บีทีเอส กรุ๊ป ผนึก ‘เดอะ แลงแฮม’ เปิดโรงแรม 'เดอะ แลงแฮม แบงค็อก' (The Langham Bangkok) โรงแรมสุดหรู 5 ดาว แห่งแรกใน กทม.ที่ดินจาก โรงภาษีร้อยชักสาม หรือ ศุลกสถาน (Customs House) ใช้งบการลงทุนประมาณ 6,000 ล้านบาท
แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป (Langham Hospitality Group: LHG) และ แรบบิท โฮลดิ้งส์ บริษัทในเครือของ บีทีเอส กรุ๊ป ร่วมเปิดตัวโรงแรม โรงแรม เดอะ แลงแฮม แบงค็อก (The Langham Bangkok) แห่งแรกใน กทม. ของกลุ่ม เดอะ แลงแฮม โดยเป็นที่ดินของ โรงภาษีร้อยชักสาม หรือ ศุลกสถาน (Customs House) ทำเลที่สวยงามอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก
นายบ็อบ แวนเดน ออร์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า กลุ่มแลงแฮม ได้ร่วมมือกับ แรบบิท โฮลดิ้งส์ บริษัทในเครือของ บีทีเอส กรุ๊ป เปิดตัวโรงแรม โรงแรม เดอะ แลงแฮม แบงค็อก (The Langham Bangkok) แห่งแรกใน กทม. ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก มีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2569
สำหรับพื้นที่ของโรงแรม ที่เป็นที่ดินของ โรงภาษีร้อยชักสาม หรือ ศุลกสถาน (Customs House) ทำเลที่สวยงามอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยโรงแรมจะนำอาคารเก่าของโรงภาษีร้อยชักสาม และ อาคารที่ทำการไปรษณีย์เก่า อายุรวมกว่า 130 ปี มารีโนเวทใหม่ให้สวยงาม และยังคงเก็บคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของอาคารเดิมไว้ เพื่อกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ กทม. พร้อมมีการสร้างเพิ่มอาคารใหม่ ที่เป็นห้องพัก จำนวน 78 ห้อง รวมเม็ดเงินการลงทุนในโครงการนี้ประมาณ 6,000 ล้านบาท
พร้อมกันนี้จะดึงเอกลักษณ์ของกลุ่มโรงแรม แลงแฮม มาเปิดไว้ทั้งอาหารและการให้บริการแบบครบวงจร ผสมทั้งเอกลักษณ์จากอังกฤษและตะวันออกมารวมกัน ทั้งการดึงอาหารยอดนิยมกับ ภัตตาคาร ถังคอร์ท อาหารกวางตุ้งทีได้รับมิชลิน 3 ดาว การมี ฉวนสปา ที่รวมแพทย์แผนโบราณจากประเทศจีน การจัดทำร้านอาหารและผับในสไตล์อังกฤษ และการมีเมนูเครื่องดื่มยอดนิยมกับ อาฟเตอร์นูนที เป็นต้น
สำหรับกลุ่มแลงแฮม เคยเข้ามาลงทุนในประเทศไทยก่อนหน้านี้ช่วง 12-15 ปีก่อน เป็นรีสอร์ท สมุย แต่ยุติการให้บริการไป เนื่องจากผลการตอบรับยังไม่สอดคล้องกัน แต่การกลับเข้ามาลงทุนใหม่ในไทยครั้งนี้ จากการมองโอกาสของ กทม. ที่เป็นเมืองศูนย์กลางและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ประกอบกับโรงแรมมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอาคารประวัติศาสตร์ต่างๆ มารีดีไซน์ใหม่ให้สวยงาม แต่คงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้
อย่างไรก็ตาม แลงแฮม ถือเป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งจากประเทศอังกฤษ เมืองลอนดอน สร้างลักชัสรีโฮเทลแห่งแรก แต่ในปัจจุบันมีสำนักงานอยู่ในฮ่องกง จึงผสมผสานทั้งความเป็นอังกฤษและเอเชียไว้ด้วยกัน
นายกวิน กาญจนพาสน์ ผู้อำนวยการของแรบบิท โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า บริษัทได้แต่งตั้ง แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป เข้ามาบริหารจัดการอาคารแห่งนี้ โดยบริษัทมุ่งมั่นในการสร้างโรงแรมหรูพร้อมด้วยการร่วมอนุรักษ์มรดกตกทอดต่าง ๆ โดยโรงแรมแห่งนี้จะร่วมสร้างมาตรฐานสำหรับการท่องเที่ยวและโรงแรมระดับห้าดาวในภูมิภาค
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจBusiness

02/09/2024

Dollar Index ร่วงแรงนี้ ที่หมายถึง ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเกิดจากอะไร ก็มีหลายปัจจัย Kamala Harris จึงออกนโยบายการควบคุมราคาสินค้า ห้ามขึ้นราคา ประชาชนต้องรอด เราต้องชนะเงินเฟ้อ
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic #ดอลลาร์ #ควบคุมราคาสินค้า #เงินเฟ้อ #ประชาชนต้องรอด

02/09/2024

จับ 9 บริษัทย่อยควบรวมให้อยู่ใน "ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น"
"ทรู คอร์ปอเรชั่น" ปรับโครงสร้างจับ 9 บริษัทในกลุ่มมารวมที่ "ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น" โดยจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว 2 ก.ย. 67 ส่งผลบริษัทย่อยได้แก่ ทรู มูฟ, ทรู มิวสิค, ส่องดาว, ฮัทชิสัน มัลติมีเดีย เซอร์วิส, แทค พร็อพเพอร์ตี้ ฯลฯ สิ้นสภาพนิติบุคคล
นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงินร่วม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TRUE ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100.00 ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด และบริษัทย่อยอื่นๆ จำนวน 9 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ตั้งแต่ร้อยละ 92.50 ถึง 99.99 ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของแต่ละบริษัท ได้แก่
(1) บริษัท ทรู มูฟ จำกัด
(2) บริษัท ทรู ดิสทริบิวชั่น แอนด์ เซลส์ จำกัด
(3) บริษัท ทรู มิวสิค จำกัด
(4) บริษัท ส่องดาว จำกัด
(5) บริษัท ฮัทชิสัน มัลติมีเดีย เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด
(6) บริษัท ฮัทชิสันเทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด
(7) บริษัท ฮัทชิสัน ไวร์เลส มัลติมีเดีย โฮลดิ้งส์ จำกัด
(8) บริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย จำกัด และ
(9) บริษัท แทค พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
(รวมเรียกบริษัทที่ (1) - (9) ว่า "บริษัทที่ถูกควบรวม")
ได้จดทะเบียนควบบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 โดยผลของการจดทะเบียนควบบริษัท บริษัทที่ถูกควบรวมจึงสิ้นสภาพจากการเป็นนิติบุคคล
ส่วน TUC ยังคงมีสภาพเป็นนิติบุคคล (surviving entity) ภายหลังการควบบริษัท และได้ไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่และความรับผิดชอบของบริษัทที่ถูกควบรวมทั้งหมด นับแต่วันที่จดทะเบียนเป็นต้นไป ทั้งนี้ การควบบริษัทย่อย และการสิ้นสภาพของบริษัทย่อยดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานทั้ง TRUE และ TUC
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจWealth #กรุงเทพธุรกิจFinance #กรุงเทพธุรกิจStock #กรุงเทพธุรกิจBusiness

02/09/2024

'จีน' เตือน 'ญี่ปุ่น' สะท้านถึงโตโยต้า ขู่ตอบโต้แน่ถ้ายังขวางส่งออกชิป
'จีน' เตือน 'ญี่ปุ่น' เจอมาตรการตอบโต้แน่ถ้ายังขวางส่งออกชิปตามสหรัฐ หวั่นจำกัดการส่งออกแร่หายากจนกระทบบริษัทใหญ่อย่าง 'โตโยต้า'
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า รัฐบาลจีนขู่จะดำเนินมาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงต่อ "ญี่ปุ่น" หากรัฐบาลโตเกียวยังเดินหน้าจำกัดการขายและการให้บริการอุปกรณ์ผลิตชิปกับบริษัทจีนต่อ ตามแรงกดดันของ "สหรัฐ" ที่พยายามกระตุ้นให้ประเทศพันธมิตรเช่นญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ จำกัดการส่งออกเทคโนโลีการผลิตชิปล้ำหน้าไปยังจีน
แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนหลายคนต่างย้ำเรื่องนี้ระหว่างการประชุมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายญี่ปุ่นหลายครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ และหนึ่งในเรื่องที่ฝ่ายญี่ปุ่นเป็นกังวล ซึ่งทางบริษัท "โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป" แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ในกรุงโตเกียวเป็นการส่วนตัวก็คือ จีนอาจตอบโต้ด้วยการตัดการเข้าถึง "แร่หายาก" ที่จำเป็นต่อการผลิตยานยนต์
แหล่งข่าวระบุด้วยว่าโตโยต้าถือเป็นบริษัทที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับนโยบายชิปของญี่ปุ่น
เรื่องนี้สะท้อนได้จากการที่โตโยต้าได้ลงทุนในโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ที่จังหวัดคุมาโมโตะ ที่สร้างโดยบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง คอมพานี (TSMC) ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับข้อกังวลของโตโยต้า รวมถึงข้อกังวลของบริษัทโตเกียว อิเล็กตรอน (Tokyo Electron) บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการส่งออกเพิ่มเติม
ทั้งนี้ สหรัฐกดดันญี่ปุ่นให้ยกระดับมาตรการควบคุมบริษัทต่างๆ รวมถึงโตเกียว อิเล็กตรอน ในการขายเครื่องมือการผลิตชิปขั้นสูงให้กับจีน เพื่อชะลอการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของจีน
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic

02/09/2024

'ซูซูกิ' ขยายแคมเปญ 'SWIFT 777' ผ่อน 99 เดือน
ซูซูกิ ขยายเวลาแคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” กระตุ้นตลาดต่อเนื่อง รวมถึง “SWIFT 777” ผ่อน 5,780 บาท สูงสุด 99 เดือน ถึงสิ้นเดือนกันยายน
วัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ซูซูกิ ประกาศแคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” สู่ตลาด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่าซูซูกิจะยังคงดำเนินธุรกิจในไทยต่อไป ผ่านการนำเสนอรถยนต์มาตรฐานด้านงานบริการ และโปรโมชันพิเศษเพื่อช่วยกระตุ้นการขายในช่วงงาน BIG MOTOR SALE 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับดี
โดยเฉพาะ SUZUKI SWIFT ที่ได้นักมวยระดับแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท รถถัง จิตรเมืองนนท์ มาเป็นลูกค้า โดยมีข้อเสนอประกอบด้วย
-การรับประกันคุณภาพรถยนต์ 7 ปี
-บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 7 ปี
-ผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน เดือนละ 5,780 บาท
-ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/auto/1142909?anm=
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจBusiness #กรุงเทพธุรกิจAuto

02/09/2024

เทคนิคการสร้างแบรนด์ ที่ 'ทำน้อยแต่ได้มาก' ตามแบบฉบับ HOKA
บทความนี้ผมจะวิเคราะห์การสร้างแบรนด์ Hoka ที่ทำน้อยแต่ได้ผลลัพธ์มาก และทำให้แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่างไนกี้ หัวใจต้องสั่นไหวเลยทีเดียว
[เรื่อง: จุลเกียรติ สินชัยชูเกียรติ]
พูดถึงชื่อแบรนด์ Hoka สำหรับสายวิ่ง แทบจะไม่มีใครไม่รู้จักและหลายคนก็ได้สัมผัสการสวมใส่จริงแล้ว แม้กระทั่งคนใกล้ตัวผมเองก็ใส่ Hoka กันหลายคน
📌 ความเป็นมาของแบรนด์ Hoka
Hoka หรือ Hoka One One (ออกเสียงว่า Own-ay Own-ay) เป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งจากฝรั่งเศสเกิดขึ้นในปี 2552 เมื่อนักกีฬาวิ่งเทรลทั้ง 2 คน คือ Jean-Luc Diard อดีตประธานบริษัท Salomon และ Nicolas Mermoud อดีตทีมงานของ Salomon ตั้งใจออกแบบรองเท้าวิ่งที่ทำให้การวิ่งลงเขารู้สึกเหมือนกำลังบิน
ในช่วงเวลาที่โลกแห่งการวิ่งกำลังนิยมแนวทางการวิ่งแบบ barefoot ด้วยรองเท้าสไตล์มินิมอล Hoka ได้ออกแบบรองเท้าแบบ Maximalist คือ การมีพื้นรองเท้าขนาดใหญ่ สีสดใส และคำมั่นสัญญาที่ว่าใครก็ตามที่สวม Hoka จะสามารถวิ่งลงเนินได้เร็วกว่าใครก็ตามที่ไม่ได้สวม
(bearfoot คือรองเท้าที่มีพื้นรองเท้าบางเพื่อลดการรองรับและให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการวิ่งบนพื้นดินเปล่า การวิ่งแบบ barefoot เน้นการวิ่งโดยไม่ใช้รองเท้าที่มีการรองรับมากเกินไป เพื่อให้เท้าได้สัมผัสพื้นผิวมากที่สุด)
“Hoka One One” มาจากภาษาเมารี เป็นภาษาพื้นเมืองของนิวซีแลนด์ซึ่งแปลว่า “บินเหนือพื้นโลก” ชื่อนี้เป็นพื้นฐานของสโลแกนของแบรนด์ “Time to Fly” และการโฆษณาและการตลาดของแบรนด์
ก่อนจะเปลี่ยนสโลแกนใหม่ในช่วงปี 2564 จาก “Time to Fly” สู่ “Fly Human Fly” ส่วนสาเหตุที่ใช้ชื่อเป็นภาษาเมารีก็เพื่อเป็นการยกย่องถึงประเพณีและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และเต็มไปด้วยความหลากหลายในการแข่งขันผจญภัย
จุดมุ่งหมายของแบรนด์มาจากความเข้าใจจุดเจ็บปวดลูกค้า (Pain points )
แนวคิดการเริ่มต้นของแบรนด์ Hoka มาจากการเข้าอกเข้าใจ ( Empathy ) ผู้ใช้งาน โดยการสังเกตและได้สัมผัสจุดเจ็บปวดของนักวิ่งอย่างแท้จริง
เมื่อ...คุณมองดูกีฬาวิ่ง จะพบว่ามีความเจ็บปวดบางอย่างที่ผู้คนไม่ชอบ
เมื่อ...คุณมองดูนักกีฬาอายุ 20 ปีที่ต้องหยุดแข่งขันเป็นเวลาหนึ่งปีเพราะได้รับบาดเจ็บ นั่นคือปัญหา
เมื่อ…คุณเห็นคนที่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้เพราะรู้สึกไม่สบาย นั่นก็ถือเป็นปัญหาเช่นกัน
Jean-Luc Diard อธิบายเกี่ยวกับความคิดของเขาที่น่าจะเป็นจริง จากการอ้างอิงผ่านการศึกษาใน British Journal of Sports Medicine พบว่า 50% ของนักกีฬาได้รับผลกระทบทางจิตใจจากการบาดเจ็บ เช่น ความเครียด วิตกกังวล รู้สึกสิ้นหวัง
ในช่วงเวลาที่โลกแห่งการวิ่งกำลังนิยมแนวทางการวิ่งแบบ barefoot ด้วยรองเท้าสไตล์มินิมอล มีสิ่งที่หลากหลายแบรนด์/บริษัทไม่ได้ตระหนักถึงการออกแบบรองเท้าสไตล์มินิมอล คือ ทำอย่างไรถึงจะมอบความสบายในการวิ่งให้กับนักกีฬาได้ ซึ่ง Hoka มองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ใหญ่มากสำหรับนักวิ่งทั่วโลก
อย่างไรก็ดี Hoka ยังออกแบบบางประการที่สอดคล้องกับแนวทางของ minimalist แม้ว่ารองเท้า Hoka จะมีความหนาแต่ก็มีน้ำหนักเบามาก มีการยกส้นต่ำและรูปทรง “rocker” ของรองเท้าช่วยให้ปลายนิ้วอยู่ในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติและส่งเสริมรูปแบบการเดินที่สมดุลไปข้างหน้า
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1142780?anm=
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจBusiness

02/09/2024

ททท. คาด ‘นักท่องเที่ยวต่างชาติ’ 4 เดือนสุดท้ายปี 67 แห่เข้าไทย 12.22 ล้านคน
‘ททท.’ คาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติ 4 เดือนโค้งท้ายปี 67 แห่เข้าไทย 12.22 ล้านคน หนุนยอดทั้งปีนี้เฉียด 36 ล้านคน จำนวนคนเกินเป้าที่ตั้งไว้ไม่น้อยกว่า 35 ล้านคน ส่วนรายได้ตลาดต่างประเทศ 1.8 ล้านล้านบาท
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศ 4 เดือนสุดท้ายของปี 2567 (ก.ย.-ธ.ค.) เดินทางเข้าประเทศไทย มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คาดว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12,226,500 คน หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 20% สร้างรายได้ 652,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2566 ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กำหนด 4 เดือนสุดท้ายของปี 2567 คิดเป็นสัดส่วน 97% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปีที่รายได้ 673,738 ล้านบาท
สำหรับ คาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในช่วง 4 เดือนสุดท้าย ยังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดหลักจากเอเชียตะวันออก รองลงมาคือกลุ่มภูมิภาคยุโรป และเอเชียใต้ ส่วนที่เหลือจากตลาดในภูมิภาคอื่นๆ เช่น โดย 10 อันดับแรกของประเทศที่เดินทางเที่ยวไทยมากที่สุด ได้แก่ จีน 2.03 ล้านคน มาเลเซีย 1.83 ล้านคน อินเดีย 7.07 แสนคน เกาหลีใต้ 7.4 แสนคน รัสเซีย 6.98 แสน ลาว 4.34 แสนคน สิงคโปร์ 4.28 แสนคน ไต้หวัน 3.77 แสนคน ญี่ปุ่น 3.46 แสนคน และสหรัฐ 3.41 แสนคน
“แนวโน้มปี 2567 คาดมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยจำนวน 35.99 ล้านคน เพิ่มขึ้น 28% ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ ททท. กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 35 ล้านคน ส่วนรายได้ทางการท่องเที่ยวคาดประมาณ 1.818 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบปีก่อนหน้า”
สำหรับปัจจัยบวกต่อภาคการท่องเที่ยวไทย มีทั้งนโยบายผลักดันการเดินทางผ่านมาตรการ Ease of Traveling ของประเทศไทย อาทิ การผ่อนคลายวีซ่าประเภทท่องเที่ยว การขยายเวลาพำนักในไทยนานขึ้น การยกเว้นยื่นใบ ตม.6 บริเวณด่านชายแดนทางบกทั่วประเทศ เพื่อจูงใจและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังวางแผนจะเดินทางให้สามารถตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวไทยง่ายขึ้น
รวมถึงปัจจัยจำนวนที่นั่งโดยสาร (Seat Capacity) เส้นทางระหว่างประเทศ มีจำนวนรวม 46 ล้านที่นั่ง คิดเป็นการฟื้นตัว 82% ของจำนวนที่นั่งโดยสารระหว่างประเทศเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด และเติบโตขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีจำนวนที่นั่งโดยสารประมาณ 37 ล้านที่นั่ง
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1142676?anm=
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจBusiness

02/09/2024

อิสราเอลมากกว่า 5 แสนคน ออกมาประท้วงครั้งใหญ่เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเร่งทำข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาส และช่วยเหลือตัวประกันที่เหลืออีก 101 คนที่ถูกจับกุมตัวไป หลังเพิ่งพบศพตัวประกัน 6 ราย ในอุโมงค์ใต้ดินแห่งหนึ่งในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของกาซา
แต่ดูเหมือนว่า เนทันยาฮู ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำสงครามต่อไป ด้วยการประกาศล้างแค้นกลุ่มฮามาส พร้อมสั่งกองทัพเดินหน้าถล่มกาซาต่อไป
#สงครามกาซา #อิสราเอล #เนทันยาฮู #ฮามาส #กรุงเทพธุรกิจNEWS #กรุงเทพธุรกิจ

02/09/2024

'การทางพิเศษฯ' ลงทุน 1.5 หมื่นล้าน สร้างสะพานเชื่อม 'เกาะช้าง' คาดเริ่มก่อสร้างปี 2572
การทางพิเศษฯ เดินหน้าลงทุน "สะพานเชื่อมเกาะช้าง" 1.5 หมื่นล้านบาท เสนอ 4 แนวเส้นทางที่เหมาะสม ตั้งเป้าตอกเสาเข็มในปี 2572 มั่นใจเป็นประโยชน์ต่อการเดินทางของประชาชน พร้อมหนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี รองผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยในการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 (การปฐมนิเทศโครงการ) งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะช้าง จังหวัดตราด โดยระบุว่า สืบเนื่องจากผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันจังหวัดตราดในปี 2563 และกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ กทพ.ร่วมกับกรมทางหลวงชนบท เพื่อสำรวจศึกษาและออกแบบสะพานข้ามเกาะช้าง
โดยเป้าหมายพัฒนาโครงการดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านการคมนาคมของชาวเกาะช้างและนักท่องเที่ยว รวมทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนอย่างมาก โดยเฉพาะการเข้ามารักษาพยาบาลในตัวเมืองตราดและการส่งลูกหลานเข้ามาเรียนหนังสือในตัวเมืองตราดได้สะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับจังหวัดตราด เพิ่มศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่ สนับสนุน และอำนวยความสะดวกด้านพาณิชยกรรม และอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ดี สถานะปัจจุบัน กทพ.อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมของการพัฒนาโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปีนับจากนี้ หรือราวปี 2569 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นประชาชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อคัดเลือกแนวเส้นทาง รูปแบบการลงทุน ตลอดจนความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม ก่อนนำไปขออนุมัติโครงการ
ทั้งนี้ กทพ.ประเมินกรอบดำเนินงาน คาดว่าภายหลังศึกษารายละเอียดโครงการแล้วเสร็จ จะสามารถเสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อขออนุมัติรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และดำเนินการในขั้นตอนการขออนุมัติโครงการภายในปี 2569 โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2572 ใช้เวลาก่อสร้างราว 4 ปีแล้วเสร็จ เปิดให้บริการในปี 2576
สำหรับผลการศึกษาเบื้องต้น กทพ.คาดว่าโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะช้าง จังหวัดตราด จะใช้วงเงินลงทุนราว 1.5 หมื่นล้านบาท โดยจากการศึกษาทบทวนและรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาจากจุดเริ่มต้น จุดสิ้นสุดของโครงการที่มีความเหมาะสม และหลักเกณฑ์การพิจารณากำหนดแนวเส้นทางเลือก จึงสามารถกำหนดแนวเส้นทางเลือกของโครงการ จำนวน 4 แนวเส้นทางเลือก
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1142881?anm=
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจUpdate

ต้องการให้ธุรกิจของคุณ ธุรกิจ ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง บริษัท สื่อ ใน Bangkok?
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?

Our Story

ความเคลื่อนไหวเศรษฐกิจ การเมือง ธุรกิจ สังคม และสถานการณ์เด่น

วิดีโอทั้งหมด (แสดงผลทั้งหมด)

จีนกำลังใช้โลก กระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งผลิตส่งออก บรรเทาวิกฤติอสังหาฯ | กรุงเทพธุรกิจNEWS
ถอดบทเรียนจาก 'เศรษฐา' ถึง 'แพทองธาร'  เมื่อนายกฯนั่ง 'หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ' | กรุงเทพธุรกิจNEWS
'ทองคำ' มาแน่ถ้า 'ทรัมป์' ชนะ 'ดอลลาร์' เสี่ยงเข้าภาวะขาลง | KT Report
'เนทันยาฮู' เมินประท้วงใหญ่ ประกาศแก้แค้น ลุยถล่มกาซา หลังตัวประกันถูกสังหาร | กรุงเทพNEWS
ดอลลาร์สหรัฐร่วงแรง เกิดอะไรขึ้น | Money Teller
SET แกว่งตัว 1,332-1,350 จุด รอครม. ชัดเจน  | SET Afternoon | 2-9-67
ประมวลภาพบรรยากาศ Thailand Trade Exponential Fest 2024
นิทรรศการมีเดียอาร์ต A GOLDEN KISS by Klimt
‘Negative Income Tax’  ระบบภาษีที่จะทำให้  ‘คนจน’ หมดประเทศ
สินทรัพย์ดิจิทัลในไทย ปลอดภัยแน่นะคะ คุณนิรันดร์
‘บาร์บี้โฟน’ เสกของเล่น ให้เป็นของจริง!
‘NIT’ ประชานิยมที่รัฐแจกเงิน (อีกแล้ว) เพื่อดึงคนจนเข้าระบบ? | กรุงเทพธุรกิจBRIEF

เว็บไซต์

ที่อยู่

1854 7th Floor, Debaratana Road, Bangna
Bangkok
10260

Bangkok บริษัท สื่ออื่นๆ (แสดงผลทั้งหมด)
Dek-D.COM - เด็กดีดอทคอม Dek-D.COM - เด็กดีดอทคอม
152 อาคารชาร์เตอร์สแควร์ ชั้น 29 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก
Bangkok, 10500

TEEN ONLY SOCIETY รวมทุกเรื่องในชีวิตเด็กวัยรุ่น มัธยมฯ-มหาวิทยาลัย

611 Bangkok | www.611bkk.com 611 Bangkok | www.611bkk.com
Bangkok, 2522

611BKK.COM About BKK Nightlife! This is just a sampling of what our upcoming website will feature.P

TMCX - Tomorrow Comix TMCX - Tomorrow Comix
Bangkok, 10400

Tomorrow Comix Co.,Ltd is a Thai Comic publisher.

หาทาน หาทาน
30/2 สุขุมวิท 36 (ซอยนภาศัพท์ แยก 1) แขวงคลองตัน เขตคลองเตย
Bangkok, 10110

ร้านที่ว่าดี ร้านที่ว่าอร่อย เราก็?

a day a day
อาคารเตรียมชาญชัย เลขที่ 33 ถนนพระราม 9 ซอย 26 บางกะปิ
Bangkok, 10310

Stay Awake, Stay Inspired.

NIDA Poll - นิด้าโพล NIDA Poll - นิด้าโพล
148 เสรีไทย
Bangkok, 10240

NIDA Poll โพลแห่งแรกในประเทศไทย

Voice TV Voice TV
197 BBD Building (Viphavadi), Viphavadi Rangsit Road Samsennai
Bangkok, 10400

VoiceTV สถานีข่าวปลุกความคิดกับรายการ Wake Up News, In Her View, Tonight Thailand และข่าวทันสถานการณ์

Travel Around The World Magazine Travel Around The World Magazine
หมู่บ้านมอตโต้ ถนนกาญจนาภิเษก บางบอน
Bangkok, 10150

www.travelaroundtheworld-mag.com Instagram: @travelaroundtheworld.mag

Frank151 Frank151
Bangkok

Podcast now streaming on Apple Music

กระแสเศรษฐกิจ BizSme กระแสเศรษฐกิจ BizSme
299/63 Vista Park Vipavadi
Bangkok, 10210

พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ กับ The Leader นักคิด และผู้รู้ เพื่อจุดประกายความคิด เพื่อธุรกิจและสังคม

Siamphone.com Siamphone.com
สยามโฟน ดอท คอม Siamphone Dot Com 44/200 Pahonyotin Road Anusaowari Bangkhen
Bangkok, 10220

สยามโฟน.คอม - ทุกเรื่องมือถือและสมาร์ทโฟน

Photography and video services by Fufu Photography and video services by Fufu
Bangkok, 10110

Photography and video services by Fufu