Wasan

Wasan

Contact information, map and directions, contact form, opening hours, services, ratings, photos, videos and announcements from Wasan, Real Estate, .

27/05/2022

พันธ์ศักดิ์ อาภาขจร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร เขียนบทความแสดงความเห็น และให้ข้อมูลเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ...

@@ มรดกโซเชียลฯ ตายแล้วไปไหน?

ตลอดเวลา 3 เดือนหลังจากการจากไปของ “คุณแตงโม” นักแสดงสาว มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเป็นข่าวให้เห็นแทบไม่เว้นวัน และมักเกิดจากฝั่งที่ไม่เชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ และคนกลุ่มนี้มักนำหลักฐานต่างๆ ออกมาเปิดเผยอยู่เป็นระยะๆ จนทำให้ผู้คนสงสัยอยู่ตลอดเวลาถึงเงื่อนงำของคดีที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้

การให้เบาะแสในคดีของคุณแตงโมไม่ได้มีความเคลื่อนไหวเฉพาะในโลกแห่งความจริงเท่านั้น แต่ในเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของคุณแตงโมก็ยังมีความเคลื่อนไหวจากการโพสต์ภาพและข้อความต่างๆ โดยเฟซบุ๊กชื่อ Happy Melon Patcharaveerapong ของ แตงโม ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ ได้มีการโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพและคลิปหลายครั้งเพื่อปลุกกระแสทวงคืนความยุติธรรมให้แตงโมในโลกโซเชียลอีกครั้ง

รวมทั้งอินสตาแกรมแมวของคุณแตงโมก็มีการเคลื่อนไหวเช่นกัน จนทำให้เกิดเทรนด์บนบนทวิตเตอร์ต่อเรื่องดังกล่าวอย่างล้นหลาม และคดีกลับมาอยู่ในกระแสของสื่ออีกครั้ง จนเกิดคำถามจากผู้บริโภคข่าวทั่วไปว่าใครคือต้นตอของการเคลื่อนไหวโดยใช้บัญชีของคุณแตงโม ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมแมว ทั้งที่คุณแตงโมได้เสียชีวิตไปแล้ว

ในโลกแห่งความจริงหากมีการเสียชีวิตผู้วายชนม์ มักจะทำพินัยกรรมไว้เพื่อยกมรดกให้กับผู้ใดผู้หนึ่ง หรือมีผู้จัดการมรดก แต่ในโลกออนไลน์ซึ่งผู้เสียชีวิตได้ทิ้งมรดกทางดิจิทัล (Digital Legacy) ไว้ในบัญชี ซึ่งมีทั้งภาพนิ่ง คลิปเสียง คลิปภาพ ข้อความต่างๆ ทั้งบนโซเชียลมีเดีย อีเมล ซึ่งอาจมีทั้งเรื่องบันเทิงหรือข้อมูลสำคัญทางการเงิน จนมักเกิดคำถามว่าจะมีการจัดการอย่างไรกับมรดกเหล่านี้ และเจ้าของแพลตฟอร์มควรจะดำเนินการอย่างไรต่อมรดกทางดิจิทัลเมื่อเจ้าของบัญชีได้เสียชีวิตไปแล้ว

@@ ตายแล้ว-บัญชียังอยู่ ช่องทางมิจฉาชีพหาประโยชน์

จากการสำรวจของ UK YouGov เมื่อปี ค.ศ.2018 พบว่า ราว 7 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบคำถามต้องการให้บัญชีโซเชียลมีเดียของตัวเองถูกเก็บไว้ แม้ว่าชีวิตจะหาไม่แล้วก็ตาม แม้ว่าตัวเลขนี้จะดูไม่มาก แต่หากคิดจากจำนวนผู้ใช้โซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มซึ่งมีนับพันล้านบัญชีแล้ว ตัวเลขนี้สามารถแสดงถึงผู้ที่มีความประสงค์ที่ต้องการให้เรื่องราวของตัวเองถูกจดจำหลังความตายน่าจะมีจำนวนนับร้อยๆ ล้านรายเลยทีเดียว

การเสียชีวิตของผู้ใช้โซเชียลมีเดียยังเปิดโอกาสให้ใครก็ตามสามารถเข้าไปหาผลประโยชน์จากผู้ตายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะแสดงออกถึงเจตนาดี หรือเพื่อการต้มตุ๋นหลอกลวงก็ตาม

@@ บทเรียน USA ตัวตนผู้ตายถูกใช้ 2.5 ล้านคน

จากข้อมูลที่เปิดเผยโดยบริษัทป้องกันการการใช้ตัวตนเพื่อการหลอกลวง พบว่า ทุกๆ ปี ตัวตนของผู้เสียชีวิตชาวอเมริกันราว 2,500,000 คน ถูกใช้โดยมิจฉาชีพ ทั้งเพื่อสร้างบัญชีบัตรเครดิตปลอมเพื่อขอสินเชื่อ จนกระทั่งใช้ตัวตนของคนตายเปิดบัญชีโทรศัพท์มือถือและขอใช้บริการอื่นๆ และผู้ตายราว 800,000 คน จาก 2,500,000 คน คือเป้าหมายที่บรรจงคัดมาแล้วเป็นอย่างดี เท่ากับว่าชื่อผู้ตายถูกนำไปใช้ในทางมิชอบถึงวันละ 2,200 คน

@@ 8 วิธีหากินกับคนตาย

เมื่อปี ค.ศ.2020 สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา (FBI) สำนักงาน เอลปาโซ (El Paso) ได้ส่งคำเตือนไปยังครอบครัวผู้ตายให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่หากินกับคนตาย โดยใช้เทคนิคต่างๆ ที่คนธรรมดาอาจคาดไม่ถึง เป็นต้นว่า

1.อ้างกับครอบครัวผู้ตายว่าผู้ตายมีหนี้สินที่ยังไม่ได้ชดใช้แก่ผู้กล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้

2.เรี่ยไรเงินเพื่อจัดพิธีศพจากผู้เกี่ยวข้องหรือคนทั่วๆ ไป ทั้งๆ ที่ไม่มีงานศพใดๆ ถูกจัดขึ้นเลย

3.อ้างกับครอบครัวผู้ตายว่าผู้ตายยังไม่ได้ชำระเงินค่าบริการทางการแพทย์และขอเรียกเก็บเงินจากครอบครัว

4.อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อเรียกเก็บภาษีจากผู้ตาย

5.ปลอมตัวตนเป็นผู้ตายเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับใครก็ตาม ทั้งในทางสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์หรืออาจมีการเรียกร้องผลประโยชน์ในทางใดทางหนึ่ง

6.ติดต่อกับผู้ใกล้ชิดผู้ตาย แสดงความเสียใจต่อการสูญเสีย และอ้างว่าผู้ตายไม่ชำระค่าประกันชีวิต และมีการเรียกร้องให้ชำระค่าประกันชีวิต

7.เปิดบัญชีบัตรเครดิตในนามผู้ตาย

8.ทำเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับผู้ตายเพื่อหารายได้ให้กับครอบครัวผู้ตาย

@@ แนะญาติผู้ตายยื่นคำร้องเจ้าของแพลตฟอร์ม "ระงับบัญชี"

การปลอมตัวเป็นคุณแตงโมบนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะด้วยเจตนาใดก็ตาม ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ไม่ให้เกียรติผู้ตาย และถือเป็นวิถีหากินกับผู้ตายไม่ต่างจากมิจฉาชีพที่กระทำการหลอกลวงด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

คุณแตงโมเสียชีวิตไปแล้วถึง 3 เดือน สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับบุคคลรอบข้างและแฟนคลับของเธออย่างมากมาย เธอไม่สามารถทำกิจกรรมใดๆ ได้อีกแล้ว ไม่ว่าในโลกแห่งความจริงหรือโลกออนไลน์ การเคลื่อนไหวบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมแมวของเธอ หากบัญชีนั้นเป็นบัญชีจริงๆแสดงว่ามีความไม่ปกติเกิดขึ้นเพราะมีคนนำบัญชีของเธอไปหาผลประโยชน์ เพราะเมื่อเจ้าของบัญชีเสียชีวิต โดยปกติย่อมไม่มีใครนำบัญชีโซเชียลไปใช้งานได้

อย่างไรก็ตาม การลบหรือระงับบัญชีโซเชียลมีเดียสามารถดำเนินการได้โดยการส่งเอกสารเพื่อยืนยันว่าผู้ส่งเป็นสมาชิกในครอบครัวใกล้ชิด หรือผู้ดำเนินการแทนเจ้าของบัญชีดังกล่าวไปยังแพลตฟอร์มของบัญชีนั้นๆ เช่น ส่งไฟล์สแกนหรือรูปถ่ายของมรณบัตรของสมาชิกในครอบครัวไปยังเจ้าของแพลตฟอร์ม หรือมอบเอกสารยืนยันสิทธิ์การดำเนินการแทน และเอกสารที่ยืนยันว่าสมาชิกในครอบครัวถึงแก่กรรม ไปยังเจ้าของแพลตฟอร์มเพื่อให้ดำเนินการยกเลิกหรือระงับบัญชี ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มล้วนมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป

กรณีของคุณแตงโมเข้าใจว่าครอบครัวยังมิได้ดำเนินการใดๆ ในการร้องขอให้ลบหรือระงับบัญชีโซเชียลมีเดีย จึงเป็นช่องว่างที่ทำให้ใครต่อใครที่รู้เบอร์บัญชีของเธอ สามารถนำบัญชีของผู้ตายไปใช้ตามอำเภอใจ ซึ่งไม่สามารถกระทำได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม และต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

@@ จี้แพลตฟอร์มออกมาตรการ "ความเป็นส่วนตัว" มรดกโซเชียลฯ

นอกจากนี้มรดกทางดิจิทัลบนโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มของคุณแตงโมที่เคยทำผลประโยชน์มากมายให้กับเจ้าของแพลตฟอร์มในฐานะคนเด่นคนดัง ซึ่งเป็นมรดกที่จับต้องไม่ได้ แต่มีคุณค่าในตัวเอง ครอบครัวควรต้องได้นำมรดกนี้ไปเก็บไว้หรือใช้ประโยชน์ และอาจนำมาเปิดเผยในบางโอกาสเพื่อการระลึกถึงเธอ หรืออาจเก็บไว้ในโลกดิจิทัลโดยไม่เปิดเผย เพื่อให้เป็นความลับไปพร้อมกับตัวตนของเธอ และควรต้องประกาศถึงความเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของผู้วายชนม์หลังความตาย เพื่อไม่ให้ใครต่อใครนำข้อมูลส่วนที่สามารถค้นหาได้ไปหาประโยชน์ตามอำเภอใจ และสร้างความสับสนให้กับส่วนรวมได้อีกต่อไป

ในระหว่างนี้บริษัทโซเชียลมีเดียควรมี "มาตรการชั่วคราว" ที่ต้องไม่ยอมให้ใครต่อใครสามารถปลอมตัวเป็นคุณแตงโมไปใช้บัญชีของเธอได้อีก จนกว่าครอบครัวจะร้องขอมายังแพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการ เพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตามความประสงค์ของครอบครัว

26/05/2022

จากกรณีที่ วันนี้ (25 พ.ค.) ทนายเดชา ได้เปิดเผยว่า คุณแม่ ภนิดา แม่ของแตงโม นิดา ยอมรับว่าส่งโทรศัพท์มือถือของลูกสาวไปให้ บังแจ็ค โดยเชื่อว่าบังแจ็คจะช่วยรื้อข้อมูลหาสาเหตุการเสียชีวิตของแตงโมได้

ล่าสุด บังแจ็ค ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการถกไม่เถียง โดย บังแจ็ค ยอมรับว่า โทรศัพท์มือถือแตงโมอยู่ที่ตนเอง โดยคุณแม่แตงโมเป็นคนส่งมาให้เอง ยืนยันว่าไม่มีการโอนเงินไปให้คุณแม่ ที่คุณแม่ส่งมาเพราะต้องการให้ช่วยกู้ข้อมูลคืนมาจากมือถือ ซึ่งตนก็พยายามกู้อยู่ เพราะข้อมูลมันเยอะพอสมควร

ตอนนี้สามารถกู้ข้อมูลสำคัญๆ มาได้บางส่วน มีคลิป ข้อความ รูปภาพ ข้อมูลการรับงาน โอนเงินบางส่วนที่ถูกลบไป โดยรวมแล้วน่าจะมีรูปประมาณ 5 หมื่นภาพ คลิปที่กู้มาได้ เป็นคลิปที่ไม่สุภาพของน้องโม

ส่วนกรณีเพจ Happy Melon official ที่มีผู้ติดตาม 1.5 ล้านคน เป็นเพจของตน ที่ได้รับอนุญาตจากคุณแม่แล้วในการโพสต์สิ่งเหล่านี้ ส่วนที่เพจอื่นๆ นำไปโพสต์ ไม่ใช่ฝีมือของตน

เรื่องที่โทรหาคุณกระติก แล้วมีการส่งภาพไม่เหมาะสมของแตงโมไป เรื่องนี้ตนไม่รู้ เป็นความผิดของคุณกระติกที่ให้สื่อถ่าย ปกติการคุยโทรศัพท์ต้องคุยเป็นการส่วนตัว วันที่เราโทรไป คุณกระติกวางสายทันที สื่ออย่าไปเข้าข้างพวกนี้ ทำไมไม่ไปถามเขาว่ากระติกลบข้อมูลทำไม

"ทนายเดชา" แถลงด่วน! เผยแม่แตงโมยอมรับแล้ว ส่งโทรศัพท์ลูกสาวให้บังแจ็ค
ทนายตั้ม โพสต์เดือด! ถามแม่แบบไหนขายมือถือลูกให้มิจฉาชีพ ทำข้อมูลส่วนตัวหลุด

25/05/2022

จากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปภาพเหตุการณ์ชายคนหนึ่งใช้กำลังตบตี จิกผม และใช้เท้าถีบหญิงสาวคนหนึ่ง โดยที่หญิงสาวคนดังกล่าวไม่ได้ต่อสู้อะไร และเมื่อฟังจับใจความภาพในคลิปทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการติดตามทวงหนี้ โดยหญิงสาวรายดังกล่าวไม่ยอมจ่ายชำระหนี้ให้กับชายในคลิป จนทำให้ชายที่เป็นเจ้าหนี้ลงมือทำร้ายร่างกายหญิงสาวคนดังกล่าว

โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (24 พฤษภาคม 2565) ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นำโดย พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.ท.มณฑล หงส์กลาง รองผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และชุดสืบสวน สภ.หินดาด ได้นำหมายศาลเข้าจับกุมตัว นายศุภชัย โฝงสูงเนิน หรือ เต้ย อายุ 29 ปี เจ้าหนี้โหดที่ก่อเหตุตามคลิป และนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายศุภชัย ซึ่งจากการตรวจค้นพบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเงินกู้จำนวนมาก อาทิเช่น หนังสือสัญญาเงินกู้ โฉนดที่ดิน สมุดบัญชีธนาคาร และบัญชีรายชื่อลูกหนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นนายศุภชัยให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลตามหมายจับ และเป็นบุคคลเดียวกับที่กระทำการในคลิปจริง แต่ไม่ขอให้การในรายละเอียด และขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งดำเนินคดีนายศุภชัยเจ้าหนี้โหด 3 ข้อหา ประกอบด้วย ข้อหาให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด, ทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ ใช้ความรุนแรง และทำร้ายร่างกายผู้อื่น

ทั้งนี้เหตุการณ์ทวงหนี้โหดดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ที่บริเวณลานตากสินค้าทางเกษตรกรรมบ้านปราสาท หมู่ที่ 14 ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยมีคลิปภาพเหตุการณ์ถูกแชร์ในโลกโซเชียล เป็นภาพนายศุภชัยเจ้าหนี้โหดใช้กำลังตบตี จิกผม และใช้เท้าถีบหญิงสาวลูกหนี้ โดยที่หญิงสาวลูกหนี้ไม่ได้ต่อสู้ขัดขืนแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากคลิปภาพดังกล่าวแพร่กระจายออกไป ได้มีคนเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันเป็นจำนวนมาก โดยหลังเกิดเหตุหญิงสาวผู้เสียหาย วัย 23 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หินดาด เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัยผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในช่วงนี้ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็มักจะพบมีบุคคลนำใบปลิวหรือนามบัตร แนะนำการกู้ยืมเงินนอกระบบไปทิ้งไว้ตามป้ายรถเมล์ หรือในตลาด เพื่อหลอกให้ผู้ที่กำลังได้รับความเดือดร้อน ไปกู้ยืมเงินดอกเบี้ยแพงเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด ซึ่งทางตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ก็พยายามปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ใช้วิธีทวงหนี้โหด หากประชาชนพบเห็นก็สามารถโทรศัพท์แจ้งได้ที่เบอร์ 1599 หรือ 191 ซึ่งจะจัดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากถือว่าเป็นภัยต่อสังคม ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา จะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ยังได้ประสานงานกับนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีโครงการ “ผู้ว่าวิเชียร ช่วยได้” เบอร์ 1300 โดยจะมีการช่วยเหลือด้านอาชีพให้กับพี่น้องประชาชน ให้สามารถมีรายได้เพิ่มขึ้นได้ต่อไป

24/05/2022

นายแพทย์สาธารณสุข จ.ชัยภูมิ ออกมาแจ้งผลตรวจผลิตภัณฑ์อาหารพระบิดา พบเชื้อราเกินเกณฑ์มาตรฐานกำหนด มีเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหารที่รุนแรงถึงขั้นติดเชื้อในกระแสโลหิตและทำให้เสียชีวิตได้ ส่วนการที่มีทนายความของพระบิดาเข้าแจ้งความจับผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ อ้างบุกรุกเคหะสถาน แจ้งความดำเนินคดีตาม ม.157 ยังไม่ทราบรายละเอียดในการแจ้งความ

วันนี้(24 พ.ค.65) นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ได้ออกมาพูดถึงสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิได้ออกตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ณ บ้านกุดแคนหมู่ที่ 2 ตำบลดงกลางอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ พบว่ามีผลิตภัณฑ์จำนวนมากแขวนและวางไว้ เรียงรายในพื้นที่โดยไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งผลิตภัณฑ์อาหารส่วนใหญ่ไม่ได้ขออนุญาตในการผลิต และพบว่ามีการใช้ฉลากอาหารไม่ถูกต้อง โดยไม่ได้ระบุข้อความตามที่กำหนดบนฉลากอาหาร เช่น ที่ตั้งของสถานที่ผลิต วันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุ เป็นต้น

ผู้เจ้าของลัทธิประหลาดคือ นายทวี หนันลา อายุ 75 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น ได้ทำการผลิตอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงการแบ่งบรรจุผลิตภัณฑ์อาหาร จะต้องขออนุญาตผลิตอาหาร และต้องได้รับเลขสารบนอาหารก่อน จึงจะทำการผลิตและจำหน่ายได้จึงถือได้ว่า นายทวี กระทำความผิด 2 กรรม คือ

1.ทำการผลิตอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนมาตรา 14 ต้องบทกำหนดโทษตามมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ใช้ฉลากอาหารที่ไม่ถูกต้องโดยการใช้ฉลากอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดฝ่าฝืนประกาศซึ่งออกตามมาตราแห่งวงเล็บ 10 กำหนดโทษตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ 2522 ต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท

จากการเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์จังหวัดนครราชสีมา ได้รับผลวิเคราะห์มาแล้วจำนวน 8 ตัวอย่าง จากผลเบื้องต้นพบว่าตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหาร 3 ตัวอย่าง คือแซ่บหลาย ข้าวเกรียบปลาทู ถั่วลันเตาคลุกเกลือ และปลาหมึกแห้ง ไม่ผ่านเกณฑ์คุณภาพทางจุลชีววิทยาของอาหารของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยพบเชื้อราเกินเกณฑ์มาตรฐานกำหนด สำหรับเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค รอผลวิเคราะห์จากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์มาตรฐาน และมี 1 ตัวอย่างที่มีเชื้อจริง

นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ บอกอีกว่าที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือเชื้อราที่ตรวจพบ อาจจะทำให้มีพิษเฉียบพลัน ทำให้เกิดคลื่นใส้ อาเจียน ถ่ายเหลว มีพิษต่อตับต่อไตได้ มากกว่านั้น ในระยะยาวทำให้เกิดก่อเป็นมะเร็งได้ และพบมีอีโคไลในน้ำ อาจทำให้ติดเชื้อในกระแสโลหิตถึงขั้นติดเชื้อในกระแสโลหิตและทำให้เสียชีวิตได้

นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ยังได้พูดถึงกรณีที่มีทนายความของพระบิดาเข้าแจ้งความจับผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ อ้างบุกรุกเคหะสถาน แจ้งความดำเนินคดีตาม ม.157 ยังไม่ทราบรายละเอียดในการแจ้งความ

เผยผลตรวจน้ำจากถังอาศรม "พระบิดา" พบเชื้อแบคทีเรีย ดัชนีบ่งชี้การปนเปื้อนอุจจาระ

Website