Around The Law
ไม่ให้ความเห็นทางคดี หลักกฎหมายที่สำคัญ สำหรับใช้สอบเเละทำงาน
🔴 ส่งต่อจูริส 2567 สภาพ100% ไม่มีรอยขีดเขียน 🔴
ประกอบด้วย
แพ่งพิสดาร 4 เล่ม
อาญาพิสดาร 2 เล่ม
วิ.แพ่งพิสดาร 3 เล่ม
วิ.อาญาพิสดาร 2 เล่ม
พยานพิศดาร 1 เล่ม
✅ **ไม่มีค่าใช้จ่าย**
_________________________________
วิธีร่วมกิจกรรม
1. แชร์โพสนี้เป็นสาธารณะ
2. เข้าไปตอบคำถามที่ใต้โพส https://www.facebook.com/share/p/W7HJtmkgduRwPNnH/
3. ระยะเวลาร่วมกิจกรรมตั้งแต่บัดนี้ถึง วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 เวลา 23.59 น.
4. แอดมินคัดเลือกผู้ตอบคำถามได้สมบูรณ์ที่สุด ให้เป็นผู้ได้รับหนังสือ
#ฎีกาใหม่
#หมิ่นประมาท
#ไอ้สันดานหมา
คำพิพากษาฎีกาที่ 3073/2565
ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมาย มาตรา 326 จะต้องเป็นการใส่ความคือ การพูดหาเหตุร้าย หรือกล่าวหาเรื่องร้ายให้ผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังถ้อยคำที่จำเลยกล่าวว่า “ไอ้สันดานหมา" คำว่า "สันดาน" หมายความถึง อุปนิสัยที่มีมาแต่กำเนิด ซึ่งอาจมีสันดานดีหรือสันดานเลวก็ได้ แม้มักใช้ไปในทางไม่สู้จะดี แต่ก็มิใช่เป็นการใส่ความให้ร้ายผู้ร้อง ทั้งตามความรู้สึกนึกคิดของบุคคลธรรมดาไม่เชื่อว่าผู้ร้องจะเป็นเช่นนั้น เพราะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่น่าจะทำให้ผู้ร้องเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง เมื่อพิจารณา ถึงสาเหตุที่จำเลยกล่าวถ้อยคำนั้นน่าจะเป็นเพราะจำเลยไม่พอใจผู้ร้องที่ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ย่อมทำให้จำเลยไม่พอใจผู้ร้องเพิ่มขึ้นไปอีก จึงเป็นการด่าผู้ร้องอันเนื่องมาจากความรู้สึกไม่พอใจผู้ร้อง ไม่ได้มีความมุ่งหมายถึงความประพฤติของผู้ร้องว่าเป็นคนมีอุปนิสัยที่ไม่ดีมาแต่กำเนิด การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ทางทีมงานเพจเปิดกลุ่มทนายจิตอาสา (การศึกษา : เนติบัณฑิตไทย) เพื่อบริการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยยึดตามหลักกฎหมายที่ถูกต้องแม่นยำและตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกา สนใจกดเข้ากลุ่ม
https://www.facebook.com/groups/811373995931227/?source=unknown
หรือติดต่อไอดีไลน์ เบอร์ 0953979231 (ทีมงานทนายชานน)
https://line.me/ti/p/To-Ai0CjwN
#ฎีกาใหม่
#ค้ำประกัน #หนี้ร่วม
#หนี้ร่วมระหว่างสามีภรรยา
คำพิพากษาฎีกาที่ 3803/2565
จำเลยที่ 2 สามีโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 1 ทำหนังสือให้ความยินยอมในการที่จำเลยที่ ทำสัญญาเช่าซื้อโดยมีข้อความว่า จำเลยที่ 2 รับรู้และยินยอมให้จำเลยที่ 1 ประพฤติผิดสัญญาหรือความรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อ จำเลยที่ 2 ยินยอมร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 อย่างลูกหนี้ร่วม การให้สัตยาบันแก่หนี้ที่จำเลยที่ 1 ตามสัญญาเชาซื้อรายนี้ จึงถือเป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยา ที่จำเลยที่ 2 ต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1490 (4) หาใช่โจทก์มีเจตนาให้จำเลยที่ 2 สามีโดยซอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 1 ทำหนังสือยินยอมรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 อย่างลูกหนี้ร่วมเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายที่บัญญัติให้ข้อตกลงที่ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดอย่างเดียวกับลูกหนี้ร่วมหรือในฐานะลูกหนี้ร่วม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 686 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 150 ไม่
ทางทีมงานเพจเปิดกลุ่มทนายจิตอาสา (การศึกษา : เนติบัณฑิตไทย) เพื่อบริการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยยึดตามหลักกฎหมายที่ถูกต้องแม่นยำและตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกา สนใจกดเข้ากลุ่ม
https://www.facebook.com/groups/811373995931227/?source=unknown
หรือติดต่อไอดีไลน์ เบอร์ 0953979231 (ทีมงานทนายชานน)
https://line.me/ti/p/To-Ai0CjwN
#ฎีกาใหม่
#กระทำชำเราโดยใช้อาวุธ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1904/2565
การกระทำชำเราโดยใช้อาวุธ หมายถึง การกระทำชำเราโดยผู้กระทำมีอาวุธมาแสดงเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดของตน หาใช่หมายความถึงกับผู้กระทำต้องใช้อาวุธหรือจะใช้อาวุธในขณะกระทำชำเราไม่
จำเลยเดินไปเคาะประตูบ้านผู้ร้องในเวลาประมาณ 23 นาฬิกา ไม่มีเหตุผลหรือความจำเป็นใดเลยที่ต้องนำอาวุธมีดติดตัวไปด้วย เมื่อผู้ร้องออกมาเปิดประตู จำเลยก็ดึงมือผู้ร้องเข้าไปข่มขืนกระทำชำเราทันทีแสดงว่าจำเลยมีเจตนาที่จะข่มขืนกระทำชำเราผู้ร้องมาตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้น การนำอาวุธมีดดังกล่าวติดตัวไปของจำเลยจึงมีเจตนาที่จะให้ผู้ร้องเกิดความกลัวและยอมให้จำเลยกระทำชำเราได้สำเร็จ ครั้นจำเลย
กระทำชำเราสำเร็จในคืนแรกแล้ว คืนที่สองที่จำเลยมากระทำชำเราจำเลยอาจเห็นว่าผู้ร้องไม่น่าจะขัดขืนแล้วจึงไม่นำอาวุธใดติดตัวมาอีก ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏประกอบคำรับสารภาพของจำเลยคดีย่อมฟังได้ตามฟ้องว่าจำเลยกระทำชำเราผู้ร้องในคืนแรก โดยใช้อาวุธ แม้ขณะกระทำชำเราในคืนแรกจำเลยวางอาวุธมีดไว้นอกห้อง
ทางทีมงานเพจเปิดกลุ่มทนายจิตอาสา (การศึกษา : เนติบัณฑิตไทย) เพื่อบริการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยยึดตามหลักกฎหมายที่ถูกต้องแม่นยำและตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกา สนใจกดเข้ากลุ่ม
https://www.facebook.com/groups/811373995931227/?source=unknown
หรือติดต่อไอดีไลน์ เบอร์ 0953979231 (ทีมงานทนายชานน)
https://line.me/ti/p/To-Ai0CjwN
#ฎีกาใหม่
#ผู้เสียหาย
#ดักฟังทางโทรศัพท์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2738/2565
บทบัญญัติตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 และประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 1 เรื่อง ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด มีเจตนารมณ์เพื่อให้รัฐควบคุมและกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม และคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในการติดต่อสื่อสารของประชาชน อันเป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องให้การรับรองและคุ้มครองไว้ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อก่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย รักษาความสงบสุขและความมั่นคงของประเทศ อันเป็นมาตรการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม มิได้มุ่งประสงค์ที่จะคุ้มครองบุคคลใดคนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง ความผิดตามบทบัญญัติทั้งสองจึงเป็นความผิดต่อรัฐ รัฐเท่านั้นที่เป็นผู้เสียหายและมีหน้าที่ดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิด โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายและไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษตามบทบัญญัติทั้งสอง
ทางทีมงานเพจเปิดกลุ่มทนายจิตอาสา (การศึกษา : เนติบัณฑิตไทย) เพื่อบริการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยยึดตามหลักกฎหมายที่ถูกต้องแม่นยำและตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกา สนใจกดเข้ากลุ่ม
https://www.facebook.com/groups/811373995931227/?source=unknown
หรือติดต่อไอดีไลน์ เบอร์ 0953979231 (ทีมงานทนายชานน)
https://line.me/ti/p/To-Ai0CjwN