เบาหวาน ฟื้นฟูตรงจุด หยุดด้วย RPQ

เบาหวาน ฟื้นฟูตรงจุด หยุดด้วย  RPQ

ฟื้นฟูเบาหวานที่สาเหตุของโรค ปรับค่าน้ำตาลสู่ภาวะสมดุล ฟื้นฟูเซลล์ และหลอดเลือดอักเสบ

เชค อาการเป็นโรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลสูง
👉 ปัสสาวะบ่อย
👉ผิวแห้ง เป็นแผลหายช้า
👉ตาพร่ามัว
👉ชาตาม มือ เท้า
👉เหนื่อยง่าย
👉น้ำหนักลงผิดปกติ
👉หิวบอยขึ้น ดื่มน้ำบ่อย
👉นอนไม่หลับ
หากมีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัณญาน ของโรคเบาหวาน
#RPQ สมุนไพรที่ตอบโจทย์คนเป็นโรคเบาหวาน วิจัยมาโดยตรง
✅ ใส่ใจทุกอาการ
✅แนะนำอย่างถูกต้อง
✅จัดส่งรวดเร็ว
1กล่อง มี30แคปซูล
ส่งข้อความสั่งชื้อหรือสอบถามโปรโมชั่น 085-861-4565
Whatsapp+66858614565

15/09/2022

ความสำคัญของตับอ่อน
ตับอ่อน (Pancreas) เป็นอวัยวะที่คนมักเข้าใจผิดและสับสนกับตับ (Liver) ทั้งที่สองอวัยวะนี้มีความแตกต่างกันอย่างมากและอยู่คนละตำแหน่งในช่องท้อง เนื่องจากเวลาเกิดโรคอาจมีอาการบางอย่างคล้ายคลึงกัน

ตับอ่อนเป็นอวัยวะหนึ่งในช่องท้อง อยู่บริเวณช่องท้องส่วนบน และวางพาดในแนวขวาไปซ้าย ตำแหน่งจะอยู่ค่อนไปทางด้านหลังเมื่อเทียบกับอวัยวะอื่น ๆ และอยู่ใกล้ชิดกับอวัยวะสำคัญหลายอย่าง

หน้าที่ตับอ่อน
ตับอ่อนมีหน้าที่สำคัญ ได้แก่

ผลิตเอนไซม์ (Enzyme) หลายชนิด เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร ทั้งคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน เอนไซม์ที่สำคัญ เช่น อไมเลส (Amylase) และไลเปส (Lipase)
ผลิตฮอร์โมน (Hormones) ที่สำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น อินซูลิน (Insulin) และกลูคากอน (Glucagon)
ดังนั้นหากเกิดโรคที่ทำให้ตับอ่อนเสียหน้าที่ย่อมส่งผลให้ร่างกายย่อยอาหารและควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี

15/08/2022

ภาวะแทรกซ้อน...อันตรายที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องระวัง!
การที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ มีผลให้หลอดเลือดเกิดเสื่อมสภาพ...และกลายเป็นโรคแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ไตวาย โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคอัมพฤกษ์อัมพาต เป็นต้น โดยมักจะไม่แสดงอาการในระยะแรก ทำให้ยากต่อการรักษาเพื่อให้อวัยวะต่างๆ เหล่านั้นกลับมาทำงานได้เป็นปกติ ดังนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงควรดูแลตัวเองด้วยการ...
- ควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงคนปกติ
- ควบคุมความดันโลหิต
- ลดอาหารหวาน มัน เค็ม ลดคาร์โบไฮเดรต เพิ่มผักและผลไม้ที่มีใยอาหาร
- ควบคุมน้ำหนักตัว และ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- รับประทานยา และ พบแพทย์สม่ำเสมอตามนัด
- คุมระดับไขมันโคเลสเตอรอลให้ได้ตามเกณฑ์
- หยุดสูบบุหรี่

31/07/2022

หน้าที่ตับ
ตับมีบทบาทหน้าที่สำคัญมากมายซึ่งเปรียบได้กับศูนย์กลางการทำงานภายในร่างกายหรือเรียกว่าเป็นโรงงานใหญ่ภายในร่างกายซึ่งมีหน้าที่หลัก 3 ส่วนคือ

ตับเป็นผู้ผลิต ตับสร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอรวมถึงโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นส่วนประกอบของเลือด (plasma proteins) เช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำ สารอาหารและเกลือแร่เอาไว้ในหลอดเลือด, สร้างโปรตีน ไฟบริโนเจน(Fibrinogen)ซึ่งถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับเพื่อทำให้เลือดแข็งตัว และตับยังสร้างน้ำดี ที่ทำหน้าที่เผาผลาญ สลายไขมัน ทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเป็นไขมันพอกตับหรือตับอักเสบ และป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็งตับได้ รวมทั้งตับยังมีหน้าที่สร้างสารประเภทไขมัน สารตั้งต้นของฮอร์โมน ตับทำหน้าที่ทางภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันและทำลายเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย
ตับเป็นผู้เก็บ ตับเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน รวมถึงวิตามินและเกลือแร่บางชนิดที่จำเป็น เพื่อส่งให้ร่างกายเมื่อร่างกายต้องการ
ตับเป็นผู้เปลี่ยน ตับเปลี่ยนแปลง อาหาร และยา ให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้และตับยังมีหน้าที่ช่วยล้างพิษ กรองสารพิษในเลือด และขับของเสียออกจากร่างกาย โดยตับจะพยายามขับออกไปทางปัสสาวะหรือขับถ่ายมา

15/07/2022

เบาหวาน (Diabetes Mellitus) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อชนิดหนึ่ง ทำให้ตับอ่อนไม่สามารถผลิตหรือหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมาให้มากเพียงพอ ที่จะใช้เปลี่ยนน้ำตาลที่ร่างกายได้รับจากอาหารพวกแป้งให้เกิดเป็นพลังงานที่ใช้สำหรับเคลื่อนไหว และการทำงานของอวัยวะต่างๆ หรือเก็บสะสมน้ำตาลไว้ในร่างกายทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่าปกติ ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลสูงขึ้นมากจนเกินความสามารถของไตที่จะกักเก็บเอาไว้ได้แล้ว น้ำตาลส่วนเกินก็จะถูกขับออกมาในปัสสาวะพร้อมกับน้ำ ทำให้ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะมีรสหวาน เราจึงเรียกโรคนี้ว่า ‘เบาหวาน’

13/07/2022

ท่าน ดร.ออย รัตติรส คนการณ์ นักวิจัย รางวัล 3 เหรียญทองจาก 75 ประเทศ ทั่วโลก ให้ข้อมูลเบาหวาน ที่เจาะลึก ค่ะ เบาหวาน เบาใจได้ 0858614565

05/07/2022

อาการของโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานในระยะแรกจะไม่แสดงอาการผิดปกติ บางรายอาจตรวจพบโรคเบาหวานเมื่อพบภาวะแทรกซ้อนขึ้นแล้ว อาการของโรคเบาหวานแต่ละชนิดอาจมีความคล้ายกัน ซึ่งอาการที่พบส่วนใหญ่ คือ กระหายน้ำมาก ปากแห้ง ปัสสาวะบ่อย หิวบ่อย น้ำหนักลดหรือเพิ่มผิดปกติ สายตาพร่ามัว เห็นภาพไม่ชัด รู้สึกเหนื่อยง่าย มีอาการชาโดยเฉพาะมือและขา บาดแผลหายยาก เป็นต้น ทั้งนี้ อาการของโรคเบาหวานประเภทที่ 1 จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โรคเบาหวานประเภทที่ 2 จะแสดงอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์มักเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 24-28 สัปดาห์

สาเหตุของโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานมีหลายประเภท สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ เบาหวานประเภทที่ 1 (Type 1 Diabetes) เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ เบาหวานประเภทที่ 2 (Type 2 Diabetes) เกิดจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ หรือเกิดภาวะการดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) และเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes) ซึ่งเป็นโรคเบาหวานที่พัฒนาขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์จากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน โดยที่ผู้ป่วยไม่เคยเป็นโรคเบาหวานมาก่อน

นอกจากโรคเบาหวานทั้ง 3 ประเภทแล้วยังมีโรคเบาหวานที่พบได้ไม่บ่อยอย่างโรคเบาหวานที่เกิดจากกรรมพันธุ์หรือแบบโมโนเจนิก (Monogenic Diabetes) อีกทั้งยังมีโรคเบาหวานจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การใช้ยา หรือเกิดจากโรคชนิดอื่นอย่างโรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) ด้วยhttps://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

Photos from เบาหวาน ฟื้นฟูตรงจุด หยุดด้วย  RPQ's post 02/07/2022

โรคเบาหวาน คือภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงกว่าปกติ
โรคเบาหวานเกิดขึ้นได้อย่างไร ..??

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงในผู้ป่วยเบาหวานเป็นผลมาจากการขาดฮอร์โมน “อินซูลิน” หรือประสิทธิภาพการทำงานของ “อินซูลิน” ลดลง ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้ตามปกติ



โรคเบาหวานสามารถแบ่งออกเป็นชนิดใหญ่ ๆ ได้สองชนิด

โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เลย หรือผลิตได้น้อยมาก และมักตรวจพบตั้งแต่วัยเด็ก หรือเริ่มเข้าวัยผู้ใหญ่ ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 มักต้องรับการรักษาด้วยการฉีดอินซูลิน
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเบาหวานชนิดที่พบมากในผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่ในประเทศไทย (ประมาณร้อยละ 95) และผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่ทั่วโลก
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 นั้น ตับอ่อนยังคงผลิตอินซูลินได้ แต่อาจผลิตในปริมาณที่ไม่เพียงพอ เพราะอินซูลินที่ผลิตออกมาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งทางการแพทย์เรียกภาวะนี้ว่า ภาวะดื้อต่ออินซูลิน

https://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

11/04/2022

อาการของน้ำท่วมปอดชนิดเฉียบพลัน
หายใจไม่อิ่มอย่างรุนแรง หรือหายใจลำบากเมื่อนอนลง
หอบ หรือรู้สึกเหมือนจมน้ำ
หายใจมีเสียงหรือหายใจลำบาก
กระสับกระส่าย สับสน วิตกกังวล
ไอมีเสมหะเป็นฟองสีชมพู
เจ็บหน้าอกหากมีสาเหตุมาจากโรคหัวใจ
ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว

10/04/2022

ป้องกันตัวเองจากไขมันทรานส์ กินอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ

การเลี่ยงบริโภคอาหารที่มีไขมันทรานส์ส่งผลให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงกับภาวะโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองอันเป็นสาเหตุการเสียชีวิตลำดับต้นๆ ของประเทศ โดยควรเลือกการรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันตัวเองจากไขมันทรานส์ ดังนี้

ในแต่ละวันควรรับประทานไขมัน ไม่เกิน 30% ของพลังงาน หรือ 2-3 ช้อนชาต่อมื้ออาหาร
– (ไขมัน 1 กรัม ให้พลังงาน ถึง 9 แคลอรี)
– ไขมันทรานส์ ไม่ควรเกิน 2 กรัม
– ไขมันไม่อิ่มตัว ไม่ควรเกิน 20 กรัม
อ่านฉลากอาหารและฉลากโภชนาการก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ โดยหลีกเลี่ยงฉลากที่มีคำว่า Hydrogenated Oil เปรียบเทียบปริมาณไขมันทรานส์กับผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน เลือกที่เป็น 0
เลี่ยงอาหารที่ทำจากเนยเทียม เช่น ครัวซองต์ คุกกี้
เลือกรับประทานไขมันดี โอเมก้า-3 ได้แก่ ปลา เต้าหู้ แซลมอน น้ำมันคาโนลา และอาหารที่มีไขมันต่ำ กากใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชขัดสีน้อย
เลือกใช้น้ำมันให้ถูกประเภท โดยใน 1 ครัวเรือน ควรมีน้ำมันมากกว่า 1 ขวด
– เมนูผัด ทอดธรรมดา ใช้น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว ในปริมาณน้อย
– เมนูทอดกรอบ ใช้น้ำมันปาล์ม เพราะทนความร้อนได้นานกว่า
– ไม่ควรใช้น้ำมันถั่วเหลือง เนื่องจากมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ทำให้เกิดเป็นควันง่าย ที่อุณหภูมิการทอดที่ต้องใช้ความร้อนสูง และทำให้เกิดสารโพลาร์ ตัวการสำคัญของสารก่อมะเร็ง
อ้างอิงข้อมูลจาก: โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล, สำนักงานคณะกรรมอาหารและยา
https://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

10/04/2022

โรคเบาหวานเกิดมาจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ ภาวะอ้วน หรือน้ำหนักเกิน อายุมาก การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น หัดเยอรมัน คางทูม โรคตับอ่อน ตับอ่อนอักเสบ หรือความเครียดเรื้อรัง รวมไปถึงขาดการออกกำลังกายเป็นประจำ

อาการของโรคเบาหวาน

ผู้ป่วยจะปัสสาวะบ่อยขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน
รู้สึกหิวน้ำบ่อยหรือหิวบ่อย รับประทานอาหารมาก
น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ แม้จะทานเยอะ
ผิวแห้งและเกิดอาการคัน
ตาพร่ามัว
ชาปลายมือปลายเท้า
หากมีแผลจะหายช้า
เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน

ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินเกณฑ์ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดร่วมกับโรคอื่นๆ อาทิ โรคไขมันเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคอ้วน โดยหากปล่อยทิ้งไว้นานจะส่งผลเสียและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานในอนาคต รวมไปถึงภาวะแทรกซ้อนอย่างโรคจอประสาทตาเสื่อมhttps://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

09/04/2022

ปวดหัวไมเกรนเป็นการปวดหัวที่เกิดจากการทำงานของสารสื่อประสาทที่ผิดปกติในสมอง โดยเป็นการปวดหัวชนิดที่มักจะเกิดในผู้หญิงอายุน้อย อาจจะปวดได้ตั้งแต่ปานกลางถึงรุนแรงมาก มักปวดข้างเดียว และมีคลื่นไส้ร่วมด้วย อาจมีตาพร่าเห็นแสงวาบก่อนจะมีอาการ และอาจจะมีความสัมพันธ์กับรอบเดือนได้ ส่วนความสัมพันธ์กับอาหารที่รับประทานนั้นยังไม่ชัดเจนว่าเป็นอาหารชนิดใด แต่สามารถสังเกตอาการตนเองได้ว่ารับประทานอาหารใดแล้วทำให้มีอาการก็ให้หลีกเลี่ยงไปค่ะ

การดูแลตัวเองเบื้องต้น หลีกเลี่ยงเรื่องที่ทำให้เครียด หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้มีอาการ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในที่สงบๆไม่มีสิ่งรบกวน และสามารถรับประทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์เพื่อช่วยบรรเทาอาการได้

ควรไปพบแพทย์เมื่อ ปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ทุเลาหลังพักหรือกินยา ปวดจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึก แขนขาอ่อนแรง หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด อาเจียนมากและอาเจียนพุ่ง หมดสติ หรือหากปวดไมเกรนกำเริบหลายครั้งต่อปี ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องได้ยาเพื่อป้องกันการกำเริบของไมเกรนร่วมด้วย
https://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

09/04/2022

การกินของหวานแล้วเวียนหัวนั้น อาจเกิดจากว่าเลือดทั้งหมดวิ่งไปเลี้ยงที่กระเพาะอาหารหรือลำไส้ทำให้มีช่วงที่เลือดไปเลี้ยงสมองลดลงทำให้มีปัญหาวิงเวียนได้ ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่อันตราย พบได้ในคนปกติ หากพอหลังจากนั้นซักพัก อาการเวียนหัวดีขึ้นได้เอง ก็ไม่มีอันตรายอะไร

โรคอื่นๆที่เป็นไปได้เช่นโรคที่ทำให้เวียนศีรษะ เช่นมีน้ำในหูไม่เท่ากัน เนื่้องอกที่สมองหรือประสาทการทรงตัว หรือการเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งผู้ป่วยจะไม่สามารถเอาน้ำตาลไปใช้ได้ทำให้วิงเวียน อ่อนเพลียตลอดเวลา ตัวเล็ก น้ำหนักน้อย

ดังนั้น หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อหนัก หรือ อาหารที่ต้องใช้การย่อยนานๆ รับประทานอาหารอ่อนๆและสุกสะอาด ดื่มน้ำมากๆ สังเกตอาการ ถ้ายังไม่ดีขึ้น และมีคลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักลด เดินเซร่วมด้วยควรรีบไปพบแพทย์

https://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

08/04/2022

ยาขับปัสสาวะ คือยาซึ่งมีผลโดยตรงต่อไตทำให้การดูดซึมกลับของน้ำและเกลือแร่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกลือโซเดียมเข้าสู่ร่างกายลดน้อยลง เป็นเหตุให้น้ำและเกลือโซเดียมถูกขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะมากขึ้นจึงเป็นผลทำให้ปริมาณน้ำและเกลือแร่ในร่างกายลดลงและสามารถนำยากลุ่มนี้มาใช้เพื่อลดอาการบวมน้ำ (Edema) หรือภาวะที่มีน้ำคั่งในร่างกายมากเกินไป อาการบวมที่เกิดจากภาวะคั่งน้ำนั้นอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายประการ คือ ในภาวะหัวใจวายแบบคั่งน้ำ (Congestive heart failure) หัวใจจะไม่สามารถบีบตัวได้ตามปกติทำให้เลือดผ่านไตน้อยลง การกรองน้ำและเกลือแร่ผ่านไตก็ลดน้อยลงอย่างมากจนทำให้เกิดอาการบวม ซึ่งส่วนใหญ่จะสังเกตเห็นได้ชัดในบริเวณเท้า ในกรณีที่เป็นโรคไตการขับปัสสาวะจะเกิดขึ้นน้อยลงทำให้เกิดอาการบวมได้เช่นกัน ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับมักจะมักจะมีน้ำในช่องท้อง(ท้องมาน, ascites) ชัดเจนกว่าบวมตามเท้า ทั้งนี้เนื่องจากความดันในระบบเลือดไหลเวียนผ่านตับ (Portal stem) สูงจนสามารถผลักดันน้ำให้ออกไปกระจายอยู่ในช่องท้องได้ ในภาวะขาดโปรตีนก็อาจจะทำให้เกิดอาการบวมทั่วตัวได้เนื่องจากโปรตีนในกระแสเลือดจะมีส่วนช่วยดึงน้ำให้อยู่ในระบบหมุนเวียนของเลือด การขาดโปรตีนจึงเป็นผลทำให้น้ำซึมออกมาจากเส้นเลือด และกระจายแทรกอยู่ในเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกายได้ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุอาการ บวมชนิดใด ยาขับปัสสาวะก็จะมีผลลดอาการบวมได้ทั้งนั้น แต่ประสิทธิภาพในการรักษาอาจจะดีหรือต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดและประสิทธิภาพของยานั้นๆ

https://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

08/04/2022

https://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

ทำความรู้จักตับอ่อนและโรคของตับอ่อน
ถ้าพูดถึงตับทุกคนคงร้องอ๋อ แต่ถ้าพูดถึงตับอ่อน อาจฟังแล้วไม่คุ้นหูทั้งๆที่ตับอ่อนเป็นอวัยวะสำคัญที่แพทย์มักเปรียบเปรยว่าเป็นเสมือนหัวใจของช่องท้อง


ตับอ่อนคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร
ตับอ่อนเป็นอวัยวะที่อยู่ตรงช่องท้องส่วนบนค่อนไปทางหลัง ลักษณะยาวๆแบนๆ ขนาดประมาณ 6 นิ้ว มีลักษณะคล้ายปลาทู โดยที่ส่วนหัวของปลาทู อยู่ทางด้านขวาของร่างกาย และอยู่ต่อกับลำไส้เล็กและท่อน้ำดี อยู่ใกล้กับตับ ไตข้างขวา และถุงน้ำดี ส่วนคอของปลาทูถูกล้อมรอบด้วยเส้นเลือดใหญ่จำนวนมาก ส่วนตัวของปลาทูอยู่ด้านหลังของกระเพาะอาหาร และส่วนหางของปลาทูอยู่ระหว่างม้ามและไตข้างซ้าย ค่อนไปทางด้านซ้ายบนของช่องท้องด้านหลัง ด้านหลังของตับอ่อนจะเป็นกลุ่มเส้นประสาท เส้นเลือดแดงใหญ่ และกระดูกไขสันหลัง ตับอ่อนมีหน้าที่หลักอยู่ 2 อย่าง คือหลั่งน้ำย่อยและสร้างฮอร์โมน น้ำย่อยในตับอ่อนทำหน้าที่ย่อยโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมัน รวมไปจนถึงวิตามินต่างๆที่ต้องดูดซึมร่วมกับไขมันเช่นวิตามินเอ ดี อี และเค นอกจากนี้ตับอ่อนยังมีหน้าที่สร้างฮอร์โมนที่สำคัญหลายชนิด เช่น อินซูลิน ดังนั้นตับอ่อนจึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดด้วย

โรคของตับอ่อนมีอะไรบ้าง
โรคที่เกิดกับตับอ่อนมีหลายโรค โรคที่คุ้นเคยและพบได้บ่อยคือโรคตับอ่อนอักเสบ มะเร็งตับอ่อนและถุงน้ำในตับอ่อน

ตับอ่อนอักเสบ แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ อักเสบแบบเฉียบพลันและอักเสบแบบเรื้อรัง
ตับอ่อนอักเสบแบบเฉียบพลัน สาเหตุใหญ่มี 2 อย่างคือ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับนิ่วในถุงน้ำดีที่ปลิวลงมาอุดท่อของตับอ่อน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดที่ท้องเหนือสะดืออย่างรุนแรง และในบางรายจะปวดร้าวไปข้างหลังจนต้องมาโรงพยาบาล ในรายที่เป็นรุนแรงอาจถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ผู้ป่วย 1 ใน 5 รายยังอาจเกิดตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันซ้ำๆทำให้เป็นตับอ่อนอักเสบเรื้อรังได้
ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง เกิดจากการที่ตับอ่อนอักเสบบ่อยๆเป็นเวลานานจนเกิดพังผืด ผู้ป่วยอาจปวดท้องไม่มากแต่มักมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ ท้องอืด ท้องเสียเรื้อรัง น้ำหนักลด หรือเป็นโรคกระดูกพรุนเนื่องจากขาดวิตามินดีมาเป็นเวลานาน
มะเร็งตับอ่อน มะเร็งตับอ่อนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 7 ของมะเร็งทั่วโลก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเสียชีวิตภายใน 1 ปี สาเหตุอาจมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ มีโรคอ้วน เป็นเบาหวานหรือทำงานเกี่ยวกับสารเคมีบางอย่าง ส่วนน้อยคือกรรมพันธุ์ในครอบครัว แรกๆมักไม่มีอาการและอาการขึ้นอยู่กับว่าก้อนมะเร็งไปกดเบียดอวัยวะใดที่อยู่ล้อมรอบ ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดท้องเรื้อรัง น้ำหนักลด ตัวเหลืองตาเหลือง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ท้องเฟ้อและลำไส้อุดตัน
ถุงน้ำในตับอ่อนหรือซีสต์ พบได้บ่อยประมาณ 7 ถึง 14 เปอร์เซ็นต์ในประชากรทั่วไป และพบได้มากถึง 40% ในคนที่มีอายุเกิน 70 ปี ถุงน้ำในตับอ่อนมีหลายชนิด ที่ต้องระวังคือถุงน้ำในตับอ่อนชนิดข้นและมีขนาดใหญ่มากกว่า 3 เซนติเมตรเพราะมีโอกาสมากกว่า 10% ที่จะกลายเป็นมะเร็งตับอ่อน

08/04/2022

ไขมันทรานส์ อันตรายอย่างไร ?

โดยปกติแล้ว ไขมันอิ่มตัวในอาหารที่เราทานเข้าไปก็จะไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ในร่างกายอยู่แล้ว แต่ไขมันทรานส์นี่ร้ายกาจกว่าไขมันอิ่มตัวเป็น 2 เท่า เพราะนอกจากจะเพิ่ม LDL แล้ว ยังไปลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) อีกต่างหาก จึงเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้สูงขึ้น และอีกสารพัดโรคที่จะตามมาทั้งโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ตับทำงานผิดปกติ นิ่วในถุงน้ำดี จอประสาทตาเสื่อม เสี่ยงอัลไซเมอร์ ฯลฯ

ไขมันทรานส์ ไม่ควรทานเกินเท่าไหร่ ?

ถ้าไม่ทานได้ยิ่งดี แต่เอาเข้าจริง ๆ คงเลี่ยงกันยาก ดังนั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงแนะนำว่า ไม่ควรกินอาหารที่มีไขมันทรานส์เกิน 1% ของพลังงานที่เราได้รับต่อว่า ซึ่งพลังงานเฉลี่ยที่ควรได้รับอยู่ที่ 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน ก็เท่ากับว่าเราไม่ควรทานอาหารที่มีไขมันทรานส์เกิน 2.2 กรัมต่อวัน หรือคิดเป็น 0.5 กรัม (500 มิลลิกรัม) ต่อหน่วยบริโภค เพื่อสุขภาพดี

อาหารที่มีไขมันทรานส์สูง มีอะไรบ้าง ?

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ไขมันทรานส์ แฝงอยู่ในอาหารหลากหลายชนิด รวมทั้งขนมอร่อย ๆ ที่เห็นแล้วชวนให้น้ำลายสอ อย่างเช่น

ขนมอบ เบเกอรี่ ที่มักใช้มาร์การีน วิปปิ้งครีม เนยขาว (ชอตเทนนิ่ง) ชีสเป็นส่วนผสม เช่น โดนัท ขนมเค้ก พาย คุกกี้ เวเฟอร์ บราวนี่ พิซซ่า ครัวซองต์ แซนวิช ขนมเปี๊ยะ โรตี ป๊อปคอร์นที่ใช้เนยเทียมคั่ว
เครื่องดื่มสำเร็จรูป ประเภทที่มีครีมเทียม วิปปิ้งครีม นมข้นหวาน นมข้นจืด ส่วนผสมเหล่านี้บางชนิดก็มีไขมันทรานส์
อาหารทอดซ้ำ เช่น ปาท่องโก๋ กล้วยแขก ไก่ทอด หมูทอด มันฝรั่งทอด
อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งตกอกตกใจว่าจะทานขนมเหล่านี้ไม่ได้เลยนะคะ เพราะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่แต่ละร้านใช้ประกอบอาหารด้วย บางร้านอาจจะไม่ได้ใช้เนยเทียม มาร์การีน หรือครีมเทียมก็ได้ เช่น เบเกอรี่โฮมเมด หรือข้าวโพดคั่วที่ใช้เนยสด ร้านเครื่องดื่มที่ใช้นมสดแทนครีมเทียม หรือบางร้าน บางแบรนด์ก็ระบุไว้เลยว่า “ไม่มีไขมันทรานส์” ดังนั้นถ้าไม่อยากเสี่ยงไขมันทรานส์ก็ต้องเลือกทาน

https://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

08/04/2022

ภาวะน้ำท่วมปอด (Pulmonary edema) หรือภาวะปอดบวมน้ำ เกิดจากการมีของเหลวในถุงลมปอดมากผิดปกติ ทำให้การแลกเปลี่ยนกำซลดลง ผู้ป่วยจึงเกิดอาการต่าง ๆ จากการมีระดับออกซิเจนในเลือดลดลงหากไม่รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

อาการ

หายใจหอบเหนื่อยขณะที่ออกแรง หรือหายใจไม่สะดวกเวลานอนราบเมื่อโรคมีความรุนแรงมากขึ้นอาจมีอาการหอบเหนื่อยแม้ไม่ได้ออกแรง
มีอาการไอ เหนื่อย หรือแน่นหน้าอก
มีอาการบวมที่แขนหรือขา
สาเหตุ

สาเหตุจากการบีบและคลายตัวของกล้ามเนื้อหัวใจลดลง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในหัวใจมากขึ้นและมีแรงดันย้อนกลับไปที่ถุงลมปอด เช่น ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจโตภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ภาวะลิ้นหัวใจตีบหรือรั่ว ปัจจัยส่งเสริม ได้แก่ ความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ดี ภาวะโปรตีนในเลือดต่ำ ไตทำงานลดลง (ไตเสื่อมหรือไตวาย)
สาเหตุอื่นนอกจากการทำงานของหัวใจ เช่น ภาวะการหายใจล้มเหลวฉับพลัน การได้รับยาหรือสารเสพติดบางชนิด การได้รับเลือดหรือส่วนประกอบของเลือดหรือภาวะน้ำท่วมปอดจากการขึ้นที่สูง
https://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

07/04/2022

โรคเบาหวาน

หากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ จะมีอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ สายตาพร่ามัว เหงื่อออกมาก ใจสั่น และหมดสติ หากอาการไม่รุนแรงยังสามารถขับรถได้ แต่หากอาการรุนแรง ห้ามขับรถโดยเด็ดขาด หากจำเป็นต้องขับรถควรเตรียมอาหาร ลูกอม น้ำหวานไว้รับประทาน เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้หมดสติ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ

โรคความดันโลหิตสูง

โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่เสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงกะทันหัน โดยเฉพาะเมื่อต้องพบเจอกับความเครียดบนท้องถนน หากความดันขึ้นสูงมากๆ ก็อาจถึงขั้นหน้ามืดเป็นลม หรือที่ร้ายกว่านั้นคือเกิดเส้นเลือดในสมองแตกได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ

นอกจากนี้ หากผู้ป่วยโรคใดๆ ก็ตามที่ทานยาบางชนิดที่มีฤทธิ์ง่วงซึมก็ควรหลีกเลี่ยงการขับรถเช่นกัน เพราะเมื่อไปขับรถจะเกิดอาการมึนงง หลับใน ตัดสินใจช้า ตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้ช้า ดังนั้นจึงมีคำแนะนำให้นอนพักผ่อนหลังทานยาประเภทนี้

https://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

EP18 : ขมิ้นชันสารพัดประโยชน์ ! - 👩🏼‍⚕️ หมอปุ้ม พญ. สิรนาถ สุขภาพดี คุณมีได้ 06/04/2022

https://youtu.be/e4QmqvLLbkQ

ในRPQ มีสารสกัดเคอร์คูมินอยด์ ในขมิ้นชันเข่มข้นค่ะ

EP18 : ขมิ้นชันสารพัดประโยชน์ ! - 👩🏼‍⚕️ หมอปุ้ม พญ. สิรนาถ สุขภาพดี คุณมีได้ สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้หมอจะมาแบ่งปันความรู้เรื่องขมิ้นชันกับเพื่อนๆกันค่ะขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่ดีสุ.....

Photos from เบาหวาน ฟื้นฟูตรงจุด หยุดด้วย  RPQ's post 05/04/2022

Stroke หรือ โรคหลอดเลือดสมอง คือ ภาวะที่ทำให้เซลล์สมองถูกทำลาย อาจเกิดจากหลอดเลือดสมองตีบ อุดตัน หรือแตก ทำให้ขัดขวางการลำเลียงเลือดซึ่งนำออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์สมอง ส่งผลให้สมองสูญเสียการทำหน้าที่จนเกิดอาการของอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

22/03/2022

โทษของ น้ำอัดลม มีมากกว่าที่คุณคิด



น้ำอัดลม เครื่องดื่มยอดนิยมที่สามารถหาซื้อดื่มได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป ช่วยให้รู้สึกคลายร้อน คลายความกระหาย และรู้สึกสดชื่นได้ แต่โทษของน้ำอัดลมก็มีโทษต่อร่างกายมากเช่นกัน ดังต่อไปนี้



โรคอ้วน / น้ำหนักขึ้น

น้ำอัดลม เป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมอยู่มาก โดยมีปริมาณน้ำตาลประมาณ 30 – 45 กรัม ซึ่งปริมาณน้ำตาลที่เราควรบริโภคต่อวัน คือ ไม่ควรเกิน 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชา ซึ่งหากคุณรับประทานน้ำอัดลมเพียง 1 กระป๋องหรือ 1 ขวด จะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณน้ำตาลที่เกินต่อความจำเป็นของร่างกาย โดยปริมาณน้ำตาลที่มากเกินไป น้ำตาลจะเข้าไปสะสมในร่างกาย ทำให้เป็นโรคอ้วน หรือโรคเบาหวานได้



เป็นแผลในกระเพาะอาหาร

น้ำอัดลม มีส่วนผสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่อัดในน้ำอัดลม ที่เกิดเป็นกรดคาร์บอนิก ทำให้น้ำอัดลม เป็นเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด สามารถกัดกร่อนได้ โดยมีค่า pH อยู่ที่ 3-5 ซึ่งถือได้ว่าเป็นค่าความเป็นกรดสูง กรดจะทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหาร

หากทานน้ำอัดลมบ่อย ๆ อาจส่งผลให้เป็นแผลในกระเพาะได้ โดยอาการนี้คุณสามารถรู้สึกได้หากดื่มน้ำอัดลมไป แล้วรู้สึกแสบท้องในเวลาต่อมา ยิ่งโดยเฉพาะหากคุณดื่มน้ำอัดลมในช่วงก่อนอาหารหรือตอนท้องว่าง น้ำอัดลมจะยิ่งกัดกร่อนกระเพาะอาหารได้โดยตรง ทำให้เป็นแผลในกระเพาะได้ง่าย



ฟันผุ

น้ำตาล ที่เป็นส่วนประกอบในน้ำอัดลมหรืออาหารชนิดอื่น ถือว่าเป็นอาหารชั้นดี ของแบคทีเรียภายในช่องปาก เพราะหากมีน้ำตาลตกค้าง ภายในช่องปาก แบคทีเรียจะ เข้าไปจับกับน้ำตาล ทำให้กลายเป็นคราบหินปูนได้ในที่สุด ซึ่งเมื่อมีคราบหินปูนเกาะ อยู่ตามฟันของเราอยู่เรื่อย ๆ เป็นเวลานาน จะทำให้สุขภาพเหงือกอ่อนแอ เกิดโรคเหงือกอับเสบ และเกิดฟันผุได้ รวมไปถึง สุขภาพฟันด้านอื่น ๆ ตามมา



เกิดโรคกระดูกพรุน

การดื่มน้ำอัดลม สามารถส่งผลให้ความหนาแน่นของมวลกระดูก ลดน้อยลง เนื่องจาก น้ำอัดลม มีกรดฟอสฟอริก ( Phosphoric ) เป็นส่วนประกอบมากๆ จึงเป็นปัจจัยเสี่ยง ต่อภาวะแคลเซียมในเลือดลดต่ำลง ( Hypocalcemia ) เนื่องจากกรดจะไปยับยั้งการดูดซึมแคลเซียม จนอาจทำให้เกิดการสูญเสียมวลกระดูกได้ จึงเป็นสาเหตุให้เกิดโรคกระดูกพรุน นั่นเอง



นอนไม่หลับ

น้ำอัดลมบางชนิดมีส่วนผสมของคาเฟอีนที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น มีการตื่นตัวได้ แต่ข้อเสียของคาเฟอีน ก็ทำให้ร่างกายมีการตื่นตัวมากเกินไป โดยเฉพาะหากคุณดื่มน้ำอัดลมในช่วงกลางคืนหรือก่อนนอน จะทำให้เป็นสาเหตุให้นอนไม่หลับ หรือหลับยากได้



โรคหัวใจและหลอดเลือด

ปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่มากในน้ำอัดลม จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับไขมัน และฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความอิ่มในทางที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดได้สูง



น้ำอัดลม ถือได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีคุณค่าทางสารอาหาร ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเลย แถมยังมีน้ำตาลสูง คาเฟอีนสูง และแคลอรี่สูง เสี่ยงต่อการเกิดโรคและโทษต่าง ๆ ตามที่กล่าวว่าข้างต้นได้

https://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

18/03/2022

มือเท้าชา” อย่านิ่งนอนใจ อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคปลายประสาทอักเสบ
มือเท้าชา อาการเหน็บชา หรือ ชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า เป็นอาการที่พบมากในกลุ่มวัยทำงาน เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน กิจกรรมที่ต้องใช้มือมากทำให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่ทั่วถึงจนเกิดอาการชา หรือร่างกายมีระดับธาตุและวิตามินผิดปกติ แต่หากเกิดขึ้นบ่อยๆ และทวีความรุนแรงมากขึ้น อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่เกี่ยวกับปลายประสาทอักเสบ ฉะนั้นแล้วเราจึงไม่ควรนิ่งนอนใจหากมีอาการมือเท้าชาบ่อยครั้ง

ทำความรู้จัก “ปลายประสาทอักเสบ”
ปลายประสาทอักเสบ เป็นกลุ่มอาการของเส้นประสาท ซึ่งทำหน้าที่รับคำสั่งจากสมองและไขสันหลัง ไปยังอวัยวะต่างๆ หากเส้นประสาทจุดใดจุดหนึ่งมีปัญหา อาจส่งผลให้อวัยวะส่วนนั้นทำงานผิดปกติ และเกิดอาการชาตามปลายมือปลายเท้า ไม่สามารถรับรู้ได้ถึงอาการเจ็บปวด แสบร้อน สั่นสะเทือน หรือไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้นได้

ความสำคัญของ “เส้นประสาท”
เส้นประสาท ทำหน้าที่รับและส่งข้อมูลเข้าออกจากสมอง ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย หากเส้นประสาททำงานผิดปกติ จะส่งให้อวัยวะส่วนนั้นๆ ทำงานผิดปกติไปด้วย โดยเส้นประสาทแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

เส้นประสาทในสมอง ควบคุมจากสมองโดยตรง ไม่ผ่านไขกระดูกสันหลัง ควบคุมการทำงานของประสาทสัมผัสต่างๆ เช่น การมองเห็น การได้กลิ่น การลิ้มรส การทรงตัว การกลืนอาหาร การขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้า การออกเสียง และควบคุมกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ คอ ลิ้น
เส้นประสาททั่วไป กระจายอยู่ทั่วร่างกาย เป็นเส้นประสาทที่ต่อมาจากไขกระดูกสันหลัง ดูแลกล้ามเนื้อของอวัยวะต่างๆ
ปัจจัยเสี่ยงโรคปลายประสาทอักเสบ
เส้นประสาทปลอกหุ้มเส้นประสาทอักเสบ จากภาวะภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ
มีความผิดปกติแต่กำเนิดหรือ พันธุกรรมจากครอบครัว ที่เคยเป็นโรคเกี่ยวข้องกับเส้นประสาททำงานผิดปกติ
มีประวัติการติดเชื้อจากโรคใดโรคหนึ่ง
ระดับน้ำตาลในเลือดสูง เสี่ยงต่อโรคเส้นประสาทที่เกิดจากโรคเบาหวาน
ทำงานโดยใช้ข้อมือมากๆ อาจเสี่ยงเป็นโรคเส้นประสาทบริเวณข้อมือถูกกดทับ
เป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคไต ภาวะขาดวิตามินอย่างรุนแรง เช่น วิตามินบี 12 หรือภาวะโปรตีนในเลือดสูงผิดปกติ
รู้หรือไม่ อาการชาปลายมือปลายเท้า อันตราย เสี่ยงอัมพาต!
อาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้าลามถึงสะโพก เป็นอีกหนึ่งอาการชาที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะหากปล่อยไว้นานๆ อาจเป็นโรคอัมพฤกษ์-อัมพาตได้ ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากกระดูกสันหลังหักกดทับเส้นประสาท

Photos from เบาหวาน ฟื้นฟูตรงจุด หยุดด้วย  RPQ's post 14/03/2022

https://sonicsalepage.com/salepage/index.php?pid=10033

อย่าเฉย…เมื่อชา เพราะอาการชา อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสัญญาณอันตราย


“ชาตามปลายมือปลายเท้า” หลายคนเคยเกิดอาการนี้ บางคนมีอาการเพียงชั่วครู่ บางคนมีอาการนานกว่านี้ แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ทำให้เกิดความรำคาญได้ ในระยะแรกๆ มักไม่รบกวนชีวิตมากเท่ากับอาการปวด แต่ก็เป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบประสาท ดังนั้นจึงควรหาสาเหตุและวิธีการแก้ไขอาการ ก่อนที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงอย่างอื่นตามมา

อาการชาเป็นอาการผิดปกติของระบบประสาท รับความรู้สึก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะที่นิ้ว มือ แขน เท้าหรือขา เป็นอาการที่มีความรู้สึกเจ็บ ปวด ร้อน หรือเย็นน้อยกว่าปกติหรือไม่มีความรู้สึกเลย บางคนอาจรู้สึกซ่าๆ ที่ปลายมือปลายเท้าหรือบริเวณอื่นหรือมีอาการเหมือนมีอะไรยุบยิบๆ ตามปลายมือปลายเท้า แล้วก็หายไปหรือเป็นตลอด ซึ่งอาการชาจะเกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทส่งความรู้สึกของบริเวณที่เป็น ทำงานบกพร่องไปแล้วอย่างน้อย50% โดยถ้าเส้นประสาทส่งความรู้สึกทำงานบกพร่องไปอย่างช้าๆ อาจไม่รู้สึกถึงความผิดปกติและมักตรวจพบได้ยาก แต่ถ้าเกิดการบกพร่องไปอย่างรวดเร็วจะเกิดอาการที่ชัดเจน

อาการมือเท้าชาสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาจเกิดจากการนั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานาน ทำให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่ทั่วถึง หรืออาจมีสาเหตุจากโรคบางโรค เช่น โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท งูสวัด เบาหวาน ปวดศีรษะไมเกรน ลมชัก หลอดเลือดสมอง เป็นต้น นอกจากนี้การได้รับสารอาหารไม่เพียงพอก็อาจเป็นสาเหตุของความเสียหายของเส้นประสาทได้เช่นกัน โดยเฉพาะการขาดวิตามินB ต่างๆ เพราะวิตามิน B เหล่านั้นมีความจำเป็นต่อเส้นประสาทที่มีสภาพสมบูรณ์ หากรู้สึกเหน็บชาหรือมีอาการปวดเสียวบริเวณมือหรือเท้า นั่นอาจแสดงว่าเส้นประสาทได้รับการบำรุงไม่เพียงพอ

12/03/2022

อาการแบบไหน...ที่เรียกว่า 'ภาวะเลือดข้น'
โดยทั่วไปอาการที่นำมานั้น มีได้ตั้งแต่ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย อ่อนแรง การมองเห็นผิดปกติ หน้าแดงผิดปกติ เหนื่อยง่าย เจ็บแน่นหน้าอก แต่ก็มีบางกลุ่มที่ไม่ได้มีอาการนำใดๆ มาก่อนเลย แต่ตรวจพบความผิดปกติจากการตรวจเลือด CBC (Com plete Blood Count)

'ภาวะเลือดข้น'...เกิดจากอะไร
ภาวะเลือดข้นมีหลายประเภท แต่ละประเภทจะแบ่งตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เช่น น้ำหนักตัวเกิน การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ปัญหาจากการผลิตเซลล์เม็ดเลือด หรือเป็นผลมาจากโรคต่างๆ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ภาวะเลือดข้นที่มีสาเหตุจากปริมาณน้ำเลือดหรือพลาสมาลดลง (Apparent Polycythemia) มักมีสาเหตุมาจากการที่มีน้ำหนักตัวเกิน การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก การใช้ยาขับปัสสาวะ หรือเป็นผลมาจากภาวะขาดน้ำในร่างกาย
ภาวะเลือดข้นที่มีสาเหตุจากไขกระดูกผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงออกมาในปริมาณที่มากเกินไป (Absolute Polycythemia) แบ่งได้ 2 ประเภท ดังต่อไปนี้
ไขกระดูกผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงมากผิดปกติ (Primary Polycythemia หรือ Polycythemia Vera) ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของสารพันธุกรรมเจเอเคทู (JAK2) ทำให้ไขกระดูกผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงในปริมาณที่มากผิดปกติ และผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดในปริมาณที่มากผิดปกติด้วยเช่นกัน มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ
การผลิตฮอร์โมนอีริโทโพอิติน (Erythropoietin) ในปริมาณที่มากเกินไป (Secondary Polycythemia) หรืออาจเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease: COPD) และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnoea) ส่งผลให้ออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ไม่เพียงพอ จึงผลิตฮอร์โมนอีริโทโพอิตินมากขึ้น
ปัญหาที่เกี่ยวกับไต เช่น เนื้องอกในไต หรือการตีบของหลอดเลือดแดงในไต เป็นต้น

05/03/2022

โดยปกติผู้หญิงจะติดเชื้อราในช่องคลอดอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต โดยเกิดจากการติดเชื้อราที่เรียกว่า “เชื้อราแคนดิดา” (Candida) หรือ “ยีสต์” ในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อราในช่องคลอดได้มากกว่าคนทั่วไป

01/03/2022

ข่าวดี มีวิธีบำบัด โรคเบาหวานแบบใหม่ ด้วยสมุนไพร เข้มข้น
8 ชนิด นวัตกรรมนาโน
- สมอพิเภก
- มะขามป้อม
- สมอไทย
- ผักเชียงดา
- พลูคาว
- มะระขี้นก
- ขมิ้นชัน
- ลูกหม่อน
ทางเลือกใหม่สมุนไพรบำบัด ฟื้นฟูเบาหวานที่สาเหตุของโรค ปรับค่าน้ำตาลสู่ภาวะสมดุล ฟื้นฟูเซลล์ และหลอดเลือดอักเสบ ต้นเหตุ...แก้ไข ปลายเหตุย่อมดีขึ้นด้วย สมุนไพรนวัตกรรม จากนักวิจัย รางวัลระดับโลก ณ แคนนาดา 2 ปีซ้อน

อย.เลขที่ 50-1-18363-5-0019
ส่งฟรี ชำระปลายทาง
สอบถามเพิ่มเติม
โทร.085-861-4565

01/03/2022

อาการของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ
จะมีลักษณะแตกต่างกันออกไปตามสภาพร่างกายของแต่ละคน โรคเส้นเลือดสมองตีบมักพบอาการดังต่อไปนี้

ปวดศีรษะ สายตาพร่ามัว
อัมพาตครึ่งซีก ใบหน้าบิดเบี้ยว สื่อสารไม่ได้
เสียการรับรู้ความรู้สึก การเคลื่อนไหวร่างกายและการทรงตัว เช่น รู้สึกชาตามตัว แขนขาอ่อนแรงหรือขยับไม่ได้ และเดินเซ เป็นต้น
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง มักมีไขมันสะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือดและกีดขวางการลำเลียงของเลือด ส่งผลทำให้เลือดแข็งทั่วร่างกาย
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะในกลุ่มนี้มีน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เกิดหลอดเลือดแข็งทั่วร่างกายได้เช่นกัน
การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก เพราะพวกนี้จะมีนิโคตินและคาร์บอนมอนนอกไซด์ที่ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนลดลง และเป็นตัวที่ทำลายผนังหลอดเลือด
ครอบครัวที่เคยมีประวัติเส้นเลือดในสมองตีบ
ผู้สูงอายุ เพราะอายุที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้หลอดเลือดเสื่อมตามไปด้วย

01/03/2022

โรคเส้นเลือดในสมองตีบ (Ischemic Stroke) เป็นภาวะที่สมองขาดออกซิเจนและเลือดไปเลี้ยง โดยเกิดการหนาตัวของผนังหลอดเลือดจากการมีไขมันมาสะสมตามผนังหลอดเลือด ส่งผลให้เลือดไหลผ่านไปได้น้อยลง ซึ่งถ้าเกิดการสะสมและหนามาก จะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ เกิดความเสียหายต่อบริเวณนั้น ๆ ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมอวัยวะและระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ ซึ่งในบางรายอาจกลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือมีอาการผิดปกติ เช่น ตามองไม่เห็น ชาครึ่งซีก เป็นต้น แต่หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็จะมีโอกาสลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

สาเหตุของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เกิดจาก

ไขมันไปเกาะผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบแคบและขาดความยืดหยุ่น
เกิดจากการฉีกของผนังหลอดเลือดด้านใน ทำให้เส้นเลือดอุดตัน
เกิดลิ่มเลือดขนาดเล็กแข็งตัวและเกาะที่ผนังหัวใจและลิ้นหัวใจ จากนั้นหลุดลอยตามกระแสเลือดไปอุดตันหลอดเลือดในสมอง

Videos (show all)

ท่าน ดร.ออย รัตติรส คนการณ์ นักวิจัย รางวัล 3 เหรียญทองจาก 75 ประเทศ ทั่วโลก ให้ข้อมูลเบาหวาน ที่เจาะลึก ค่ะ เบาหวาน เบา...
ท่าน ดร.ออย รัตติรส คนการณ์ นักวิจัย รางวัล 3 เหรียญทองจาก 75 ประเทศ ทั่วโลก ให้ข้อมูลเบาหวาน ที่เจาะลึก ค่ะ เบาหวาน เบา...
ข่าวดี มีวิธีบำบัด โรคเบาหวานแบบใหม่ ด้วยสมุนไพร เข้มข้น8 ชนิด นวัตกรรมนาโน- สมอพิเภก - มะขามป้อม- สมอไทย- ผักเชียงดา- พ...
ข่าวดี! เบาหวาน มีทางออกแล้วค่ะ ผลงานนักวิจัยหญิงระดับโลกของไทย 2 ปีซ้อน จากแคนนาดา แก้ปัญหาเบาหวานที่ต้นเหตุ ฟื้นฟูตับอ...
ข่าวดี! เบาหวาน มีทางออกแล้วค่ะ ผลงานนักวิจัยหญิงระดับโลกของไทย 2 ปีซ้อน จากแคนนาดา แก้ปัญหาเบาหวานที่ต้นเหตุ ฟื้นฟูตับอ...
โรคความดันโลหิตสูงถือเป็นภัยเงียบที่น่ากลัวต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหัวใจของเรา ทำให้เกิดโรคร้ายตามมา ไม่ว่าจะเป็น...