Help for Visa

สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการขอวีซ่าเพื่อเข้าไทย ตอนนี้มีวีซ่าประเภทใหม่ ๆ ออกมาหลายประเภทเลย บางประเภททำงานได้โดยไม่ต้องมี work permit หรือติดเงื่อนไข 1:4

คำถามที่มักจะโดนถาม เวลาไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา (B1/B2)

- จะไปทำอะไรที่ประเทศสหรัฐอเมริกา?
- ไปเมื่อไหร่? ไปนานแค่ไหน?
- พักที่ไทน?
- ปัจจุบันทำอาชีพอะไร?
- เคยเดินทางไปประเทศไหนมาบ้าง?

ตอนผมไปผมโดนถามแค่นี้จริง ๆ และช่วงหลังเวลาทำวีซ่าให้ใคร ส่วนใหญ่ก็โดนถามเท่านี้ ยกเว้นคนที่มีประวัติเคยไปอเมริกามาแล้วด้วยวีซ่าประเภทอื่น ก็อาจจะโดนถามเพิ่มเติมในส่วนนั้น

ช่วงหลังรู้สึกเจ้าหน้าที่ค่อนข้างใจดีเลย ปีนี้เท่าที่ยื่นมายังผ่านทุกคนอยู่

#วีซ่าอเมริกา

Send a message to learn more

มีคนทักเข้ามาถามเยอะ เกี่ยวกับวีซ่าอเมริกา ผมกะว่าจะเขียนรีวิวเริ่มตั้งแต่การกรอกฟอร์ม (DS-160) แต่มาคิดอีกที งอกโพสต์เกี่ยวกับประเภทวีซ่ามาก่อนดีกว่า

หลังจากตัดสินใจว่าจะไปประเทศสหรัฐอเมริกา ขั้นตอนแรกจริง ๆ เลย คือหาข้อมูล และสิ่งที่สำคัญจะเป็นการเลือกประเภทวีซ่า ซึ่งจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเดินทางของเรา ในที่นี้ผมจะขอพูดถึงเฉพาะวีซ่าประเภท B1/B2 ซึ่งน่าจะเป็นวีซ่าที่คนขอเยอะที่สุดนะครับ (ผมเองก็ไปด้วยวีซ่านี้)

วีซ่า B1 คือการขอเข้าไปเพื่อวัถตุประสงค์ทางธุรกิจ (ตอบกว้าง ๆ แบบนี้ละกัน) ส่วนประเภท B2 คือ เข้าไปเพื่อท่องเที่ยว รวมถึงการไปเยี่ยมญาติพี่น้อง แต่เราสามารถขอทั้ง 2 ประเภทในคราวเดียวกันได้ เป็น B1/B2 เผื่อว่าคราวนี้เราไปเยี่ยมญาติ คราวหน้าเราอาจจะไปคุยธุรกิจอะไรแบบนี้ ก็ขอไว้ทีเดียวเลย

ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยนั้น ก็ต้องดูเป็น case by case เช่น ผมเคยต้องทำวีซ่าให้อาจารย์ท่านหนึ่งไปพูดที่มหาวิทยาลัยในอเมริกา ผมก็ต้องขอดูจดหมายเชิญก่อน เพราะมันจะมีกฎอยู่ว่าวีซ่าประเภทนี้ห้ามทำงานและรับเงินในประเทศอเมริกา แต่จะรับเป็นของกำนัล (หรือ gift) ได้ แต่ก็มีข้อกำหนดว่าไม่เกินเท่าไหร่ และห้ามสอนเกินกี่วัน อันนี้ก็ว่ากันไป ส่วนการไปประชุม ไม่ได้เงินจากนายจ้างใน US แต่รับเงินเดือนจากบริษัทในไทย อันนี้ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา

การไปเที่ยวเอง หรือไปเยี่ยมญาติ อันนี้ก็ต้องดูเป็น case by case เหมือนกัน ส่วนใหญ่ ย้ำว่าส่วนใหญ่นะครับ ถ้าเรามีงานการมั่นคงที่ไทย มีการเงินที่ดี อันนี้เจ้าหน้าที่ประเมินจากข้อมูลที่เรากรอกใน DS-160 ประกอบกัน ผมคิดว่าเจ้าหน้าที่พิจารณามาเยอะ เขาน่าจะมีกระบวนการของเขา

ยกตัวอย่างตัวผมเองก็ละกัน ผมจะเดินทางไปเยี่ยมคุณลุงที่เป็น US Citizen อาชีพการงานของผมที่เมืองไทยก็อยู่ในระดับโอเค การเงินก็โอเคในระดับนึง ประวัติการเดินทาง ผมเคยไปอเมริกามาแล้ว เรียกว่ามีเรคคอร์ด รวมถึงเคยไปประเทศอื่น ๆ มาบ้าง ผมก็กรอกไปตามจริง ซึ่งตอนไปสัมภาษณ์แทบไม่โดนถามอะไรเลย เอกสารไม่ดูเลยแม้แต่อันเดียว วีซ่าก็ผ่าน

ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้หมายความว่าผมมี profile ดีหรืออะไรนะครับ ผมว่ามันประกอบกันหลายปัจจัย เช่น เจ้าหน้าที่คนที่พิจารณาวีซ่าของผมอาจจะใจดีก็ได้ หรือกรณีบางคนโดนถามเยอะทั้งทั้งที่คุณสมบัติดีกว่าผม อาจจะเพราะไปเจอเจ้าหน้าที่ที่ชอบถาม ชอบขอดูเอกสารก็ได้

ดังนั้นมันไม่สามารถเอามาเทียบกันได้ 100% ว่าทำไมคนนั้นไม่โดนถาม คนนี้ดีกว่าทำไมโดนถามหรือโดนเรียกดูเอกสารหลักฐาน คนนั้นไปเที่ยวมาเยอะทำไมโดนปฏิเสธ หลายครั้งมันเป็นเรื่อง case by case จริง ๆ ครับ

รูป - Santa Monica, California

พอดีโพสต์ที่แล้วผมเล่าว่าโดนเจ้าหน้าที่ ตม. ที่อเมริกาถามว่าพกเงินสดมาเท่าไหร่ แล้วผมตอบไปว่า 0$ แล้วมีคนมาคอมเมนต์ตอบกันเยอะเลย ผมขออนุญาตอธิบายเพิ่มเติมแบบนี้ครับ (มีตอบไปในโพสต์เก่าด้วยแล้ว)

จริง ๆ ผมทราบกฎการห้ามนำเงินสดเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาเกิน 10,000 USD เพราะด้วยอาชีพการงานที่ต้องไปต่างประเทศบ้าง ทำให้ต้องศึกษากฎของแต่ละประเทศ แต่ที่บอกว่าตกใจ คือ ผมนึกขึ้นได้ตอนนั้นว่าผมมี 0 เหรียญจริง ๆ อารมณ์ประมาณพี่หนุ่มกรรชัยตกใจ (อุ้ย)

ซึ่งผมก็ไม่ได้กลัวว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ให้เข้าประเทศนะครับ เพราะผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่เข้าใจ และสิ่งที่ผมทำ ก็คือตอบไปตามจริง แต่บังเอิญอีก ตอนเจ้าหน้าที่คนนั้นได้ยินว่า Zero ก็ดันเงยหน้ามามองแรง (จ้องตา) ผมเลยอธิบายเพิ่มเติมว่าผมใช้ travel card และ cradit card เจ้าหน้าที่ได้ฟังก็พยักหน้าเข้าใจแล้วก็ให้ผ่านไป เท่านั้นเอง

เมื่อปีที่แล้ว ผมไม่พกเงินสดในต่างประเทศหลายครั้ง ทั้งที่ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลี สิงคโปร์ ผลออกมา ก็รอดอยู่นะ แต่บางที การพกเงินสดบ้างก็ดี เช่น ประเทศอย่างออสเตรเลียไม่มี tipping culture เหมือนอเมริกา แต่ส่วนใหญ่มี credit card surcharge (แม้เรทจะน้อยกว่ามาก คือชาร์จเพิ่มประมาณ 1.4%) ส่วนวัฒนธรรมการทิปที่อเมริกานั้น อย่าว่าแต่ผมเลย เพื่อนผมที่เป็น American หลายคนยังบ่น จนบางทีผมก็แอบคิดว่าช่วยแจ้งราคารวมทิปมาแต่แรกเลยได้มั้ย จะได้จบ ๆ

สุดท้ายผมขอขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกแชร์ ขอบคุณทุกคนที่อ่านโพสต์นั้นนะครับ ไม่ได้เขียนเกี่ยวกับอเมริกามานาน เขียนแล้วได้รับการตอบรับดีแบบนี้ เดี๋ยวจะมีโพสต์แนะนำเกี่ยวกับวีซ่าอเมริกาตามมาเรื่อย ๆ ครับผม ขอบคุณครับ

Admin

ป.ล. ผลสำรวจบอกว่าคน 57% หลังจากใช้บริการในประเทศสหรัฐอเมริกาจะทิป 15% ผมสารภาพตามตรงว่าผมเป็น 1 ในนั้นครับ เป็นคนส่วนใหญ่อ่ะนะ (เกินครึ่งนึง) ซึ่งผมก็ไม่ได้อยากจะขี้เหนียว แต่ผมไม่ได้มีเงินเยอะ (เศร้า) นอกจากนั้น และบางทีก็รู้สึกว่าไม่ได้รับบริการอะไรที่ดีอะไรเลยด้วย

ป.ล.2 ภาพประกอบ เรียก Uber ผมก็ทิป 15% นี่แหละ ไหวเท่านี้จริง ๆ ผมจะพยายามเป็นลูกค้าผุ้ใช้บริการที่ดีไม่เรื่องเยอะแทนนะครับ หวังว่าผู้ให้บริการคงเข้าใจ ^^

เดือนก่อนผมไปประเทศอเมริกามานะครับ ไปมา 2 สัปดาห์ ไว้จะทยอยลงรีวิว เอาตั้งแต่เริ่มกรอกใบสมัครวีซ่า (DS-160), จองคิว, ไปสัมภาษณ์ ฯลฯ จนเข้าประเทศเลย

เล่าให้ฟังขำ ๆ ก่อน ตอนจะผ่านด่าน ตม. เข้าประเทศ เจอเจ้าหน้าที่ถามว่าเอาเงินสดมาเท่าไหร่ ตกใจ เพราะไม่ได้แลกเงิน US ไปเลยซักดอล ดีนะอธิบายว่าใช้ Travel card ใช้ Credit card เจ้าหน้าที่ก็พยักหน้าเข้าใจ ให้ผ่าน

รอดไป

#วีซ่าอเมริกา

ป.ล. จริง ๆ มีเงินสดติดไว้หน่อยก็ดีนะครับ เผื่อฉุกเฉิน มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี

ใครที่กำลังจะยื่นวีซ่า UK หรือยื่นไปแล้ว เเละกำลังจะทำนัดเก็บไบโอเมทริกซ์หลังวันที่ 18/03/2024 ต้องเดินทางไปที่ทำการใหม่ของ VFS ตามรายละเอียดด้านล่างครับ

📢ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าสหราชอาณาจักร🇬🇧 และสำนักงานพาสปอร์ตสหราชอาณาจักร🇬🇧 ในกรุงเทพมหานคร จะย้ายไปยังสถานที่ทำการใหม่ในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2567

🏢สถานที่ทำการใหม่สามารถติดต่อได้ที่

บริษัท วีเอฟเอส (ประเทศไทย) จำกัด
เดอะช็อปปส์ แอท เบ็ล แกรนด์ พระราม 9
131/1, 141/1 ยูนิต BS003 – BS003/1
ชั้น 1 ถนนพระราม 9 ห้วยขวาง
กรุงเทพมหานคร 10310

-------

📢The UK Visa Application Centre🇬🇧 and the His Majesty Passport Office (HMPO)🇬🇧 address in Bangkok, Thailand will be relocated to the new address from 18 March 2024.

🏢The new address is

VFS (Thailand) Ltd.
The Shoppes at Belle Grand Rama 9,
131/1,141/1, Unit BS003 – BS003/1,
1st Floor, Rama 9, Huay Kwang,
Bangkok 10310 Thailand.

#วีซ่าอังกฤษ #วีซ่า #วีซ่าUK #วีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษ #วีซ่าท่องเที่ยว

| vfsglobal - vfsglobal VFS Global

วีซ่าท่องเที่ยว ออสเตรเลีย

https://www.facebook.com/100039811965762/posts/1089243589079363/?sfnsn=mo

รีวิวการเข้าสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาโดยละเอียด

ในโพสต์นี้แอดมินจะไม่พูดถึงเรื่องการกรอกใบสมัครและการดำเนินการจองทำนัดหมายเข้าสัมภาษณ์นะครับ เพราะเคยเขียนไว้ในโพสต์ก่อนหน้านี้แล้ว

วันนี้แอดมินมีนัดสัมภาษณ์เวลาประมาณ 10:00 น. ที่สถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย กรุงเทพ แอดมินเดินทางไปถึงก่อนเวลานิดหน่อย พร้อมด้วยเอกสารที่เตรียมมาเต็มซอง

จุดที่หนึ่ง: Check in - ทางสถานทูตจะมีเต็นท์ที่แบ่งเป็นสองแถวซึ่งอยู่นอกอาคารสถานทูต เพื่อทำการตรวจเอกสาร จุดนี้ให้เรายื่นพาสปอร์ตตัวปัจจุบันให้เจ้าหน้าที่ แล้วเค้าจะตรวจสอบดูว่าตรงกับคิวที่นัดมาหรือไม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการติดสติกเกอร์หลังพาสปอร์ต ในสติกเกอร์จะมีเลข EMS สำหรับส่งเอกสารกลับให้เราทางไปรษณีย์ ให้เราถ่ายรูปหรือจดเลขติดตามเอกสารไว้ ในกรณีที่เราได้รับวีซ่า จะได้ติดตามพาสปอร์ตของเราได้

จุดที่สอง: ตรวจสอบสัมภาระ – หลังจากผ่านจุดแรก เราจะต้องไปรอที่ประตูทางเข้าสถานทูตเพื่อให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจสอบสัมภาระของเรา เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ปิดโทรศัพท์มือถือ และเอาสัมภาระทุกอย่างใส่ถาดเพื่อทำการสแกนเหมือนที่สนามบิน โดยทั่วไปเจ้าหน้าที่จะรับฝากแค่โทรศัพท์ พร้อมกับให้ฝากบัตรประชาชนไว้คู่กับโทรศัพท์เพื่อใช้ยืนยันตัวตนในการรับโทรศัพท์คืน หลังจากสัมภาษณ์เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะไม่รับฝากสิ่งของอื่นๆ เช่น พาวเวอร์แบงค์ มีด กรรไกร ฯลฯ แอดมินขอให้ศึกษาข้อมูลเหล่านี้ก่อน ไม่งั้นจะเสียเวลาต้องไปหาที่รับฝากของ หรือกลับไปเก็บของที่รถ หรือบางคนก็เลือกทิ้งสิ่งของเหล่านั้นไปเลย

จุดที่สาม: พักคอย – หลังจากที่ผ่านรั้วเข้ามาสู่ตัวอาคารแล้ว จะมีทางเดินแบ่งเป็นสามสี ตามชนิดของวีซ่า โดยจะแบ่งเป็นวีซ่าถาวร วีซ่าชั่วคราว และการให้บริการสำหรับคนสัญชาติอเมริกา แอดมินเดินตามเส้นสีแดงซึ่งเป็นเส้นที่นำไปสู่ห้องสัมภาษณ์ โดยจะผ่านจุดพักคอยซึ่งจุดนี้เราสามารถพักดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำ จัดเรียงเอกสารได้

จุดที่สี่ : ตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น - เมื่อเดินเข้าสู่อาคาร จะมีเจ้าหน้าที่คนไทยขอดูเอกสารสองอย่างคือ พาสปอร์ตตัวจริงกับรูปถ่าย พร้อมสอบถามจำนวนผู้สมัครว่ามาพร้อมกันกี่คน คำถามที่เจ้าหน้าที่จะถามเลยคือ รูปนี้ถ่ายมานานหรือยัง เพราะในกฎเขียนไว้ว่าห้ามถ่ายมานานเกิน 6 เดือน เมื่อตรวจสอบผ่านแล้วก็จะไปเข้าคิวเพื่อทำการเก็บลายนิ้วมือที่จุดถัดไป

จุดที่ห้า : เก็บลายนิ้วมือ และสอบถามข้อมูลเบื้องต้น – เจ้าหน้าที่ที่จุดนี้จะยังเป็นเจ้าหน้าที่ไทยซึ่งจะขอให้แอดมินยื่นพาสปอร์ตตัวจริงพร้อมรูปถ่ายสอดไปตามช่องสอดเอกสาร จากนั้นเจ้าหน้าที่จะถามคำถามเล็กน้อย โดยคำถามที่แอดมินโดนถามคือ

เจ้าหน้าที่ : คุณเคยมีวีซ่ามาก่อนใช่หรือไม่ วีซ่ายังอยู่หรือไม่
แอดมิน : เคยมี J1 วีซ่าหมดอายุแล้ว
เจ้าหน้าที่ : เคยเปลี่ยนชื่อ นามสกุลหรือไม่
แอดมิน : ไม่เคย

จากนั้นเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทำการวางสี่นิ้วมือซ้าย(ไม่รวมนิ้วโป้ง) สี่นิ้วมือขวา และนิ้วโป้งสองนิ้วพร้อมกัน เพื่อทำการบันทึกข้อมูล เมื่อเจ้าหน้าที่บันทึกเสร็จก็จะคืนพาสปอร์ตกลับมาพร้อมแจ้งไปทำการยืนยันลายนิ้วมืออีกครั้งหนึ่ง

จุดที่หก : ยืนยันตัวตนและข้อมูล – แอดมินเดินต่อไปที่จุดยืนยันตัวตนและข้อมูลซึ่งเจ้าหน้าที่ที่จุดนี้จะเป็นชาวต่างชาติ เจ้าหน้าที่จะเรียกขอพาสปอร์ตตัวจริงเหมือนเดิม พร้อมกับถามคำถามเล็กน้อย เช่น จะไปกี่วัน ไปกับใครบ้าง แอดมินก็ตอบไปตามปกติเป็นภาษาอังกฤษตามจำนวนวันที่จะไปเที่ยว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการ random check โดยให้วางสี่นิ้วซ้าย หรือสี่นิ้วขวา เพื่อยืนยันว่าข้อมูลที่เก็บไปก่อนหน้านี้จากจุดที่แล้วตรงกันกับข้อมูลที่ถูกบันทึกมา จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ไปต่อคิวรอสัมภาษณ์

จุดที่เจ็ด : สัมภาษณ์และรู้ผลวีซ่า – แอดมินต่อแถวสัมภาษณ์ โดยมีคนที่เข้าคิวอยู่ก่อนหน้าประมาณสิบคน มีทั้งชาวไทยและชาวต่างขาติ แอดมินก็แอบฟังคำถามและผลวีซ่าของคนเหล่านั้นพร้อมกับรอคิวไปด้วย เท่าที่จำได้คือ มีทั้งคนผ่านและไม่ผ่าน ที่จำได้แน่ๆคือ

1. มีชาวต่างชาติเข้าสัมภาษณ์แล้วเจ้าหน้าที่สอบถามเรื่องการทำงานและวีซ่าที่ใช้อาศัยอยู่ในประเทศไทย หลังจากที่ได้รับคำตอบ เจ้าหน้าที่ก็คืนพาสปอร์ตให้ และบอกว่าวีซ่าไม่ผ่านพร้อมแนบใบปฏิเสธ

2. ครอบครัวคนไทย ประกอบด้วยพ่อแม่ลูกอายุประมาณสองขวบ ซึ่งเคยเดินทางไปทั้งยุโรปและเอเชียมาก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้ว ประกอบกับเคยมีวีซ่าอเมริกามาก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ขอดูเอกสารเพิ่มเติมแล้วก็แจ้งว่าวีซ่าผ่านแล้วพร้อมกับเก็บพาสปอร์ตของทั้งสามคนไป

3. พนักงานบริษัทห้าคน คิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวิศวกรไปอบรมหรือไปซ่อมแซมเครื่องจักร เจ้าหน้าที่เรียกสัมภาษณ์พร้อมกันทีเดียวทั้งห้าคนเลย โดยถามเรื่องอายุการทำงาน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เมืองที่จะไป ซึ่งทุกคนก็ทำงานกันมาประมาณห้าถึงยี่สิบปี ประกอบกับทุกคนใส่ชุดยูนิฟอร์มของบริษัทมาด้วย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าวีซ่าผ่านแล้ว ให้รอรับทางไปรษณีย์ได้เลย โดยการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ถามเป็นภาษาไทย และผู้สมัครก็ตอบเป็นภาษาไทยละภาษาอังกฤษสลับกัน

หลังจากนั้นก็ถึงคิวแอดมิน ซึ่งได้เข้าสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ท่านเดียวกับกลุ่มพนักงานบริษัท แอดมินเดินเข้าไปพร้อมยื่นพาสปอร์ตตัวจริงผ่านทางช่องสอดเอกสาร เจ้าหน้าที่รับพาสปอร์ตไป ทำการสแกนบาร์โค้ดบนสติกเกอร์ที่ถูกติดมาตั้งแต่จุดแรก หลังจากนั้นก็อ่านข้อมูลในคอมพิวเตอร์ พร้อมกับเริ่มถามคำถามแอดมินเป็นภาษาไทยดังนี้

เจ้าหน้าที่ : คุณจะไปส่วนใดของอเมริกา
แอดมิน : I am going to LA visiting Disneyland, Hollywood drive and other attractions
เจ้าหน้าที่ : คุณจะไปกี่วัน
แอดมิน : 10 days
เจ้าหน้าที่ : คุณเคยไปประเทศใดมาบ้าง
แอดมิน : After COVID, I went to Australia, South Korea and Taiwan
เจ้าหน้าที่ : ยินดีด้วย คุณได้รับวีซ่าแล้ว

แอดมินตกใจเล็กน้อย เพราะยังไม่ได้แสดงเอกสารการงาน การเงิน และเอกสารอื่นๆที่เดรียมมาเลย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเก็บพาสปอร์ตตัวจริงของแอดมินไป แต่ทำรูปถ่ายของแอดมินตกไว้ที่โต๊ะ แอดมินสังเกตเห็นจึงสอบถามว่าไม่จำเป็นต้องเก็บรูปของแอดมินไปใช่ไหม เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่จำเป็น เพราะสแกนเก็บไว้แล้วพร้อมคืนรูปกลับมา

จุดสุดท้าย : รับโทรศัพท์ – แอดมินเดินออกจากห้องสัมภาษณ์อย่างสบายใจกลับมาผ่านจุดพักคอยและเข้าประตูตรวจสอบสัมภาระ เพื่อรับโทรศัพท์และบัตรประชาชนคืน เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี รอพาสปอร์ตมาส่งที่บ้านทางไปรษณีย์ในอีก 3-7 วันข้างหน้า

เรื่องน่ารู้

1. สถานทูตประเทศต่างๆ เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ที่เปิดให้ยื่นวีซ่า สามารถรับยื่นวีซ่าของชาวต่างชาติได้ด้วย

2. หลังจากที่ได้วีซ่าอเมริกามาแล้ว หรือหากใครกำลังถือวีซ่าอเมริกาอยู่ สามารถขอวีซ่า ETA ของประเทศแคนาดาได้

#วีซ่าท่องเที่ยว #วีซ่าอเมริกา

Send a message to learn more

ค่าธรรมเนียมวีซ่าเกือบทุกประเภทของสหรัฐอเมริกาจะถูกปรับขึ้นหลังวันที่ 30 พฤษภาคมนี้นะครับ

credit : https://www.ustraveldocs.com/th/

#วีซ่าอเมริกา #วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา

Apply for a U.S. Visa | Home - Thailand (English) The U.S. Department of State has increased certain nonimmigrant visa (NIV) application processing fees. These fee increases are effective May 30, 2023.

เคสลูกค้าที่เราขอ UK Tourist Visa หรือวีซ่าท่องเที่ยวของอังกฤษให้ ช่วงนี้รอวีซ่ากันประมาณ 14-21 วัน ยังไม่มีเคสไหนรอนานกว่านี้

ทุกเคส เราจะอัพโหลดเอกกสารให้ทั้งหมด เหลือแค่ไปเก็บไบโอฯที่ VFS (ไม่ต้องเอาเอกสารไปให้ VFS อัพฯให้)

แต่มีบางอย่างที่ลูกค้าทุกคนโดนเหมือนกันที่ VFS คือ โดนกดดันด้วยการบอกว่าวีซ่าจะออกไม่ทัน (บางเคสลูกค้าขอล่วงหน้า 3 เดือน) ซึ่งตรงนี้ทำให้ลูกค้าเราบางคนก็เครียดมาก เราก็ต้องคอยแนะนำกันไป

ถ้าจะบอกว่าเจ้าหน้าที่หวังดี ก็น่าจะเป็นความหวังดีที่ทำให้คนมายื่นเครียดเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น บางคนเครียดถึงขนาดจะยอมจ่ายค่า Priority เพื่อให้ได้วีซ่าเร็วขึ้น

ส่วนตัวมองว่า VFS ไม่น่าจะต้องมายุ่งเรื่องวีซ่าออกทันไม่ทัน เพราะถ้าไม่ทัน คนที่เดือดร้อนที่สุดคือคนยื่น ต้องไปจัดการเรื่องตั๋วเรื่องที่พัก

สรุปสุดท้าย ที่เราก็ 10 กว่าเคส ก็ทันทุกเคสนะ เคสที่ยื่นล่วงหน้า 3 เดือนนั่นแค่ 15 วันก็ออกแล้ว เราเลยไม่เข้าใจว่า VFS จะพูดแบบนี้ลูกค้าเราทำไม

วีซ่าพาร์ทเนอร์ ออสเตรเลีย

ล็อตโต้ กรีนการ์ด

โครงการวีซ่าล็อตเตอรี่ ประจำปี 2566 เปิดรับสมัครแล้ว!
· สมัครผ่านเว็บไซต์ dvprogram.state.gov เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น
· ไม่ต้องเสียค่าสมัคร
· ระวังมิจฉาชีพ https://travel.state.gov/content/travel/en/us-visas/visa-information-resources/fraud.html
· เพิ่มเติมที่ https://travel.state.gov/content/travel/en/us-visas/immigrate/diversity-visa-program-entry/diversity-visa-submit-entry1.html.

The 2024 Diversity Visa Program is now open!
· The ONLY way to enter is through dvprogram.state.gov
· There is NO fee to enter
· Beware of fraud: https://travel.state.gov/content/travel/en/us-visas/visa-information-resources/fraud.html
· Learn more: https://travel.state.gov/content/travel/en/us-visas/immigrate/diversity-visa-program-entry/diversity-visa-submit-entry1.html.

ตอนแรกแอดมินแพลนว่าจะไปอเมริกา แต่พอเห็นค่าเงินแล้ว เบรคไว้ก่อนดีกว่า

ดอลล่าร์ละ 38 บาทนี่สู้ไม่ไหวจริง ๆ

#วีซ่าอเมริกา

เป็นหนี้ โดนขู่ฆ่า ไม่ใช่เหตุผลที่จะขอวีซ่าลี้ภัยออสเตรเลียได้นะ

ล่าสุดทางแอดมินเข้าไปดูคิวสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา มีเปิดรอบบ่ายด้วยนะครับ
เเละมีคิวสัมภาษณ์ที่ยังว่างอยู่เร็วสุดคือวันที่ 15 กันยายน(พรุ่งนี้!!)

ถ้าใครที่จองไปเเล้วจะเลื่อนคิว เเนะนำให้รีบเข้าไปนะครับ
ใครที่ยังไม่ได้ยื่นวีซ่า ช่วงนี้น่าจะรอคิวไม่นานเหมือนหลายเดือนที่ผ่านมาเเล้วครับผม^^

เห็นว่าทางสถานทูตอเมริกามีการเพิ่มคิวสัมภาษณ์นะ ใครที่จะยื่นวีซ่าอเมริกา หรือยื่นไปแล้วจองคิวสัมภาษณ์ไปแล้ว ก็ลองเข้าไปเช็คดู เผื่อจะเลื่อนได้คิวเร็วกว่าเดิม

#วีซ่าอเมริกา

ค่าธรรมเนียมวีซ่าออสเตรเลีย จะปรับทุกปี ในวันที่ 1 July นะครับ