Ninety Nine Communications Agency Co.,Ltd.
Ninety Nine Communications Agency Company Limited Our Scope of Work.. We build a good relationship with the media and
help you with the media interview.
Ninety Nine Communications Agency Company Limited is managed by a team with high experience in the field of the public relation and communication. The company has gained the trust by many organization, multinational companies and also the government who used our services as public relation, consultant, and preparation of events. Public Relations
- Inviting media to join the event
- Inviting celebr
ททท. จัดเสิร์ฟสุขภาพดี Wellness on a Plate
เยือนถึงถิ่นวัตถุดิบชิมอาหารไทยอร่อยเป็นยา
Wellness on a Plate จัดสุขภาพดีมาเสิร์ฟในจาน ททท. จัดโครงการสร้างสรรค์ นำอาหารไทย คอลแลปส์กับวิถีสุขภาพ พร้อมส่งเสริม 6 รูปแบบกิจกรรม หลากหลายเส้นทางจากเหนือจรดใต้ ชูคลังแห่งวัตถุดิบชั้นเลิศ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ดำเนินโครงการ Wellness on a Plate เพื่อยกระดับอาหารไทย ไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอาหารเพื่อสุขภาพ หรือ Wellness Gastronomy Tourism โดยเป็นการผสมผสานความรู้ในด้านอาหาร กับการดูแลสุขภาพ และวัฒนธรรมในท้องถิ่นเข้าด้วยกัน
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า อาหารไทยไม่เพียงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ หากยังเปี่ยมไปด้วยองค์ความรู้ของการดูแลสุขภาพ เพราะในส่วนประกอบของอาหารไทยมีสรรพคุณทั้งในการบำรุงสุขภาพ และรักษาโรค ซึ่งตอบโจทย์เทรนด์การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังเป็นที่สนใจในระดับโลก
สำหรับโครงการ Wellness on a Plate นี้ ททท. ได้พัฒนา 6 รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงอาหารเพื่อที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้รักสุขภาพ ดังนี้
1. The Taste of Wellness เป็นการเรียนรู้การปรุงอาหารไทยด้วยสมุนไพร และวัตถุดิบท้องถิ่น พร้อมกิจกรรมเสริมด้วย โยคะและนวดแผนไทย เพื่อเสริมสุขภาพร่างกาย และจิตใจ
2. Thai Botanical Delights ก้าวสู่โลกแห่งสมุนไพรไทย ด้วยการเรียนรู้การเก็บเกี่ยว และสรรพคุณ พร้อมทั้งรังสรรค์เมนูอาหารสุขภาพร่วมกับเชฟท้องถิ่น
3. Eat Well, Live Well: ทานดี อยู่ดี สู่สุขภาพที่ดี เป็นการผสมผสานระหว่างอาหาร และการท่องเที่ยวเชิงWellness อย่างลงตัว
4. Thai Superfood Wellness เติมพลังสุขภาพด้วยซูเปอร์ฟู้ดไทยจากฟาร์มออร์แกนิก พร้อมกิจกรรมออกกำลังกายกลางแจ้ง
5. Fresh from Farm to Table สัมผัสวิถีเกษตรอินทรีย์ เก็บเกี่ยววัตถุดิบสดใหม่ และเรียนรู้การทำอาหารร่วมกับชุมชน
6. The Future of Thai Food นำเสนออาหารไทยยุคใหม่ที่เป็นการผสมผสานระหว่างนวัตกรรม และความยั่งยืน
พร้อมกันนี้ จากการลงสำรวจพื้นที่จริง ททท. จึงได้ออกแบบเส้นทางท่องเที่ยว ภายใต้โครงการ Wellness on a Plate ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวสายสุขภาพจากทุกมุมโลก ด้วยเส้นทางสายอาหารที่มีความโดดเด่นด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศจากจังหวัดต่างๆ ประกอบด้วย
• เส้นทางมหัศจรรย์จันทบูร เมืองสมุนไพรไทย: ดื่มด่ำกับอาหารและสมุนไพรเพื่อสุขภาพในจังหวัดจันทบุรี
• เส้นทางวิถีชีวิตท้องถิ่นกับความสมดุลธรรมชาติ ปากอ่าวแม่กลอง สมุทรสงคราม: เรียนรู้วิถีชุมชนและเกษตรอินทรีย์ ลิ้มรสอาหารสดจากฟาร์ม
• เชียงใหม่: เมืองแห่งวัฒนธรรมและสวรรค์ของคนรักสุขภาพ ทริปอิ่มอร่อยกับอาหารเหนือเพื่อสุขภาพ พร้อมกิจกรรมเติมพลังกายใจท่ามกลางธรรมชาติ
• Slow Food Slow Life - คุณภาพดี รสชาติดี สุขภาพดี อย่างยั่งยืน จังหวัดชุมพร: พบกับอาหารรสเลิศและกิจกรรมที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีสติ ในจังหวัดชุมพร
• ข้าวอีสาน ทานดี อยู่ดี สู่สุขภาพที่ดี จังหวัดบุรีรัมย์: ลิ้มรสอาหารอีสานต้นตำรับที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น
“การท่องเที่ยวเชิงอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่เพียงมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้มาเยือน แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพและอาหารชั้นนำของโลก” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าว
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Wellness on a Plate และเส้นทางท่องเที่ยวต่างๆ ได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://www.tat.or.th/th
5 ยักษ์ใหญ่ไอทีโลกร่วมเปิดตัว RackCorp.ai
แพลตฟอร์มอธิปไตยของปัญญาประดิษฐ์ ครั้งแรกในไทย
5 บริษัทชั้นนำด้านไอทีโลกร่วมเปิดตัว RackCorp.ai แพลตฟอร์มอธิปไตยของปัญญาประดิษฐ์ครั้งแรกในไทย (Sovereign AI) ช่วยธุรกิจทั้งรายใหญ่และผู้ประกอบการรายย่อยไทย ปิดจุดอ่อน เสริมแกร่งแข่งขันสู่เวทีโลกด้วย AI ที่ปลอดภัยและเป็นอธิปไตยด้านข้อมูล
กรุงเทพมหานคร: 30 สิงหาคม 2567 RackCorp และ Treasure Hub ผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำระดับโลก ได้จัดงานเปิดตัว RackCorp.ai แพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์แบบ Sovereign AI อย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งงานนี้ได้รับความสนใจจากผู้นำอุตสาหกรรม ผู้แทนรัฐบาล และสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง นับเป็นก้าวสำคัญในวงการเทคโนโลยีของประเทศไทย
งานเปิดตัว RackCorp.ai ครั้งนี้ ได้จัดบรรยายรูปแบบสัมมนาเพื่อการเรียนรู้เทคโนโลยี AI ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้องค์กรก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืน และปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ คุณลอเรนซ์ ไมเคิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RackCorp คุณธภัทร ยุวบูรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Treasure Hub ตัวแทน RackCorp.ai ประเทศไทย คุณพรหมินทร์ (ลัคกี้) ซิงห์ ผู้อำนวยการพันธมิตร RackCorp คุณเพรม นาไรน์ดาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Katonic AI คุณจอร์จ ดรากาสซิส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี Hitachi Vantara คุณ Shankar Raghavan ผู้อำนวยการอาวุโส Hewlett Packard Enterprise (HPE) และวิทยากรพิเศษจาก NVIDIA โดยผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็นอธิปไตยด้านข้อมูลและบทบาทของ AI รักษาความมั่นคงในอนาคตดิจิทัลของประเทศไทย รวมถึงการใช้งานในชีวิตจริงและจะเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาทุกธุรกิจที่ได้ใช้งาน
คุณลอเรนซ์ ไมเคิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RackCorp กล่าวว่า การเปิดตัวแพลตฟอร์ตปัญญาประดิษฐ์แบบ Sovereign AI ของ RackCorp ในประเทศไทย เป็นก้าวสำคัญทางเทคโนโลยีของประเทศ “เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยมีเครื่องมือที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล พร้อมกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก”
คุณเพรม นาไรน์ดาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Katonic AI กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างเรากับ RackCorp ที่สร้างสรรค์โซลูชั่นปัญญาประดิษฐ์แบบ Sovereign AI อย่างครบวงจร ด้วยการนำฮาร์ดแวร์ล้ำสมัย ซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนของ Katonic รวมกับบริการที่ปรับแต่งเพื่อสร้างระบบ AI ที่สมบูรณ์สำหรับธุรกิจไทย โดยยังคงรักษาความเป็นอธิปไตยและความปลอดภัยของข้อมูล “สิ่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแก้ปัญหาเฉพาะจุดเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีที่องค์กรต่างๆนำ AI มาใช้ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดภายในกรอบการทำงานที่มีความปลอดภัยและเป็นอธิปไตย”
คุณธภัทร ยุวบูรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Treasure Hub ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่าย RackCorp.ai ประเทศไทยกล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรม AI ในประเทศไทย ด้วย RackCorp.ai ไม่ได้แค่นำเสนอ AI ที่ล้ำสมัย แต่ยังทำให้มั่นใจว่าโซลูชั่นเหล่านี้สามารถปรับและนำมาใช้ให้เข้ากับความต้องการของผู้ประกอบการ เพื่อทำให้ธุรกิจไทยมั่นใจได้ต่อการใช้ประโยชน์จาก AI
คุณธภัทร กล่าวเพิ่มเติมถึงแพลตฟอร์ม RackCorp.ai ว่า เป็นความร่วมมือร่วมกันของบริษัทชั้นนำของโลก ได้แก่ RackCorp, Katonic AI, Hitachi Vantara, HPE, และ NVIDIA โดยมีเป้าหมายการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ใช้งานได้ง่าย มีความปลอดภัยสูง และเป็นไปตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบของไทย เพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถนำ AI มาใช้ได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความถูกต้องของข้อมูลหรือการพึ่งพารูปแบบ AI จากต่างประเทศ มั่นใจว่าข้อมูลจะถูกเก็บรักษาและดำเนินการภายในประเทศ ซึ่งเรามี Data Center ที่มี GPU ตั้งอยู่ในประเทศไทยถึง 2 แห่งอยู่ที่บางนาและอมตะนคร ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจในการใช้งาน AI ได้อย่างปลอดภัย ข้อมูลสำคัญต่างๆจะไม่รั่วไหลหรือถูกส่งต่อไปยังที่อื่นโดยเราไม่รู้ตัว ภายใต้โครงสร้างพื้นฐานที่มีความปลอดภัยสุงสุด เพื่อรักษาความมั่นคงและอธิปไตยทางระบบดิจิทัล โดยมีคุณสมบัติสำคัญ ได้แก่ ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ภายในประเทศไทย, มีการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างครบถ้วน
เรามั่นใจว่า RackCorp.ai มีศักยภาพสร้างการเปลี่ยนแปลง พลิกโฉมอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อการเติบโตของประเทศไทย เช่น เกษตรกรรม การผลิต การท่องเที่ยว เศรษฐกิจและสังคม ด้วย AI ที่ปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการ และยังสอดคล้องกับเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทย คาดหวังว่าการเปิดตัว RackCorp.ai จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมของหลายอุตสาหกรรมของไทย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศตามแผนพัฒนาไทยแลนด์ 4.0 และผลักดันให้ประเทศไทยมีบทบาทเป็นผู้นำในเทคโนโลยี AI ในภูมิภาคอาเซียน ดึงดูดการลงทุนและบุคลากรคุณภาพจากทั่วโลก”
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงาน sign up เพื่อนัดหมายการทดลองใช้ระบบแพลตฟอร์ม RackCorp.ai และรับคำปรึกษาการนำ AI มาใช้ในองค์กรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือข้อผูกมัดใดๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงาน ทั้งที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหารระดับสูงและตัวแทนจากหลากหลายบริษัท สำหรับผู้ที่พลาดงานดังกล่าว สามารถทดลองใช้ฟรีหรือขอคำปรึกษาได้เช่นกัน โดยสามารถนัดหมายได้ที่ treasurehub.ai
“Wrangler” ดึง “เกรท วรินทร” ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์
พร้อมเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ “Legend of Wrangler New Collection”
เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป หรือ CMG ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายและบริหารแบรนด์สินค้าชั้นนำระดับโลกกว่า 40 แบรนด์ดัง ทั้งในกลุ่มสินค้าแฟชั่น ความงาม และเทคโนโลยี
รุกตลาดแฟชั่นยีนส์ผ่านกลยุทธ์ “Celebrity Marketing” ด้วยการเปิดตัว “เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์”
ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด เจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความ Vintage Heritage พร้อมเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ “Legend of Wrangler New Collection” ยกทัพเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายครบทุกไลน์สินค้าให้ได้ช้อปตามความชอบ
จิตรฤดี พนิตพล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มสินค้าแฟชั่นและนาฬิกา บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (CMG) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เผยว่า “CMG ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายและบริหารสินค้าแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก ที่ประกอบด้วยหลากหลายแบรนด์ดัง ครอบคลุมทุกทาร์เก็ตตั้งแต่สตรีทแบรนด์ไปจนถึงลักซ์ซูรีแบรนด์ ทำให้วันนี้ CMG ขึ้นแท่นเป็นผู้นำวงการสินค้าแฟชั่นของเมืองไทย ที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับประเทศ ซึ่งเมื่อเจาะเฉพาะตลาดสินค้าแฟชั่นประเภทเดนิมหรือยีนส์ในประเทศไทยแล้ว พบว่า ในปีที่ผ่านมากลุ่มสินค้ายีนส์นับว่าเป็นพอร์ตใหญ่ของกลุ่มแฟชั่นของไทยเพราะมีมูลค่าทางการตลาดสูงเกือบ 20,000 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้ตลาดแฟชั่นยีนส์จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ราว 5 - 10% จากปีที่แล้ว ด้วยปัจจัยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยว ด้วยเหตุนี้ CMG จึงเตรียมกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ 360 องศา ที่จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรักษาฐานลูกค้าเก่าและเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ให้กว้างมากยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอคอลเลกชันใหม่ๆ ที่เน้นเรื่องดีไซน์ การตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบัน ควบคู่กับการขยายช่องทางขายทั้งหน้าร้านและพัฒนาระบบของช่องทางออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทาง Tiktok ที่เติบโตเป็นอย่างมาก พร้อมเสริมทัพด้วยแบรนด์ใหม่เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาด แฟชั่น รีเทลที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทั้งนี้ Wrangler เป็นหนึ่งแบรนด์ในเครือ CMG ที่มีศักยภาพและมีมูลค่าทางการตลาดสูงที่จะทำให้กลุ่มสินค้าแฟชั่นยีนส์ของ CMG เติบโตอย่างแข็งแกร่ง”
อำนาจ สุเมธาศร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มสินค้าเดนิม และ Owned brands บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (CMG) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “Wrangler เป็นแบรนด์ยีนส์ระดับตำนานที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องยีนส์ตั้งแต่ปี 1947 หรือกว่า 77 ปี ถือได้ว่าเป็นหนึ่งแบรนด์ในตลาดยีนส์ ที่ Collector หา และซื้อไปสะสม Wrangler ไม่ได้นำเสนอแค่สินค้ายีนส์ แต่นำเสนอคุณภาพและความพรีเมี่ยมของสินค้าที่เป็น Limited Edition สำหรับคนเล่นยีนส์ อีกทั้งตลาดยีนส์ในประเทศไทยมีการแข่งขันด้านราคาสูง ทาง Wrangler ได้ตระหนักว่า การแข่งขันในเรื่องราคานั้นไม่สามารถทำให้แบรนด์เติบโตอย่างยั่งยืนได้ ดังนั้นแบรนด์จึงมีแนวทางในการพัฒนาสินค้าและคุณภาพ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างยั่งยืน นอกจากนี้เรายังต้องการให้ลูกค้าของ Wrangler สวมใส่ยีนส์ของเราด้วยความมั่นใจและความสุขโดยมุ่งเน้นที่คุณภาพและความมีเอกลักษณ์ของสินค้าอีกด้วย”
ที่ผ่านมา Wrangler ได้นำกลยุทธทางการตลาดต่างๆ มาใช้ในการสร้าง Brand Image เพื่อให้แบรนด์เป็นที่จดจำ โดดเด่นเหนือคู่แข่ง และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด ด้วยการจัดกิจกรรมพิเศษ การทำคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟ หรือการจับมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ อาทิ Wrangler X Carabao ที่ร่วมกันจัดแคมเปญพิเศษเพื่อส่งเสริมการขาย ซึ่งมีลูกค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงการใช้คนดังมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อตอกย้ำ Brand Identity ของ Wrangler
ล่าสุด เราได้นำกลยุทธ์ “Celebrity Marketing” มาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างกระแสและเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ด้วยการดึงนักแสดงชื่อดังมากความสามารถ อย่าง ‘เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์’ มาเป็น Brand Ambassador คนล่าสุดของแบรนด์ ด้วยคาแรกเตอร์และไลฟ์สไตล์ที่สอดคล้องกับ DNA ของแบรนด์คือ ผู้ชายที่มีความเท่ ทะมัดทะแมงคล่องตัว รักการผจญภัย และเป็นผู้ที่ชื่นชอบการใส่ยีนส์ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ‘เกรท วรินทร’ ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความพรีเมียมมากขึ้น รวมทั้งช่วยขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Younger Customer ได้ดีอีกด้วย”
นอกจากการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่แล้ว ครั้งนี้ Wrangler ยังเปิดตัวคอลเลกชัน Fall / Winter 2024 กับคอลเลกชัน “Legend of Wrangler New collection” ที่เตรียมวางจำหน่ายสินค้าทั้งหน้าร้านและออนไลน์ในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 โดยคอลเลกชันนี้มาพร้อม 4 ความพิเศษ ได้แก่
1. ผ้าคอตตอนจากสหรัฐอเมริกา: ใช้คอตตอนที่ดีที่สุด ซึ่งมีเส้นใยยาว แข็งแรง และระบายอากาศได้ดี โดยผ้าคอตตอน 100% จะถูกนำมาผลิตในสินค้ากลุ่มเสื้อยืด
2. ผ้าญี่ปุ่นสำหรับกางเกงยีนส์รุ่น WRANGLER PREMIUM AUTHENTIC: ซึ่งเป็น Limited Edition ด้วยการนำวิธีการตัดเย็บสุดปราณีตแบบดั่งเดิมของ Wrangler ในสไตล์ Authentic Western Jeans มารวมกับการเลือกใช้ผ้าที่สั่งทอพิเศษจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีทั้งผ้ายีนส์ริมน้ำเงิน (Blue Selvedge) และผ้าทอทางซ้าย (Left hand twill) ที่ถูกทอและย้อมคราม (indigo) อย่างพิถีพิถันตามแบบฉบับ Fabric From Japan พร้อมเลือกใช้ป้ายติดกางเกงที่ทำจากยาง Neolite ซึ่งผลิตจากยางรีไซเคิล นับเป็นผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยคุณสมบัติที่นุ่ม ยืดหยุ่น กันน้ำ และดูแลรักษาง่าย จึงทำให้มีความทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทั้งยังแสดงถึงความยั่งยืน (Sustainable) อีกด้วย โดยป้ายกางเกงนี้เป็นป้ายที่ใช้กับกางเกงแบบดั่งเดิมซึ่งยังใช้มาจนถึงทุกวันนี้
3. ยีนส์สีออฟไวท์รุ่น 13 MWZ: ยีนส์ทรงดั้งเดิมที่สามารถแมตช์กับเสื้อได้ทุกสี พร้อมกับเครื่องแต่งกายอื่นๆ เช่น เดนิมเชิ้ต และกางเกง Chino ผ้า Cotton Twill ที่มีให้เลือกถึง 4 สี สามารถแมตช์กับเสื้อยืดในวันสบายหรือเสื้อเชิ้ตสำหรับวันทำงาน และกางเกง Corduroy ผ้าลูกฟูกสวมใส่สบายกับ 4 สี ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์แฟชั่นโลกในคอลเลคชันนี้ เป็นต้น
4. เอกลักษณ์ระดับตำนาน: 7 ซิกเนเจอร์ (7 Icons)ที่โดดเด่น ได้แก่
1. ป้ายหนัง Wrangler โลโก้เชือก ที่มีมานานกว่า 77 ปี เป็นตัวแทนความคงทนของสินค้าคุณภาพสูง
2. กระดุมโลโก้ลายเชือก แสดงออกถึงความเป็น Western Jeans
3. ลายปักตะเข็บรูปตัวอักษร “W” ที่กระเป๋าหลังทั้ง 2 ด้าน ที่แสดงออกถึงความเป็น Wrangler
4. การเย็บตะเข็บตัดต่อด้านหลังแบบคว่ำลงเพื่อป้องกันการหลุด หล่นของสิ่งของในกระเป๋าหลัง
5. หูเข็มขัด 7 หู ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยพยุงเอว และ เข็มขัดให้แน่นกระชับอยู่ทรง
6. กระเป๋าใส่นาฬิกา แบบพกพา Style Western ที่มีขนาดใหญ่กว่าแบรนด์ทั่วไป มีรูปทรงโค้งมนไปตามสรีระ
7. หมุดหน้าเรียบช่วยป้องกันการขีดข่วน
“ในปีนี้ Wrangler เตรียมบุกตลาดยีนส์เต็มสูบ ตั้งเป้าหมายธุรกิจเติบโต 20% ด้วยการนำคอลเลกชันใหม่และเอ็กซ์คลูซีฟคอลเลกชันมาเอาใจคนรักยีนส์ อย่าง Bluebell Collection ที่ทางแบรนด์ได้ลิขสิทธิ์ เป็นคอลเลกชันที่หายากและเป็นพรีเมียมคอลเลกชันเหมาะกับนักสะสมยีนส์ตัวจริง พร้อมเตรียมขยายช่องทางจำหน่ายที่มีมากกว่า 140 สาขาครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ นอกจากนี้ ยังมีช่องทางจัดหน่ายสินค้าผ่านทางออนไลน์อีกหลากหลายทั้ง https://wrangler.co.th, Central.co.th, Lazada, Shopee รวมถึง wranglerthailand tiktok shop และ Line Official : ซึ่งเป็นช่องทาง Chat & Shop ให้ลูกค้าสามารถช้อปสินค้าได้อย่างสะดวกสบายและเป็นการรองรับการขยายตัวของตลาด” อำนาจ กล่าวทิ้งท้าย
Lee ฉีกกฎเดนิม นำเสนอ Lee Pink Collection
คว้าตัว โยชิ รินลดา มาอัพเดทลุคในสไตล์สาว Lee Pink
พร้อมบุกตลาดเดนิมเต็มพิกัด
Lee ต้อนรับฤดูไม้ใบร่วง/ฤดูหนาว 2024 คว้าตัว โยชิ-รินลดา ธุระพันธุ์ มาชวนสาวๆ ไปสัมผัสกับ “Lee Pink Collection” แฟชั่นเดนิมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ที่ออกแบบมาเพื่อสาวๆ โดยเฉพาะ นำเอาความเป็นผู้นำเดนิมที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ผสมผสานเทรนด์เดนิมล่าสุด ที่จะทำให้สาวๆ สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์สร้างลุคอันโดดเด่นให้กับตัวเองได้ทุกวัน
Lee Pink Collection ถือเป็นการนำเสนอเดนิมที่แตกต่างให้มีความสดใส อ่อนโยนและมีความเป็นผู้หญิงอย่างแท้จริง ซึ่งคอลเลคชั่นนี้ได้แรงบันดาลใจจากเทรนด์เดนิมที่ร้อนแรงที่สุดและเทรนด์การแต่งตัวของสาวๆ ในยุคสมัยนี้ที่น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการแต่งตัวให้สนุกกว่าที่เคย แต่แน่นอนว่ายังคงใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิตในแบบฉบับของ Lee ที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์เอาไว้ ให้เป็นคอลเลคชั่นสุดพิเศษสำหรับสาวๆ ด้วยแพทช์โลโก้ Lee สีชมพูสุดคิ้ว และ Pocket Lining พิมพ์โลโก้ด้านใน
การเปิดตัวครั้งสำคัญ Lee จึงได้คว้าตัวสาวฮอตที่เป็นแฟชั่นนิสต้าตัวมัมอย่าง โยชิ-รินลดา ธุระพันธุ์ ผู้สร้างตำนานที่ใครเห็นก็ต้องออกปากว่า “โยชิ มาทำไม” เพราะไม่ว่าจะปรากฏตัวเมื่อไหร่ความสวยและสไตล์การแต่งตัวที่ใครเห็นก็ต้องยอม มาร่วมเป็นไอคอนนิคคนแรกให้กับ Lee Pink ในครั้งนี้ สร้าง Inspiration ให้กับสาวๆ สาวก Lee Denim
Lee Pink Collection ได้รับการออกแบบและสร้างสรรค์มาสำหรับสาวๆ ในช่วงอายุ 18-35 ปี ซึ่งเป็นวัยที่มีความสดใส ต้องการแสดงออกอย่างมั่นใจ มีสไตล์เป็นของตัวเองด้วยเดนิมและเสื้อผ้าที่หลากหลายพร้อมออกแบบมา เพื่อส่งเสริมรูปร่างของหญิงสาวและสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ให้สาวๆ เป็นแฟชั่นนิสต้าได้ไม่ซ้ำ เริ่มจากกางเกงยีนส์ ไอเทมสุดคลาสสิกในคอลเลคชั่น Lee Pink คือ ‘ความfeminine คล่องตัว ทันสมัย’ มีทั้ง กางเกงยีนส์เอวสูงสำหรับสาวๆ ที่ต้องการพรางหุ่นให้เพรียวสวย ด้วยทรงกางเกงที่หลากหลาย มีทั้งทรง Slim Fit เน้นช่วงขาเพรียวแมทช์กับเสื้อตัวหลวมให้ลุคสาวเท่สุดคูล ทรง Tapered Fit ให้ลุคสบายตาทั้งในวันที่ต้องการความเป็นทางการ หรือวันชิลล์ๆ ทรง Straight Fit สำหรับสาวๆ ในทุกรูปร่าง อำพรางสะโพกได้ดี แมทช์ได้กับทุกลุค ทรง Bootcut Fit กางเกงยีนส์ทรงนี้จะช่วยเน้นความโค้งเว้าของรูปร่าง เพิ่มความเพรียวยาวให้กับช่วงขา ให้ลุคเซ็กซี่ก็ได้ เท่ๆ คูลๆ ก็ได้เช่นกัน ทรง Relaxed Straight Fit ทรงของสาวทันสมัยใส่แล้วพรางหุ่น ช่วงขาแลดูยาวเสริมความมั่นใจ อีกหนึ่งทรงกางเกงยีนส์ที่ขาดไม่ได้คือ Cargo Fit ที่สามารถสร้างลุคเท่ เก๋และเปรี้ยวได้ภายในตัวเดียว ไม่ใช่แค่กางเกงยีนส์ อีกหนึ่งไอเทมยีนส์ที่สาวๆ ไม่ควรพลาดที่ควรจะมีติดตู้ไว้สักตัวก็คือ กระโปรงยีนส์ ที่จะหยิบจับใส่คู่กับเสื้อตัวไหนก็สวยเก๋ แถมยังเป็นตัวแม่สายแฟได้เลยง่ายๆ ใส่ออกมาแล้วขาจะดูเพรียวยาวมากขึ้น แถมยังดูเบสิกแต่ไม่เบสิกอีกตั้งหาก เป็นได้ทั้งสายลัคชู สายสตรีท แมทช์ได้หลายลุคแบบไม่มีเบื่อเลย
ในส่วนของ เสื้อเชิ้ตยีนส์ เป็นไอเทมที่สาวๆ สามารถหยิบจับมาเข้าคู่กับกางเกงยีนส์ทรงต่างๆ หรือจะเป็นกระโปรงยีนส์ได้หลากหลายลุคใน Collection Lee Pink จะใส่แบบปล่อยชายหรือใส่ในกางเกงก็เท่ ลองหยิบเชิ้ตยีนส์ทรงโอเวอร์ไซส์มาสวมแทนมินิเดรสก็ได้ลุคสดใส เป็นสาวหวานก็ได้ หรือจะใช้เป็นเสื้อคลุมยีนส์ที่แมทช์กับอะไรก็ได้ไม่จำเจ แถมยังช่วยกันแดด กันหนาว ได้อีกด้วย เรียกว่าได้ทั้งแฟชั่นและฟังก์ชั่น สำหรับสาวๆที่มีความมั่นใจและเป็นแฟชั่นนิสต้า ไอเทมสุดท้ายที่แนะนำ เสื้อครอป ให้สาวๆ ทุกคนใส่ได้ง่าย ไม่ว่าจะสาวหวาน สาวเปรี้ยว สายฝอ หยิบเสื้อครอปจาก Lee Pink ไปครีเอทลุคให้ตัวเองได้อย่างสนุกสนานตามสไตล์ของคุณ
แบรนด์ Lee ยังคงให้ความสำคัญกับการสื่อสารและตอกย้ำ DNA ของแบรนด์ เพื่อสร้างกระแสและการเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (Connect to target customer) แบรนด์ต้องการสื่อภาพลักษณ์ Young & Trendy จากเดิมที่เน้นเรื่องยีนส์เป็นหลัก มาสู่การปรับเปลี่ยนดีไซน์ของสินค้าให้ตามเทรนด์ เพิ่มลูกเล่นต่างๆ บนสินค้าให้ดูน่าสนใจและเจาะกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น อีกทั้งแบรนด์ยังรักษาความมุ่งมั่นในด้านงานฝีมือที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ให้สาวๆ ได้สวมใส่เดนิมที่มีทั้งดีไซน์ ความสวยงาม ความสบายยามสวมใส่ ดูแลรักษาง่าย และความทนทานตามมาตรฐานของ Lee
Lee Pink Collection พร้อมให้สาวๆ ครีเอทโททัลลุค สร้างความโดดเด่นในแบบฉบับของตัวเอง พร้อมกันทั่วประเทศได้แล้ววันที่ Lee เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ 11 สาขา ดังนี้ Shop Lee เซ็นทรัลภูเก็ตเฟสติวัล, Shop Lee เซ็นทรัลพระราม 2, Shop Lee เซ็นทรัลเชียงใหม่, Shop Lee เซ็นทรัลพลาซาอุดรธานี, Shop Lee เทอมินอล 21 พัทยา และเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว, สาขา ZEN เซ็นทรัลเวิลด์, สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า, สาขาเซ็นทรัล เชียงใหม่, สาขาเซ็นทรัลภูเก็ต, สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ และ Lee Pink Pop Up ติดตามข่าวสารได้ที่ FB Lee Jeans TH หรือออนไลน์สโตร์ Official Website: www.lee.co.th ช่องทางออนไลน์อื่นๆ: https://linktr.ee/LeeJeansThailand
FitFlop เปิดตัว ซองเฮเคียว แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด
พร้อมชวนสาวๆ Smart Moves ไปกับรองเท้าคู่โปรด
FitFlop แบรนด์รองเท้าระดับโลกจากประเทศอังกฤษที่โดดเด่นด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมรองเท้าตามหลักสรีรศาสตร์ เปิดตัว “ซองเฮเคียว” (Song Hye Kyo) นางเอกซุปเปอร์สตาร์ชาวเกาหลีในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่แห่งภูมิภาคเอเชีย ที่มาพร้อมรองเท้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด FitFlop X Song Hye Kyo ตอกย้ำแคมเปญ “Smart Moves” ยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์สู่ความหรูหราและทันสมัย ให้ทุกการย่างก้าวเบาสบาย มีดีไซน์ ตอบโจทย์การแต่งตัวในทุกโอกาส
จิอานนี จอร์เจียเดส (Gianni Georgiades) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FitFlop เผยว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับซองเฮเคียว แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของเราในภูมิภาคเอเชีย เพราะไม่ใช่แค่ซุปเปอร์สตาร์ของเกาหลีเท่านั้น แต่ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของเธอเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ทั่วโลก ด้วยความงามอันเป็นอมตะและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ การร่วมงานกับซองเฮเคียวในครั้งนี้ จะทำให้ FitFlop ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำของเอเชีย ด้วยความโดดเด่นด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีอันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ทำให้ FitFlop เป็นรองเท้าที่มีทั้งดีไซน์ นุ่ม เบา สวมใส่สบาย ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความสมาร์ทและใส่ใจสุขภาพเท้า”
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา FitFlop ก้าวสู่มิติใหม่กับแคมเปญ “Smart Moves” ที่ยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์สู่ความหรูหราและทันสมัย พร้อมขยายเครือข่ายร้านค้าปลีกกว่า 150 แห่งทั่วโลก นี่คือจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยการนำเสนอรองเท้าอันเป็นเอกลักษณ์ ผสานความสบาย สไตล์ และเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ตอบโจทย์ความต้องการของแฟนๆ ทั่วทุกมุมโลก ซึ่ง ซองเฮเคียว นับเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ตรงกับแคมเปญนี้อย่างแท้จริง
ซองเฮเคียว (Song Hye Kyo) แบรนด์แอมบาสเดอร์ FitFlop แห่งภูมิภาคเอเชีย เผยถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมกับ FitFlop ว่า “ทันทีที่สวมใส่ FitFlop คู่แรก ฉันรู้สึกทึ่งกับความสบายและการซัพพอร์ตที่เหนือชั้น FitFlop มอบความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างความนุ่มสบายและความแข็งแรงทนทาน ทำให้สวมใส่ได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้า”
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญนี้ ซองเฮเคียว แบรนด์แอมบาสเดอร์แห่งภูมิภาคเอเชีย ได้คัดสรรส่วนหนึ่งของคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด FitFlop X Song Hye Kyo ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแตะ ผ้าใบ แมรี่เจน มิวล์ และโลฟเฟอร์ เพื่อถ่ายภาพแฟชั่นเซต ณ กรุงโซล รองเท้าทุกคู่ถูกจัดแต่งอย่างงดงามและโดดเด่นในเซตภาพถ่ายอันน่าทึ่งเพื่อเฉลิมฉลองความร่วมมือครั้งนี้
สำหรับ FitFlop X Song Hye Kyo เป็นคอลเลคชั่นใหม่ที่โดดเด่นด้วยโทนสีร่วมสมัยสุดชิค ทั้งสีพาสเทลละมุนตัดกับสีชมพูสดใส สีขาว และสีน้ำตาลอมแดงแห่งซีซั่น ช่วยเติมเต็มตู้เสื้อผ้าของคุณให้ทันสมัยและหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ และด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ FitFlop คอลเลคชั่นนี้ยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการใช้วิศวกรรมรองเท้าขั้นสูงและการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โดยแต่ละชิ้นได้ผสานเทคโนโลยีอันเป็นกรรมสิทธิ์ของ FitFlop ที่ได้รับการรับรองทางชีวกลศาสตร์ ช่วยจัดสมดุลร่างกายได้อย่างเป็นธรรมชาติ มอบความสบายที่เหนือชั้นตลอดทั้งวัน
และนี่คือไอเทมสุดพิเศษที่ซองเฮเคียวเลือกสรรด้วยตัวเองจากเซตภาพถ่ายแบรนด์แอมบาสเดอร์ อาทิ รองเท้าแตะสีชมพูอ่อน รุ่น Surff Sandals Clay Pink Soft Blush ยกระดับความสปอร์ตให้โดดเด่นเหนือใคร สะดุดตาด้วยพื้นรองเท้าหนา เส้นสายคมชัดสวยงาม พร้อมสายรัดปรับได้หลายระดับที่ช่วยให้คุณสวมใส่ได้พอดีกับเท้า รองเท้ามิวล์สีน้ำตาลอมแดง รุ่น GenFF Mules Deep Maroon รุ่นล่าสุดที่ผสานความหรูหราร่วมสมัยเข้ากับความสบายใต้ฝ่าเท้าที่ไม่มีใครเทียบได้ หน้ารองเท้าเรียบหรูทำจากหนังชิ้นเดียว (พร้อมสายรัด) ตกแต่งด้วยหัวเข็มขัดโลหะขัดเงาขนาดใหญ่ที่ดึงดูดสายตา เป็นรองเท้ามิวล์ที่คุณจะหลงรักและอยากสวมใส่ทุกที่ทุกเวลา
รองเท้าแตะสีชมพูอ่อน รุ่น GenFF Sandals Soft Blush สัมผัสความพิเศษเหนือระดับตั้งแต่สายรัดบุนวมที่ผลิตจากหนังนัปปาคุณภาพสูง ให้สัมผัสนุ่มลื่นแนบเท้า โดดเด่นสะดุดตาด้วยการผสมผสานสองโทนสีอย่างลง เป็นรองเท้าแตะแบบหนีบที่คุณจะหลงรักและอยากสวมใส่ทุกที่ทุกเวลา รองเท้าโลฟเฟอร์สีน้ำตาลอมแดง รุ่น F-Luma Loafers Deep Maroon มาพร้อมกับพื้นรองเท้าทรงเวดจ์เบาสบาย โดดเด่นด้วยส้นรองเท้าดีไซน์ ‘cut out’ สุดเก๋ ผลิตจากหนังคุณภาพสูง ตกแต่งด้วยการเย็บสีตัดที่สะดุดตา มีดีเทลตั้งแต่ปลายเท้าทรงเหลี่ยมมน ตะเข็บสไตล์มอคคาซิน และลายริ้วรอบพื้นรองเท้า เป็นโลฟเฟอร์ทรงหนาสุดหรูที่เข้ากันได้ดีทั้งกับยีนส์ลำลองและชุดทำงาน เรียกได้ว่าเป็นรองเท้าคู่โปรดที่สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส
รองเท้าแมรี่เจนสีเงิน รุ่น Delicato Mary Janes Silver รูปทรงเพรียวบางแต่ให้ความรู้สึกสบายเหมือนรองเท้าผ้าใบ ตัดเย็บด้วยความประณีตให้กระชับเท้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ สัมผัสความสบายสุดพิเศษด้วยพื้นรองเท้าขึ้นรูปที่รองรับเท้าได้อย่างดี เหมาะกับทุกโอกาส ไม่ว่าจะไปปาร์ตี้หรือแมทช์กับยีนส์ในวันสบายๆ
FitFlop X Song Hye Kyo จะวางจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2024 เป็นต้นไป ทั้งในร้าน และช่องทาง Online www.fitflop.co.th, Central Online, Lazada, Shopee, TikTok Shop, Supersports และ LINE Official account
+++++++++++++++++
เกี่ยวกับ FitFlop
FitFlop ไม่ใช่แค่แบรนด์รองเท้า แต่เราคือบริษัทวิศวกรรมอันชาญฉลาดที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นที่ผลิตสินค้าประเภทเดียวกัน ด้วยความมุ่งมั่นสร้างสรรค์รองเท้าร่วมสมัยที่สามารถสวมใส่ได้ทุกวันและเพิ่มพลังให้ทุกย่างก้าว
FitFlop ก่อตั้งเมื่อปี 2007 โดยมาร์เซีย คิลกอร์ นักธุรกิจผู้สร้างความแตกต่างให้กับวงการรองเท้าตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่เหมือนใคร (ผสานชีวกลศาสตร์ระดับโลกเข้ากับเทคโนโลยีสุดล้ำและดีไซน์ที่เป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง) ทำให้สินค้าตัวแรก รองเท้าแตะรุ่น WalkStar 1 กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกอย่างรวดเร็ว
ด้วยศิลปะอันชาญฉลาดและไม่เหมือนใคร ผสานวิทยาศาสตร์เข้ากับเทคโนโลยีการผลิตรองเท้า สร้างสรรค์ออกมาเป็นแบรนด์ที่เติบโตและมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว ด้วยยอดขายทะลุ 65 ล้านคู่ทั่วทุกมุมโลก
ปัจจุบัน FitFlop มีร้านค้ามากกว่า 5,000 แห่ง ใน 73 ประเทศทั่วโลก ร้านค้าปลีกกว่า 2,000 แห่ง และตัวแทนจำหน่าย 31 ราย พร้อมร้านคอนเซ็ปต์สโตร์ FitFlop 145 แห่งทั่วสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักรที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เรายังมีโชว์รูมแห่งใหม่ในลอนดอนและนิวยอร์กด้วย
FitFlop มีฐานลูกค้ามากมายและได้รับแรงสนับสนุนทั้งจากชายและหญิงที่กำลังมองหาวิธีที่จะช่วยให้การใช้
ชีวิตประจำวันสะดวกสบายขึ้น
FitFlop ประเทศไทยจัดจำหน่ายโดย เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป หรือ CMG ในเครือเซ็นทรัล รีเทล
เผยเทรนด์ท่องเที่ยวดึงดูดชาวมุสลิม รับตลาดท่องเที่ยวฮาลาลบูมทั่วโลก
ททท. - เผยผลสำรวจตลาดการท่องเที่ยวฮาลาลทั่วโลกกำลังเติบโตสู่หลัก 12 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573 แนะเทรนด์ท่องเที่ยวในความสนใจของชาวมุสลิม แนะผู้ประกอบการเกาะติดเทรนด์เพื่อตอบสนองความต้องการ มั่นใจไทยโดดเด่นสู่จุดหมายปลายทางยอดนิยม
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงความน่าสนใจของตลาดการท่องเที่ยวฮาลาลที่กำลังเติบโตอย่างน่าจับตามอง “ปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดการท่องเที่ยวฮาลาล ก็คือการเติบโตของชนชั้นกลางชาวมุสลิมที่มีรายได้สูงจากขยายตัวทางเศรษฐกิจนำมาสู่การตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว อีกทั้งประชากรที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้สินค้าท่องเที่ยวฮาลาลและกิจกรรมที่เป็นมิตรกับชาวมุสลิมเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้น” นายอภิชัย ระบุ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของบริษัทสำรวจข้อมูลด้านการตลาดชั้นนำระดับโลก Credence Research, Inc ได้รายงานข้อมูลตลาดการท่องเที่ยวฮาลาลทั่วโลกโดยพบว่า กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 245.78 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 9 ล้านล้านบาทในปี พ.ศ. 2565 เป็น 324.96 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 12 ล้านล้านบาทภายในพ.ศ.2573
นอกจากนี้ ผลการสำรวจดัชนีการท่องเที่ยวของชาวมุสลิมทั่วโลกประจำปี 2567 โดย The Mastercard-Crescent Rating Global Muslim Travel Index หรือ GMTI 2024 ยังระบุว่า ประเทศไทยติดอันดับที่ 32 จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมุสลิม และอันดับ 5 ในหมวดกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม (Non-OIC) ทั้งนี้ ประเทศไทยได้มุ่งเน้นการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวเที่ยวมุสลิมอย่างต่อเนื่อง โดยจัดให้มีบริการอาหารฮาลาล ที่พักที่เป็นมิตรกับชาวมุสลิม และห้องละหมาดตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
การติดตามข้อมูลในเชิงลึก พบว่าในกลุ่มนักเดินทางมุสลิมเป็นสตรีถึง 45% ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวางแผนการเดินทาง ค้นคว้าข้อมูลท่องเที่ยววัฒนธรรมท้องถิ่น โรงแรมที่สะดวกสบาย และกิจกรรมตามฤดูกาลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ผ่านคำแนะนำจากเพื่อนและญาติ
การเติบโตของแพลตฟอร์มออนไลน์ แอปพลิเคชันค้นหาที่เที่ยว ร้านอาหาร ซึ่งมีฟีเจอร์พิเศษในการระบุทิศทางและเวลาละหมาดที่เม่นยำพร้อมด้วยประสบการณ์ท่องเที่ยวเสมือนจริง ทำให้นักเดินทางชาวมุสลิมสามารถค้นหา จองที่พัก เที่ยวบิน และบริการท่องเที่ยวฮาลาลได้สะดวก ประกอบกับรีวิว และการให้คะแนนจากผู้ใช้จริง ยิ่งช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ชี้ว่าข้อมูลดังกล่าวนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับประเทศไทยในการปรับตัวสู่จุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินทางชาวมุสลิมทั่วโลกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่สนใจตลาดการท่องเที่ยวฮาลาลจำเป็นต้องศึกษาข้อมูล เทรนด์ความสนใจของนักเดินทางในกลุ่มนี้ เพื่อนำข้อมูลมาใช้เป็นแนวทางในการสร้างสรรค์การให้บริการ และข้อเสนอต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมได้ตรงความต้องการยิ่งขึ้น
สำหรับเทรนด์การท่องเที่ยวที่อยู่ในความสนใจของชาวมุสลิมที่สำรวจได้มีดังนี้
#ท่องเที่ยวแบบครอบครัวและหมู่คณะ
ชาวมุสลิมนิยมเดินทางเป็นครอบครัว หรือคณะใหญ่ ที่พักที่มีความพร้อมในการรองรับ ตลอดจนกิจกรรมท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวและให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับเด็กๆ และสตรี จะเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้น
#ท่องเที่ยวมรดกทางวัฒนธรรมอิสลาม
แหล่งท่องเที่ยวมรดกทางวัฒนธรรมอิสลามอันมั่งคั่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น นักท่องเที่ยวเหล่านี้สนใจเข้าชมสำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์ มัสยิด และพิพิธภัณฑ์ที่สะท้อนถึงความศรัทธา และประวัติศาสตร์ของชาวมุสลิม
#ท่องเที่ยวธรรมชาติ และผจญภัย
การท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และกิจกรรมผจญภัยกำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะทัวร์ผจญภัยที่จัดอย่างเข้าใจ และเคารพประเพณีทางศาสนาได้นำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ เช่น การตั้งแคมป์แบบฮาลาล การเดินป่า ซาฟารีสัตว์ป่า และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
#ท่องเที่ยวสายสุขภาพ และสปาฮาลาล
ตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพฮาลาล คือการปรับตัวรองรับการขยายตัวของกลุ่มมุสลิม สปา และบริการด้านสุขภาพพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานฮาลาล ตลอดจนสปาสำหรับสตรีสามารถ ตอบสนองนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมที่แสวงหาความผ่อนคลาย และการฟื้นฟูสุขภาพ
#ท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นกระแสสากลสอดคล้องกับหลักการอิสลาม และกำลังเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ชาวมุสลิม จุดหมายปลายทางและที่พักที่มีแนวทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนจึงเป็นอีกเหตุผลในการตัดสินใจเลือก ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การท่องเที่ยวฮาลาลเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ
#ท่องเที่ยวเชิงศรัทธา และพหุวัฒนธรรม
นักเดินทางชาวมุสลิมกำลังมองหาจุดหมายปลายทางที่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และศิลปะอิสลาม การแสวงหาประสบการณ์ใหม่แห่งศรัทธา และพหุวัฒนธรรมได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น
“การท่องเที่ยวฮาลาลมีความคุ้มค่าที่น่าลงทุนในการสร้างจุดขายพิเศษให้โดดเด่นและแตกต่าง เพื่อให้เป็นที่หนึ่งในใจของนักเดินทางชาวมุสลิม” รองผู้ว่าการททท. กล่าวอย่างเชื่อมั่นต่อศักยภาพของผู้ประกอบการไทยที่จะตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของนักเดินทางชาวมุสลิม ส่งผลให้อันดับความน่าสนใจในการท่องเที่ยวของประเทศไทยขยับสูงขึ้นได้
中国环境科学研究院展示技术成果,与泰国国家创新署签署谅解备忘录,助力环境研究合作
泰国曼谷 – 2024年7月22日 – 中国环境科学研究院(CRAES)副院长陈胜先生带领代表团出席了由泰国高等教育、科学、研究与创新部(MHESI)主办的“MHESI Fair: SCI POWER FOR FUTURE THAILAND”,这是泰国首次举办的前沿研究和创新成果展览,地点设在曼谷的昆西里吉特国家会议中心。该活动从7月22日开始,持续至7月28日,旨在展示泰国在科学和创新领域的实力,同时强调泰国通过教育、研究和创新致力于可持续经济发展。
展会的一大亮点是“2024泰国初创企业与创新博览会(SITE 2024)”,该展览展示了中国环境科学研究院(CRAES)在温室气体减排、气候变化应对、大气污染治理、水污染防治、生物多样性保护等方面的研究成果和技术成就。展览以“创新驱动增长与可持续发展”为主题,为政府机构、研究机构、企业实体和民间社会团体提供了一个促进合作的动态平台,以加强中泰双方生态环境保护及气候变化应对领域的创新合作。中国环境科学研究院也是本次展会的主要展商之一。
在访问期间,中国环境科学研究院(CRAES)与泰国国家创新署(NIA)签署了合作谅解备忘录(MOU),旨在加强双方在生态和环境研究方面的合作。该备忘录由CRAES副院长陈胜博士和NIA执行董事Krithpaka Boonfueng博士签署,将为泰国和中国在生态学、气候变化、大气和水资源领域的技术进步提供新的机会。
陈胜先生表示:“我们很高兴参加MHESI Fair,并与泰国国家创新署合作。此次活动不仅突显了我们对绿色发展的承诺,也代表了我们通过科技创新促进社会可持续发展的决心。”
中国环境科学研究院(CRAES)代表团的访问提供了接触当地利益相关者并巩固与曼谷其他领先环境组织伙伴关系的机会。包括与泰国自然资源和环境部官员举行会议;会见泰国工业联合会主席张学善先生 (Kriengkrai Thiennukul)、会见泰中科技协会秘书长Pichai Sonchaeng博士;也包括与相关环境组织和机构的接触,如联合国机构(环境署、开发计划署、亚太经社会)、泰国皇太后基金会, 朱拉隆功大学、Stockholm Environment Institute(SEI)亚洲的官员,以及国际自然保护联盟(IUCN)。
总部位于曼谷的顾问公司Strategy613帮助促进CRAES、NIA以及本地公共和私人机构之间的合作。该公司致力于为在亚洲尤其是中国和泰国经营的国际企业提供独立且创新的解决方案。目前,Strategy613正在协助CRAES在泰国建立区域科技创新平台。
Strategy613的创新与可持续发展总裁Leo Horn-Phathanothai (中文名字:常念廖) 表示: “东南亚国家以及全球范围内迫切需要中国在污染控制和绿色低碳转型技术方面的解决方案。CRAES计划在泰国建立区域科技创新平台将大大促进环境合作标准互通,加速绿色技术的推广,从而保障环境和气候安全。”
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?
วิดีโอทั้งหมด (แสดงผลทั้งหมด)
ติดต่อ ธุรกิจของเรา
เว็บไซต์
ที่อยู่
Bangkok
10600
Charoen Krung Road
Bangkok
PHOTOGRAPHY SCHOOL ASIA offers you Courses, Classes, Tours and photography workshops in Bangkok, Tha
Khao San Road
Bangkok, 10200
www.KhaoSanRoad.com - All about the "must go" Bangkok destination
Sathorn Square Building
Bangkok, 10500
Koi Restaurants' contemporary Japanese cuisine & Zen-inspired decor create an intimate yet sleek dining experience. #koibangkok
45 Soi Pridi Banomyong 26, Sukhumvit Soi 71, Klongtan Nua, Wattana
Bangkok, 10110
SpiceRoads Cycling is a premier cycling touring operator.
8/2 Rangnam Road
Bangkok, 10400
Pullman Bangkok King Power, the city’s upscale hotel, adds warmth to urban living space with service that epitomises the best of Asian hospitality. For any enquiries, please call +...
333/135 Anavill Suvannabhumi Chalongkrung Lamplathew Ladkrabang Babgkok
Bangkok, 10520
Siam P.D.Tour Thailand. One Stop Service Thailand Travel Agency Tel: +6621722131
18/70 Moo 13, Taweewattana Road, Sala Dhamma Sop, Taweewattana
Bangkok, 10200
Experience Bangkok on foot, public transport, bike, or boat with us. Know and enjoy Bangkok insight.
Bangkok
Avril Production manages int'l DJ tours, organizes parties and events all over Asia, and produces successful projects on cross-over cd compilations.
99 นวมินทร์ 74 ถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม
Bangkok, 10230
L'AMOUR Travel Co., Ltd. TAT License 11/05792
117 Khaosan Road Across D&D Hotel, Beside Deng Derm Hotel
Bangkok, 10200
The Best Tailors based in Khaosan Road at Bangkok, Thailand. With 32 years of experience in the made-to-measure bespoke tailoring business, we provide quality clothing for men an...
Tourism Authority Of Thailand
Bangkok, 10400
The official page by Tourism Authority of Thailand (TAT) - www.tourismthailand.org