สปสช. เขต12 สงขลา

สปสช. เขต12 สงขลา

ให้บริการข้อมูลสิทธิหลักประกันสุข?

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 12 สงขลา
488/88 อาคารสยามนครินทร์ ชั้น 3 ถ.เพชรเกษม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
โทรศัพท์ 074-233-888 โทรสาร 074-235-494

สปสช. เขต 12 สงขลา

NHSO12 Songkhla Branch

06/12/2023

สปสช.เขต 12 สงขลา จัดปฐมนิเทศหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้าน ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ วันที่ 6 ธันวาคม 2566

04/12/2023
Photos from สปสช. เขต12 สงขลา's post 04/12/2023

🪪สปสช. - สสจ.นราธิวาส ขับเคลื่อน “บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่”
ร่วมกับสภาวิชาชีพทางการแพทย์ เตรียมความพร้อม เริ่ม 8 ม.ค. 67
: เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566

Photos from สปสช. เขต12 สงขลา's post 04/12/2023

💊สปสช.เยี่ยมติดตามความพร้อม
“ร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ”
จังหวัดนราธิวาส 1 ใน 4 จังหวัดนำร่อง การดำเนินงานตามนโยบาย
“บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่”
: เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566

01/12/2023

🎯 สปสช.เขต 12 สงขลา "ชี้แจงแนวทางการบริหารกองทุน
หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2567"
: วันที่ 27-28 พฤศจิกายน 2566

01/12/2023

💓มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง ร่วมกับ สปสช.
“พัฒนาแกนนำเครือข่ายผู้ป่วยในการให้คำปรึกษาผู้ป่วยมะเร็งภาคใต้”
: เมื่อวันที่ 25-26 กันยายน 2566

Photos from สปสช. เขต12 สงขลา's post 29/11/2023

สปสช.เยี่ยมติดตามความพร้อม “ร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ” จังหวัดนราธิวาส 1 ใน 4 จังหวัดนำร่อง การดำเนินงานตามนโยบาย “บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่”

29 พฤศจิกายน 2566 : ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. พร้อมด้วย นพ.วีระพันธ์ ลีธนะกุล ผู้อำนวยการเขต สปสช.เขต 12 สงขลา เยี่ยมติดตามการให้บริการร้านยาในโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จ.นราธิวาส ร้านยา “เกาซัรฟาร์มาซี” อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ พบว่าประชาชนมีความพึงพอใจได้รับความสะดวก ไม่แออัด

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ปัจจุบันมีร้านยาคุณภาพขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพ 2,100 แห่ง มีการให้บริการแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ มารับยาที่ร้านยาคุณภาพของฉัน 2) การสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค เช่น รับถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิด 3) กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีอาการคงที่ สามารถมารับยาที่ร้านยาได้ เพื่อลดความแออัดในการไปรับยาที่โรงพยาบาล

ร้านยาเกาซัรฟาร์มาซี เป็นร้านยาที่ดูแลประชาชนเยอะมาก มีประชาชนมารับบริการในกลุ่มอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ ซึ่งเดิมไปรับบริการที่โรงพยาบาลแต่มีผู้รับบริการแน่นมาก ก็มารับบริการที่ร้านยา วันนึงประมาณ 50 ราย เป็นประชาชนสิทธิบัตรทองประมาณ 40 ราย จากที่ได้สอบถามประชาชนที่มารับบริการ พบว่ากรณีที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย มีความพึงพอใจที่จะมารับบริการที่ร้านยาเนื่องจากได้รับความสะดวกและ ไม่แออัด

ภญ.เกาซัร บินอุเซ็ง เภสัชกรประจำร้านยา “เกาซัรฟาร์มาซี” ซึ่งตั้งอยู่ที่ ถนนเพชรเกษม ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส กล่าวว่า ได้เข้าร่วมโครงการร้านยาคุณภาพของฉันกับ สปสช. เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ เช่น ปวดหัว ปวดฟัน มีไข้ ไอ มีน้ำมูก ปัสสาวะแสบขัด ซึ่งเป็นกลุ่มอาการไม่รุนแรง เพราะว่าจะได้ช่วยลดระยะเวลาให้กับคนไข้ ไม่ต้องไปรอนานที่โรงพยาบาล ช่วยในเรื่องลดความแออัดของโรงพยาบาล ลดภาระหน้าที่ของหมอและพยาบาลด้วย เพราะว่าส่วนใหญ่อาการเบื้องต้นเหล่านี้ คนไข้สามารถมาซื้อยาที่ร้านยาได้อยู่แล้ว พอมีโครงการนี้ คนไข้สามารถเข้ามารับยาฟรีได้เลย ในส่วนของเภสัชกรสามารถให้ความรู้และคำแนะนำเรื่องการใช้ยาให้กับคนไข้ได้อย่างเต็มที่
คนไข้ที่มีสิทธิบัตรทอง สามารถนำบัตรประชาชน ถ้าเป็นเด็กก็ใช้สูติบัตรมารับบริการได้ ทางร้านยาก็จะมีการตรวจสอบสิทธิยืนยันตัวตน ถ้ามีสิทธิบัตรทองก็จะสามารถรับยาฟรีได้เลย โดยจะมีขั้นตอนซักประวัติ หลังจากนั้นก็จะมาพบเภสัชกรสอบถามอาการ ถ้าอยู่ในกลุ่มเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ เภสัชกรจะจ่ายยาให้คนไข้ รับยาฟรี และกลับบ้านได้เลย คนไข้ที่มารับบริการส่วนใหญ่มีอาการ ไข้หวัด ไอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

นางมารีเย สามะ ผู้รับบริการเล่าว่า มารับบริการด้วยอาการ ไอ เป็นหวัด ปวดหัว ปกติต้องไปรับบริการที่โรงพยาบาลรือเสาะ แต่ทำงานอยู่ที่บาเจาะ จะไปโรงพยาบาลบาเจาะบ้างบางครั้ง มาซื้อยาที่นี่บ้าง พอรู้ว่าร้านยาเข้าร่วมโครงการก็นำบัตรประชาชนมารับบริการ ปกติมีอาการปวดเมื่อย ปวดหัว บ่อยมาก ตอนนี้ไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว ถ้ามีอาการก็มารับยาที่ร้านยาได้เลย ซึ่งสะดวกมาก เพราะเจ้าหน้าที่มีความเข้าใจสอบถามอาการและจำได้ เภสัชกรให้คำแนะนำว่าถ้ามีอาการมากก็ให้ไปโรงพยาบาล แต่พอกินยาที่ได้ไปก็หายไม่ต้องไปโรงพยาบาล

นพ.วีระพันธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ร้านยาในจังหวัดนราธิวาสมีทั้งหมด 89 ร้าน สมัครเข้าร่วมให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพแล้ว 51 ร้าน ในการพิจารณาว่าเป็นร้านยาคุณภาพมี 2 ส่วนหลัก คือ เป็นร้านยาที่ได้รับใบอนุญาติขายยาตามกฏหมายว่าด้วยยาจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ เป็นร้านยาที่ผ่านการอบรมและรับรองคุณภาพมาตรฐานจากสภาเภสัชกรรม จึงขอเชิญชวนร้านยาคุณภาพเข้ามาสมัครร่วมให้บริการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนบางส่วนที่ลำบากในเรื่องค่าใช้จ่ายเดินทางไปพบหมอที่โรงพยาบาล ช่วยให้ประชาชนได้รับการดูแลเบื้องต้นในกลุ่มอาการเล็กน้อย และในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค แจกถุงยางอนามัย แจกยาคุมกำเนิด หรือคัดกรองความเสี่ยงภาวะสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้รับการดูแลรักษาพยาบาลตั้งแต่เนิ่นๆ

สำหรับร้านยาในจังหวัดนราธิวาสที่ขึ้นทะเบียนและเปิดให้บริการแล้ว มีทั้งหมด 5 ร้าน ดังนี้ อ.เจาะไอร้อง จำนวน 2 ร้าน ได้แก่ คลินิกยากูฟัต และ นาดีย์เภสัช, อ.สุไหงโก-ลก จำนวน 2 ร้าน ได้แก่ ดี-เมด (D-MED) และ เอเซียพาณิชย์, อ.บาเจาะ จำนวน 1 ร้าน ได้แก่ เกาซัรฟาร์มาซี

ทั้งนี้ ประชาชนสิทธิบัตรทองสามารถนำบัตรประชาชนไปรับบริการที่ร้านยาคุณภาพของฉัน กรณีเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย 1.ปวดหัว 2.เวียนหัว 3.ปวดข้อ 4.เจ็บกล้ามเนื้อ 5.ไข้ 6.ไอ 7.เจ็บคอ 8.ปวดท้อง 9.ท้องผูก 10.ท้องเสีย 11.ถ่ายปัสสาวะขัด,ปัสสาวะลำบาก,ปัสสาวะเจ็บ 12.ตกขาวผิดปกติ 13.อาการทางผิวหนัง ผื่น คัน 14.บาดแผล 15.ความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตา 16.ความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับหู.....///

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :
สายด่วน สปสช.1330
ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี
ไลน์สาวนุ้ยบัตรทอง พิมพ์ไอดีไลน์

28/11/2023

ชี้แจงการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบฯ 67 สปสช.เขต 12 สงขลา (รพ.สต.) วันที่ 28 พ.ย. 2566

27/11/2023

ชี้แจงภาพรวมการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบฯ 67 สปสช.เขต 12 สงขลา วันที่ 27 พ.ย. 66 (บ่าย)

27/11/2023

ชี้แจงภาพรวมการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบฯ 67 สปสช.เขต 12 สงขลา วันที่ 27 พ.ย. 66 (เช้า)

Photos from สปสช. เขต12 สงขลา's post 27/11/2023

🎯สปสช.เขต 12 สงขลา ขับเคลื่อนงานกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นและกองทุนดูแลระยะยาวบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิง (LTC) ปี 2567

25/11/2023

สปสช.เขต12 สงขลา จัดประชุมชี้แจงแนวทางการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2567 ในวันที่ 27-28 พฤศจิกายน 2566 ขอเชิญหน่วยบริการทุกแห่งเข้าร่วมได้ผ่านทาง Zoom Conferrence และ Facebook Live เพจ สปสช. เขต12 สงขลา

23/11/2023

สปสช. ชวน รพ.-คลินิกเอกชนร่วมดูแลสิทธิบัตรทองใน 4 จังหวัดนำร่องนโยบายบัตรประชาชนรักษาได้ทุกที่

สปสช. ชวน รพ.และคลินิกเอกชนใน 4 จังหวัดนำร่องนโยบายบัตรประชาชนรักษาได้ทุกที่ (แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส) สมัครขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบบัตรทองเพื่อร่วมดูแลประชาชนไปด้วยกัน ชี้ สปสช. ปรับระบบขึ้นทะเบียนใหม่เป็น One Stop Service ลดภาระเอกสาร ลดระยะเวลาตรวจประเมินและประกาศขึ้นทะเบียนหน่วยบริการให้เร็วขึ้นแล้ว

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมผลักดันนโยบาย 30 บาทอัปเกรด หรือการยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) โดยจะเปิดให้ประชาชนใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับการรักษาได้ในสถานพยาบาลทุกเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ในวันที่ 8 ม.ค. 2567 ใน 4 จังหวัดนำร่อง ประกอบด้วย แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าว สปสช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลสิทธิบัตรทอง จึงขอเชิญชวนสถานพยาบาลเอกชนประเภทต่างๆ รวมถึงร้านยา ในพื้นที่ 4 จังหวัดนี้ เข้ามาร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบบัตรทองเพื่อดูแลประชาชนไปด้วยกัน

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีทั้งสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน ในส่วนของสถานพยาบาลภาคเอกชนนั้น เปิดรับสมัครหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเอกชน คลินิกเวชกรรม คลินิกการพยาบาล คลินิกทันตกรรม คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกแพทย์แผนไทยและร้านยา ทั้งนี้เพื่อให้มีหน่วยบริการที่ครอบคลุมในทุกพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถเข้ารับบริการใกล้บ้านได้อย่างสะดวก

นพ.จเด็จ กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายยกระดับบัตรทองที่ประชาชนใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับการรักษาได้ในสถานพยาบาลทุกเครือข่าย สปสช. ยังได้ปรับปรุงระบบ back office อื่นๆ เช่น ระบบการรับสมัครและขึ้นทะเบียนหน่วยบริการในระบบบัตรทอง ก็ได้ปรับให้เป็นแบบ One Stop Service ลดความยุ่งยากในเรื่องเอกสารต่างๆ ลดระยะเวลาในการตรวจประเมินและประกาศขึ้นทะเบียนหน่วยบริการ สร้างความสะดวกรวดเร็วแก่สถานพยาบาลและร้านยาที่มาสมัครขึ้นทะเบียนมากขึ้น โดยหน่วยบริการสามารถสมัครได้ที่ https://ossregister.nhso.go.th สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. 1330 กด 5 (provider center)

นพ.จเด็จ อธิบายว่า ในขั้นตอนแบบ One Stop Service นั้น จะอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด จากเดิมที่หน่วยบริการต้องสแกนเอกสาร ทั้งแบบฟอร์มสมัคร ใบรับรองจากกรมพัฒนาการค้า ใบอนุญาตประกอบสถานพยาบาล ใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล ใบประกอบวิชาชีพ ก็เปลี่ยนเป็นการแจ้งความประสงค์ผ่านระบบ ThaID แล้ว สปสช. จะเชื่อมโยงข้อมูลไปยังหน่วยงานรับรองโดยตรง หรือการตรวจเอกสารที่ทำโดยเจ้าหน้าที่ก็จะเปลี่ยนเป็นการตรวจโดยโปรแกรม ทำให้ระยะเวลาการสมัครจนถึงขั้นประกาศขึ้นทะเบียนลดลงจาก 30 วัน เป็นไม่เกิน 3 วัน

ขณะเดียวกัน ในขั้นต่อไป สปสช. ยังจะพัฒนาระบบนิติกรรมสัญญา โดยเชื่อมโยงกับธนาคารเพื่อตรวจสอบความถูกต้องบัญชี และหลักประกันสัญญา และมีการจัดทำและลงนามสัญญาในระบบ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลการขึ้นทะเบียน โดยปรับปรุงระบบฐานข้อมูลหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแบบอัตโนมัติ และการพัฒนาระบบข้อมูลพื้นฐานหน่วยบริการให้รองรับการนําไปใช้เพื่อการบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งเปิดให้หน่วยบริการตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูลของตนเองและ export ไปใช้งานได้อีกด้วย

“ในฝั่งการให้บริการ ทางกระทรวงสาธารณสุขกำลังพัฒนาระบบเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลให้ประชาชนสามารถไปรับบริการได้ทุกที่ ในฝั่งของการสนับสนุน สปสช. เราก็พยายามอำนวยความสะดวกแก่หน่วยบริการให้มากที่สุด ทั้งระบบการขึ้นทะเบียนที่สะดวกรวดเร็ว และในอนาคตอันใกล้เราก็ยังพัฒนาระบบ new-eClaim ซึ่งจะอำนวยความสะดวกแก่หน่วยบริการในการเบิกเงิน รวมทั้งพยายามลดเวลาการจ่ายเงินให้สั้นที่สุดเพื่อให้หน่วยบริการมีกระแสเงินสดหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงขอเชิญชวนหน่วยบริการต่างๆในพื้นที่ 4 จังหวัดนำร่องนี้เข้ามาร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบบัตรทองกันเยอะๆ สปสช. เราจะอำนวยความสะดวกแก่ท่านให้มากที่สุด”นพ.จเด็จ กล่าว

ทั้งนี้ ใน 4 จังหวัดนำร่องดังกล่าว นอกจากหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ยังมีหน่วยบริการอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมให้บริการสิทธิบัตรทองอีกจำนวนมาก อาทิ จ.แพร่ มีคลินิกเวชกรรม 100 แห่ง ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. 1 แห่ง ร้านยา 114 แห่ง ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. 21 แห่ง จ.เพชรบุรี มีคลินิกเวชกรรม 101 แห่ง ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. 1 แห่ง ร้านยา 103 แห่ง ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. 22 แห่ง จ.ร้อยเอ็ด มีคลินิกเวชกรรม 204 แห่ง แต่ไม่มีคลินิกใดสมัครขึ้นทะเบียนกับ สปสช. เลย ส่วนร้านยามี 182 แห่ง ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. 50 แห่ง และ จ.นราธิวาส มีคลินิกเวชกรรม 74 แห่ง ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. 2 แห่ง ร้านยา 91 แห่ง ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. 24 แห่ง

////////////22 พฤศจิกายน 2566

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
• ไลน์ Traffy Fondue เป็นเพื่อนใน LINE ค้นหาไอดี หรือคลิกที่ https://lin.ee/nwxfnHw

23/11/2023

✨ 4 ผลงานเด่นเครือข่ายภาคประชาชน พร้อมขับเคลื่อนงานหลักประกันสุขภาพ ในพื้นที่ เขต 12 สงขลา ปี 2567
: เมื่อวันที่ 16 – 17 พฤศจิกายน 2566

23/11/2023

สปสช.เขต 12 สงขลา ประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานแพทย์แผนไทยปี 2567 วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566

21/11/2023

สปสช. ชวน รพ.-คลินิกเอกชนร่วมดูแลสิทธิบัตรทองใน 4 จังหวัดนำร่องนโยบายบัตรประชาชนรักษาได้ทุกที่

สปสช. ชวน รพ.และคลินิกเอกชนใน 4 จังหวัดนำร่องนโยบายบัตรประชาชนรักษาได้ทุกที่ (แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส) สมัครขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบบัตรทองเพื่อร่วมดูแลประชาชนไปด้วยกัน ชี้ สปสช. ปรับระบบขึ้นทะเบียนใหม่เป็น One Stop Service ลดภาระเอกสาร ลดระยะเวลาตรวจประเมินและประกาศขึ้นทะเบียนหน่วยบริการให้เร็วขึ้นแล้ว

สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ https://ossregister.nhso.go.th

สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. 1330 กด 5 (provider center)

รับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
website สปสช. : https://www.nhso.go.th/
youtube สปสช. : https://www.youtube.com//featured
twitter สปสช. : https://twitter.com/nhsothailand1
tiktok สปสช. : https://www.tiktok.com/

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330 กด 5
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
• ไลน์ Traffy Fondue เป็นเพื่อนใน LINE ค้นหาไอดี หรือคลิกที่ลิงค์ https://lin.ee/nwxfnHw

#สปสช #สิทธิบัตรทอง #รักษาพยาบาล #สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ #สายด่วนสปสช1330 #30บาทพลัส

21/11/2023

20 พฤศจิกายน “วันเด็กสากล”
สปสช. ร่วมคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพ “เด็กไทย” ทุกคน

“วันเด็กสากล” (World Children’s Day) องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้วันที่ 20 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันเด็กสากล เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการปรับปรุงสวัสดิภาพในชีวิตของเด็กทั่วโลก ซึ่งได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2497 (ค.ศ. 1954) และในวันเดียวกันนี้ยังมีความสำคัญ โดยในปี 2502 สมัชชาแห่งองค์การสหประชาชาติได้ประกาศใช้สิทธิเด็ก และต่อมาในปี พ.ศ. 2532 ยังเป็นวันแห่งการประกาศใช้อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กด้วย
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หน่วยงานที่ดำเนินงาน “ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ตระหนักต่อสวัสดิภาพของเด็กๆ โดยเฉพาะในด้านสุขภาพ เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างมีคุณภาพ
ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กไทยได้รับการดูแลสุขภาพที่ดี สปสช. ได้บรรจุสิทธิประโยชน์เพื่อดูแลสุขภาพเด็กไทย ภายใต้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อาทิ
บริการฉีดวัคซีนพื้นฐาน ได้แก่ วัคซีนป้องกันวัณโรค ตับอักเสบบี บาดทะยัก คอตีบ ไอกรน โปลิโอ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ อุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า หัด หัดเยอรมัน คางทูม ไข้หวัดใหญ่และไข้สมองอักเสบเจอี
บริการตรวจเลือดคัดกรองภาวะพร่องไทรอยด์ (โรคเอ๋อ) ภาวะโลหิตจาง การติดเชื้อเอชไอวี
บริการชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงเพื่อติดตามการเจริญเติบโต
บริการตรวจคัดกรองพัฒนาการ ตรวจช่องปากและฟัน เคลือบฟลูออไรด์
บริการให้ยาไทรอกซินป้องกันภาวะพร่องไทรอยด์ ยาบำรุงเสริมธาตุเหล็ก ยาต้านไวรัสเอชไอวี
สมุดบันทึกสุขภาพ/บันทึกพัฒนาการ และแว่นตาหากมีภาวะสายตาผิดปกติ

ในกรณีที่เกิดภาวะเจ็บป่วย ต้องรับการรักษาพยาบาล สามารถใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เข้ารับบริการที่หน่วยบริการได้ รวมถึงโรคค่าใช้จ่ายสูง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
• ไลน์ Traffy Fondue เป็นเพื่อนใน LINE ค้นหาไอดี หรือคลิกที่ลิงค์ https://lin.ee/nwxfnHw

#สปสช #สิทธิบัตรทอง #รักษาพยาบาล #สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ #สายด่วนสปสช1330 #30บาทพลัส

20/11/2023

🪪 บัตรทอง...“ชาวมานิ” คนไทยเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาล
และสิทธิสุขภาพขั้นพื้นฐาน : วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566

19/11/2023

🌈อคม.เขต 12 สงขลา เยี่ยมติดตามการดำเนินงานป้องกัน
และการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี
“ศูนย์บริการสุขภาพชุมชน” คลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้ง หาดใหญ่
หน่วยร่วมยุติปัญหาเอดส์ : เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566

19/11/2023

💎19 พฤศจิกายน 2566 สปสช. ครบ 21 ปี
ก้าวสู่ปีที่ 22 ‘30 บาท UPGRADE’ เพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชน

13/11/2023

สปสช. แจงสิทธิประโยชน์ “เอชไอวี/เอดส์” คุ้มครองตั้งแต่ตรวจ-ป้องกัน รับยาต้าน ไม่เสียค่าใช้จ่าย

สปสช. แจงสิทธิประโยชน์ “ดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์” กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครอบคลุมบริการ ทั้งการตรวจคัดกรอง-ป้องกัน การให้คำปรึกษา บริการรักษาและให้ยาต้านไวรัส ย้ำผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีสามารถขอรับบริการตามสิทธิประโยชน์ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า บริการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้เอดส์ เป็นสิทธิประโยชน์ภายใต้ “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งปีงบประมาณ 2549 เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ในประเทศไทยในขณะนั้นคาดว่ามีประมาณ 6 แสนคน โดยเป็นผู้ที่ต้องได้รับยาต้านไวรัสประมาณ 50,000 คน ได้เข้าถึงการรักษาและบริการอย่างเท่าเทียม ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเอชไอวีและเอดส์เป็นปัญหาสาธารณสุขที่รุนแรง มีผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ในตอนนั้นรัฐบาลจึงจัดสรรงบประมาณ 2,796.2 ล้านบาท ให้ สปสช. ดำเนินการดูแลโดยแยกจากงบเหมาจ่ายรายหัว

จากการดำเนินงานในช่วง 18 ปีที่ผ่านมา สปสช. ได้มีการพัฒนาสิทธิประโยชน์ดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีฯ สิทธิบัตรทองอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย และศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เป็นต้น การดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีฯ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติครอบคลุมทุกด้านและทุกมิติ ทั้งบริการตรวจหาเชื้อเอชไอวี บริการรักษาพยาบาล และบริการป้องกัน จนสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงได้อย่างทั่วถึง

นพ.จเด็จ กล่าวว่า สำหรับสิทธิประโยชน์การดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีหลากหลายบริการที่จำเป็น โดยมีทั้งรายการบริการสำหรับประชาชนที่ใช้สิทธิบัตรทอง และบริการที่ครอบคลุมประชาชนทุกสิทธิ โดยบริการสำหรับประชาชนที่ใช้สิทธิบัตรทอง ประกอบด้วย บริการยาต้านไวรัสสูตรพื้นฐานและสูตรดื้อยา บริการยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากมารดาสู่ทารก บริการยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีภายหลังสัมผัสโรคในกรณีสัมผัสเชื้อเอชไอวีจากการทำงานการให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี บริการยาต้านไวรัสป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีหลังการสัมผัสที่ไม่ใช่จากการทำงานเฉพาะกรณีเป็นผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ บริการยารักษาภาวะไขมันในเลือดสูงจากการรับประทานยาต้านไวรัส และบริการการตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยหรือติดตามการรักษา เป็นไปตามแนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทย ปี พ.ศ. 2560 โดยรวมถึงวัสดุอุปกรณ์ ในการเจาะเลือด และค่าขนส่งเพื่อส่งตัวอย่างตรวจ

ส่วนสิทธิประโยชน์บริการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีฯ ที่ครอบคลุมประชาชนทุกสิทธิ อาทิ 1.บริการให้คำปรึกษาและการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ บริการยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (ยา PrEP) บริการป้องกันการติดเชื้อหลังการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (ยา PEP) บริการให้คำปรึกษาและการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ บริการรักษาและให้คำปรึกษาแก่ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่มารับบริการติดตามการรักษาที่หน่วยบริการ บริการถุงยางอนามัยสำหรับผู้ที่เข้ารับบริการให้คำปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจและกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ที่มารับบริการติดตามการรักษาที่หน่วยบริการ และบริการตรวจคัดกรองและตรวจยืนยันไวรัสตับอักเสบซีในผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ รวมถึงผู้ที่ใช้สารเสพติดด้วยวิธีฉีดที่มารับบริการตรวจหาเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ

นพ.จเด็จ กล่าว จากสิทธิประโยชน์การดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีฯ นี้ ที่ผ่านมามีประชาชนเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดข้อมูลในปีงบประมาณ 2566 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่รับยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง จำนวน 305,527 คน จากเป้าหมายจำนวน 299,420 หรือคิดเป็นร้อยละ 102.04 และดูแลกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับบริการส่งเสริมและป้องกันการติดเชื้อฯ จำนวน 3,372,839 จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3,135,165 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 107.58

“ปัจจุบันแม้ว่าสถานการณ์เอชไอวี/เอดส์จะดีขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต แต่การดูแลให้เกิดการเข้าถึงบริการเอชไอวียังเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากในเรื่องการรักษาและยาต้านไวรัสแล้ว ยังมีบริการตรวจคัดกรอง บริการรับคำปรึกษา บริการยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันทั้งก่อนและหลักการรับเชื้อ ทั้งนี้กรณีผู้ที่ทราบว่าตนเองมีความเสี่ยงก็สามารถเข้ารับบริการได้ภายใต้สิทธิประโยชน์การดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ กองทุนบัตรทอง โดยไม่เสียค่าใช่จ่าย นอกจากเป็นการดูแลสุขภาพตนเองแล้ว ยังเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อด้วย” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

////////// 11 พฤศจิกายน 2566

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
• ไลน์ Traffy Fondue เป็นเพื่อนใน LINE ค้นหาไอดี หรือคลิก https://lin.ee/nwxfnHw

#สปสช #สิทธิบัตรทอง #รักษาพยาบาล #สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ #สายด่วนสปสช1330 #30บาทพลัส

12/11/2023

🤝สช. จับมือ อบจ.สงขลา และภาคีเครือข่าย ผลักดันความร่วมมือพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิจังหวัดสงขลา : วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566

บอร์ด สปสช. เพิ่มสิทธิประโยชน์ ยารักษามะเร็งเต้านมระยะลุกลาม | TheCoverage.info 09/11/2023

บอร์ด สปสช. เพิ่มสิทธิประโยชน์ ยารักษามะเร็งเต้านมระยะลุกลาม | TheCoverage.info บอร์ด สปสช. เพิ่มรายการ “ยาไรโบไซคลิบ” รักษามะเร็งเต้านมระยะลุกลาม ในแผนจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางก....

09/11/2023

🎗สธ.สงขลา “Kick off ฉีดวัคซีน HPV
ป้องกันมะเร็งปากมดลูก”
: วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 2566

ลดตัวเลขแม่ตายหลังคลอด ‘3 จว.ใต้’ ได้ตามเป้า สปสช.เขต 12 เพิ่มงบให้ | TheCoverage.info 08/11/2023

👍ลดตัวเลขแม่ตายหลังคลอด ‘3 จว.ใต้’ ได้ตามเป้า สปสช.เขต 12 เพิ่มงบให้

ลดตัวเลขแม่ตายหลังคลอด ‘3 จว.ใต้’ ได้ตามเป้า สปสช.เขต 12 เพิ่มงบให้ | TheCoverage.info ผอ.สปสช.เขต 12 เผยร่วมท้องถิ่นใช้งบ กปท. ทำงานเชิงรุกผนึก ‘โต๊ะบีแด’ หมอตำแยโบราณ - ผู้นำแต่ละชุมชนสามจังหวัด....

‘นราธิวาส’ ไร้ ‘แม่ตายหลังคลอด’ ที่เกิดจาก ‘ตั้งท้อง’ หลังสร้างเครือข่ายบริการไร้รอยต่ 06/11/2023

🤱‘นราธิวาส’ ไร้ ‘แม่ตายหลังคลอด’ ที่เกิดจาก ‘ตั้งท้อง’ หลังสร้างเครือข่ายบริการไร้รอยต่อ

‘นราธิวาส’ ไร้ ‘แม่ตายหลังคลอด’ ที่เกิดจาก ‘ตั้งท้อง’ หลังสร้างเครือข่ายบริการไร้รอยต่ สูตินรีแพทย์ รพ.นราธิวาสฯ ลดตัวเลขแม่ตายหลังคลอดได้สำเร็จ วางระบบคัดกรองกลุ่มเสี่ยง ดูแลตั้งแต่ รพ.สต. เชื...

05/11/2023

สปสช. เผยสิทธิประโยชน์ดูแลหญิงตั้งครรภ์
บริการคัดกรอง “ดาวน์ซินโดรม ธาลัสซีเมีย” เพิ่มต่อเนื่อง

สปสช. ชวนหญิงไทยตั้งครรภ์ทุกคน ทุกสิทธิรักษาพยาบาล รับบริการตรวจคัดกรอง “ดาวน์ซินโดรม” และ “ธาลัสซีเมีย” ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์ฝากครรภ์ กองทุนบัตรทอง เผยช่วง 5 ปี มีหญิงตั้งครรภ์รับบริการเพิ่มเกือบ 2 แสนราย แต่ยังไม่ครอบคลุม เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนเด็กเกิด เผยช่วยเพิ่มคุณภาพประชากรเด็กเกิดใหม่

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า กลุ่มอาการดาวน์ หรือ “ดาวน์ชินโดรม” เป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมที่พบบ่อยที่สุด คือการมีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง ส่งผลให้เด็กที่เกิดมามีพัฒนาการช้า ภาวะบกพร่องทางสติปัญญา นอกจากนี้ ยังอาจเกิดภาวะโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และภาวะต่อไทยรอยด์บกพร่องได้ เพื่อให้เกิดการคัดกรองทารกในครรภ์ที่มีแนวโน้มต่อภาวะดาวน์ซินโดรม สปสช. จึงได้เพิ่มสิทธิประโยชน์นี้ในชุดบริการฝากครรภ์คุณภาพให้กับหญิงตั้งครรภ์ทุกคนทุกสิทธิการรักษา ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ได้เข้าถึงบริการ

ดังนั้น นอกจากการตรวจความสมบูรณ์ของครรภ์ตามระยะเวลาของครรภ์ การตรวจคัดกรองโรค การฉีดวัคซีนพื้นฐานที่จำเป็น การประเมินสุขภาพจิต และการให้ยาบำรุงเสริมธาตุเหล็ก โฟลิก และไอโอดีน สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ภายใช้ชุดสิทธิประโยชน์ฝากครรภ์คุณภาพแล้ว ยังมี “สิทธิประโยชน์บริการคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์” โดยได้เริ่มเมื่อปี 2559 สปสช. และต่อมาในปี 2564 สปสช. ได้ขยายความครอบคลุมบริการนี้ให้กับ “หญิงตั้งครรภ์ทุกกลุ่มอายุ” จากเดิมที่จำกัดเฉพาะกลุ่มอายุ 35 ปี ขึ้นไป

“จากรายงานการศึกษาวิเคราะห์ต้นทุน-ผลได้ (Cost-benefit analysis : CBA) ของโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ในปี 2559 พบว่า หากมีการคัดกรอง การตรวจยืนยัน และด้วยวิธีในปัจจุบันสามารถลดเด็กเกิดใหม่เป็นดาวน์ซินโดรมเหลือ 372 ราย จากประมาณการอุบัติการณ์ 1,152 ราย หรือสามารถป้องกันทารกเกิดมาเป็นดาวน์ซินโดรมได้ถึง 780 ราย” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่า จากรายงานข้อมูลระบบบัตรทอง 30 บาท ว่าด้วยสิทธิประโยชน์นี้ ทำให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับการคัดกรองดาวน์ซินโดรมก่อนคลอดเพิ่มขึ้น โดยปี 2562 อยู่ที่ 37,732 ราย (ร้อยละ 6 ต่อการเกิดมีชีพ) และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2561-2565 คือที่จำนวน 73,261 ราย (ร้อยละ 13), 176,777 ราย (ร้อยละ 34) และ 197,245 ราย (ร้อยละ 39) ตามลำดับ และในปี 2566 ข้อมูลล่าสุดอยู่ที่จำนวน 182,725 ราย (ข้อมูลปี 2566 ยังไม่สมบูรณ์) โดยพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับการคัดกรองมีผลตรวจพบเสี่ยงสูงที่ทารกในครรภ์จะเป็นดาวน์ซินโดรม ร้อยละ 9.2 ซึ่งหญิงตั้งครรภ์กลุ่มนี้จะได้รับการตรวจวินิจฉัยทารกในครรภ์ และยุติการตั้งครรภ์หากผลการตรวจวินิจฉัยในครรภ์พบว่าทารกในครรภ์เป็นดาวน์ซินโดรเป็นลำดับต่อไป

อย่างไรก็ตามแม้ว่าหญิงตั้งครรภ์จะมีแนวโน้มได้รับการตรวจการคัดกรองดาวน์ซินโดรมเพิ่มขึ้น แต่เมื่อดูข้อมูลความครอบคลุมบริการ หากเปรียบเทียบกับจำนวนเด็กเกิดใหม่ในปี 2564 ซึ่งอัตราการเกิดอยู่ที่จำนวน 485,085 คน จะเห็นได้ว่ามีหญิงตั้งครรภ์เข้ารับบริการไม่ถึงร้อยละ 50 นับว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่มาก
ทพ.อรรถพร กล่าวต่อด้วยว่า นอกจากนี้ภายใต้ระบบบัตรทอง 30 บาท ยังมีสิทธิประโยชน์บริการตรวจคัดกรองและการตรวจยืนยันโรคโลหิตจางโรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia) ในหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงในคู่ของหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นภาวะที่มีผลต่อทารกในครรภ์ จากข้อมูลปี 2562-2566 แม้ว่าแนวโน้มของหญิงตั้งครรภ์ที่ผลการตรวจมีความเสี่ยงสูงที่ทารกในครรภ์จะเป็นโรคโลหิตจากธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงจะได้รับบริการการตรวจวินิจฉัยในครรภ์เพิ่มขึ้น จากข้อมูลปี 2562-2566 มีจำนวนการตรวจยืนยันที่ 152,861 ราย พบภาวะธาลัสซีเมียรุนแรง (Thalassemia Major) จำนวน 1,639 ราย อย่างไรก็ตามจากข้อมูลนี้เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราเด็กเกิดใหม่ก็เป็นจำนวนรับบริการที่ไม่มากด้วยเช่นกัน

“สปสช. จึงขอเชิญชวนหญิงไทยตั้งครรภ์ทุกคน ทุกสิทธิการรักษาพยาบาล เข้ารับบริการฝากครรภ์คุณภาพที่เป็นชุดสิทธิประโยชน์กับ สปสช. รวมถึงบริการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมและธาลัสซีเมียมีผลต่อภาวะทารกในครรภ์ที่จะเกิดมา โดยอยู่ในชุดนี้ประโยชน์ฝากครรภ์นี้ด้วย ซึ่งจะทำให้เด็กไทยที่เกิดใหม่มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง รวมถึงมีพัฒนาการสมวัย สู่ประชากรคุณภาพของประเทศ” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

/////////////// 5 พฤศจิกายน 2566

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
• ไลน์ Traffy Fondue เป็นเพื่อนใน LINE ค้นหาไอดี หรือคลิกที่ลิงค์ https://lin.ee/nwxfnHw

#สปสช #สิทธิบัตรทอง #รักษาพยาบาล #สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ #สายด่วนสปสช1330 #30บาทพลัส #ดาวน์ซินโดรม #ธาลัสซีเมีย #หญิงตั้งครรภ์

05/11/2023

‘ฟ้าสีรุ้ง-SWING’ เสริมแกร่ง ‘ระบบบัตรทอง 30 บาท’ ป้องกันเอชไอวี
เพิ่มการเข้าถึงให้ทุกสิทธิรักษา ต่อยอดสู่บริการ ‘ยาต้านไวรัสวันเดียว’

ก่อนปี 2565 สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย (Rainbow Sky Association of Thailand: RSAT) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ฟ้าสีรุ้ง” และ มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (Service Workers in Group Foundation: SWING) หรืออีกชื่อที่เป็นที่รู้จักมากกว่าคือ “สวิง” สาขา จ.ชลบุรี

เป็นสององค์กรภาคประชาสังคมที่จดทะเบียนเป็น “คลินิกเทคนิคการแพทย์” และได้ให้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) และบริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ใน “ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” (บัตรทอง) แก่ประชาชนไทยทุกคนทุกสิทธิการรักษา (บัตรทอง ประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ และอื่นๆ)

ภายใต้การแสดงเจตนารมณ์ของประเทศไทยที่ต้องการยุติปัญหาเอดส์ (Ending AIDS) ให้ได้ในปี 2573 ผ่านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ 2560-2573

ด้วยลักษณะเฉพาะขององค์กรภาคประชาสังคมที่มีจุดเด่นในการให้บริการที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการมารับบริการมากกว่าสถานพยาบาลของรัฐ และเหมาะสมในการให้บริการไม่ว่าจะเชิงรุก หรือเชิงรับ

ทั้งเวลาเปิด-ปิดที่ยืดหยุ่นกว่าเวลาราชการ สภาพแวดล้อมของสถานที่ที่เอื้อและเต็มไปด้วยความเข้าอกเข้าใจ เนื่องจากต้องการ “ลดการตีตรา” โดยให้ความสำคัญกับการไม่เปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยอย่างรัดกุม เพื่อให้เกิดความสบายใจที่สุด และอื่นๆ อีกมากมาย
จึงช่วยให้มีการเข้าถึงบริการป้องกันเอชไอวี และเข้าสู่ “กระบวนการรักษา” เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ทว่า เหล่านี้เป็นไปโดยการทำสัญญาดำเนินการตามโครงการแบบปีต่อปี สิ่งที่เกิดขึ้นคือระหว่างรอยต่อเพื่อต่อปีงบประมาณใหม่นั้น “เกิดช่องว่าง” ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้ต่อเนื่อง หรือให้บริการได้น้อยลง เพราะกระบวนการต่างๆ ไม่ได้เกิดขึ้นแบบชับไวจบปุ๊ปต่อปั๊ปทำได้เลย

ดังนั้น เมื่อปีที่แล้วองค์กรภาคประชาสังคมที่มีความพร้อมในการให้บริการกว่า 60 แห่ง จึงเสนอมายัง สปสช. เพื่อให้ขึ้นทะเบียนพวกเขาเป็น “หน่วยบริการรับส่งต่อด้านเอชไอวี” ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

ต่อมาคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้มีมติเห็นชอบประกาศโดยกำหนดให้ “องค์กรภาคประชาสังคมที่จัดบริการด้านเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในชุมชน” เป็นสถานบริการสาธารณสุขอื่นตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2565

ทำให้องค์กรภาคประชาสังคม 16 แห่ง รวมถึง “ฟ้าสีรุ้ง” และ “สวิง” ที่ผ่านการประเมินมาตรฐานด้านการให้บริการด้านเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในชุมชนโดยกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยเริ่มดีเดย์ให้บริการแบบไร้รอยต่อเมื่อ 1 ต.ค. ปี 65

มาวันนี้ใกล้ครบ 1 ปีแล้วของการเป็นหน่วยบริการแบบเต็มตัว เนตรนภิศ มณีเนตร หัวหน้างานคุณภาพและบริการชลบุรี “คลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้ง เมืองชลบุรี” บอกว่าด้วยการทำงานโดยไม่ถูกกรอบระยะเวลามากำหนด ทำให้สามารถค้นหากลุ่มเสี่ยงได้ทุกพื้นที่แบบไม่มีข้อจำกัด

ที่สำคัญคือ การทำงานร่วมกันกับหน่วยบริการอื่นๆ ทั้งภาครัฐและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ซึ่งช่วยขยายการให้บริการได้มากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งการตรวจคัดกรองเอชไอวี ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบซี บริการถุงยางอนามัย รวมถึงติดตามสถานะการติดเชื้อ ตลอดจนการให้คำปรึกษา ตรวจเลือด และส่งต่อต่อไปยังโรงพยาบาลชลบุรี ซึ่งได้ทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) ในการเป็นเครือข่ายบริการสุขภาพด้านการป้องกันเอชไอวี เพื่อให้ยาป้องกัน (PrEP) ในกลุ่มผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี หรือการรักษาแก่ผู้ติดเชื้อ สำหรับทุกสิทธิการรักษา

ปลายทางจึงเป็นการช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIAN+) รวมถึงลดภาระงานให้กับบุคลากรทางการแพทย์ จากสถิติตั้งแต่ขึ้นทะเบียนมาจนถึงวันนี้มีผู้รับบริการที่ “คลินิกเทคนิคการแพทย์ฟ้าสีรุ้ง เมืองชลบุรี” มากถึง 3,700 ราย ซึ่งเขย่าให้แนวโน้มผู้ติดเชื้อเอชไอวีในภาพรวมของ จ.ชลบุรี ลดลงด้วย

ส่วน “สวิงพัทยา คลินิกการแพทย์” ได้ต่อยอดไปถึงการให้บริการ “ยาต้านไวรัสภายใน 24 ชั่วโมง” (Same Day ART) ได้แล้ว สำหรับผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งจะมีแพทย์จากโรงพยาบาลบางละมุง ที่ได้ทำ MOU กัน คอยให้คำปรึกษาและสั่งจ่ายยา ผ่านระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) หรือผ่านแอปพลิเคชันไลน์

บริการดังกล่าวเป็นความสำเร็จจากการทดลองวิจัยร่วมกัน 4 หน่วยงาน อันประกอบด้วย “สวิง ” องค์กรพัฒนาเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) องค์การแฟมิลี่เฮลท์เนชั่นแนล (FHI 360) และมูลนิธิสถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี (IHRI)

ก่อนที่จะเสนอต่อ สปสช. และ สธ. เพื่อทำข้อตกลงร่วมกันผ่านโรงพยาบาลบางละมุง เหมือนเป็นการนำร่องก่อน จนสุดท้ายประสบความสำเร็จและเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อ 14 ก.พ. 2566

สุรางค์ จันทร์แย้ม ผู้อำนวยการมูลนิธิสวิง อธิบายว่าการเกิดขึ้นของบริการนี้มาจากการเห็นช่องว่างในการให้บริการ เพราะความเป็นคลินิกเทคนิคการแพทย์ “สวิง” สามารถค้นหาและคัดกรองได้ แต่ไม่สามารถจ่ายยาเองได้ ต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลบางละมุง ซึ่งกระบวนการหลังนี้ทำให้ผู้รับบริการ ได้รับยาช้ากว่าที่ควร คือ อาจต้องรออีก 1 วัน หรืออาจช้าถึง 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน เลย

ผู้รับบริการที่เข้าสู่ขั้นตอนนี้จำนวนไม่น้อยอาจไม่ได้รับยา เพราะเปลี่ยนใจ เนื่องจากติดเงื่อนไขในการทำงานและกิจกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน และขาดการติดต่อจาก “สวิง” ไป ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ

ดังนั้น Same Day ART จึงตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด และทำให้ “สวิงพัทยา คลินิกการแพทย์” กลายเป็นหน่วยบริการแบบ One-Stop Service คือ ครบจบที่เดียวในด้านบริการเอชไอวี

อย่างไรก็ดี สิ่งนี้อาจไม่เกิดขึ้นถ้าไม่เกิดการร่วมกันของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ สปสช. ที่ได้ให้องค์กรภาคประชาชนสังคมได้เข้ามาเป็นหน่วยบริการ

“มันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าระบบบริการสุขภาพของประเทศให้ความสำคัญและคุณค่ากับหน่วยบริการภาคประชาสังคม หรือชุมชน ยอมรับในการให้บริการของพวกเรา แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเราล้ำหน้าว่าการให้บริการสาธารณสุข โดยเฉพาะด้านเอชไอวีไม่ต้องผูกติดกับบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นหน่วยบริการของรัฐเท่านั้น” ผู้อำนวยการมูลนิธิสวิง กล่าว

/////////// 4 พฤศจิกายน 2566

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
• ไลน์ Traffy Fondue เป็นเพื่อนใน LINE ค้นหาไอดี หรือคลิกที่ลิงค์ https://lin.ee/nwxfnHw

#สปสช #สิทธิบัตรทอง #รักษาพยาบาล #สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ #สายด่วนสปสช1330 #30บาทพลัส #ฟ้าสีรุ้ง #ป้องกันเอชไอวี

Videos (show all)

ปฐมนิเทศหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้าน
เบิกจ่ายและตรวจสอบเวชระเบียน หน่วยจ่ายตรงสิทธิ อปท.

Opening Hours

Monday 09:00 - 17:00
Tuesday 09:00 - 16:30
Wednesday 08:30 - 16:30
Thursday 08:30 - 16:30
Friday 09:00 - 16:30