Piyaphan make billion

หุ้นไทยวันนี้ ป่าช้า หรือ สวรรค์ของนักลงทุน

เก๋าเกม EP.1 รายการใหม่จาก stock2morrow "เก๋าเกม" เป็นรายการที่เราจะชวนรุ่นเก๋า มาเล่ามุมมองต่อเกมการเงิน มุมมองต่อสถานการณ์ล.....

จะบอกว่าไงดี ?

เป็นแอร์ฯที่เทรดได้นิดหน่อย
หรือ เป็นเทรดเดอร์ที่บินได้นิดหน่อย ?

ไม่ถูกทั้งคู่ เรียกว่าเป็นแอร์ฯที่เทรดเก่ง น่าจะเหมาะสุด 🙂

“บินไป เทรดไป” อาชีพที่สองของแอร์โฮสเตส ที่ชื่อจึ๊ง
เทรดโดยที่ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ เพียงแค่บินไปถึงประเทศไหน ค่อยเปิดจอดู .. อย่างแทร่
ตอกย้ำว่า ถึงแม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่เมื่อมีความเข้าใจและมีกลยุทธที่ดี ความเสี่ยงก็น้อยลง และมากกว่านั้นคือมีผลตอบแทนที่กลับมาสม่ำเสมอได้

แว่บแรกที่เจอน้องจึ๋ง ก็ชื่นชมในบุคลิกที่ดีที่เหมาะกับการเป็นแอร์ฯ
ยิ้มสวย.. สุภาพ.. พูดจาฉะฉาน
แต่เมื่อนั่งคุยโดยละเอียดแล้ว ก็ชื่นชมมากกว่านั้น มีทั้งเป้าหมายที่ชัด และ มี Mindset ดีๆ รวมถึงแผน และวินัยในการลงมือปฏิบัติในอาชีพที่สองที่เลือกแล้ว เป็นอย่างดี

นี่คือตัวอย่างที่ดีที่ทำให้เห็นว่า อาชีพเทรดเดอร์ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น หรือต้องเฝ้าหน้าจอเสมอไป
แต่จากการถ่ายทอดของน้องจึ๋งนี้ ทำให้เห็นว่า “ทุกคนสามารถ เลือกการเทรดนี้เป็นอาชีตที่สองได้”

ประโยชน์ที่มากกว่าการเรียนรู้การดูกราฟ และการเทรดที่มีอยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้ว ก็คือการได้รู้จักตัวตนของน้องแอร์ฯคนนึงอย่างน้องจึ๋ง ที่สามารถนำไปเป็นแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดี

ใครๆก็สามารถมีอาชีพที่สองได้
และ ใครๆก็สามารถเทรดได้
ขนาด บินไป ยังเทรดไป ได้เลย

ลองเปิดอ่านดูนะครับ หนังสือเล่มนี้แนะนำเลย เหมาะกับทุกคนจริงๆ

…

มีข่าวดีว่า วันนี้มีเปิด Pre-Order แล้ว

4 เหตุผล ที่ต้อง Pre-Order
" แอร์โฮสเตส (ชวน) เทรดหุ้น “

1. ได้ลายเซ็นน้องจึ๊งมาประดับเล่ม
2. มีส่วนลด 15%
3. ได้จิ้มซื้อ รอรับที่บ้าน ไม่ต้องออกมาผจญกับโลกเดือด
4. อันนี้ทีเด็ด ! ได้ลง”คอร์สสด” ฟรี !!

เพิ่มรายได้x2 ไม่ต้องทิ้งงานประจำ
รับสิทธิ์เรียนฟรี! คอร์สสดออนไลน์ ที่คนอยากเริ่มต้นเทรดเป็นห้ามพลาด!

💰 Wealth Journey Kickstart 💰
เคล็ดวิชาเลือก อาชีพที่สอง เปลี่ยนชีวิตด้วยเทคนิค "ลงทุน"
เรียนวันพฤ.ที่ 23 พ.ค. 67 | 19.00-21.00 น.

🔰สอนอะไรบ้าง?
รวมทุกเรื่องต้องรู้ของคนอยากเริ่มต้นเทรดสร้างรายได้ โดยเฉพาะการเทรดสินทรัพย์ต่างประเทศ จากประสบการณ์ของคุณจึ๊ง แอร์โฮสเตสสาวสวย ที่ตอนนี้เป็นทั้งเทรดเดอร์ และอาจารย์สอนเทรดของสถาบันกลยุทธ์กองทัพ

นอกจากแนวคิดสำคัญ ๆ แล้ว
เนื้อหาอื่น ๆ ที่จะได้เรียน
- Money management การบริหารเงินทุน
- การวิเคราะห์แนวรับแนวต้าน
- การอ่านกราฟแท่งเทียนให้เข้าใจถึงแก่น โดยไม่ต้องจำรูปแบบแท่งเทียน
- เข้าใจแรงซื้อแรงขาย
- การเอาตัวรอดกรณีพอร์ตเกิดวิกฤต (การแก้พอร์ตเบื้องต้น)

✨✨รับสิทธิ์เรียนฟรี✨✨
เมื่อสั่งซื้อหนังสือ "แอร์โฮสเตส (ชวน) เทรดหุ้น"
✅ในราคาลดพิเศษ 15%
เพียง 251.- (จากปกติ 295.-)
ค่าจัดส่ง 50.-
✅พร้อมลายเซ็นนักเขียน จึ๊ง-ณัฐพิสาส์ เกียรติโพธา
----- เฉพาะผู้สั่งซื้อวันนี้ - 13 พ.ค. 67 เท่านั้น! -----
หนังสือเล่มนี้ จะช่วยให้คุณเก็บชั่วโมงบินการลงทุนและการเทรดหุ้นต่างประเทศ
ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงสามารถทำกำไรได้ด้วยตัวเอง
ตามติดประสบการณ์บินไป เทรดไป เผยเทคนิคเทรดหุ้นต่างประเทศ ทองคำ คู่เงิน ฯลฯ ด้วยความรู้เชิง Fundamental และเทคนิคการเทรดแบบ "กลยุทธ์กองทัพ" ที่ฉับไว เข้าใจง่าย แต่ได้กำไรยั่งยืนด้วยมายด์เซ็ตที่ถูกต้อง
#เหมาะสำหรับคนที่… :
☑️ต้องการอาชีพที่สอง แบบรายได้คูณสอง
☑️มองหาอิสระทางการเงิน
☑️หาความสุขแบบยั่งยืน
#ช่องทางการสั่งซื้อ :
ทัก Line OA : 👉 หรือคลิก https://lin.ee/TwhjLWE
เริ่มจัดส่งล็อตแรก วันที่ 15 พ.ค. 67

#หนังสือการลงทุน #หนังสือหุ้น #แอร์โฮสเตสชวนเทรดหุ้น

“อยากให้คิดว่าคุณหาเงินไปทำอะไร หาไปเพื่อใคร ถ้าแค่ต้องการซูเปอร์คาร์ ต้องการของแบรนด์เนม หรือแค่โชว์ออฟในโซเชียลมีเดีย แต่พื้นฐานคุณไม่พอ วันหนึ่งถ้าประสบปัญหาจะแก้ไม่ถูก รับมือไม่ได้ เกิดเป็นโรคซึมเศร้า เครียด หรือถึงฆ่าตัวตายได้เลย
เงินที่ใช้เวลาในการหาต่างกัน ค่ามักไม่เท่ากัน ถ้าเงินได้มายากจะจ่ายออกยาก แต่ถ้าเงินไหนที่รู้สึกว่าได้มาง่ายจะอยากใช้จ่ายไวๆ หมดก็หาใหม่ ผมไม่ได้บอกว่าความคิดของเด็กรุ่นใหม่ผิด แต่ถ้าอยากรวยคุณต้องมีความรู้ที่เพียงพอ พื้นฐานต้องแน่น”

ถ้าหน้าที่หลักของหมอคือรักษาคนไข้ หน้าที่หลักของวิศวกรการเงินหรือ Financial Engineer ก็คงเป็นคล้ายๆ หมอ เพียงแต่รักษาบริษัทต่างๆ โดยสร้างสรรค์แบบจำลองและเครื่องมือทางการเงินในการแก้ปัญหาให้กับองค์กรธุรกิจ
และนี่คือเรื่องราวของคุณใหญ่ - ดร.ปุณณมี สัจจกมล Head of CEO Office พรเกษม กรุ๊ป

#อ่านต่อ https://bit.ly/3sdgfAJ
╔═══════════════╗
หนังสือดี บทความคุณภาพสุด Exclusive
อ่านครบรส สด! ใหม่! ทุกวันที่ 2read
สมาชิกใหม่รับทันที 30 เหรียญ #อ่านฟรี
ดาวน์โหลดได้ทั้ง App store และ Play store คลิกลิงก์นี้เลย! https://bit.ly/3bQtbiV
╚═══════════════╝
ิที่คุณอ่านได้

📍ประกาศ มีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อและรูปใช้ใน Line มาในรูปแบบชวนลงทุนในการเทรด โปรดระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อ

ขณะนี้ผมกำลังดำเนินการแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน ควบคู่ไปกับการติดต่อ Line เพื่อตามติดตัวคนทำ และบล็อค Line นี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ท่านอื่น

โปรดระมัดระวัง ทั้งเคสนี้ และรูปแบบชักชวนการลงทุนในรูปแบบต่างๆที่มีมากมายในช่วงนี้ครับ

สมัยช่วงหลังต้มยำกุ้ง พ.ศ. 2540 (1997) นั่นคือ ก่อน Y2K สองสามปี

สมัยนั้น คนลงทุนใน "หุ้น" ดูเป็นคนที่กล้าได้ กล้าเสีย, บางคนบอกด้วยซ้ำว่าเหมือนเดินเข้าบ่อน, มีคำเปรียบเปรยนักลงทุนหุ้นว่าเป็นเหมือนแมงเม่า ดูไม่ค่อยสมาร์ท, เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงสุดๆๆๆ

ผมเริ่มต้นลงทุนหุ้นช่วงนั้น ก่อนเริ่มต้นทำ Stock2morrow ในปีถัดๆมา

ตัดฉับมาวันนี้
ผ่านมา 26 ปี

นักลงทุนหุ้น สไลด์มือถือดูราคาหุ้น ดูสมาร์ท
คนที่เริ่มต้นก่อน เข้าใจในการลงทุนก่อน จับทางการลงทุนได้

ปัจจุบัน หุ้นดูเป็นการลงทุนที่แม้จะยังมีความเสี่ยงอยู่ แต่ดูปลอดภัยประมาณนึง

สรุป.. วิชั่น บวก ความรู้ และประสบการณ์ ความเข้าใจคือ ตัวละลายความเสี่ยง
...

ถัดมาในวิกฤติซับไพรม์ หรือที่เราเรียกว่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2008
หรือ 15 ปีที่แล้ว

ราคาอสังหาริมทรัพย์ร่วง การก่อสร้างดูสะดุด มีคนประกาศขายที่ดินกันมากมายเสมือนว่าจะเป็นฟองสบู่ที่จะแตกแล้วแตกเลยของวงการอสังหาฯโลก คอนโดฯบ้านเรายังไม่มากนัก จึงไม่ค่อยเห็นนักลงทุนในคอนโดฯ

เป็นช่วงที่ผมลาออกจากงานประจำ หลังจากนั้นได้ผู้บริหารเก่ง 3 ท่าน มาร่วมก่อตั้ง Prop2morrow

ตัดฉับมาวันนี้

เจ้าสัวที่กวาดซื้อที่ดินในวันนั้น สร้างโครงการยักษ์กระจายทั่วประเทศ
นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผุดคอนโดฯขึ้นมาราวดอกเห็ด
นักลงทุนในคอนโดฯที่มองเทรนด์ออก คว้ากำไรได้หลายช็อต ทั้งซื้อมา-ขายไป หรือ ซื้อมาแล้วปล่อยเช่า

นักลงทุนคอนโดฯวันนี้ดูสมาร์ท และมีเงิน

สรุป.. วิชั่น บวก ความรู้ และประสบการณ์ ความเข้าใจคือ ตัวละลายความเสี่ยง
...

บิทคอยน์ในปี 2019 ราคาคิดเป็นไทยบาทอยู่ที่ประมาณหนึ่งแสนถึงสามแสนบาทหลังจากป้วนเปี้ยนๆที่ราคานี้มาหลายปี
ในช่วงปลายปี 2020 ราคาพุ่งเกือบแตะหนึ่งล้านบาท
ก่อนจะทะลุหนึ่งล้านบาทในต้นปี 2021 พร้อมไปแตะ สองล้านในปีเดียวกัน
ก่อนจะร่วงลงมาแตะห้าแสนบาทในปีที่แล้ว 2022 และเด้งมาที่เก้าแสนในปัจจุบัน 2023

ทุกคนมองว่า บิทคอยน์ หรือ Digital Asset คือสินทรัพย์ที่เสี่ยงสุดๆ

ผมก็ไม่ปฏิเสธ เพราะว่าก็จริง

เพียงแต่ความรู้สึกในการลงทุนหุ้นและคอนโดฯในอดีตแว๊บเข้ามา

วันนี้ ลงทุนในหุ้นที่วันก่อนว่าเสี่ยงสุดๆ ดูเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย
ส่วนลงทุนคอนโดฯ คือ โอกาสที่มีคนคว้ามาแล้วมากมาย

…

เราเริ่มต้นจัดตั้ง BullMoon Club ซึ่งเป็น Community ของคนที่อยากสร้างความรู้ในการลงทุนทั้ง Digital Asset, หุ้น และคอนโดฯ โดยมีทั้ง NFT คลับ และหลักสูตร Networking

ในชื่อที่มีความหมายแฝง เพราะ Bull คือกระทิงที่แทนทั้งตลาดขาขึ้น และแทนภาพนักลงทุนยุคเดิม รุ่นคลาสิค ส่วน Moon คือเป้าหมาย to the moon ด้วย และแทนภาพนักลงทุนยุคใหม่

BullMoon Club จึงเป็นคลับของนักลงทุนเท่ๆ ที่หลากหลายวัย แต่ต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คือความสำเร็จและมิตรภาพ

…

มันง่ายนะ ที่เราจะมองย้อนไปในอดีต แล้วเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
และมันยากกว่า ในการมองและวิเคราะห์อนาคตที่ยังไม่เกิด

แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากๆ ล้วนแต่มองทั้งอดีต และเห็นถึงอนาคต แล้วลงมือทำ !

สรุปอีกครั้ง เหมือนเดิม 55... วิชั่น บวก ความรู้ และประสบการณ์ ความเข้าใจคือ ตัวละลายความเสี่ยง

รู้
ลงมือทำ
แล้ว to the moon ไปด้วยกัน

….

วันพฤหัสฯหน้านี้แล้ว 18 พฤษภาคม 2023
วันเปิดหลักสูตร BullMoon Exclusive ... หลักสูตรที่จะเปลี่ยนคุณ จากนักลงทุนธรรมดา ไปใส่ไข่ดาวทันที 🙂

เน้นๆใน 3 สินทรัพย์คือ หุ้น, อสังหาฯ และ Digital Asset เพราะนี่คือสินทรัพย์สำหรับยุคนี้และยุคต่อไป

พร้อมกับสร้างโอกาสในการปั้น Community เท่ๆ รวมคนสมาร์ทหลากวัยที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน

มีทั้งเรียน ทั้งเล่น ความรู้มาด้วย สนุกไปด้วย รวมทริปเดินทาง 3 วัน 2 คืน และ กิจกรรมเกาะติดชีวิตเทรดเดอร์แบบข้ามวันใน Overnight Trading

รอวันเปิดเรียนอย่างตื่นเต้นๆ

ส่วนใครยังไม่ได้สมัคร ยังสมัครทัน กับโอกาสสุดท้าย ที่... https://bullmoon.stock2morrow.com/course

แล้วเจอกัน :)

บันทึกลับ เซียนหุ้น

หนึ่งเดือนที่ผ่านมาคนที่เทรดหุ้นอย่างเดียวอาจจะเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ข้อดีของช่วงเวลานี้อาจจะเป็นการพักไปเติมความรู้ ความเข้าใจในเรื่องต่างๆที่เราสนใจ รอวันที่ตลาดพร้อมจะกลับมาเทรดกัน

วันนี้ผมเลยสรุปเนื้อหาส่วนที่เหลือทั้งหมดของหนังสือ "บันทึกลับเซียนหุ้น" จนจบมาฝากทุกคนกันครับ ส่วนแรกตามอ่านได้ที่โพสต์ก่อนหน้านะครับ

1. การที่เราปล่อยให้อารมณ์ ความรู้สึกมีอำนาจเหนือการตัดสินใจอย่างมีเหตุผลของเรา สำหรับการเทรดแล้ว เป็นอะไรที่อันตรายมาก เช่น การปล่อยให้ความต้องการของคนอื่นมีอำนาจเหนือกว่าการตัดสินใจของเรา (เปลี่ยนมุมมองในการเทรด เพียงเพราะคำพูดของใครบางคน) ซึ่งบ่อยครั้งมันมักจะทำให้เราเสียโอกาสเพราะสิ่งที่เรามองและคิดไว้ในตอนแรกมักจะถูก

2. อย่าไปกลัวการเสียเงินในตลาด แต่ให้มองว่าทุกครั้งที่เราเสียเงินจากตลาด เราได้เรียนรู้และได้รับประสบการณ์อะไรบ้าง เงินที่เราเสียไปทุกบาท ทุกสตางค์มันคือค่าเล่าเรียนของเรา

3. "อย่ามีหนี้" เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ Jesse Livermore ต้องเผชิญในช่วงชีวิตของเขา เขามีหนี้อยู่มากและต้องการที่จะปลดหนี้ของตัวเองให้หมดด้วยการเทรด แต่การมีหนี้ก็กวนใจเขาจนเกิดความกังวลอยู่ตลอดเวลา ปัญหาของเทรดเดอร์บางคนอาจจะไม่ได้มาจากเทคนิค แต่เป็นปัญหาที่มาจากเบื้องลึกภายในจิตใจของเทรดเดอร์คนนั้นเอง เราจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลย ถ้าเรายังมีความกระวนกระวายและกังวลอยู่ตลอดเวลาแบบนี้

4. การเทรดให้ดีและได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เราจะต้องฝึกฝนตัวเราให้มีสมาธิอยู่ตลอดและมีอิสระทางความคิด หรือพูดง่ายๆก็คือ เราต้องอยู่ในสภาวะที่พร้อมต่อการเทรดในทุกครั้งที่เราจะทำการเทรด

5. การที่เรามีเงินทุนที่น้อยและจำกัด เรายิ่งจะต้องทำให้การตัดสินใจของเราละเอียดรอบครอบกว่าเดิม "รอ" อาจจะเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่เราต้องเอามาใช้ในสถานการณ์ที่มีข้อจำกัดของเรื่องเงินทุน

6. เทรดเดอร์ควรจะใช้เวลาไปกับการศึกษาสภาวะของตลาด และจำให้ได้ว่าตลาดก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรและพยายามคิดถึงจิตวิทยาของคนอื่นๆไว้เสมอ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้เวลาเพื่อศึกษาตัวเราเอง รู้จักตัวเองให้ดีก่อน รู้ว่าจุดอ่อนของตัวเองคืออะไร เพื่อหาทางป้องกัน มันไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะโกรธตัวเราเอง เราเพียงแค่ต้องยอมรับจุดอ่อนของตัวเองและหาวิธีแก้ไขมันเท่านั้น

7. "ไม่มีที่ไหนที่ประวัติศาสตร์จะเกิดซ้ำกันบ่อยๆ เหมือนกับในวอลล์สตรีทอีกแล้ว" ไม่ว่าในช่วงที่ตลาดขาขึ้นหรือขาลง ธรรมชาติของมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ดังนั้น การศึกษาปัจจัยของมนุษย์มีประโยชน์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเชื่อที่ไม่มีเงื่อนไข หรือเรื่องที่ผู้คนยอมให้ตัวเองถูกจูงใจโดยความโลภหรือความไม่ใส่ใจผู้อื่น ความกลัวและความหวังของคนเราก็ยังคงเหมือนเดิมทุกยุคทุกสมัย

8. เทรดเดอร์ที่ดีไม่ควรจะยึดติดกับตลาดด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว เราควรพิจารณาตลาดทั้งสองด้านอย่างเท่าเทียมกัน ทันทีที่ตลาดมีสัญญาณบอกให้เราออกไป เราต้องทำทันทีโดยไม่ตั้งข้อสงสัย

9. คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งที่เทรดเดอร์ควรจะมีคือ ความเป็นคนช่างสังเกต เช่น ในตลาดขาขึ้น ตามปกติหุ้นจะต้องขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ถ้ามันเกิดมีหุ้นตัวหนึ่งสวนทางกับตลาด เราก็ต้องคิดได้แล้วว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติไปสำหรับหุ้นตัวนั้น

10. กลยุทธ์การเทรดอย่างหนึ่งของ Jesse Livermore คือ การเทรดเฉพาะในเวลาที่เห็นความเป็นไปได้เท่านั้น ตอนที่มีบางอย่างเกิดขึ้น โดยที่เราไม่ได้คิดไว้ก่อน และมันพยายามที่จะให้เราใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ได้รับ เช่น ตอนที่เขา Short หุ้นเอาไว้แล้วล่วงหน้า และปรากฏว่าตลาดได้ลงอย่างรุนแรง ในตอนนั้นเขาใช้โอกาสในการปิดออเดอร์ Short (ซื้อหุ้นคืน) ที่เปิดเอาไว้ เพราะมันเป็นช่วงเวลาเดียวที่เราจะทำการปิดออเดอร์โดยที่ไม่ได้เสียส่วนต่างราคามาก (ในเวลาที่พอร์ตเราใหญ่) มีคนพร้อมที่จะขายของเป็นจำนวนมากให้เราซื้อคืนในราคาที่ต้องการได้

11. คำแนะนำอย่างหนึ่งของ Jesse Livermore คือ "อย่าขายที่จุดสูงสุด มันไม่ฉลาดเลย ควรจะขายหลังจากที่มันร่วงลงมา ถ้ามันไม่มีการดีดตัวกลับ"

12. เมื่อถึงจุดหนึ่งของชีวิต ความปลอดภัยของคนรอบข้างก็เป็นสิ่งสำคัญ ในช่วงชีวิตที่ Jesse Livermore สามารถทำกำไรได้จนใช้หนี้หลักล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ เขามีครอบครัว มีภรรยาและลูกที่ต้องดูแล เลยตัดสินใจว่าจะนำเงินกำไรที่ทำได้ในตลาดหุ้นไปซื้อพันธบัตรและกองทุนเพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยของครอบครัว เพราะตลอดมาที่เขาทำเงินได้ไม่เคยมีแผนที่จะทำแบบนี้ และทุกครั้งตลาดก็ได้สั่งสอนเขาและเอากำไรกลับคืนไป เขาเลยได้เรียนรู้ที่จะเก็บรักษามันไว้ที่อื่น หรือซื้อประกันให้กับคนรอบข้างและตัวเอง

13. จำไว้เสมอเกี่ยวกับการเทรดคือ ไม่มีกำไรที่แน่นอนหรือปลอดภัยจนกว่าเราจะได้ปิดออเดอร์และแปลงมันมาเป็นเงินในบัญชีธนาคารของเราเท่านั้น

14. ความเสี่ยงอีกอย่างหนึ่งของการเก็งกำไรคือ ความเสี่ยงที่ไม่ได้คาดคิด มันอาจจะมีสิ่งที่เราไม่ได้คิดเอาไว้และมันขึ้นเกิดขึ้น ส่งผลให้ราคาของสินทรัพย์ที่เราเทรดเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับด้านที่เราตัดสินใจ เช่น การที่รัฐบาลออกนโยบายมาทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่ดูแย่ ฟื้นตัวขึ้น แต่ก่อนหน้านี้เรา Short หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้อยู่ เป็นต้น

15. ความสามารถของคนทำราคา (Market Maker) เขาสามารถทำให้ราคาหุ้นเคลื่อนที่ขึ้นหรือลงได้ตามที่เขาคิดไว้ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อจำกัดของคนทำราคาคือ เขาไม่สามารถที่จะทำให้ราคาหุ้นของเขาร่วงไปได้เรื่อยๆ เพราะหากมีคนที่ประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นตัวนั้นออก ก็จะมาซื้อหุ้นต่อไปจากเขาในเวลาที่หุ้นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ดังนั้นการทำให้ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของมัน จึงเป็นเรื่องที่อันตรายมากสำหรับพวกคนทำราคา (สิ่งหนึ่งที่เราควรจดจำไว้เสมอคือ หุ้นที่ถูกทำราคาแล้วไม่ฟื้นคือ ไม่ค่อยมีการซื้อจากคนวงใน และหุ้นที่มีการทำกันจริงๆ ก็จะมีคนวงในซื้ออยู่ และราคาของมันก็จะไม่ร่วงอยู่อย่างนั้น)

16. วัตถุประสงค์หลักของคนทำราคาคือ การขายหุ้นออกไปให้ได้มากๆ และขายออกไปให้ได้ในราคาที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยการจะทำให้เรื่องนี้สำเร็จสิ่งสำคัญที่คนทำราคาต้องให้ความสนใจคือ "วิธีการที่จะทำให้หุ้นตัวที่ถูกทำราคาอยู่ในความสนใจของคนทั่วไป" เช่น การปล่อยข่าวว่าหุ้นตัวนั้นกำลังจะขึ้น แต่วิธีการปล่อยข่าวอาจจะไม่ได้มากจากการไปจ้างสำนักข่าวหุ้นหรือนักวิเคราะห์ แต่มาจากการที่ทำให้หุ้นเกิดการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดในวัน โดยที่นักเก็งกำไรในตลาดจะสังเกตเห็นจาก Ticker นี่ก็เป็นหนึ่งวิธีในการปล่อยข่าวทางอ้อมของ Market Maker ผู้คนในตลาดจะเห็นการเคลื่อนไหวตลอดวัน แต่ความเป็นจริงเป็นการเคลื่อนไหวแบบเทียมที่ Market Maker สร้างมันขึ้นมาเอง จากการซื้อและขายหุ้นของตัวเองจากต่างบัญชีกัน เมื่อผู้คนในตลาดเข้ามาเก็งกำไรกัน พวกนักวิเคราะห์ สำนักข่าวหุ้นต่างๆ ก็จะไปหาเหตุผลมากมายมาอธิบายกันเอง โดยที่ Market Maker แค่นั่งอยู่เฉยๆ ก็จะได้ประโยชน์จากความสำเร็จนี้แล้ว และยิ่งการทำราคาเกิดขึ้นในช่วงตลาดกระทิง ความบ้าระห่ำของผู้คนที่เข้ามาซื้อหุ้นเก็งกำไร จะเป็นโอกาสของ Market Maker ที่จะสามารถขายหุ้นออกไปในราคาที่ดีได้ ซึ่งมันก็จะเป็นการสร้าง Volume ที่มหาสารทำให้คนในตลาดยิ่งเข้ามาสนใจหุ้นตัวนั้นต่อไป (นั่นจึงเป็นข้อสรุปได้อย่างหนึ่งว่า สภาพตลาดโดยรวมมีผลต่อการทำราคาของ Market Maker ถ้าตลาดอยู่ในช่วงขาลง ก็เป็นที่แน่นอนว่าไม่มีใครอยากทำราคาหุ้นของตัวเอง เพราะมันจะทำได้ยากกว่าในช่วงที่ตลาดขาขึ้นหรือตลาดกระทิงแบบรุนแรง)

17. "การปั่นหุ้น" มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ที่อยู่ๆราคาของหุ้นก็ร่วงลงมา ซึ่งเกิดจากการที่ Market Maker แต่งเรื่องขึ้นมาหลอกนักเก็งกำไรที่ไม่ชอบคิดอะไรด้วยตัวเอง และหวังพึ่งข่าววงในเพียงอย่างเดียว ซึ่งนักเก็งกำไรพวกนี้มักจะได้ข่าววงในที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง เช่น ข่าวบอกว่าควรจะ Short แต่ก็มีข่าวที่แนะนำไม่ให้ Short เหมือนกัน ทางที่ดีที่สุดคือ ตอนที่ราคามันร่วงลงมา เราต้องเอามันออกไปจากพอร์ตการลงทุนของเราซะ (มองมันตามความเป็นจริง)

18. คนทั่วไปมีแต่ความโลภ อยากได้ข่าววงใน เพราะต้องการได้เงินง่ายๆ เหมือนกับการพนันที่ได้กำไรอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกันมีนักเก็งกำไรส่วนน้อยที่ฉลาด ใช้ประโยชน์จากข่าววงในที่คนทั่วไปรู้ และเขาประเมินว่ามันอาจจะเป็นเรื่องหลอกลวง โดยการทำตรงกันข้ามกับที่ข่าววงในบอกและได้รับกำไรเป็นจำนวนมาก (ผมชอบประโยคหนึ่งในหนังสือมากๆครับ คือประโยคที่ว่า "การเทรดคือการยึดคิดกับข้อเท็จจริงมากกว่าไปคิดถึงเรื่องที่คนอื่นๆ จะทำยังไงกับมัน"

19. การเทรดก็เหมือนกับการเรียนในสาขาวิชาต่างๆ ที่เราต้องใช้เวลาหลายปีในการศึกษาหาความรู้ในเรื่องต่างๆในภาคทฤษฎีทั้งหมด และทุ่มเทเวลาที่เหลือทั้งหมดไปกับการฝึกฝนในภาคปฏิบัติ รวมถึงต้องสังเกตและจำแนกประเภทของพฤติกรรมราคาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นให้ได้

20. 4 ปัจจัยที่เทรดเดอร์ที่ต้องการจะประสบความสำเร็จต้องมีในทัศนะของ Jesse Livermore ได้แก่ การสังเกต ประสบการณ์ ความจำ และตัวเลข กล่าวให้ชัดเจนคือ ไม่ใช่แค่ว่าเราสังเกตเห็น แต่สิ่งสำคัญคือเห็นแล้วต้องจดจำให้ได้ว่าเห็นอะไรบ้าง และต้องเสี่ยงบนความน่าจะเป็น คือ ต้องลองวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของมัน พอเวลาผ่านไปนานวันเข้า การจดจำประสบการณ์การเทรดของเราได้ จะยิ่งทำให้การตัดสินใจของเราทำได้ทันทีถ้ามีเรื่องไม่คาดคิดเข้ามา จิตใจของ Jesse Livermore จะครุ่นคิดอยู่แต่เรื่องการเทรดและปัญหาจากการเทรดอยู่ตลอดเวลา มันทำให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงประสบการณ์เดิมๆที่เคยผิดพลาดได้

21. "คุณไม่มีวันรู้จนกว่าคุณจะเทรด" เป็นคำพูดหนึ่งที่เอามาใช้พิสูจน์ว่าการคาดการณ์ของเราจะถูกหรือผิด โดยเราต้องมุ่งความสนใจไปที่พฤติกรรมของตลาด เพราะมันจะเป็นสัญญาณชี้นำที่ดีที่สุดของเทรดเดอร์เสมอ เช่น สัดส่วนตอนที่มีคนซื้อจำนวนมาก แต่หุ้นมันไม่ขึ้น แล้วตามมาด้วยสัดส่วนการขายจำนวนมาก แล้วหุ้นตัวนั้นลง การที่พฤติกรรมราคาทำให้เรารู้สึกว่ามีแรงซื้อเข้ามาหรือไม่มีแรงซื้อเข้ามาเลย มันทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์ในการกำหนดกลยุทธ์ว่าจะ Buy หรือ Sell หุ้นตัวนั้นได้ การทำไปตามประสบการณ์ที่เราศึกษาพฤติกรรมราคาอาจจะหลอกเราก็ได้ แต่การที่เราไม่ทำตามมันก็คือการปล่อยโอกาสทิ้งไป โดยที่ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลย

22. แนวโน้มของกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เราจะเอามาใช้ประโยชน์ในการเทรดหุ้นของเราได้ เช่น การที่หุ้นกลุ่มเหล็กขึ้น เราอาจจะมองหาหุ้นเหล็กตัวที่พฤติกรรมราคาแสดงผลว่ากำลังจะขึ้นเพื่อเข้าไปเก็งกำไร ในขณะเดียวกันเรายังใช้ประโยชน์ในการระวังได้ด้วย เพราะมันจะมีหุ้นบางตัวในกลุ่มนั้น ไม่ได้วิ่งตามตัวที่เป็นผู้นำ การที่พฤติกรรมมันสะท้อนออกมาแบบย้อนแย้งแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าคนข้างในก็ไม่ได้ต้องการหุ้นตัวนี้ด้วยซ้ำ เราจึงไม่จำเป็นต้องเข้าไปซื้อ ถ้ามีเหตุผลให้ Short ได้ก็ควรจะทำอย่างงั้นด้วยซ้ำ

23. คุณสมบัติอีกประการที่เทรดเดอร์จะต้องมีคือ การยอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง ทันทีที่เรารู้ตัวว่าความคิดของเราผิด เรากล้าที่จะเปลี่ยนแผนของเราที่วางไว้และตัดสินใจเทรดในอีกด้านหนึ่ง

24. เทรดเดอร์ที่ดีควรจะมีความศรัทธาในตัวเองและศรัทธาในการตัดสินใจของตัวเอง เราต้องไม่หวั่นไหวต่อความผันผวนของราคาและมีความอดทนที่จะรอมันได้ แม้ว่าตอนที่เราเข้าออเดอร์ไป ราคาวิ่งไปด้านเดียวกับที่เราตัดสินใจ แล้ววันต่อมามันเด้งกลับมาที่ต้นทุนของเรา เราก็ต้องไม่เกิดความสงสัยในการตัดสินใจของเรา เราต้องไม่กลัวที่จะเทรดผิด เพราะสิ่งที่จะพิสูจน์ได้ว่าเราจะผิดจริงๆคือราคาของสินค้าที่เราเทรดมันเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่เราคิดไว้ หรือเงื่อนไขบางอย่างที่เราตั้งสมมติฐานไว้ตั้งแต่แรกว่ามันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น (บางครั้งการที่เรา Short แล้วราคาไม่ยอมลง อาจจะเป็นเพราะคนทำราคารู้ว่ามีคน Short อยู่เท่าไหร่ เลยต้องการบีบให้คนพวกนี้ไม่เชื่อมั่นในความคิดของตัวเองแล้วออกสถานะในด้านนั้นไป)

25. สิ่งสำคัญมากๆที่เทรดเดอร์ควรจะศึกษาคือ การศึกษาว่าอะไรไม่ควรทำเพื่อที่จะได้เรียนรู้ว่าสิ่งไหนที่เราควรทำมากกว่า และท่องกับตัวเองเอาไว้ตลอดว่า เราต้องพยายามไม่ให้ตัวเองเสียเงินเป็นอันขาด

ผมขอทิ้งท้ายด้วยประโยคบางตอนที่ผมชอบในหนังสือเล่มนี้

"การเก็งกำไรในหุ้นจะไม่มีวันหายไปไหนและมันก็ไม่จำเป็นต้องหายไปด้วย มันไม่สามารถหยุดผู้คนได้ด้วยคำเตือนว่ามันอันตราย คุณจะไม่สามารถปกป้องคนอื่นไม่ให้พวกเขาตัดสินใจผิดๆได้ไม่ว่าเขาจะมีประสบการณ์มากแค่ไหนก็ตาม...

ศัตรูที่เลวรายที่สุดของทุกคนคือ ความไม่รู้ ความโลภ ความกลัวและความหวัง และไม่ว่าอะไรก็จะเปลี่ยนกฎธรรมชาติของมนุษย์ไม่ได้ "

Steve

ก่อนจะคุยกันยาวๆ ในการ ซื้อ - ถือ - ขาย แล้วได้กำไรหลายๆ เท่าตัวในหุ้นตัวนึง หรือในภาษาหุ้นชอบเรียกว่า “หลายเด้ง” นั้น องค์ประกอบมีอะไรบ้าง?
แน่นอนว่าในนั้นมี 2 องค์ประกอบใหญ่ๆ คือ หุ้น และ เวลา
👉 หุ้น คือการเลือกตัวหุ้นด้วยปัจจัยต่างๆ ที่เราวิเคราะห์ สังเกต จับตา รวมถึงอาจจะลงทุนด้วยเงินเล็กๆ ไปก่อนเพื่อการ “ เฝ้าสังเกต ” การคัดตัวหุ้นมาจากการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานทั้งในเชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) ซึ่งคือการดูงบฯ ย้อนหลังนั่นเอง และบวกด้วยการวิเคราะห์ในเชิงคุณภาพ (Qualitative Analysis) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์อนาคตโดยต้องมีมุมมอง ประสบการณ์ในการอ่านธุรกิจให้ออก ให้รู้ว่าผลประกอบการในไตรมาสต่อๆ ไปจะออกมาอย่างไร ซึ่งนั่นต้องใช้ข้อมูลที่มี และจินตนาการให้ออกว่างบฯ จะออกมาอย่างไรในอนาคต… ซึ่งเรื่องนี้จะลงรายละเอียดและหยิบยกเอาตัวอย่างให้ดูในบทต่อๆ ไป
👉เวลา คือจังหวะในการลงทุน ซึ่งหุ้นตัวเดียวกัน แต่ซื้อหรือขายในเวลาที่ต่างกัน ส่งผลให้กำไร หรือขาดทุนต่างกัน ช่วงเวลาที่ดีของการซื้อหุ้นคือ เมื่อราคาถูก และช่วงเวลาที่ดีของการขายหุ้นก็คือ เมื่อราคาแพง ฟังดูง่ายๆ และก็ง่ายจริงๆ เมื่อเราเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องการลงทุนหุ้น นักลงทุนที่เน้นทำกำไรในราคาหุ้นมีหน้าที่หาจังหวะในการซื้อ - ขาย ที่ดีนี่เอง เครื่องมือที่ช่วยให้ได้จังหวะที่ดีนั้นก็มีเครื่องมือทางเทคนิคอล อินดิเคเตอร์บางตัว วอลุ่ม … ประสบการณ์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญในตรงนี้เช่นกัน ซึ่งบทต่อๆ ไปเราจะมาคุยในตรงนี้มากขึ้น
👉 ถึงตรงนี้แล้วใครมีหุ้นในใจที่อยากนำเสนอ ลองคอมเมนต์กันมา แล้วเราอาจจะนำมาพูดคุยกันในบทต่อๆ ไป หรืออ่านเคล็ดวิชาดูหุ้นหลายเด้งได้ที่ ✅ : https://bit.ly/3DzJuR6
✨บางส่วนจากหนังสือ หุ้นเด็ด เคล็ดวิชาดูหุ้นหลายเด้ง!
📖โดย : ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา (ป้อม)
✅ อ่านเนื้อหาจัดเต็ม ไม่มีปิดตอน คลิก : https://bit.ly/3DzJuR6
╔═══════════════╗
หนังสือ นิยาย การ์ตูน บทความคุณภาพสุด Exclusive
อ่านครบรส สด! ใหม่! ทุกวันที่ 2read
💥 สมาชิกใหม่รับทันที 30 เหรียญ #อ่านฟรี 💥
📱 ดาวน์โหลดได้ทั้ง App store และ Play store คลิกลิงก์นี้เลย! https://bit.ly/3bQtbiV
╚═══════════════╝
━━━━━━━━━━━━━━━
ิที่คุณอ่านได้ #อ่านครบรสจบในแอปเดียว
#แนะนำหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #การลงทุน

สำหรับนักลงทุนหุ้น และผู้ที่สนใจ

ก่อนจะคุยกันยาวๆ ในการ ซื้อ - ถือ - ขาย แล้วได้กำไรหลายๆ เท่าตัวในหุ้นตัวนึง หรือในภาษาหุ้นชอบเรียกว่า “หลายเด้ง” นั้น องค์ประกอบมีอะไรบ้าง?
แน่นอนว่าในนั้นมี 2 องค์ประกอบใหญ่ๆ คือ หุ้น และ เวลา
👉 หุ้น คือการเลือกตัวหุ้นด้วยปัจจัยต่างๆ ที่เราวิเคราะห์ สังเกต จับตา รวมถึงอาจจะลงทุนด้วยเงินเล็กๆ ไปก่อนเพื่อการ “ เฝ้าสังเกต ” การคัดตัวหุ้นมาจากการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานทั้งในเชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) ซึ่งคือการดูงบฯ ย้อนหลังนั่นเอง และบวกด้วยการวิเคราะห์ในเชิงคุณภาพ (Qualitative Analysis) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์อนาคตโดยต้องมีมุมมอง ประสบการณ์ในการอ่านธุรกิจให้ออก ให้รู้ว่าผลประกอบการในไตรมาสต่อๆ ไปจะออกมาอย่างไร ซึ่งนั่นต้องใช้ข้อมูลที่มี และจินตนาการให้ออกว่างบฯ จะออกมาอย่างไรในอนาคต… ซึ่งเรื่องนี้จะลงรายละเอียดและหยิบยกเอาตัวอย่างให้ดูในบทต่อๆ ไป
👉เวลา คือจังหวะในการลงทุน ซึ่งหุ้นตัวเดียวกัน แต่ซื้อหรือขายในเวลาที่ต่างกัน ส่งผลให้กำไร หรือขาดทุนต่างกัน ช่วงเวลาที่ดีของการซื้อหุ้นคือ เมื่อราคาถูก และช่วงเวลาที่ดีของการขายหุ้นก็คือ เมื่อราคาแพง ฟังดูง่ายๆ และก็ง่ายจริงๆ เมื่อเราเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องการลงทุนหุ้น นักลงทุนที่เน้นทำกำไรในราคาหุ้นมีหน้าที่หาจังหวะในการซื้อ - ขาย ที่ดีนี่เอง เครื่องมือที่ช่วยให้ได้จังหวะที่ดีนั้นก็มีเครื่องมือทางเทคนิคอล อินดิเคเตอร์บางตัว วอลุ่ม … ประสบการณ์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญในตรงนี้เช่นกัน ซึ่งบทต่อๆ ไปเราจะมาคุยในตรงนี้มากขึ้น
👉 ถึงตรงนี้แล้วใครมีหุ้นในใจที่อยากนำเสนอ ลองคอมเมนต์กันมา แล้วเราอาจจะนำมาพูดคุยกันในบทต่อๆ ไป หรืออ่านเคล็ดวิชาดูหุ้นหลายเด้งได้ที่ ✅ : https://bit.ly/3DzJuR6
✨บางส่วนจากหนังสือ หุ้นเด็ด เคล็ดวิชาดูหุ้นหลายเด้ง!
📖โดย : ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา (ป้อม)
✅ อ่านเนื้อหาจัดเต็ม ไม่มีปิดตอน คลิก : https://bit.ly/3DzJuR6
╔═══════════════╗
หนังสือ นิยาย การ์ตูน บทความคุณภาพสุด Exclusive
อ่านครบรส สด! ใหม่! ทุกวันที่ 2read
💥 สมาชิกใหม่รับทันที 30 เหรียญ #อ่านฟรี 💥
📱 ดาวน์โหลดได้ทั้ง App store และ Play store คลิกลิงก์นี้เลย! https://bit.ly/3bQtbiV
╚═══════════════╝
━━━━━━━━━━━━━━━
ิที่คุณอ่านได้ #อ่านครบรสจบในแอปเดียว
#แนะนำหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #การลงทุน

มีกี่ข้อที่เราอาจจะยังไม่เคยรู้ 🤣😬 https://www.btwinmylife.com/2019/09/23/mistakes-eating-out/?fbclid=IwAR315UhR37iJBYrGeeRn3ZgVdT5VDu8hphzdRO2peh-kvX1WjKbZM19H2Po

9 ข้อผิดพลาดที่พวกเราส่วนใหญ่มักจะทำ เมื่อไปรับประทานอาหารนอกบ้าน - btwinmylife.com ซึ่งเราเชื่อว่ามารยาทบนโต๊ะอาหารนั้นถูกคิดและทำกันเป็นธ […]

เก็บตกเรื่องเล่า... “ความเวียดนามในทางธุรกิจ” จากพี่ทอง VT แหนมเนือง ที่ใครมาอุดรต้องหิ้วกล่องนี้กลับบ้าน

ด้วยตำแหน่งของพี่ทอง “ทอง กุลธัญวัฒน์” ในฐานะนายกสมาคมนักธุรกิจไทยเวียดนามซึ่งเป็นที่เคารพรักของนักธุรกิจชาวเวียดนาม ด้วยการเสียสละทุ่มเทส่งเสริมธุรกิจเวียดนามสู่โพ้นทะเล

บทสนทนาในเวลาสั้นๆใน Community Mall หลังใหญ่ทันสมัยของ VT แนมเนืองกลางเมืองอุดรธานี ได้หลากหลายความรู้ของมุมมองทางธุรกิจของชาวเวียดนาม... คุยกันไป จิ้มแหนมเนืองกันไป เรื่องถ่ายทอดดีๆกับ กับแกล้ม เพลิดเพลิน

ขอมาเล่ากันแบบส่งกันต่อ...

1. คนเวียดนามยอมรับแบรนด์สินค้าไทยเป็นแบรนด์ชั้นนำ สูสีกับแบรนด์อินเตอร์ต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน นำโด่งแบรนด์สินค้าชาติตนเอง หรือเพื่อนบ้านประเทศอื่นๆ ซึ่งรวมถึง จีน

2. ที่เศรษฐกิจเวียดนามโตในหลายปีหลังนี้ เกิดจากการอยากไถ่บาปของฝรั่งเศส และ อเมริกาที่เคยมาถล่มบ้านเค้ามาในอดีต

3. ภาษ๊นำเข้าสู่ยุโรปและอเมริกา ของสินค้า Made In Vietnam ได้เปรียบสินค้าจากประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ นี่คือเหตุผลสำคุญของฐานการผลิตของหลายๆสัญชาติจึงย้ายไปที่ประเทศนี้

4. เวียดนามไม่ใช่เพื่อนรักกับจีน

5. นักธุรกิจเวียดนามมองไทยเป็นต้นแบบที่อยากเป็นตาม โดยที่วันนี้ยังไม่ได้มองถึงการเอาชนะ

6. จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเวียดนามคือ “การเมืองที่นิ่ง” เห็นถึงอนาคตของผู้นำในลำดับถัดๆไปเรียบร้อย นโยบายสานต่อจากรัฐบาล ชัดเจน สนับสนุนให้เอกชนเดินหน้าได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องการเมือง

7. นักธุรกิจเวียดนามชื่นชมนักธุรกิจไทยที่เก่งโครต 55 เดินมาได้ถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่การเมืองไม่ได้นิ่งหรือช่วยภาคเอกชนเท่าไหร่ อุอุ อันนี้ จริงจัดๆ 55

8. ธุรกิจด้านสถานที่ท่องเที่ยวดีมากในเรื่องธรรมชาติที่สดใหม่และหลากหลาย โดยยอมรับว่ายังเป็นรองไทยในธุรกิจด้านการบริการ แต่กำลังพยายามพัฒนาให้เทียบเท่าในอนาคต

9. เกาะฟู้โกว๊ก กำลังจะพัฒนาขึ้นสู่เมืองท่องเที่ยวระดับโลก ด้วยการลงทุนมโหฬารในดินแดนแห่งน้ำทะเลฟ้าใส หาดทรายขาวสะอาด ที่มีอาคารบ้านเมืองสวยงาม บีชคลับ กระเช้าทันสมัยข้ามเกาะ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ทันสมัย และ สวนสัตว์ สวนน้ำให้เที่ยวกันได้แบบครอบครัว ซึ่งน่าจับตาในแผนขึ้นมาตีคู่ภูเก็ต ของเกาะนี้

10. บานาฮิลล์คือสวนสนุกที่จ่ายค่าแอร์ถูกสุดๆ เพราะพระเจ้าประธานอากาศที่ดีทั้งปี เย็นได้แบบธรรมชาติไม่ต้องเปิดแอร์ มีสะพานรูปมือเป็นซิกเนเจอร์ เมืองสวยและสวนสนุก รวมถึงคาสิโนที่เปิดแล้ว

11. ผู้พัฒนาบานาฮิลล์คือ Sun Group ที่เป็นเพื่อนสนิทของ VinFast ทั้งคู่คือเศรษฐีอันดับ 1 และ 2 ของเวียดนาม ที่โตมาจากการขายธุรกิจที่ต่างประเทศ และกลับไปพัฒนาเวียดนาม โดยเริ่มต้นจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งคู่

12. ส่วน VinFast คือรถยนต์เบอร์หนึ่งของเวียดนามที่ผู้ก่อตั้งรวยอันดับหนึ่งของประเทศ โดย EV Car แบรนด์ดังของเวียดนามนี้ เน้นส่งออกอเมริกาและยุโรป ด้วยเหตุผลที่ได้เปรียบในด้านภาษีในข้อข้างบน ไม่น่าจะมีนโยบายตีตลาดไทยหรืออาเซี่ยนในเร็ววันนี้ ที่มีแบรนด์จีนและอเริกายึดตลาดนี้อยุ่

13. คนฮานอยรวยแต่ประหยัด ส่วนคนโฮจิมินห์รวยไม่รวยก็ใช้เงินเก่ง ถ้าจะขายของก็ดูเอาว่าจะไปเมืองไหนที่คนพร้อมจ่าย 55 คนโฮจิมินท์น่าจะเหมือนคนกรุบเทพฯ มีร้อยจ่ายร้อยห้าสิบ

14. คนเวียดนามชอบกินกระทิงแดงมากๆๆๆ แบรนด์นี้นำหน้าคู่แข่งอย่างหลายเท่าตัว

15. ข้าวเหนียวมะม่วงไทยคือเมนูโปรดของคนเวียดนาม เรียกได้ว่าถ้ามาเที่ยวเมืองไทยจะต้องสั่งมากินทันทีเป็นอย่างแรก

16. ของฝากจากไทยคือสุดยอดสำหรับการมาเที่ยวเมืองไทย คนเวียดนามยอมรับว่าสินค้าเวียดนามยังไม่มีสินค้าไหนที่คนไทยซื้อกลับจากเวียดนามมากนัก มีอย่างเดียวที่ขายได้คือ งอบเวียดนาม ก็จริง

17. ร้านอาหาร - ร้านกาแฟ แบรนด์อินเตอร์ดังๆระดับโลกที่มาเปิดเวียดนาม ม้วนเสื่อกลับบ้านเป็นแถว ด้วยพฤติกรรมคนเวียดนามที่ชอบร้านสัญชาติตัวเองกว่า

18. กาแฟเวียดนามอร่อยและขึ้นชื่อ รวมถึงไวน์ที่ปลูกทางเหนือ และเช่นกันที่ภาคเหนือมีหิมะและลานสกี

19. อุดรธานีคือศูนย์กลางของคนเวียดนามในไทย ทั้งจากการที่ท่านโฮจิมินห์เคยลี้ภัยสงครามมาที่นี่ และจำนวนคนเชื้อสานเวียดนามที่จำนวนมาก

20. ถ้าจะลงทุนกับคนเวียดนาม ให้นึกถึงการจะได้ร่วมงานกับคนที่ฉลาดและมุ่งมั่นทุ่มเท ซึ่งอย่ามองว่าเป็นลูกจ้าง-นายจ้าง ซึ่งคนเวียดนามไม่ชอบ แต่ให้มองแบบพาร์คเน่อร์ที่ win-win และต้องว่องไวที่จะหาทางออกเมื่อธุรกิจที่ทำเติบโต ซึ่งอาจจะมีการประยุกต์ไอเดียไปทำแข่ง... เข้าไว ออกไว

21. ความคึกคักของตลาดหุ้นเวียดนามยังสู้ตลาดไทยไม่ได้ทั้งจำนวนบริษัทในตลาดฯ และจำนวนนักลงทุน

22. ยังไม่มีสังคมนักลงทุนรายย่อยแบบ Stock2morrow ของไทยในเวียดนาม ซึ่งอนาคตน่าจะร่วมทำอะไรกันได้ อิอิ

นี่คือส่วนหนึ่งเล็กๆที่จำได้ แบบไม่ได้อัดเทป การสนทนา ซึ่งเป็นมองเปิดโลกทัศน์ในอีกมุม

ส่วนอนาคตของ VT แหนมเนืองที่กำลังแต่งตัวเตรียม IPO เร็วๆนี้ ด้วยสาขาที่มีทั่วประเทศ กับสินค้าดังประจำจังหวัดที่พร้อม Delivery เพียงกดซื้อทั่วประเทศผ่านไปรษณีย์ไทย และยังมีฐานทัพใหญ่เป็น Community Mall หลังใหญ่ทันสมัยกลาง มีร้านค้าและห้องประชุมหลากหลายขนาดกลาง เมืองอุดรธานีอีก ควรต้องติดตามตอนต่อไป...

ขอบคุณครับพี่ทอง นักคิดและนักลงมือทำคนดังแห่งเมืองอุดรฯ กับบทสนทนาที่ทรงคุณค่าและแนมเนืองอร่อยๆ… ไว้ก้าวต่อๆไป จะมาอัปเดท กับความร่วมมือกันในอนาคต โปรดติดตาม...

เรื่องเล่า 16 ปี ของคนไม่ยอมแก่ เย้ยยย ไม่ยอมหยุด 🤣 น้อง Arty จาก Rhythm ในเครือ Reporter Journey เขียนได้สนุกดี อ่านฉบับเต็มได้ที่ https://www.feeltherhythm.co/pom-stock2morrow/?fbclid=IwAR3bvDvAibSQ-f6Y-zYcgdgi2GkCvWZVyNRtcPYr1LxOPXrRPtzPdMWhfqU&mibextid=Zxz2cZ

สิ่งที่แตกต่างของ NFT กับ คริปโตฯทั่วไป

แม้ว่า NFT จะถือว่าเป็นหนึ่งในคริปโตฯ
แต่ด้วยชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้ว NFT = Non Fungible Token

N = Non = ไม่ได้
F = Fungible = ทดแทนกันได้
T = Token = เหรียญ

NFT = เหรียญที่ทดแทนกันไม่ได้ หรือจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่มีชิ้นเดียวในโลกก็ได้

…

บิทคอยน์ ทุกเหรียญเหมือนกันทั้งสิ้น
ในขณะที่ NFT แต่ละชิ้นจะไม่มีซ้ำกันเลย

…

ในคุณสมบัติของความไม่ซ้ำกันนี้จึงก่อกำเนิด
NFT แสดงความเป็นเอกสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของคนเดียว
NFT เป็นงานสะสม
NFT เป็นบัตรสมาชิก
NFT เป็นการสะสมแต้ม
NFT เป็นการเล่าเส้นทางของเจ้าของที่ถือ
NFT เปลี่ยนมือได้ในตลาดแลกเปลี่ยน
ฯลฯ
…

กลุ่ม FatCat Planet คือกลุ่มคนรักแมว ที่ออกคอลเลคชั่น NFT แมว
ทำให้เกิดชุมชน (Community) ที่ผูกให้คนรักแมวมาเจอกัน คุยกัน ช่วยกัน
กิจกรรมต่างๆ (Utility) ในวงการแมวก็เป็นเอกสิทธิ์ของผู้ถือให้สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้
.

เช่นกันที่ BullMoonClub คือกลุ่มคนที่รักการลงทุนและธุรกิจ ที่ถือ NFT ในคอลเลคชั่นเดียวกัน
Community และ Utility มีมากมายท้งเรื่องส่งมอบความรู้ และกิจกรรม NetWorking ให้ได้เจอเพื่อนใหม่หลากหลายวัยและวงการ

…

FatCat Planet x BullMoonClub
กำลังจะเกิดการ Collab กันเร็วๆนี้ เหมือนๆกับในอีกหลาย Commumity ที่สร้างกันมากำลังจับมือสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้ทั้งผู้ถือ และสังคม

…

NFT มีเอกลักษณ์ และมีความแตกต่างจากคริปโตฯ จึงเกิดการสร้างสรรค์และต่อยอดได้หลากหลาย
นี่คือโลกใหม่ที่กำลังก่อร่างสร้างตัว

…

วันนี้ถ้าอยากจะเริ่มต้นในเรื่องนี้อย่างจริงจัง อย่าช้า BullMoonClub รออยู่
จะ MInt เอง ก็ https://bullmoon.stock2morrow.com/
หรือต้องการทีมช่วยเหลือก็ที่ https://stock2morrow.com/course/34

…

เพราะ NFT คือเทรนด์ใหม่ที่มาแล้ว
และเรื่องความรู้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเสมอ 🙂