Learn AI

📢 เมื่อคุณมีข้อมูลจำนวนมาก อยากจะนำไปใช้ประโยชน์
เริ่มยังไงดี เรียนรู้ไปพร้อมกัน กับ...
“การค้นหาโครงสร้างภายในข้อมูลด้วย
Unsupervised Learning ในภาษา Python”
พบกับเทคนิคการทำ Unsupervised Learning ในภาษา Python ตั้งแต่
📕การแบ่งกลุ่มข้อมูลด้วย Clustering Algorithm
📗การแบ่งกลุ่มแบบจำแนกลำดับขั้นด้วย Hierarchical Clustering
📘การสร้างภาพนิทัศน์ข้อมูล (Data Visualization)
ตามหลักสถิติศาสตร์ด้วยเทคนิค Principal Component Analysis (PCA)
t-Distributed Stochastic Neighbor Embedding (t-SNE)
📔พร้อมทั้งวิธีแปลผลลัพธ์ของ Unsupervised Learning
เพื่อการสร้างคุณค่าในองค์กรของคุณ
📌 ฟรี !! จำนวนจำกัด เพียง 100 คนเท่านั้น
📌ลงทะเบียนก่อนมีสิทธิก่อนผ่านทาง
https://forms.gle/GGa664EdbBr6Wdmx9
🗓 อบรมวันที่ 9 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 09:00 - 16:00 น.
📌 แบบออนไลน์ ผ่านโปรแกรม ZOOM
📝 หมายเหตุ :ควรมีความรู้พื้นฐานหลักการสถิติและความน่าจะเป็น
และการเขียนโปรแกรมภาษา Python เบื้องต้น
# Data

Learn AI ขอแนะนำกิจกรรมดีๆ !!
พบกับเทคนิคด้าน Generative AI ใหม่ ๆ
ที่กำลังอินเทรนด์ ไขความลับเบื้องหลัง
ความฉลาดของ ChatGPT และ
Large Language Model (LLM)
อัปเกรดไปให้สุด ด้วยการสร้างเลขา AI ส่วนตัว
จากโมเดล AI ที่สร้างขึ้นเอง

พบกันวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน นี้
ตั้งแต่เวลา 09:00 น. ถึง 16: 00 น

ในรูปแบบออนไลน์ ผ่านโปรแกรม ZOOM
ใครมีความรู้พื้นฐานการเขียนโปรแกรม
ภาษา Python เบื้องต้นควรเข้าร่วมอย่างยิ่ง 😁

มี workshop
ไม่มีค่าใช้จ่าย !
ด่วน!! จำนวนจำกัด
ลงทะเบียนกันเลย https://forms.gle/35pejoEaw7vYEw6q9
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทาง e-mail :
[email protected]

📢 🎉 ประกาศผลผู้ได้รับคัดเลือกเข้าร่วม
โครงการ Hands-on Deep Learning with Pytorch:
From Online to In-Person Workshop !!

👏 ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ผ่านการคัดเลือก
เข้าร่วมโครงการ สำหรับผู้ที่ได้รับการคัดเลือก
กรุณาตรวจสอบรายชื่อได้ที่ 👉
https://kmutt.me/AcceptedParticipants

🗓 ระยะเวลาการอบรม : 26-27 สิงหาคม 2566
(เวลา 09:00 - 16:30 น)
📌 สถานที่ : ณ ห้อง LX12/2 ชั้น 12
ของอาคาร Learning eXchange (LX) KMUTT
(126 ถ. ประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140)
👏 ไม่มีค่าใช้จ่าย รับจำนวนจำกัด !
📝 หมายเหตุ :ผู้สมัครควรมีความรู้พื้นฐาน
ด้าน programming และ machine learning เบื้องต้น
👉 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.facebook.com/Learnaithailand

เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดย
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
————-
Follow us at 🤓👉
🚀 Facebook: Learn AI
🔬 Website: https://learn-ai.in.th
#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

🧨 ปิดรับสมัครแล้วสำหรับโครงการ
Hands-on Deep Learning with Pytorch:
From Online to In-Person Workshop !!
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจ
และส่งใบสมัครเข้าร่วมโครงการอย่างล้นหลาม
สำหรับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ
จะประกาศผลให้ทราบในวันที่ 21 สิงหาคม 2566
ผ่านช่องทาง 👉 Facebook: Learn AI

🗓 ระยะเวลาการอบรม : 26-27 สิงหาคม 2566 (เวลา 09:00 - 16:30 น)
📌 สถานที่ : ณ ห้อง LX12/2 ชั้น 12 ของอาคาร Learning eXchange (LX) KMUTT (126 ถ. ประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140)
👏 ไม่มีค่าใช้จ่าย รับจำนวนจำกัด !
📝 หมายเหตุ :ผู้สมัครควรมีความรู้พื้นฐานด้าน programming และ machine learning เบื้องต้น
👉 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.facebook.com/Learnaithailand

เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
————-
Follow us at 🤓👉
🚀 Facebook: Learn AI
🔬 Website: https://learn-ai.in.th
#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

📢 วันสุดท้ายแล้วสำหรับการเปิดรับสมัคร
โครงการ Hands-on Deep Learning with Pytorch:
From Online to In-Person Workshop !!

📝 อย่าพลาดกับโอกาสที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับ
ปัญญาประดิษฐ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง!!
สำหรับทุกคนที่มีความสนใจสามารถลงทะเบียน
เพื่อร่วมเรียนรู้ได้ที่ 👉 https://kmutt.me/HandsonDeepLearning

🗓 ระยะเวลาการอบรม : 26-27 สิงหาคม 2566 (เวลา 09:00 - 16:30 น)
📌 สถานที่ : ณ ห้อง LX12/2 ชั้น 12 ของอาคาร Learning eXchange (LX) KMUTT (126 ถ. ประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140)
👏 ไม่มีค่าใช้จ่าย รับจำนวนจำกัด !
📝 หมายเหตุ :ผู้สมัครควรมีความรู้พื้นฐานด้าน programming และ machine learning เบื้องต้น
👉 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.facebook.com/Learnaithailand

เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
————-
Follow us at 🤓👉
🚀 Facebook: Learn AI
🔬 Website: https://learn-ai.in.th

📢 เหลือเวลาสมัครเพียง 3 วันเท่านั้นสำหรับโครงการ
Hands-on Deep Learning with Pytorch:
From Online to In-Person Workshop !!

🎓 งานนี้เราจะพาทุกคนมาทบทวนบทเรียน
วิชาโครงข่ายประสาทเทียม ตั้งแต่พื้นฐาน
การเขียนโมเดล ตลอดจนการใช้ Deep Learning
สำหรับ Computer Vision และ
Natural Language Processing (NLP)
ทดลอง ChatGPT prompt สำหรับใช้งานในรูปแบบต่างๆ
รวมถึงเนื้อหาพิเศษสำหรับผู้ร่วม workshop โดยเฉพาะ
นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่จะได้พบกับ
วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์
จาก Biomedical and Data Lab
ภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์
มหาวิทยาลัยมหิดลอีกด้วย
ภายในงานจะบรรยายเป็นภาษาไทยตลอดงาน

📝 อย่าพลาดกับโอกาสที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับ
ปัญญาประดิษฐ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง!!
สำหรับทุกคนที่มีความสนใจสามารถลงทะเบียน
เพื่อร่วมเรียนรู้ได้ที่ 👉 https://kmutt.me/HandsonDeepLearning

🗓 ระยะเวลาการอบรม : 26-27 สิงหาคม 2566 (เวลา 09:00 - 16:30 น)
📌 สถานที่ : ณ ห้อง LX12/2 ชั้น 12 ของอาคาร Learning eXchange (LX) KMUTT (126 ถ. ประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140)
👏 ไม่มีค่าใช้จ่าย รับจำนวนจำกัด !
📝 หมายเหตุ :ผู้สมัครควรมีความรู้พื้นฐานด้าน programming และ machine learning เบื้องต้น
👉 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.facebook.com/Learnaithailand

เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
————-
Follow us at 🤓👉
🚀 Facebook: Learn AI
🔬 Website: https://learn-ai.in.th
#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

📢 เหลือเวลาสมัครเพียง 7 วันเท่านั้น
สำหรับโครงการ Hands-on Deep Learning with Pytorch: From Online to In-Person Workshop !!

🎓 สำหรับโครงการ Hands-on Deep Learning with Pytorch : From Online to In-Person Workshop
เราจะพาทุกคนมาทบทวนบทเรียน
วิชาโครงข่ายประสาทเทียม ตั้งแต่พื้นฐาน
การเขียนโมเดล ตลอดจนการใช้
Deep Learning สำหรับ Computer Vision
และ Natural Language Processing (NLP)
ทดลอง ChatGPT prompt สำหรับใช้งาน
ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงเนื้อหาพิเศษ
สำหรับผู้ร่วม workshop โดยเฉพาะ
นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่จะได้พบกับ
วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์
จาก Biomedical and Data Lab
ภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์
มหาวิทยาลัยมหิดลอีกด้วย
ภายในงานจะบรรยายเป็นภาษาไทยตลอดงาน

📝 อย่าพลาดกับโอกาสที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง!! สำหรับทุกคนที่มีความสนใจ สำหรับทุกคนที่มีความสนใจ สามารถลงทะเบียนเพื่อร่วมเรียนรู้ได้ที่ 👉
https://kmutt.me/HandsonDeepLearning

🗓 ระยะเวลาการอบรม : 26-27 สิงหาคม 2566 (เวลา 09:00 - 16:30 น)
📌 สถานที่ : ณ ห้อง LX12/2 ชั้น 12 ของอาคาร Learning eXchange (LX) KMUTT (126 ถ. ประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140)
👏 ไม่มีค่าใช้จ่าย รับจำนวนจำกัด !
📝 หมายเหตุ :ผู้สมัครควรมีความรู้พื้นฐานด้าน programming และ machine learning เบื้องต้น
👉 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.facebook.com/Learnaithailand

เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
————-
Follow us at 🤓👉
🚀 Facebook: Learn AI
🔬 Website: https://learn-ai.in.th
#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

📢 เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับกิจกรรม
Hands-on Deep Learning with Pytorch:
From Online to In-Person Workshop !!

กลับมาอีกครั้งกับ On-Site Workshop
ที่จัดโดยทีมงาน Learn AI งานนี้เราจะพาทุกคน
มาทบทวนบทเรียนวิชาโครงข่ายประสาทเทียม
ตั้งแต่พื้นฐานการเขียนโมเดล ตลอดจนการใช้
Deep Learning สำหรับ Computer Vision
และ Natural Language Processing (NLP)
ทดลอง ChatGPT prompt สำหรับใช้งาน
ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงเนื้อหาพิเศษ
สำหรับผู้ร่วม workshop โดยเฉพาะ นอกจากนี้
ยังเป็นโอกาสที่จะได้พบกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ
ด้านปัญญาประดิษฐ์ จาก Biomedical and Data Lab
ภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์
มหาวิทยาลัยมหิดลอีกด้วย ภายในงาน
จะบรรยายเป็นภาษาไทยตลอดงาน

กิจกรรม Hands-on Deep Learning with Pytorch:
From Online to In-Person Workshop
เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ สำหรับทุกคนที่มีความสนใจ
สามารถลงทะเบียนเพื่อร่วมเรียนรู้ได้ที่ 👉
https://kmutt.me/HandsonDeepLearning

🗓 ระยะเวลาการอบรม : 26-27 สิงหาคม 2566
(เวลา 09:00 - 16:30 น)
📌 สถานที่ : ณ ห้อง LX12/2 ชั้น 12
ของอาคาร Learning Exchange (LX) KMUTT
(126 ถ. ประชาอุทิศ แขวงบางมด
เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140)
👏 ไม่มีค่าใช้จ่าย รับจำนวนจำกัด !
📝 หมายเหตุ :ผู้สมัครควรมีความรู้พื้นฐาน
ด้าน programming และ machine learning เบื้องต้น
👉 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ :
https://www.facebook.com/Learnaithailand

เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนา
โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
————-
Follow us at 🤓👉
🚀 Facebook: Learn AI
🔬 Website: https://learn-ai.in.th
#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

จะเป็นอย่างไร? หาก AI เข้ามาเป็นผู้ช่วยนักเขียน 📝
AI Writer เป็นเทคโนโลยี Machine Learning ที่ช่วยให้มนุษย์เราทำงานได้ดีขึ้น ประหยัดเวลาในการคิด และเขียนงานได้มากขึ้น ในบางบริษัทฯ มีการใช้ AI Writer เมื่อต้องการสร้างเนื้อหาสำหรับหัวข้อเฉพาะกลุ่ม เพื่อลดปัญหา Writer’s Block เมื่อเครื่องมือ AI มีความซับซ้อน และละเอียดมากขึ้นเรื่อย ๆ จะสามารถสร้างเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ามนุษย์ได้
AI Writer สามารถเขียนงานได้หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น การเขียนข้อความโฆษณาสั้น ๆ, การเขียนบทความยาว ๆ, การเขียนเชิง SEO ไปจนถึงการคิดไอเดียสำหรับคอนเทนต์วิดีโอ โดยที่เราสามารถตั้งค่า Tone of Voice (น้ำเสียงในงานเขียน) บวกกับตั้งค่าระดับความคิดสร้างสรรค์ของข้อความได้ ทำให้ AI Writer เขียนเนื้อหาออกมาได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที สามารถทำงานปริมาณมากได้ในเวลาอันสั้น อีกทั้งยังมีไอเดียที่ดี และแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือพร้อมเพิ่มคุณภาพงานเขียนให้กับเราได้อีกด้วย
เชื่อว่าเทคโนโลยี AI ในอนาคตข้างหน้าจะล้ำสมัย และมีประโยชน์กับงานอีกหลากหลายประเภท เพราะ AI เปรียบเสมือนผู้ช่วยที่ทำให้มนุษย์ทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถช่วยตัดสินใจและหาทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุดให้กับเราอีกด้วย
ดังนั้นเราทุกคนควรมีการเรียนรู้และเพิ่มทักษะเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อตอบโจทย์ทุก ๆ ด้านของการทำงานหรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตประจำวันให้สะดวกสบายมากขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจและพร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ลงทะเบียนเรียนกับ “Learn AI” ได้แล้ววันนี้ มีให้เลือกเรียนถึง 11 หลักสูตร 9 เนื้อหาการประยุกต์ใช้ ที่ https://learn-ai.in.th
ขอบคุณข้อมูลจาก https://magnetolabs.com/
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

จากข้อมูลสถิติแสดงให้เห็นว่าโลกของเราจะมีประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 9.1 พันล้านคน ภายในปี ค.ศ.2050 ทำให้ทั่วโลกต้องเร่งหาวิธีการ เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับข้อมูลสถานะของพืชที่ต้องการความแม่นยำสูงขึ้น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ ทรัพยากรการเกษตรของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนา จำเป็นต้องได้รับการจัดการที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปัจจุบันหลายประเทศได้ริเริ่มนำภาพถ่ายจากดาวเทียมความละเอียดสูงมาประยุกต์ใช้ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ เพื่อวิเคราะห์หาปัจจัยต่างๆที่อาจจะส่งผลต่อสุขภาพของพืชในพื้นที่กว้าง เพื่อการประเมินและติดตามอย่างใกล้ชิด อันจะนำไปสู่การพัฒนาปรับปรุงให้ผลผลิตทางการเกษตรมีคุณภาพมากขึ้น และลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทันท่วงที
ปัญญาประดิษฐ์ และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เมื่อทำงานสอดประสานกันจะกลายเป็นเครื่องมือสำหรับเกษตรกรยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการคาดการณ์ผลผลิต การควบคุมคุณภาพและการจัดการผลผลิตทางการเกษตร ผ่านการประยุกต์ใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียมหรือภาพถ่ายจากอากาศยานไร้คนขับซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของดัชนีพืชพรรณ (NDVI) ที่จะสามารถบ่งชี้สถานะโรคเครียดของพืช สถานการณ์ขาดแคลนน้ำของพืช เป็นต้น
ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในการวิเคราะห์ข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมและแสดงผลข้อมูลเชิงพื้นที่ ต่างก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์อย่างมากต่ออุตสาหกรรมการเกษตร
Smart Farmer หรือผู้ที่สนใจเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมไว้เป็นความรู้ขั้นพื้นฐานในการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้กับการทำงานหรือธุรกิจของตนเองเพื่อพัฒนาศักยภาพให้ผลงานหรือผลผลิตมีประสิทธิภาพให้ดีมากขึ้น
สามารถลงทะเบียนเพื่อเข้ามาศึกษาใน “Learn AI” เนื้อหาที่น่าสนใจ https://learn-ai.in.th/home/program3 และมีหลักสูตรอีกมากมายให้ได้เรียนรู้ แม้ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเรียนได้ คลิกเลย! ที่ https://learn-ai.in.th
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://www.gistda.or.th/
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

เมื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI สามารถทำให้เราคาดการณ์โรคที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเองได้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มป่วย การมีอายุยืนยาวดูจะเป็นไปได้ง่ายขึ้น เมื่อเรารู้เท่าทันโรคภัยไข้เจ็บและรักษาได้ทันท่วงที
Predictive Analytic (การวิเคราะห์แบบพยากรณ์) หนึ่งในนวัตกรรมทางด้านการแพทย์ใหม่ที่น่าสนใจ เป็นการทำงานที่ผสานสถิติจาก Big data กับการทำงานของ AI เข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้ข้อมูลภาพรวมเชิงสถิติรอบด้านของผู้ป่วยรวมถึงคนที่มีปัญหาสุขภาพด้านต่าง ๆ เช่น จุดต่าง จุดร่วม ลักษณะเฉพาะ ระยะเวลาการป่วย วิธีการรักษา สถิติการหาย สถิติการเสียชีวิต และเชื่อมต่อกับเทคโนโลยี AI เพื่อประมวลผลข้อมูลออกมาเป็นการพยากรณ์การเกิดโรคหรืออาการเจ็บป่วย ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนต่อการเกิดโรค และยังรวมถึงความเป็นไปได้ของการรักษาว่าใช้วิธีรักษารูปแบบใดที่น่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ยังมีความรู้เรื่องการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในทางการแพทย์อีกมากมาย
ผู้ที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับ เนื้อหาเรื่อง การประยุกต์ใช้ AI สำหรับการแพทย์ สามารถเข้ามาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://learn-ai.in.th/home/program3/AI304
และมีหลักสูตรอีกมากมายให้ลงทะเบียน และเริ่มเรียนได้แล้ววันนี้ ที่ https://learn-ai.in.th
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://www.ttbbank.com
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

Artificial Intelligence (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์ นับเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนการจัดการทางด้านโลจิสติกส์ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสนับสนุนระบบอัตโนมัติให้สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ต่าง ๆ ในอนาคตได้ โดยการสร้างและฝึกเครื่องจักรให้สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ที่เกินขีดความสามารถของมนุษย์ที่จะเรียนรู้ได้ โดยอาศัยเทคนิค Machine Learning และ Deep Learning ช่วยให้คิด วางแผน วิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยเหตุผล
มาดูกันว่าเทคโนโลยี AI ในวงการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ทำอะไรได้บ้าง..
1️⃣ ระบบคาดการณ์ล่วงหน้า: การประเมินสถานการณ์ผลิตสินค้าหรือการจัดเก็บสินค้า มีการนำ AI และ Machine Learning มาทำนายปริมาณความต้องการซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคล่วงหน้าได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิต สามารถนำข้อมูลมาประมวลผล โดยการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อประเมินความต้องการของตลาดในเบื้องต้น หากมีสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาด ภาคการผลิตจะสามารถผลิตสินค้านั้นออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว
2️⃣ วิเคราะห์คลังสินค้า: Computer Vision (CV) คือการนำเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ ทั้งภาพและวิดิโอมาประมวลผล โดยนำหลักทางคณิตศาสตร์เข้ามาช่วยในการพัฒนาเครื่องมือ ซึ่งปัจจุบันมีการนำ AI และ Machine Learning มาใช้งาน เช่น ระบบ CV ที่สามารถอ่านบาร์โค้ดสินค้าอัตโนมัติ และสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์ หรือกระทั่งการตรวจสอบและติดตามสินค้า เพื่อป้องกันการโจรกรรมหรือการละเมิดกฎความปลอดภัยภายในคลังสินค้าอีกด้วย
3️⃣ การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่ง: กระบวนการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน สามารถลดต้นทุนในการจัดส่งและทำให้กระบวนการจัดส่งสินค้ารวดเร็วขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาใช้ในการจัดหมวดหมู่และการวิเคราะห์การกำหนดเส้นทางในการจัดส่งสินค้า
4️⃣ การเลือกซัพพลายเออร์: การเลือกซัพพลายเออร์ในการจัดส่งสินค้าที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น เป็นสิ่งท้าทายอย่างมากในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ในปัจจุบันเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มีชุดข้อมูลการจัดการคัดเลือกซัพพลายเออร์ให้กับธุรกิจ ซึ่งมีการคาดการณ์และประเมินที่น่าเชื่อถือ ช่วยให้หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
5️⃣ วางแผนกำลังคน: การวางแผนกำลังคนเกี่ยวข้องกับกระบวนการต่างๆ เช่น การสรรหา การเก็บรักษา การพัฒนาพนักงาน การปรับใช้งานใหม่ การจัดการประสิทธิภาพและอื่นๆ ซึ่ง AI และ Machine Learning จะช่วยลดความซับซ้อนได้อย่างมาก และทำให้กลยุทธ์การวางแผนกำลังคนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.prachachat.net. และ https://www.prosoftgps.com
สำหรับผู้ที่สนใจการนำ AI มาประยุกต์ใช้งานในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถเข้ามาศึกษาใน “Learn AI” เนื้อหาที่น่าสนใจ https://learn-ai.in.th/home/program3 ได้ที่ https://learn-ai.in.th .
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

ในยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เทคโนโลยี AI ถูกพูดถึงมากที่สุด ในอุตสาหากรรมหรือหน่วยงานต่าง ๆ ด้วยวิธีการทำงานที่ฉลาด สามารถคิด วิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจได้เหมือนมนุษย์
ในระบบการศึกษาก็เช่นกัน เทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้เป็นผู้ช่วยให้กับครูในด้านต่าง ๆ โดยสามารถสร้างเนื้อหาการสอนที่มีความสมบูรณ์เทียบเท่ากับครูที่เป็นมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Netex Learning ที่คอยช่วยครูผู้สอนในการออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอน โดยใช้อุปกรณ์ช่วยหลายชนิด เช่น สื่อ เสียง วิดีโอ อีกทั้งเทคโนโลยี AI ยังสามารถช่วยตอบคำถามจากนักเรียนด้วยความรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำ ซึ่งเป็นการลดภาระในการตอบคำถามของครูผู้สอนลงได้
อีกหนึ่งหน้าที่ของครูผู้สอนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย คือ การตรวจการบ้าน ตรวจข้อสอบ รวมคะแนน เพื่อตัดเกรดตอนปลายภาคเรียน ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ นั้นมีจำนวนมหาศาล เป็นภาระที่หนักสำหรับบรรดาคุณครู แต่เทคโนโลยี AI สามารถเลียนแบบการประเมินนักเรียน โดยนำปัจจัยต่าง ๆ ภายในห้องเรียนมาวิเคราะห์ ซึ่งปัจจุบันระบบการให้เกรดโดยเทคโนโลยี AI มีบทบาทชัดเจนมากขึ้น ในรูปแบบของโปรแกรมการตรวจข้อสอบปรนัย (การเลือกช้อยส์) ซึ่งโปรแกรมประมวลเกรดดังกล่าว เริ่มมีการใช้กับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว เรียกได้ว่าเทคโนโลยี AI ช่วยให้ครูผู้สอนมีภาระงานลดลง และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในด้านอื่น ๆ ได้มากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.learneducation.co.th
การทำงานของเทคโนโลยี AI ในด้านต่าง ๆ มีอีกมากมายที่คุณอาจไม่รู้ สามารถเข้ามาศึกษาและเรียนรู้ไปพร้อมกันได้ใน “Learn AI” หลักสูตรและเนื้อหาการประยุกต์ใช้ที่น่าสนใจ ลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ ที่ https://learn-ai.in.th
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

ปัจจุบันเราใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยี เช่น AI เข้ามาช่วยจัดการปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นวาตภัย อุทกภัย ธรณีพิบัติภัย แต่รู้หรือไม่ว่าเทคโนโลยี AI ที่นำมาใช้ในงานเหล่านี้ต้องได้รับการฝึกฝนจนเข้าใจรูปแบบของข้อมูลภัยพิบัตินั้น ๆ เป็นอย่างดี

แล้ว AI ได้รับการฝึกฝนอย่างไรบ้าง ?
การฝึกฝน AI เพื่อสร้างรูปแบบของข้อมูลในการวิเคราะห์ เป็นการทำงานร่วมกันของข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมในระบบ SAR (Synthetic Aperture Radar) จำนวนมหาศาล ผนวกกับข้อมูลจากเซ็นเซอร์ตรวจวัด หรือข้อมูลจากโดรนปริมาณมาก ทำให้ AI สร้างรูปแบบของข้อมูลที่สามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้น และรายงานผลที่แม่นยำไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำให้การช่วยเหลือเกิดขึ้นได้ทันท่วงที ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และทันเวลา
ผู้ที่สนใจต้องการความรู้เพิ่มเติมหรือเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI เพื่องานด้านสิ่งแวดล้อมหรืองานในด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับสายงานหรือองค์กรของตนเอง สามารถลงทะเบียนเรียนฟรีได้แล้ววันนี้ ที่ https://learn-ai.in.th
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

ในยุคที่หลายต่อหลายคน ต่างมีความต้องการเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น และตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ว่าจะลองเปลี่ยนสายงานก็แล้ว ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวังสักที นั่นแปลว่าคุณยังขาดสิ่งที่เรียกว่า “การเพิ่มสกิล”
หลายคนมักคิดว่าความรู้หรือทักษะที่มีอยู่ของตัวเองนั้นเพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริง คนเราควรมีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
“Learn AI” หลักสูตรที่จะทำให้คุณเรียนรู้ จนสามารถนำไปต่อยอดกับสายงานต่าง ๆ ของคุณได้ เพราะมีให้เลือกเรียนถึง 11 หลักสูตร 9 เนื้อหาการประยุกต์ใช้ สอนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี AI ชั้นนำจากทั่วประเทศ
เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดกับสายงานต่าง ๆ ของคุณได้ใน Learn AI เนื้อหาเรื่อง การปรับใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในหน่วยงาน ได้ที่ https://learn-ai.in.th/home/program3/AI307
ยังมีหลักสูตรอีกมากมายให้ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียน และเริ่มเรียนได้แล้ววันนี้ ที่ https://learn-ai.in.th
✅ หลักสูตรออนไลน์ ครอบคลุมทุกเนื้อหา
✅ เรียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
✅ มีใบ Certificate รับรองผลการเรียน
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

ในยุคที่เทคโนโลยี AI ได้ถูกพัฒนาศักยภาพเร็วขึ้นมาก ๆ เช่นทุกวันนี้ จะเห็นได้ว่า AI สามารถทำในสิ่งที่เราคาดไม่ถึงได้มากมาย เช่น การวาดภาพ การเขียนบทความ การวินิจฉัยโรค แต่สิ่งเหล่านี้มนุษย์เราก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
ความพยายามที่จะใช้ AI ในการ ‘แปลภาษาสัตว์’ ทุกชนิด คือความพยายามให้ AI ทำลายขีดจำกัดของมนุษย์ที่ว่านั้น โปรเจกต์นี้เป็นขององค์กรไม่แสวงกำไรจากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ชื่อ Earth Species Project ซึ่งมีเป้าหมายง่าย ๆ คือต้องการจะแปลภาษาสัตว์ให้เป็นภาษาคน
แล้ว AI เรียนรู้ภาษาสัตว์ได้ยังไง? อธิบายแบบง่ายสุดก็คือ ทีมงานจะทำการบันทึกภาพและเสียงของพวกสัตว์ที่นำมาทำการทดลอง หลังจากนั้นก็จะทำการวิเคราะห์จากภาพวิดีโอที่ได้ว่า พวกสัตว์กำลังทำอะไร และเชื่อมโยงกับเสียงที่พวกมันเปล่งออกมาอย่างไร
บางคนอาจสงสัย ว่าแบบนี้มันต่างจากการเอาคนนั่งสังเกตสัตว์ว่ามันทำอะไร แล้วส่งเสียงยังไง? คำตอบคือไม่ต่าง แต่เวลาเราทำข้อมูลพวกนี้ให้เป็นดิจิทัล มันจะมีชุดข้อมูลมากมายมหาศาลเพื่อให้ AI วิเคราะห์ และ AI ยุคปัจจุบันก็ ‘อัจฉริยะ’ พอจะสร้างความเชื่อมโยงในข้อมูลจำนวนมากแบบที่มนุษย์สร้างไม่ได้
โปรเจกต์นี้ต้องการ ‘พิสูจน์’ ว่าสัตว์มีการสื่อสารกันที่ซับซ้อน และเพื่อให้คนได้รับรู้ เข้าใจในสิ่งที่สัตว์สื่อสารผ่านเสียงที่เปล่งออกมา โดยเฉพาะสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ และต้องการการอนุรักษ์ดูแลเป็นพิเศษ หากเราสามารถเข้าใจการสื่อสารของสัตว์ได้สังคมอาจจะหันมาสนใจสวัสดิภาพของสัตว์มากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.theguardian.com, / brandthink
การทำงานของเทคโนโลยี AI ในด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์และเราจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ มีอีกมากมาย เข้ามาศึกษาและเรียนรู้ไปพร้อมกันได้ใน “Learn AI” ลงทะเบียนและเริ่มเรียนได้แล้ววันนี้ ที่ https://learn-ai.in.th
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

การมีสุขภาพที่ดี สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญ คือ “อาหาร” นักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งในนิวยอร์ก พัฒนา Machine Learning ที่ใช้ Algorithm ในการจดจำรสนิยมการรับประทานอาหารเพื่อประกอบการแนะนำสูตรอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคลได้
โปรแกรมดังกล่าวจะสามารถบันทึกความชอบ/ไม่ชอบ อาหารที่แพ้ และอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางในการรับประทานอาหารที่เหมาะสม สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้ดีต่อสุขภาพ และเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้มีปัญหาโรคหัวใจ ซึ่งโปรแกรมนี้มีชื่อว่า “HEALS”
การทำงานของโปรแกรม “HEALS” จะใช้ AI Deep Learning ในการปรับคำแนะนำเกี่ยวกับสูตรอาหารและเวลาที่เหมาะสมของมื้ออาหารและของว่างในแต่ละวัน ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโปรแกรม “HEALS” จะต้องแจ้งรายละเอียดอาหารที่ชอบ เงื่อนไขต่าง ๆ รวมถึงปัญหาด้านสุขภาพ และเป้าหมายด้านโภชนาการของตนเอง เพื่อเป็นข้อมูลให้ระบบเรียนรู้พฤติกรรมการรับประทานอาหาร และจะสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องได้ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองรสนิยมการบริโภคของแต่ละบุคคล ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมสุขภาพที่ดีด้วย
ในปี 2017 มีสถิติผู้ป่วยโรคเบาหวาน 451 ล้านคนทั่วโลก และคาดว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นเป็น 693 ล้านคนภายในปี 2045 หากไม่มีการป้องกันหรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อาจจะมีผู้คนที่มีภาวะความเจ็บป่วยจากโภชนาการที่ไม่เหมาะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ หากมี Machine Learning เป็นตัวช่วยในการรับประทานอาหารให้ถูกต้องและเหมาะสม ก็จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการดูแลสุขภาพด้วยตนเองได้
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.weforum.org
ประโยชน์ของเทคโนโลยี AI ยังมีอีกหลากหลายด้าน สำหรับผู้ที่สนใจอยากเรียนรู้และศึกษาเนื้อหาที่น่าใจเกี่ยวกับ AI สามารถลงทะเบียนและเริ่มเรียนได้ตั้งแต่วันนี้ ที่ https://learn-ai.in.th

เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า.. คนรุ่นใหม่ในสังคมปัจจุบันนี้ มีแนวโน้มที่จะมีลูกลดน้อยลงเรื่อย ๆ
ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากความกังวลเรื่องปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อม, ความไม่แน่นอนต่าง ๆ รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทำให้คนรุ่นใหม่ตระหนักในเรื่องการสร้างครอบครัวมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จากสหราชอาณาจักรได้ทำนายไว้ว่า การเลี้ยงเด็กของมนุษย์ในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด อีกไม่นานผู้คนอาจจะนิยมเลี้ยงเด็กจากเทคโนโลยี AI ภายใน Metaverse ลูกดิจิทัลในโลกเสมือนจริง ที่มีแนวคิดคล้ายกับทามาก็อตจิ สัตว์เลี้ยงดิจิทัลที่เคยฮิตในยุค 90s
ความพิเศษของลูกใน Metaverse คือสามารถกำหนดหน้าตาให้เหมือนกับเจ้าของได้ เล่นและกอดได้ เด็กจะมีความสามารถในการตอบสนองต่ออารมณ์ มีพัฒนาการทางการพูดตั้งแต่วัยแบเบาะ และสามารถเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยเจ้าของสามารถเลือกได้ด้วยว่าอยากให้ลูกใน Metaverse ของตนเองเติบโตเร็วแค่ไหน
ฟังดูแล้วอาจเป็นเรื่องไกลเกินความจริงในเวลานี้ แต่เทคโนโลยีในอนาคตอาจมีการพัฒนาและก้าวหน้าจนทำให้เราไม่สามารถแยกทารกใน Metaverse กับเด็กในโลกแห่งความจริงได้เลยด้วยซ้ำ การเลี้ยงลูกเสมือนนี้ หากมีการจัดการอย่างถูกต้องเหมาะสม จะสามารถตอบโจทย์ครอบครัวที่อยากมีลูกแต่ไม่ต้องการแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนได้อีกด้วย คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าเทคโนโลยี AI จะพัฒนาไปถึงจุดไหนและจะช่วยแก้ปัญหาให้มนุษย์ได้มากน้อยเพียงใด

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.catdumb.com
ความสามารถของเทคโนโลยี AI ยังมีอีกมากมายให้ได้เรียนรู้
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถลงทะเบียนและเริ่มเรียนได้ที่ https://learn-ai.in.th
“Learn AI” หลักสูตรเรียนฟรี! แต่มีเวลาจำกัด!! ต้องรีบเลย!!!
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

มนุษย์เงินเดือนทุกคนต่างก็มีทักษะในสาขาที่ตนทำงาน แต่เนื่องจากเทคโนโลยีและสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา องค์กรต่าง ๆ จึงต้องการบุคลากรที่มีความรู้หลายด้านหรือพร้อมจะเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์การทำงานในยุคดิจิทัล
การเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยี ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยี AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และ AI ยังเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในตลาดงาน หลายคนมองว่า AI เป็นทักษะแห่งศตวรรษ เนื่องจากสามารถนำไปใช้งานได้อย่างไม่สิ้นสุด และในอนาคตจะต้องมีการพัฒนา AI ที่น่าอัศจรรย์มากกว่านี้อย่างแน่นอน
หากใครที่ไม่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี AI มาก่อน “Learn AI หลักสูตร101” https://lms.learn-ai.in.th/courses/course-v1:Learn-AI+AI101+2020_AI101/course/ จะช่วยเสริมสร้างความรู้ขั้นพื้นฐาน ให้คุณได้ทำความรู้จักเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ว่าคืออะไร? เกิดขึ้นและพัฒนาขึ้นมาได้อย่างไร?
มีหลักการในการทำงานและประยุกต์ใช้อย่างไร? มีอิทธิพลอย่างไรกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรา รวมถึงประโยชน์ต่าง ๆ ของเทคโนโลยี AI ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน
ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ที่จะทำให้คุณมีทักษะและสามารถนำไปต่อยอดกับการทำงานได้อีกมากมาย ที่ https://learn-ai.in.th หลักสูตรออนไลน์ ที่เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

ในยุคที่โลกแห่งเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
สิ่งสำคัญอย่างอินเทอร์เน็ตก็ย่อมต้องมีการพัฒนาไปด้วยเช่นกัน
หากลองมองไปรอบ ๆ ตัวตอนนี้ ไม่ว่าอะไรก็ล้วนต้องใช้อินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารแบบไร้พรมแดน, การค้นคว้าหาข้อมูล, การเข้าถึงความบันเทิง และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งปัจจุบันอินเทอร์เน็ตที่เราใช้กันจะเป็น Web 2.0 แต่ในอีกไม่ช้านี้ เรากำลังจะเข้าสู่ยุคของ Web 3.0 กันแล้ว
Web 3.0 กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยมีแนวคิดหลักคือ “เว็บไซต์กระจายศูนย์” หรือ Decentralized Web ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตัวกลางเป็นผู้คอยเก็บข้อมูลและดำเนินการเพียงผู้เดียวอีกต่อไป การเก็บข้อมูลจะเป็นแบบกระจายออกไปหลาย ๆ เครื่องเซิร์ฟเวอร์ แต่ละเครื่องจะมีการตรวจสอบข้อมูลให้ตรงกันเสมอ ทำให้ปลอดภัยต่อการปลอมแปลงหรือการแฮกข้อมูล
นอกจากนี้ อาจจะมีการนำเทคโนโลยีอย่างเช่นปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) เข้ามาช่วยจัดการข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เพื่อยกระดับการท่องอินเทอร์เน็ตให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในอนาคตอีกด้วย ดังนั้น Web 3.0 คือเว็บที่นอกจากผู้ใช้จะสามารถ “อ่าน” และ “เขียน” ได้แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถ “เป็นเจ้าของ (Own)” ได้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.finnomena.com และ https://th.jobsdb.com/th-th
การพัฒนาเทคโนโลยี AI ยังมีอีกหลากหลายด้าน ซึ่งคนในสายงานไอทีจำเป็นต้องเรียนรู้และอัปเดตอยู่เสมอ
สำหรับผู้ที่สนใจต้องการศึกษาความรู้ หรือเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยี AI สามารถลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรของ “Learn AI” เพื่อเปิดการเรียนรู้ สู่ทักษะแห่งอนาคต ได้ที่ https://learn-ai.in.th
“Learn AI” หลักสูตรเรียนฟรี! แต่มีเวลาจำกัด!! ต้องรีบเลย!!!.
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต

ปัจจุบันเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อชีวิตในแทบทุกมิติ น่าคิดว่าในอีกหลายสิบปีข้างหน้าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด น่าจะดีไม่น้อยถ้าเรามีทักษะพื้นฐานด้านดิจิทัล เพื่อปรับตัวสู่ Digital Transformation และรองรับความหลากหลายของเทคโนโลยีหรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ใช้ชีวิตประจำวันและทำงานได้อย่างราบรื่น ซึ่งทักษะพื้นฐานที่ว่านี้คือ “Digital Literacy”
“Digital Literacy” คือ ความสามารถในการเข้าใจ เข้าถึง และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีอยู่ในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนควรมี เพราะจะช่วยต่อยอดไปสู่ทักษะอื่น ๆ ส่วนสายงานที่ต้องการทักษะเฉพาะทาง อาทิ Digital Marketing จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือพื้นฐานที่จำเป็นต่อการทำงาน เช่น การเก็บข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์ผ่าน Google Analytics, การทำ SEM (Search Engine Marketing) ผ่าน Google Ads หรือมีความรู้ความเข้าใจในความแตกต่างของแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อสามารถนำไปวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกหรือวางกลยุทธ์ต่อได้
เมื่อขาดทักษะ Digital Literacy อาจส่งผลให้การทำงานติดขัดหรือล่าช้า แม้จะนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับการทำงานแล้วก็ตาม หากเราไม่เตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจทำให้ประสบกับความยากลำบากที่ต้องมาทำความเข้าใจเทคโนโลยีในภายหลัง นำไปสู่ภาวะหมดไฟในการทำงาน จนกระทั่งตัดสินใจลาออกได้
เพราะฉะนั้นจึงเป็นคำตอบว่าทำไม Digital Literacy ถึงเป็นหนึ่งในทักษะที่คนในยุคนี้ควรมี โดยเฉพาะวัยทำงานที่เป็นกำลังสำคัญของการขับเคลื่อนและปรับองค์กรให้เข้ากับยุคดิจิทัลนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก https://positioningmag.com/ และ https://www.krungsri.com
สำหรับผู้ที่มีความสนใจต้องการเรียนรู้และเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยี “Learn AI” หลักสูตรออนไลน์ ที่ผู้เรียนจะสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดกับการทำงานได้อีกมากมาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ ที่ https://learn-ai.in.th
“Learn AI” หลักสูตรเรียนฟรี! แต่มีเวลาจำกัด!! ต้องรีบเลย!!!
เว็บไซต์นี้สนับสนุนโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

#ปัญญาประดิษฐ์ #เปิดการเรียนรู้สู่ทักษะอนาคต