The Content

หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าที่ไปที่มาของพิณไฟฟ้าครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นที่ไหน ในวงการวงดนตรีร่วมสมัยและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนผันวงเพชรพิณทอง นำโดย นพดล ดวงพร วงดนตรีลูกทุ่งพูดอีสาน เรียกได้ว่าเป็นผู้ให้กำเนิดเทคโนโลยีนี้ นพดล ดวงพร และ ทองใส ทับถนน ถือเป็นผู้มีคุณูปการเป็นอย่างมากในเรื่องของเทคโนโลยีดนตรี รวมไปถึงคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมที่ได้ประดับไว้บนแผ่นดิน

ทองใส ทับถนน เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ที่บ้านหนองกินเพล ตำบลหนองกินเพล อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นบุตรของนายปิ่น ทับถนน กับนางหนู ทับถนน ผู้เป็นบิดานั้นมีความสามารถโดดเด่นด้านหมอลำพื้นบ้าน และการแสดงหนังบักตื้อ (หนังปราโมทัย) และนายปิ่น ทับถนนยังเป็นลูกศิษย์ของหมอลำทองคำ เพ็งดี ผู้มีชื่อเสียงด้านลำกลอนในสมัยนั้น ทองใส ทับถนนเริ่มฝึกดีดพิณเมื่ออายุ 4 ปี โดยมีครูบุญ บ้านท่างอย อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้ฝึกสอนการดีดพิณเป็นคนแรก จนอายุได้ 8 ปี จึงได้เล่นพิณประกอบคณะหมอลำของ ปิ่น ทับถนน ผู้เป็นพ่อ จากนั้นจึงได้เรียนรู้ลายพิณโบราณกับครูบุญชู โนนแก้ว แห่งบ้านโนนสังข์ อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ศิลปินมือพิณพื้นบ้านตาพิการ เมื่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จึงได้ตระเวนเล่นดนตรีกับคณะหมอลำปิ่น ทับถนนเรื่อยมา

พ.ศ. 2511 เมื่ออายุได้ 21 ปี ได้เข้าประจำการเป็นทหารเกณฑ์ที่กองพันทหารปืนใหญ่ ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จึงได้มีโอกาสเป็นนักดนตรีวงดนตรีสากลประจำกองพันทหารปืนใหญ่ ได้นำพิณมาประยุกต์กับดนตรีสากลสมัยใหม่ และเรียนรู้การเล่นดนตรีตามแบบสากลนับแต่นั้นเป็นต้นมา สมรสกับนางประมวล ทับถนน (สกุลเดิมจันไตร) มีบุตรธิดา 3 คน ได้แก่

1. นางพิณทอง มณีเนตร
2. นายสีแพร ทับถนน
3. นางบุญสวย ทับถนน

หลังพ้นเกณฑ์ทหารในปี พ.ส. 2513 ครูทองใส ทับถนนจึงกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดและได้สมัครเข้าเป็นนักดนตรีคณะ ลูกทุ่งอีสาน ของนายนพดล ดวงพร ภายใต้ฉายา ทองใส หัวนาค ทั้งนี้เพราะมีพิณแกะสลักเป็นรูปพญานาคเป็นเครื่องดนตรีคู่กาย

พ.ศ. 2514 นพดล ดวงพร ได้รับเชิญให้นำวงดนตรีลูกทุ่งอีสานประยุกต์ไปแสดงถวายหน้าพระที่ประทับที่เขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชทานปริญญาบัตรแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ครูนพดล ดวงพร ร่วมกับครูทองใส ทับถนน ได้ถวายพิณแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงตรัสว่า “เพชรนี้เป็นเพชรน้ำเอก” ของเครื่องดนตรีอีสาน ยังความปลื้มปิติแก่นพดล ดวงพร และชาวคณะเป็นอย่างมาก จึงได้เปลี่ยนชื่อวงดนตรี ลูกทุ่งอีสาน พิณประยุกต์ มาเป็นวง เพชรพิณทอง ซึ่งถือว่าเป็นนามมงคลอันเกิดจากการถวายพิณในครั้งนั้น

ต่อมาได้นำเอาคอนแทรกไฟฟ้ามาประกอบกับพิณ และถือว่าเป็นพิณไฟฟ้าตัวแรกของเมืองไทย และได้เล่นดนตรีกับวงดนตรีเพชรพิณทอง ตลอดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 จนได้ยุติวง

รางวัลและการเชิดชูเกียรติ

พ.ศ. 2543 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นศิลปินดีเด่นสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีอีสาน) จากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ

พ.ศ. 2544 ได้รับประกาศเกียรติคุณผู้ให้การสนับสนุนกิจกรรมวัฒนธรรมดีเด่น จากสำนักพัฒนาการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เขตการศึกษา 10

พ.ศ. 2545 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย ด้านศิลปกรรม (ดนตรีพื้นบ้าน-พิณอีสาน) รุ่นที่ 2 ปี พ.ศ. 2545

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2546 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ชั้นเหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ (ร.ง.ภ.)

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2547 ได้รับรางวัลสุดยอดศิลปินอีสาน ประเภทพิณอีสาน เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี มหาวิทยาลัยขอนแก่น จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น

พ.ศ. 2555 ได้รับรางวัลศิลปินมรดกอีสาน สาขาศิลปะการแสดง ดนตรีพื้นบ้าน (พิณ) พ.ศ. 2555 จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น

พ.ศ. 2556 ได้รับรางวัลสุกรีเจริญสุข ผู้ทำดีความดีเพื่อสังคม สาขาการส่งเสริมดนตรี

พ.ศ. 2558 ได้รับยกย่องเชิดชูเป็นมูนมังเมืองอุบลราชธานี สาขาศิลปะการแสดง

พ.ศ. 2562 ได้รับรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ ประจำปี 2562 ประเภทบุคคลดีเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม

---

อ้างอิง
ประวัติครูทองใส ทับถนน จากวิกิพีเดีย
#ทองใสทับถนน #เพชรพิณทอง #นพดลดวงพร

เปิดตัวภาพ Poster แรก
ฉันชื่อเลดี้ Mini Musical 2024
ละครเวทีเผยชีวิตเมียเช่าเมืองอุดรธานี

โฮม การละคอน - Stage Performance เผย Poster แรก ฉันชื่อเลดี้ Mini Musical 2024 เรื่องราวเกี่ยวกับเมียเช่าในอุดรธานี ยุคสงครามเวียดนาม จากผู้สร้างสรรค์ผลงานละครเวทีเรื่อง โฮม The Musical 2023 พร้อมเผยชีวิตเมียเช่าบนเวทีในฤดูฝนนี้ โดยมีภาษาอังกฤษกำกับว่า

This Spring 2024 presents
The Story of Isaan Transgenders’ love happened in Udon Thani, 1979

สปริงนี้ขอเสนอ
เรื่องราวความรักของหญิงอีสานข้ามเพศในจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2522

ละครเวทีเรื่อง ฉันชื่อเลดี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครในเรื่องโฮม The Musical 2023 คือ มาดามเลดี้ หญิงข้ามเพศที่อาศัยอยู่ที่รัชดาซอย 3 เป็นเพื่อนรักกับตัวละครเอกของเรื่องอย่าง เจ๊ตุ๊ก สาวข้ามเพศพลัดถิ่นจาก จ.ยโสธร ด้วยความแร้นแค้นจึงทำให้พวกเธอต้องจากอีสานมาทำงานที่กรุงเทพมหานคร

เนื้อเพลง มาดามเลดี้ ในละครเพลงเรื่องโฮม ได้เผยในท่อนแรกว่า “ฉันชื่อเลดี้ มีผัวฝรั่ง หน่าตาอั่งทั่ง เสียงดังโวยวาย” ในละครเวทีเรื่องนี้จะเล่าถึงที่มาที่ไปของเธอกับสามีฝรั่งว่าทั้งสองมีจุดเริ่มต้นร่วมกันได้อย่างไร รวมไปถึงบรรยากาศของยุคสงครามเวียดนาม สีสันในจังหวัดอุดรธานี

อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมถึงวันและสถานที่แสดง รวมไปถึงข้อมูลและรายละเอียดของบทละครว่ามีเนื้อหาเพิ่มเติมอย่างไร

อังสุมา พันธ์ุคำ
ในความทรงจำเกี่ยวกับ ‘มาดามเลดี้’
เมียฝรั่งในโลกละครเวที ฉันชื่อเลดี้ Mini Musical

โฮม The Musical 2018 บทประพันธ์ดอกหญ้ามหานคร โดย โรจน์ศักดิ์ นางาม ได้ให้กำเนิดเรื่องราวคนอีสานผ่านวรรณกรรมและตัวละครหลายคน หนึ่งในนั้นคือ มาดามเลดี้ ช่างเสริมสวยจาก จ.ยโสธร รับบทโดย อังสุมา พันธุ์คำ หญิงนักศึกษาชาวมุสลิมในขณะนั้น ปี 2566 โฮม The Musical ได้กลับมาอีกครั้งด้วยกระแสตอบรับที่ล้นหลาม และเปลี่ยนผู้รับบทมาดามเลดี้อีกครั้งโดย อานนท์ ประเสริฐสังข์ ผู้กำกับ Souvinenir The Musical จากบรรพ นิติศาสตร์การละคร

ในปี 2567 มาดามเลดี้มีชีวิตอีกครั้ง ครั้งนี้เธอมีละครภาคแยกของเธอในเรื่อง ฉันชื่อเลดี้ Mini Musical 2024 โดย โฮม การละคอน - Stage Performance จากคณะผู้สร้างสรรค์ผลงาน โฮม The Musical 2023 ก่อนที่มาดามเลดี้จะบรรยายร่ายเรื่องราวบนเวที ถึงชีวิตรัก ประวัติศาสตร์เมียเช่า ภูมิหลังของเธอที่อุดรธานี และยโสธร The Content จะพาทำความรู้จักกับผู้รับบทมาดามเลดี้คนแรก “อังกอร์ - อังสุมา พันธุ์คำ” ในทรรศนะของเธอ 6 ปีที่แล้ว และมาดามเลดี้ที่กำลังจะมีภาคแรกนั้นเป็นอย่างไร

---

[Q] ย้อนกลับไปเรื่องโฮม The Musical 2018 วินาทีที่รู้ว่าเราจะรับบทเป็นมาดามเลดี้รู้สึกยังไง

ดีใจมากที่จะมีสาวมุสลิมคนแรกของประเทศไทย ที่ได้มีโอกาสเล่นละครเวที ตอนนั้นแค่คิดภาพตัวเองอยู่บนเวทีก็มีความสุขทั้งวันแล้วอะ

[Q] พูดถึงตัวละครมาดามเลดี้ เห็นอะไรในการเป็นช่างเสริมสวยจากอีสานสู่การเป็นสาวรัชดาซอย3

คนเราชอบอะไรสวยๆ งามๆ ยิ่งเป็นช่วงเสริมสวยแล้ว ต้องรักความสวยความงามเป็นจิตใจ ไม่ใช่แค่อยากให้ตัวเองสวย คนอื่นต้องสวยด้วย จึงนำความสวยงามแบบอีสาน มาเผยแพร่สู่เมืองหลวง ด้วยการมาเป็นช่างเสริมสวยที่รัชดา ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใด หากสร้างคุณค่าให้ผู้อื่นได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในอาชีพแล้วล่ะค่ะ

[Q] ด้วยความที่มาดามเลดี้เป็นตัวละครชายขอบที่เกิดในชนบท และชายขอบอีกทีด้วยเรื่องเพศสภาพ คิดว่ามันคล้ายกับตัวเองในแง่ไหนบ้าง

คล้ายมาก มาดามเลดี้คือคนชนบท เหมือนกับตัวเราเองที่เป็นคนชนบท เกิดในภาคอีสาน ภาพลักษณ์ของคนอีสาน ในประเด็นการเป็นเมียฝรั่ง หรือ เมียเช่า จึงอาจจะโดนเพ่งเล็งได้ง่ายว่าผู้หญิงที่อยากเป็นเมียฝรั่ง ก็แค่ต้องการเพื่อเอาชีวิตรอด ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด

“ในฐานะที่เป็นคนชนบทอีสาน ฉันจึงต้องมุ่งมั่นเรียนหนังสือ หมั่นศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เป้าหมาย คือ การเรียนจบ ดร. ภายในอายุ 32 ปี” จะทำให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นคนชนบทในภาคอีสาน หรือ ทุรกันดารมากแค่ไหน ก็สามารถพัฒนาตัวเองได้เพราะการมีความรู้

และการเป็นมุสลิมในอีสาน ก็คงเหมือนกับการเป็นมาดามเลดี้ที่ไปใช้ชีวิตในเมืองหลวง เราต้องปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นชิน วัฒนธรรมที่แตกต่าง สังคมที่มีความหลากหลาย การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นจึงต้องค่อยๆ เรียนรู้ สิ่งสำคัญคือเริ่มจากการรับฟังผู้อื่น และค่อยๆ บอกเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ผู้อื่นเข้าใจ แล้วค่อยๆ เรียนรู้กันไปทีละนิด

[Q] การกลับมาของมาดามเลดี้จากโฮม The Musical สู่ละครภาคแยกของตัวเองเอง ในฐานะที่เป็นคนรับบทมาดามเลดี้คนแรก รู้สึกยังไง

มาดามเลดี้ เป็นตัวละครที่โดดเด่น มีความน่าสนใจในมิติที่หลากหลาย การนำมาสร้างเป็นละครภาคแยก จึงทำให้รู้สึกว่า “สมควรแล้วที่จะสร้างขึ้นมาให้มาดามเลดี้มีชีวิตอีกครั้ง”
และในฐานะที่เป็นคนรับบทคนแรก ตอนนี้รู้สึกเสมือนตัวเองเป็นแม่อย่างเต็มตัว แม้จะยังไม่มีลูกในชีวิตจริงเลยก็ตาม

ได้ดูละเวทีรีเมคเรื่องโฮม The Musical 2023 เห็นมาดามเลดี้เวอร์ชั่น 2 ทำให้เรามองว่าเวอร์ชั่น 2 เป็นลูก และพอทราบว่ามาดามเลดี้ จะนำมาสร้างในละครภาคแยก ทำให้เรามองว่าเวอร์ชั่น 3 นี้เป็นหลาน ฟังดูอาจจะตลก แต่มันคือครอบครัวของมาดามเลดี้(เพราะมาดามเลดี้ในเวอร์ชั่น 1 ไม่มีครอบครัวแม้แต่คนเดียว มาดามเลดี้คือตัวคนเดียว รู้สึกดีใจที่จะได้เห็นลูกๆหลานๆ เวอร์ชั่นต่อไป

[Q] สำหรับละครเวทีเรื่องนี้ที่เอาประวัติศาสตร์เมียเช่ามาเล่า ในฐานะคนรับบทและเห็นความเติบโตของเลดี้รู้สึกอย่างไรบ้าง

ความรักเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน และไม่สามารถที่จะจับต้องได้ แต่แปลกที่ว่าเวลาที่เราถูกใคร หรือเวลาที่เรารักใครสักคน เรามักที่จะมีความสุขในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ดังนั้นความรักจึงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญอย่างยิ่งในการใช้ชีวิต

รักมักจะไม่มีรูปแบบที่ตายตัว ไม่มีเชื้อชาติ ไม่มีศาสนา และข้อสังเกตหนึ่งของความรักที่สำคัญจากอดีต - ปัจจุบัน คือ การที่คนเราจะรักใคร อาจไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เพศสภาพ เหนือไปกว่านั้น รัก คือ การที่เราแค่รักใครสักคนหนึ่งก็แค่นั้น

แม้จะอยู่ห่างกันคนละข้ามขอบฟ้า หากเป็นคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันหรอก ดังนั้น การเป็นเมียฝรั่งจึงไม่ได้เกี่ยวว่า อยากมีฐานะทางสังคม หรืออยากมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น คนเราคู่กันยังไงก็คู่กัน

เรียบเรียง: ซินญอรี่

[SERIES] เอกอนที่ 1 ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์มังกร พระราชาต่างแดนผู้พิชิต 7 อาณาจักร

นับว่าเป็นปีแห่งมังกรหลังจาก HBO ได้ปล่อย Teaser ซีรีส์ในจักรวาล Game of Thrones อย่าง House of the Dragon Season 2 เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ว่าจะสตรีมในฤดูร้อนของปีนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน 2024 นี้ และข่าวดีของแฟนๆ ซีรีส์อีกหนึ่งข่าวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา The Hollywood reporter รายงานว่า HBO ได้ประกาศพัฒนาการสร้างซีรีส์ของ เอกอนผู้พิชิต ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ทาร์แกเรียน ผู้พิชิต 7 อาณาจักรของ Westeros ก่อนจะมีภาค House of the Dragon และ Game of Thrones

วันนี้ The Content จะพาทำความรู้จัก เอกอนผู้พิชิต ที่ลูกหลานของเขาอยากจะเป็นอย่างเขาให้ได้ ตัวละครจากปลายปากกาของ จอร์จ อาร์ อาร์ มาร์ติน นักเขียนผู้เนรมิตหนังสือมหากาพย์อย่าง Fire and blood และ The Song of Ice and Fire ก่อนที่ HBO จะเอามาพัฒนาเป็นซีรีส์ Game of Thrones โดยย่อให้ได้อ่านกันค่ะ

เอกอนผู้พิชิต หรือเอกอนที่ 1 เป็นลูกหลานของตระกูลมังกรหรือ Dragon lord ตระกูลเดียวจาก 40 ตระกูล ที่เหลือรอดชีวิตจากการล่มสลายของวารีเลียโบราณ (Doom of Varylia) ว่ากันว่าก่อนการล่มสลายนั้น บนฟากฟ้าของวารีเลียโบราณเต็มไปด้วยฝูงมังกรที่บินว่อนนับพันตัว และอาณาจักรวาลีเรียก็ผลัดเปลี่ยนอำนาจแย่งชิงกันใน 40 ตระกูลรุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่ทาร์แกเรียนกลับเป็นตระกูลที่ไม่ได้ฝักฝง่ในสิ่งนั้น วันหนึ่ง เดนิส ทาร์แกเรียน หรือเดนิส นักฝัน ได้ทำนายถึงจุดจบของวาลีเรียโบราณ พวกเขาจึงย้ายออกจากวาลีเรียพร้อมกับครอบครัว ทาส และมังกรที่ตั้งในทวีป Essos ไปยังเกาะภูเขาไฟแห่งหนึ่งและสถาปนาเป็นที่มั่นเก่าแก่เรียกว่า Dragonstone

พวก Dragon lord ตระกูลอื่นๆ พากันหัวเราะเยาะให้ตระกูลทาร์แกเรียน ถึงการย้ายออกไปจากวาลีเรีย แต่ไม่นานหลังจากที่เดนิส นักฝัน ลูกสาวของ ลอร์ดเอนาร์ ทาร์แกเรียน ได้ทำนายเอาไว้ วาลีเรียโบราณก็ได้ถึงการล่มสลายจากการระเบิดของภูเขาไฟทั้ง 14 ลูก ทำให้มังกรและ Dragon lord ตระกูลอื่นๆ สูญสิ้นไปพร้อมกับเถ้าถ่าน เหลือเพียงตระกูลมังกร 1 เดียว คือ ทาร์แกเรียน ที่ยังคงเป็นผู้ขี่มังกร

วันคืนเลื่อนผ่านไป ทายาทตระกูลมังกรรุ่นแล้วรุ่นเล่าได้ถือกำเนิดในเกาะ Dragonstone จนถึงรุ่นของ เอกอน ทาร์แกเรียน ทายาทผู้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของตระกูลและทวีป Westeros ไปตลอดกาล เขาตั้งคำถามและครุ่นคิดว่าทั้ง 7 อาณาจักรนั้นจะต้องมีกษัตริย์ได้เพียงหนึ่งเดียว และเขาจะทำหน้าที่นั้นและยกตระกูลขึ้นเป็นราชวงศ์เพียงหนึ่งเดียว เขาได้ขี่บาเรเลียน หรือฉายา มฤตยูดำ (Balerion, The Black Dread) มังกรตัวใหญ่ที่สุดที่มีอายุตั้งแต่สมัยวาลีเรียโบราณ ว่ากันว่าตัวของมันใหญ่มาก ขณะมันกางปีกจะเกิดเงาปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง เขาขี่มันไปพร้อมกับ พี่สาว วิเซเนีย (Visenya) ผู้ขี่มังกรเกิดใหม่ ณ ขณะนั้น คือ เวการ์ (Vhagar) และ น้องสาว เรนิส (Rhaenys) ผู้ขี่มังกรเมอแร็กซิส(Meraxes) เขาแต่งงานกับพี่สาวและน้องสาวเพื่อรักษาธรรมเนียมและคงความบริสุทธิ์ของสายเลือดวารีเลียโบราณ ก่อนที่พวกเขาทั้งสามคนจะขี่มังกรออกไปอ้างสิทธิ์แก่กษัตริย์ในดินแดนต่างๆ ว่าหลังจากนี้จะมีกษัตริย์เพียงองค์เดียวเท่านั้นคือ เอกอน แห่งราชวงศ์ทาร์แกเรียน

หลังจากการพิชิต 7 อาณาจักรได้สำเร็จ (อีกหนึ่งอาณาจักรคือ Dorne พิชิตได้ภายหลัง) เอกอน ทาร์แกเรียนได้นำดาบของศัตรูที่พ่ายแพ้ในทุกสงครามของการพิชิต ใช้ไฟของบาเลเรียนหลอมดาบรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างบัลลังก์เหล็ก ชูธงมังกรสามหัวขึ้น ณ เรดคีป แห่งคิงส์แลนดิ้ง สถาปนาตนขึ้นเป็น พระราชาเอกอน ที่ 1 ราชาแห่งแอนดัล รอยน์นา และปฐมบุรุษ ลอร์ดแห่ง 7 อาณาจักรและผู้พิทักษ์อาณาจักร

นี่คือเรื่องราวของบุรุษผู้พิชิตในจักรวาลของ Game of Throne และหลังจากรัชสมัยของเขามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่มหาสงครามการร่ายรำของมังกรที่ทำให้ขุมอำนาจของตระกูลคือมังกรได้สูญพันธุ์ไปจนหมดจนไปถึงการล่มสลายของราชวงศ์ทาแกเรียน และการคืนชีพของมังกรของเดเนริส ทาร์แกเรียน ในมหาศึกชิงบัลลังก์

❤❤ โอกาสแสดงผลงานกับ The Content มาถึงแล้ว ❤❤
The Content เปิดรับบทความแนว Life-Styles รีวิวภาพยนตร์และบันเทิง หรือเรื่อง Pop-cultures อื่นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้พื้นที่สร้างสรรค์ในการแสดงผลงานศิลปะของคุณ โปรดอย่ารอช้า

ร่วมแสดงผลงานของเราผ่านพื้นที่ของพวกเรากับ The Content เพราะทุกเรื่องคือคอนเทนต์ ชีวิตติดศิลปะ อย่าลืมส่งผลงานกันเข้ามาเยอะๆ นะค้าบ เรามาสร้างทีมสร้างสรรค์ผลงานไปด้วยกัน ส่งเข้ามาเยอะๆ น้าาา

🎆🎆วิธีการส่งบทความ🎆🎆
1.ตั้งชื่อหัวเรื่องว่า "ส่งบทความแนว...เรื่อง..."
2.โปรดระบุชื่อ/นามปากกา ของผู้เขียนบทความ
3. บอกช่วงเวลาที่ต้องการเผยแพร่หากบทความนั้นอิงกับเทศกาลหรือช่วงเวลาสำคัญ
4. โปรดแนบเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางติดต่อที่สามารถติดต่อกลับได้

สามารถส่งงานที่ต้องการเผยแพร่ได้ที่
[email protected]

“ค้ำน้ำให่เฮากิน ค้ำดินให่เฮาอยู่” ประโยคคล้องจองจากปากของ ดร.ราตรี ศรีวิไล ศิลปินแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับทรรศนะที่มีกับผีเงือกผีงู ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของ ณไทย ภัทรกวีกานต์ เจ้าของผลงานละครเวทีมหาวิทยาลัยขอนแก่น “วังเวิน One World” โดยผีเงือกผีงูในความเข้าใจอีกอย่างหนึ่งเรียกว่าเป็นเทพที่มีรูปร่างเป็นงูยักษ์ ในความหมายที่เข้าใจกันได้ทั่วไปก็คือ “นาค” นั่นเอง

ตัวเงือก ในความเข้าใจของกลุ่มคนไท อาจจะไม่ใช่เงือกในปัจจุบันตามนิยามที่เราเห็นในบทเรียนหรืออนิเมชั่น พูดง่ายๆ คือ เงือกในที่นี้ไม่ได้ให้ความหมายของมนุษย์ครึ่งปลา (Mermaid) แบบในวรรณกรรมของชาวตะวันตก แต่เป็นเทพงูใหญ่ผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนดินและแผ่นน้ำและเป็นที่นับถือของคนในสังคมกสิกรรม

เฟซบุ๊ก คณะละคอนสุดสะแนน ได้เผยแพร่บทความเชิงวิชาการในการแห่ขบวนสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ในเทศกาลสีฐานเฟสติวัล ปี 2562 เกี่ยวกับธีม “วัฒนธรรมสิบสองจุไท สามฝ่ายฟ้า เสนสมมาตัวเงือก” ไว้ว่า เงือก หรือ โตเงือก เป็นสัตว์วิเศษที่ให้คุณมีลักษณะคล้ายกับงูใหญ่ มีหงอน ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ลำน้ำ (Guardian of rivers) มีพลังวิเศษในการบันดาลฟ้าฝน ให้ความอุดมสมบูรณ์แก่ผู้บูชา และในทัศนะของกลุ่มของไทแถบสิบสองปันนา โตเงือกยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นมารดา เป็นเหตุให้คนไทให้ความสำคัญกับเพศหญิง หรือระบอบมาตาธิปไตย(Matriarchy) อีกหนึ่งวัฒนธรรมของการบูชาตัวเงือกที่พบเห็นคือ กลุ่มผู้นับถือตัวเงือกจะเลี่ยงการบริโภคเนื้องูและงดเว้นการฆ่างู เพราะมีความเชื่อว่างูเหล่านี้เป็นตัวแทนของสิ่งมีชีวิตของบรรพบุรุษ

นอกจากเรื่องผีเงือกผีงู คำว่า วังเวินน้ำ ก็เป็นหนึ่งในคีย์เวิร์ดของละครเวทีที่จะทำการแสดงในวันที่ 8-11 กุมภาพันธ์นี้เช่นกัน โดยคำว่าวังเวินเป็นภาษาลาวแปลตรงตัวได้ว่าวังน้ำวน ในทัศนะของผู้ประพันธ์ ได้เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก KKU CAN DRAMA ว่า การใช้วังน้ำวนมาอธิบายเรื่องราวเหนือธรรมชาติในละคร คือการเปรียบเทียบของภาพสัตว์โลกนั้นยังคงว่ายเวียนอยู่ในวังเวินของวัฎฏะสงสารตามความเชื่อของพระพุทธศาสนาที่สัตว์โลกต้องเวียนว่ายตายเกิด ไม่พ้นแม้แต่สัตว์วิเศษ หรือเทวดา อินทร์ พรหม ซึ่งในเรื่องนี้การถ่ายทอดความลึกลับพิศวงนั้นจะถูกเล่าผ่านวังน้ำวนกลางลำน้ำโขงและตัวเงือก สัญลักษณ์แห่งน้ำและความเป็นหญิง

ติดตามละครเวทีและการซื้อบัตรละครเวทีเรื่อง วังเวิน One World ได้ที่ KKU CAN DRAMA ทำการแสดงตั้งแต่วันที่ 8-11 กุมภาพันธ์ 2567 ณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

เรียบเรียง: ซินญอรี่

#ผีเงือกผีงู #วังเวิน #น้ำโขง

[REPOST] พระมหาเทวีอามพัน หรือ พระนางแก้วพิมพา (พ.ศ. 1886 – พ.ศ. 1981) เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 11 แห่งราชอาณาจักรล้านช้าง (กรุงศรีสัตนาคนหุต ในภาษาบาลี)

พระนางเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าฟ้างุ้มมหาราช พระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชอาณาจักรล้านช้าง และเป็นพระพระขนิษฐาของสมเด็จพระเจ้าสามแสนไทไตรภูวนาทพระมหากษัตริย์พระองค์ที่สองราชอาณาจักรล้านช้าง

พระนางปกครองล้านช้างหลังจากที่พระยาล้านคำแดงพระภาติยะ (หลานน้า) ของพระนางสวรรคต พระนางจึงปกครองล้านช้างเบื้องหลังพระมหากษํตริย์อีก 4 พระองค์ พระนางทรงปกครองล้านช้างด้วยพระนางเองเพียงไม่กี่เดือนในปีพ.ศ. 1981 ในขณะมีพระชนมายุได้ 95 พรรษา หลังจากนั้นพระนางถูกปลดจากพระราชบัลลังก์และถูกประหาร

ใน ปี พ.ศ.1971 - พ.ศ.1981 ในระยะ 10 ปี เป็นกลียุคมีกษัตริย์ล้านช้างขึ้นครองราขย์ในระหว่างนั้น ๗ พระองค์ ในตอนนี้มีสตรีแห่งประวัติศาสตร์ล้านช้าง 1 คน คือเจ้าหญิงแก้วพิมพา ท้าวล้านคำแตงมีพระโอรส ๕ พระองค์แต่ปรากฏพระนามแค่ 2 พระองค์คือ ท้าวพรหมทัต และท้าวอยู่ครอง ส่วนอีก 3 องค์ ไม่ปรากฏนาม นอกจากนั้นยังมีโอรสกับนางทาษี 1 คน แล้วชื่อว่า คำเกิด เมื่อท้าวล้านคำแตงสิ้นพระชนม์แล้ว

ขุนนางได้ยกท้าวพรหมทัตขึ้นราชบัลลังก์ ครองราชย์เพียง 10 เดือน เจ้าหญิงแก้วพิมพาก็สั่งให้เค้นคอตายที่ปากลำน้ำคาน เจ้าหญิงแก้วพิมพาก็ยกน้องชายขึ้นคือ ท้าวคำเต็ม ขึ้นครองราชย์ในเวลานั้นท้าวคำเต็ม เป็นเจ้าเมืองปากห้วยหลวง เมื่อได้ราชสมบัติทรงมีพระนามว่า พระยาปากห้วยหลวงหรือพระยาปากห้วย อยู่ได้ 5 เดือน ไม่เป็นที่พอใจของเจ้าหญิงแก้วพิมพา จึงถูกปลดราชสมบัติ

เจ้าหญิงแก้วพิมพาได้ยกท้าวไส ขึ้นครองราชย์แทน ท้าวไสเรียกอีกนามหนึ่งว่า พระยาหมื่น อยู่ในราชสมบัติแค่ ๖ เดือน ก็รู้ตัวว่าไม่เป็นที่พอใจของเจ้าหญิงแก้วพิมพา ทราบข่าวว่าจะถูกฆ่าจึงหนีแต่ไม่พ้นเหมือนนกถูกขังในกรง ก็ผูกคอตาย แล้วเจ้าหญิงแก้วพิมพาได้ยกท้าวอยู่ครองขึ้นครองราชย์ ท้าวอยู่ครองขึ้นครองเมืองไค จึงได้พระนามว่า พระยาไค ครองราชย์ได้นาน 3 ปี ก็ถูกฆ่าตาย

ต่อมาเจ้าหญิงแก้วพิมพาได้ยกท้าวก้อนแก้ว ในเวลานั้นครองเมืองเชียงสาอยู่ เมื่อได้ครองราชย์จึงใช้พระนามว่า พระยาเชียงสา อยู่ได้ 8 เดือน รู้ว่าจะถูกฆ่าเลยหนี เจ้าหญิงแก้วพิมพา ได้ยกพระโอรสองค์ที่ 3 ของท้าวล้านคำแตง ที่ไม่ปรากฏพระนามครองราขย์ได้ 8 เดือน ก็รู้ตัวว่าจะถูกฆ่า จึงลอบลงเรือหนีแต่ไม่พ้นจึงถูกฆ่าในเรือนั้น

ต่อมาท้าวคำเกิดก็ได้ขึ้นครองราชย์ เป็นคนเดียวที่พระนางแก้วพิมพาพอใจ จนขุนนางต่างคิดกันว่าจะไม่มีการฆ่ากันอีก แต่เจ้าคำเกิดครองราชย์ได้ 3 ปีก็ตาย ด้วยเป็นลมตาย ในเวลานั้นราชการปั่นป่วน ความเกลียดชังแก่เจ้าหญิงแก้วพิมพาก็มากขึ้น ขุนนางน้อยใหญ่จึงจับเจ้าหญิงแก้วพิมพาฆ่าเสีย ทิ้งศพให้แร้งกินแล้วยกท้าวฤๅชัยขึ้นครองราชย์ ทรงพระนามว่า พระไชยจักรพรรดิแผ่นแผ้ว

วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ณไทย ภัทรกวีกานต์ หรือวิสกี้ เลอ ฟองเบียร์ เจ้าของผลงานละครเวทีสยองขวัญ วิปลาส และละครเวทีเรื่องล่าสุด “วังเวิน ONE WORLD” ผลงานละครเวทีล่าสุดจากแคนละคร กองละครแห่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีการเปิดเผยตัวละครที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์อย่าง สมเด็จพระนางเจ้าแก้วพิมพา พระมหากษัตริย์องค์ที่ 11 แห่งอาณาจักรล้านช้าง รับบทโดยแม่ครูสุวรรณ ปากคม บรมครูหมอลำกลอนวาทพุทไธสง ติดตามบทบาทของพระนางเจ้าในละครเวทีได้ที่ KKU CAN DRAMA

เครดิดข้อมูล : เฟซบุ๊กเพจ ให้กาลเวลาเล่าเรื่องสยามแต่ปางก่อน
เรื่อง: ซินญอรี่

ผลงานน่าสนใจจาก มข.

🧡🧡ในระหว่างที่รอผลงานจากทางโฮม โปรดัคชั่น วันนี้รวบรวมเทศกาลละครเวทีในภาคเรียนที่ 2 ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในปีนี้จนถึงปีหน้า มาให้ชมกันค่ะ ท่านไหนสนใจสามารถจองบัตร หรือติดตามได้ตามนี้เลยค่า 🧡🧡

💛 ละครเวทีเรื่อง The Night Before Christmas จาก KKUIC Constella Stage Play 2023 KKUIC

💚 ละครเวทีเรื่อง Once Upon A Time The hidden movies
จาก WayC Stage Play KKUIC

🧡 ละครเวทีเรื่อง คุณ ค่า(ฆ่า) คน The Musical จาก Performance Practice KKU ติดตามได้ที่: https://www.instagram.com/khun_kha_kon_themusical2023/?utm_source=ig_web_button_share_sheet&igshid=OGQ5ZDc2ODk2ZA==

💙 ละครเวทีจาก แคนละคร ละครเวทีแห่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ติดตามได้ที่ KKU CAN DRAMA

💜 ละครเวทีจาก บรรพ นิติศาสตร์การละคอน
ติดตามได้ที่ บรรพ - นิติศาสตร์การละคอน

❤ โฮม การละคอน ติดตามได้เร็วๆ นี้

หากตกหล่นกองละครไหนขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ ฝากเพจของเราด้วยนะคะ

มาลาลา ยูซาฟไฟ
ผู้หญิงในดวงใจของ ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’
สตรีนักสิทธิมนุษยชนแห่ง ศตวรรษที่ 21

“ถ้าคุณเลือกใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงคนอื่นในระยะเวลา 1 ปี คุณจะเลือกใคร เพราะอะไร” คำถามรอบ Top 3 ของ Miss Universe 2023 ในเช้าวันนี้ยังคงติดตรึงในใจของเหล่าแฟนๆ ไม่น้อย

“ฉันขอเลือกเป็น มาลาลา ยูซาฟไฟ เพราะดิฉันรู้ว่าเธอต้องต่อสู้มามากมายเพื่อการศึกษาของสตรีและเพื่อผู้หญิงทุกคนที่จะยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง สร้างความเปลี่ยนแปลง และประจักษ์ต่อสายตาของทุกคน” นี่คือคำตอบของ แอนโทเนีย โพซิ้ว Miss Universe 2023 ที่ทำให้เธอคว้าตำแหน่ง 1st Runner-up Miss Universe 2023 มาครอง แม้จะไม่ได้คว้ามงดั่งหวัง แต่เสียงคำตอบบนเวทีนางงามจักรวาล ก็ได้ส่องแสงให้ มาลาลา ยูซาฟไฟ ได้ส่องประกายอีกครั้งบนเวทีโลก

มาลาลา ยูซาฟไฟ เธอเป็นที่รู้จักในฐานะผู้คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกในปี พ.ศ.2557 เธออายุได้ 17 ปี ในขณะนั้น ในผลงานการขับเคลื่อนทางสิทธิมนุษยชนในด้านการศึกษาและสิทธิของสตรี อีกผลงานของเธอคือการเปิดโรงเรียนสำหรับเด็กผู้หญิง (Malala Yousafzai All-Girls School) ในประเทศเลบานอนใกล้กับชายแดนของประเทศซีเรีย จากกองทุนมาลาลา (Malala Fund) องค์กรไม่แสวงผลกำไรซึ่งสามารถช่วยเหลือเด็กผู้หญิงอายุระหว่าง 14-18 ปี ในด้านการศึกษาได้ถึง 200 คน

แต่ทว่าชีวิตของเธอย่อมเผชิญกับอุปสรรคในฐานะนักเคลื่อนไหวทางสิทธิมนุษยชน สำนักข่าวบีบีซีในภาคภาษาอูดูร์รายงานว่า บันทึกไม่ระบุชื่อของเธอเล่าเรื่องราวขณะเธออายุได้ 11 ปี ในขณะที่ปากีสถานยังอยู่ภายใต้การปกครองของตาลีบัน ว่าเธอเริ่มเคลื่อนไหวในสิทธิการศึกษาของสตรีอย่างเปิดเผย ท่ามกลางการข่มขู่คุกคามจากกลุ่มกบฎในปากีสถาน หลังจากนั้นจึงทำให้เธอถูกยิงบนรถโรงเรียนตอนที่เธออายุได้ 15 ปี (พ.ศ. 2555) เธอได้รับบาดเจ็บถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต แพทย์ต้องผ่าตัดกะโหลกออกบางส่วนเพื่อลดอาการสมองบวม ก่อนจะหายจากอาการบาดเจ็บในเวลาถัดมา

หลังจากการรักษาตัวจนอาการดีขึ้น เธอได้กลับมาเคลื่อนไหวในประเด็นการศึกษาและสิทธิสตรีอีกครั้ง จนทำให้เธอได้รับรางวัล ทูตมโนธรรมสำนึกปี พ.ศ. 2556 ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะบุคคลที่แสดงออกถึงความเป็นผู้นำในการต่อสู้เพื่อปกป้อง และส่งเสริมสิทธิมนุษยชน และรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ และเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดในปี พ.ศ. 2557

“ดิฉันทราบดีว่าทุกครั้งที่มีผู้มากล่าวสุนทรพจน์ที่นี่ ผู้ฟังจะปรบมือให้และนั่นคือจุดสิ้นสุดของพิธีการ มิตรสหายที่รักและเคารพทุกท่าน ดิฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อพรรณนาอย่างละเอียดถึงทุรกรรมที่เกิดขึ้นกับเรา แต่เพื่อพยายามแสวงหาทางออกให้กับปัญหาเหล่านี้ ท่านอาจถามตัวเองว่า ทางออกนั้นเป็นอย่างไร ดิฉันเชื่อว่าทางออกคือการศึกษา.....การศึกษา......การศึกษา
การศึกษาคืออาวุธที่ทรงพลัง ที่จะสามารถต่อกรกับความรุนแรง การก่อการร้าย การใช้แรงงานเด็กและความไม่เท่าเทียม ปากกาและหนังสือจะนำเราทุกคนไปสู่หนทางที่เปี่ยมไปด้วยปัญญา
ในวันนี้ ดิฉันอยากขอให้ทุกท่านทำสิ่งเล็กๆ ภายหลังจบพิธีการในวันนี้ สิ่งเล็กๆ ที่ดิฉันว่าคือการจรดปากกาลงบนกระดาษ เขียนจดหมายวิงวอนให้รัฐบาลท่านให้ความสำคัญกับการศึกษา และดำเนินการอย่างจริงจัง การศึกษาต้องเป็นเรื่องที่สำคัญเหนือเรื่องอื่นใด
ดิฉันต้องการอาศัยอยู่ในโลกที่เด็กทุกคนไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใด สามารถเข้าถึงการศึกษาภาคบังคับโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
อย่าปล่อยให้ใครต้องถูกทอดทิ้ง”

เรียบเรียง: ซินญอรี่

อ้างอิง
- มาลาลา ยูซาฟไฟ เปิดโรงเรียนสำหรับเด็กผู้หญิงชาวซีเรียในประเทศเลบานอน
https://www.amnesty.or.th/about-us/success/3/

- มาลาลา ยูซาฟไซ กลับปากีสถานครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกยิง
https://www.bbc.com/thai/international-43579418

ความเฮฮา และมรณานุสติ
พูดเรื่องตายๆ สไตล์ “สัปเหร่อ”
หนังในจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์

คำเตือน มีสปอยล์เนื้อหาจากในเรื่องนะคะ

ไม่ขอพูดพร่ำทำเพลงมากนะคะ เริ่มเลอ สัปเหร่อ หนังภาคแยกจากจักรวาล ไทบ้านเดอะซีรีส์ ของ Thaibaan Channel เป็นการตีความความตายโดยเป็นธรรมชาติที่สุดและไม่ได้ทำให้มันเป็นเรื่องน่ากลัวแบบที่คิด และการตายเท่าที่ตีความได้จากเรื่องมันไม่ใช่เพียงการสิ้นสังขารหรืออายุขัยตามธรรมชาติ และจากลากันไปและโลกหลังความตายก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวชวนขนหัวลุก แต่หนังเรื่องนี้ช่วยให้เราเข้าใจว่า การตายไปจากใจ มันก็น่ากลัวไม่แพ้กัน

หากเราตายไปจากใจของใครสักคนหนึ่ง ในวันที่เรายอมรับความจริงไม่ได้ ความทุกข์ก็คงเกิดขึ้นในใจและความรักก็จะกัดกินทิ่มแทงโดยทำให้เราตายทั้งเป็น “เซียง” ตัวละครเอกของเรื่องถ่ายทอดเรื่องนั้นออกมาได้ดีมาก ในแง่ของการโกงความตายไปจากใจ รวมถึงการที่เขาไม่ยอมรับว่า “ใบข้าว” อดีตคนรักของเขาได้ตายไปจากเขาแล้ว หมายถึงตายทั้งจากใจและตายไปจากโลกนี้

ผีใบข้าวจึงไม่ใช่การปรากฏตัวเพื่อแสดงถึงความน่ากลัว แต่อาจจะหมายถึงความทรงจำในครั้งที่ยังมีชีวิต และคงวนเวียนอยู่ใกล้ตัวกับผู้ที่เคยได้พบเจอ

พาร์ทที่ชอบที่สุดคือ เจิด ลูกชายของสัปเหร่อศักดิ์ ที่พึ่งเรียนจบและกลับบ้าน คาดว่ามันโคตรตรงกับชีวิตใครหลายๆ คนเลย ที่พึ่งเรียนจบ ไปตั้งตัวที่บ้านในช่วงเวลาที่ได้เรียนรู้ครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง เราชอบตรงที่เจิดเป็นคนที่พยายามเรียนรู้และแบ่งเบาภาระพ่อ ทุกคำที่เจิดพยายามเรียนรู้จากพ่อ มันคือปริศนาธรรมและการตั้งคำถามถึงคนตายเกี่ยวกับคนเป็น “ทำไมตอนมีชีวิตอยู่เขาไม่ทำแบบนี้ให้กัน” เช่นการหุงหาอาหารที่คนตายชอบมาไว้ข้างโลง สิ่งนี้ทัชใจคนแบบอิฉันมาก เออ ทำไมเราต้องทำของอร่อยๆ หรือของที่ชอบให้คนตายทั้งๆ ที่เขาไม่สามารถฟื้นขึ้นมาร่วมโต๊ะอาหารกับเราได้แล้ว

ในเรื่องนั้นไม่ได้กล่าวถึงการเตรียมตัวตาย หรือการทำอะไรก่อนตายถึงจะมีความสุขมากนัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่โผล่มาเลย จริงๆ แล้วมันอาจจะหมายความว่า ทุกวันถ้าอยากทำอะไรแล้วมีความสุข จงให้รีบทำ และเห็นคุณค่าคนที่ยังอยู่ตรงหน้า มีเนื้อมีหนัง โอบกอดได้บอกรักได้ และเมื่อเขาเหล่านี้ตายไปเราคงไม่เสียดายทีหลัง และไม่มูฟออนและยอมรับความจริงได้ว่า เขาตายไปจากเราแล้ว

สุดท้าย ความตายคือเรื่องธรรมชาติที่มนุษย์จะต้องเผชิญหน้ามัน ไม่ช้าก็เร็ว อยากขอบคุณหนังเรื่องนี้มาก ที่ทำให้ผู้เขียนได้หยุดตระหนักคิดถึงครอบครัวและคนรอบข้างมากขึ้น เราอาจจะไม่ได้มีชีวิตที่ยืนยาวเท่าไรนัก ขอบคุณสำหรับสิ่งสวยงามของช่องไทบ้าน ที่สร้างสรรค์เรื่องธรรมชาติอย่างความตายออย่างสวยงามในครั้งนี้

ซินญอรี่

ปรากฏการณ์ยอดวิวแสนแตกในเวลาเพียงครึ่งวันได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อ “บิว จิตรฉรีญา พรประถม” ศิลปินสาวยอดนิยมแห่งยุคขวัญใจแฟนเพลงแฟนผู้ชมลำทั่วฟ้าเมืองไทย ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ออกมา คือเพลง “ฮอยกอดภูยอดรวย” จากปลายปากกาของ บิ๊ก ภูมารินทร์ ครูเพลงคู่บุญผู้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างชื่อให้เธอ อย่างเพลง “จิตรฉรีญาวอนแฟน” ที่ใครหลายๆ คน ต่างก็กลายเป็นสาวอุบลฯ ถิ่นดอกบัวบาน เชื้อลูกเชื้อหลานพระวอพระตากันถ้วนหน้า

ไม่นานมานี้เฟซบุ๊กแฟนเพจ ประถม เอนเตอร์เทนเมนท์ ได้ทำการปล่อยทีเซอร์เพลงฮอยกอดภูยอดรวยออกมา ต่างก็ทำให้บรรดาแฟนคลับบิว จิตรฉรีญา แชร์ออกไปปรากฏทั่วทุกแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะ TikTok ไม่ว่าจะไถบนไถล่างก็จะได้ยินท่อนฮิตติดหูอย่างท่อนที่ร้องว่า “สายลมโตนภูดังต่าม…”

ล่าสุด วันนี้ 19 กันยายน บทเพลง “ฮอยกอดภูยอดรวย” เต็มเพลง ถูกเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม Youtube เป็นที่เรียบร้อย สร้างความประทับใจให้กับแฟนเพลงแฟนผู้ฟัง สมกับที่ตั้งตารอมาหลายวัน ด้วยจังหวะครึกครื้นสนุกสนานตามแบบฉบับของบิว จิตรฉรีญา บทเพลงนี้คงเป็นอีกหนึ่งบทเพลงสร้างชื่อให้กับเธอไม่ต่างไปจากซิงเกิ้ลก่อนหน้าอย่าง “เซิ้งบั้งไฟ”, “จิตรฉรีญาวอนแฟน”, “แห่ต้นเงิน” ที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ “บิว จิตรฉรีญา ครองเมือง” ได้เป็นที่เรียบร้อย

สำหรับเพลงใหม่ล่าสุดของเธอที่มีเนื้อหาถึง “ภูยอดรวย” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านเกิดของบิว จิตรฉรีญา อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งภูยอดรวยเป็นสถานที่ประดิษฐานของหลวงพ่อยอดรวย 108 พระองค์ เจดีย์พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ และมีรูปปั้นพญางูใหญ่ นาคราชองค์ดำ 5 เศียร ความยาว 40 เมตร ตั้งอยู่ด้านล่างหน้าผาบริเวณถ้ำรอด โดยส่วนหัวและหางจะอยู่คนละฝั่งทางเข้าและออกของถ้ำเป็นมนต์ขลังท่ามกลางขุนเขา ณ วัดภูยอดรวย อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี

เรื่อง: แก้ง ตำบลแก้ง

#บิวจิตฉรีญา #ประถมบันเทิงศิลป์ #หมอลำ #อีสาน

“กิเลน” อีกตัว
สัตว์วิเศษในการเลือกผู้นำสมาพันธ์พ่อมดนานาชาติ
มนต์คาถาละครหลอกตา ของกรินเดลวัลด์

ในการเลือกตั้งสมาพันธ์พ่อมดแม่มดนานาชาตินั้น พ่อมดและแม่มดทั่วโลกจะเดินทางมาเพื่อลงคะแนนเสียง แต่หากปีใด ที่มีสิ่งมีชีวิตอันบริสุทธิ์อย่างกิเลนเกิดขึ้นมา เราต้องตามหนทางแห่งกิเลน

กิเลน สัตว์วิเศษผู้เลือกผู้นำสมาพันธ์พ่อมดและแม่มดนานาชาติ เนื่องจากดวงตาของมันสามารถมองทะลุทะลวงถึงจิตใจอันบริสุทธิ์ของพ่อมดแม่มดคนนั้น หากคนใดที่ตากิเลนมองถึง มันจะโค้งคำนับให้ และผู้นั้นจะได้เป็นผู้นำสมาพันธ์ฯ ต่อไปในวาระหน้า
สัตว์วิเศษชนิดนี้ โผล่มาในภาพยนตร์สาขาของจักรวาลแฮร์รี่ พอตเตอร์อย่าง สัตว์มหัศจรรย์: ความลับของดัมเบิลดอร์

เรื่องราวมีศูนย์กลางอยู่ที่เยอรมัน เนื่องจากการเลือกตั้งผู้นำสมาพันธ์ฯ กำลังเริ่มต้น แต่เหตุการเลือกตั้งได้กลับมาใช้วิธีโบราณ “ทางแห่งกิเลน” เนื่องจากเป็นประเพณีโบราณในการคัดเลือก โดยผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลลูกกิเลนเกิดใหม่คือ นิวท์ สคามันเดอร์ นักสัตว์วิเศษวิทยาชื่อก้องโลกในจักรวาลหนัง แต่เขาก็ได้ถูกชิงตัวกิเลนจากลูกสมุนของพ่อมดศาสตร์มืดในสมัยนั้น “เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์” คู่อริและคนรักของ “อัลบัส ดัมเบิลดอร์” ใช่ คนเดียวกับดัมเบิลดอร์ในแฮร์รี่นั่นแหละ

เขาสมรู้ร่วมคิดกับผู้นำสมาพันธ์พ่อมดแม่มดในสมัยนั้นคือ โวเกิล โดยการล้างมลทิน ไม่มีความผิดฐานประทุษร้ายต่อชุมชนมักเกิ้ล ทั้งที่ในภาค 1-2 เขาได้สร้างความหวาดกลัวไปทั่วอเมริกาและยุโรป โดยใช้ ออบครูรัส หรือพ่อมดที่ป่วยไม่สามารถควบคุมพลังเวทย์ได้ และระเบิดออกมาทำให้สังคมผู้วิเศษเสียหาย ข้อหานี้ถูกล้างไปหมดสิ้น

อีกทั้งยังใช้คาถากับลูกกิเลนเพื่อให้มันโค้งคำนับให้กับตนเอง ในวันพิธีเลือกผู้นำสมาคมพ่อมดแม่มดนานาชาติ และสำเร็จในที่สุด หลังจากที่เขาได้รับเลือกให้เป็นผู้นำ เขาได้ประกาศสงครามกับมักเกิ้ลหรือผู้ที่ไม่มีเวทมนตร์ทันที โดยการใช้คำสาปกรีดแทง กับ เจคอบ โคลวัสกี้ แฟนหนุ่มของ ควีนนี่ โกลสตีน แม่มดสาวแห่งสหรัฐอเมริกา โดยใช้วาทะกรรมของการแต่งงานข้ามสายเลือดนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ

แต่เขาโดยเปิดโปงการใช้มนต์สะกดโดย นิวท์ สคามันเดอร์ เนื่องจากในคืนที่ชิงกิเลนนั้น มีกิเลนอยู่ 2 ตัว จึงทำให้กิเลนที่มีสายตามองความบริสุทธิ์คำนับให้กับ วิเซนเซีย ซานโตส รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์จากประเทศบราซิล และได้ตามหากิรนเดลเวัลด์เพื่อที่จะดำเนินคดี ฐานเปิดเผยบทบัญญัติปกปิดความลับพ่อมดแม่มดนานาชาติ

เรื่อง: ซินญอรี่

“...นบเถิงแถน แนนแมนฟ้า อันว่าฝ่ายฝูงข้า สักกาวรณ์มาอ้อนป่าว ทวยเทพไท้ผู้เป็นเจ้า เนาฟ้าวิมานสรวง…”

“แถน” หรือ “พญาแถน” เทพศักดิ์สิทธิ์ของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปรากฏอยู่ในการรับรู้โดยทั่วไปของชาวอีสาน แถนเป็นเทพที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประเพณีอันเกี่ยวของโดยตรงกับสังคมเกษตรกรรม โดยเฉพาะแผ่นดินที่ราบสูง จากความเชื่อที่ว่า “แถน เทพวัสสกาล” ซึ่งหมายถึงเทพผู้ทำหน้าที่บันดาลให้ฝนฟ้าอากาศตกต้องตามฤดูกาล ทำให้แถนกลายเป็นเทพที่ชาวอีสานให้การเคารพนับถือ

ประเพณีและพิธีกรรมที่ปรากฏในสังคมอีสาน อย่างประเพณีบุญบั้งไฟ พิธีกรรมรำผีฟ้าผีแถน พิธีเหยา และประเพณีที่เกี่ยวกับขวัญ ต่างมีความเชื่อที่มีรากเดียวกันมาจากเรื่องแถน และเป็นที่สังเกตว่าพิธีกรรมเหล่านี้มักจะใช้สตรีเพศ ในการทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเพื่อติดต่อสื่อสารกับพญาแถน เช่น การจ่ายกาพย์เซิ้งบั้งไฟที่จะต้องใช้ผู้หญิงเป็นผู้จ่ายกาพย์เซิ้ง พิธีกรรมเหยาจะต้องใช้เพศหญิงเป็นเจ้าพิธี เหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกับรากวัฒนธรรมและสังคม “มาตาธิปไตย” ในเอเชียอุษาคเนย์

ไม่นานมานี้ การประกวด Miss Universe Thailand 2023 ในรอบชุดประจำชาติ ที่เฟ้นหาชุดประจำชาติเพื่อเข้าร่วมการประกวด Miss Universe 2023 เป็นที่น่าสะดุดตากับชุดผู้เข้าประกวด MUT48 เชอรี่ จรรยา ต้นงาม MUT Maha Sarakham กับชุดที่มีชื่อว่า “นบเถิงแถน” ชื่อของชุดถูกตั้งขึ้นผ่านคำในภาษาอีสาน มีความหมายถึงการบูชาเทพพระเจ้าที่ชื่อพญาแถน สวมใส่ด้วยความสง่างามผ่านสตรีผู้ถูกเลือกในฐานะที่เธอเป็นตัวแทนจาก จ. มหาสารคาม

แนวคิด แรงบันดาลใจ และวัสดุที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของชุด ผ่านการออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้คอนเซปต์ “แถน นาค น้ำ” ถูกอธิบายผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “อรรคฮาตสี” ไว้อย่างน่าสนใจว่า

“บุญบั้งไฟ หนึ่งในพิธีขอฝนจากพิธีทั้ง 9 ซึ่งผสานความเชื่อจากทั้งศาสนาผี และศาสนาพุทธ เชื่อมร้อยความหลากหลายจากพหุวัฒนธรรมในสังคมกสิกรรม ผ่านการจ่ายกาพย์เซิ้งโดยสตรีผู้นำจ่ายกาพย์เซิ้ง สะท้อนภาพสตรีผู้นำสังคมอย่างความเชื่อมาตาธิปไตย สตรีผู้เป็นสื่อกลางในการส่งสาร สื่อสาร กับจักรวาล ผี และทวยเทพ อันเหนือขึ้นไปกว่าโลกและมนุษย์”

วัสดุในการสร้างสรรค์ชุดนี้ เป็นมากกว่าวัสดุเพื่อการสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดความสวยงามแก่ผู้สวมใส่ แต่วัสดุเหล่านี้ต่างอ้างอิงจากองค์ประกอบจริงของชุดสตรีผู้จ่ายกาพย์เซิ้งบั้งไฟ ผ่านการออกแบบ ตัดเย็บ และสร้างสรรค์ขึ้นจนกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของชุด

“ไหม ไหมคำ ทองเหลือง ปีกแมลงทับ กระจกเกรียบ ลูกปัดไม้ ผ้าและเครื่องประดับทั้งหมด ทอและปักขึ้นใหม่ โดยเน้นความเป็นเส้นสาย จุด สี เพื่อให้สัมพันธ์กับแนวคิดนาคและนำ ถูกสร้างสรรค์จนกลายเป็นลวดลายและสัญลักษณ์ที่มาจากแรงบันดาลใจข้างต้น”

ธีรวัฒน์ เจียงคำ ผู้บริหารวงโปงลางอรรคฮาตสีและเจ้าของผลงานการออกแบบ เปิดเผยความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวขณะสร้างสรรค์ชุดนี้ร่วมกับคณะผู้ทำงาน ถึงความงดงามของชุดและการเล่าเรื่องความเป็นชาติพันธุ์ผ่านผืนผ้า ไว้อย่างน่าสนใจว่า

“ในบางมุม มันอาจจะเป็นแค่ชุดพื้นเมือง เขาก็ว่า หาที่ไหนก็มี แต่ระหว่างกระบวนการทำงาน เราก็แค่อยากลอง ลองทำกันตั้งแต่ตัวตั้งต้น เริ่มที่ผืนผ้า ย้อมกี่เขียว ย้อมกี่แดง ทอเองเพื่อปัก ปักกี่ฝีเข็มก็ปัก ไหมคำไหมสี ปีกแมงทับเลื่อม ไปจนถึงกระจกเกรียบ เก็บลายผ้าใหม่เพื่อทอเป็นสิ่น เป็นผ้าปกหัว ตัดเป็นเสื้อ เย็บมือแทบจะทั้งหมด สานไหมคำเข้าไปในโครงร่มทีละเส้น ดุนลายปิดยอด ขีดเขียนร่างๆ ก้มหน้ากมตา เราทำเองที่บ้านทั้งหมด กลางลานใต้ต้นไม้ มันคงเป็นชุดพื้นเมืองธรรมดาจริงๆ นั่นแหละ ในสายตาใครหลายๆ คน แต่เราก็ภูมิใจที่เราได้ทำ ได้ทดลองที่จะทำมัน ในแบบของเรา ในบริบทของเรา ขอบคุณทีมอรรคฮาตสีทุกคน ที่ฝ่าฟันฝันเฟื่องมาด้วยกัน”

ชุดนี้ได้รับรางวัล Cultural Textile Award สร้างความภาคภูมิใจให้กับคณะผู้สร้างสรรค์ผลงาน ชาวจ.มหาสารคาม และชาวอีสานทุกคนที่มีความเชื่อต่อเทพศักดิ์สิทธิ์องค์เดียวกันคือ “พญาแถน”

แหล่งข้อมูล:
อรรคฮาตสี
ธีรวัฒน์ เจียงคำ
Miss Universe Thailand
MUT Maha Sarakham
#อรรคฮาตสี #นบเถิงแถน