Beam Investing Diary

🎉 FOREX vs แชร์ลูกโซ่ (Ponzi)

ช่วงนี้บีมคุยกับเพื่อนนอกวงการเยอะมาก พอบอกว่าเล่น FOREX ปุ๊บ‼️

ทุกคนคือทำหน้าแบบ ตกใจ เลิกลัก เดี๋ยวววว เพื่อนน เพื่อนใจเย็นๆ นะ 😅

คิดอะไรกันน ❓️

พอถามปุ๊บ เค้าก็ถามเรากลับทันที

โดนหลอกมาหรอ?
หรือ
จะมาหลอกกันรึป่าว? เห็นในข่าว บอกโกงกันเป็นพันล้าน 🤢

ง่ะ อะไรกันเนี่ยย 😅

กลัวไรกัน อันนั้นมันแชร์ลูกโซ่ (Ponzi) หลอกระดมทุน โดยเอาผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงจาก FOREX มาล่อ พอได้ตามเป้า เค้าก็หอบเงินหนี แค่อ้างว่า เอาเงินไปลงทุนใน FOREX เฉยๆ ค่า แต่ไม่ได้เอาไปลงจริง เค้าเทรดทิพย์ เกทบ่? 😩

💰FOREX จริงๆ ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ มันคือการเทรดเก็งกำไรค่าเงินเฉยๆ ลักษณะการเทรด ก็คล้ายๆ TFEX หรือ หุ้น Future จ้า

เทรดถูกทางก็ กำไร เทรดผิดทางก็ ขาดทุนน้าาา 🙂

🎯มาค่ะ จะอธิบายให้ฟัง

🎗หลายๆ ครั้ง ที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับ FOREX คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจและมองภาพว่าคือแชร์ลูกโซ่

ทั้งที่แท้จริงแล้วบีมอยากบอกว่า FOREX ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ แต่ FOREX ต่างหากที่กลายเป็นเหยื่อ ต้องมาเป็นแพะรับบาป ของพวกที่ทำแชร์ลูกโซ่ แล้วโยนความผิดมาให้ โดยอ้างว่า ชวนลงทุนในตลาด FOREX 🥲
♨️FOREX หรือ Foreign Exchange คือ ตลาดที่ทำการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา เป็นหนึ่งในตลาดการเงิน ที่มีมูลค่ามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

🌐โดยข้อมูลจากสถาบัน BIS ได้รายงานตัวเลขมูลค่าของตลาดแห่งนี้ในปี 2019 อยู่ที่ 6.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน (เรียกได้ว่ากว่าสองร้อยล้านล้านบาทต่อวันกันเลยทีเดียว) และในประเทศไทยยังมีมูลค่าสูงถึง 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน

👉ด้วยมูลค่าของตลาดที่สูงมาก จึงไม่แปลกที่ตลาด FOREX จะเป็นที่น่าจับตามองของนักลงทุนหลายๆ กลุ่ม และด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน ทำให้การเข้าถึงตลาดแห่งนี้เป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น นักลงทุนหน้าใหม่หรือรายย่อยสามารถเข้าตลาดได้โดยง่าย ยิ่งทำให้มูลค่าของตลาดเติบโตอย่างมาก
💥จากจุดเด่นในเรื่องของมูลค่าของตลาดและความง่ายในการเข้าถึง จึงเป็นเสมือนดาบสองคมที่เปิดช่องให้พวกมิจฉาชีพแชร์ลูกโซ่ได้ใช้ FOREX เป็นเครื่องมือในการชักชวนผู้คน และนักลงทุนหน้าใหม่เข้าสู่ตลาดแห่งนี้ โดยปราศจากการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง

☻️เมื่อได้เงินจากลูกค้าจำนวนมากพอที่คนกลุ่มนี้ต้องการ ก็จะทำการปิดหนี 😶‍🌫️ พร้อมกับหอบเงินของลูกค้าหนี ทิ้งไว้แต่ภาพความเสียหายโดยมี FOREX เป็นองค์ประกอบร่วมของพวกเขา และยิ่งนับวันยิ่งมีจำนวนกลุ่มมิจฉาชีพพวกนี้มากขึ้น จนทำให้ภาพของ FOREX นั้นกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือของวงการแชร์ลูกโซ่ 💨

เมื่อมีการพูดถึง FOREX ผู้คนจึงไม่ค่อยเปิดใจรับฟังและมองว่าเป็นหนึ่งในเกมส์แชร์ลูกโซ่ 😣

🗨ซึ่งหากมองความเป็นจริงแล้ว FOREX ก็ไม่ได้ต่างจากสินค้าประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสาร น้ำมัน ทอง หรือสินค้าต่างๆ ที่กลุ่มมิจฉาชีพแชร์ลูกโซ่ได้หยิบเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการของพวกเขา และสุดท้ายสินค้าพวกนี้ก็กลายเป็นแพะรับบาป ถูกตีตราว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ เหมือนที่ FOREX โดนมองมาอย่างผิดๆ

💢อีกจุดให้สังเกตของแชร์ลูกโซ่ หรือ Ponzi คือเงินที่จ่ายคืนให้นักลงทุนจะมาจากค่าสมัครหรือค่าธรรมเนียมแรกเข้าของการแนะนำคนใหม่ ซึ่งต่างจากนักลงทุนในตลาด FOREX ที่กำไรจะมาจากการเทรดจริงในตลาด
🌈แล้วควรจะทำอย่างไร ให้ไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพพวกนี้ วันนี้บีม เลยอยากจะแชร์ข้อมูลให้กับผู้ที่สนใจในตลาด Forex ได้เก็บไว้พิจารณาเพื่อที่จะได้เข้าสู่ตลาดแห่งนี้ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้นค่ะ 😉

🔰
1. เลือกใช้บริการกับโบรกเกอร์ที่ได้รับการรับใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือ โดยต้องสามารถตรวจสอบเลขใบอนุญาตกับทางผู้ออกใบอนุญาตได้อย่างชัดเจนครบถ้วน เช่น

🎀FCA UK (Financial Conduct Authority) สหราชอาณาจักร
โบรกเกอร์ที่ควบคุมโดย FCA ต้องมีเงินทุนหมุนเวียน อย่างน้อย 1 ล้านปอนด์
เงินชดเชย 50,000 ปอนด์ต่อบัญชี ในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย
---------------------------------
🎀CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission) ไซปรัส
โบรกเกอร์ที่จดทะเบียนกับ CySEC ต้องมีเงินทุนหมุนเวียน อย่างน้อย 750,000 ยูโร
เงินชดเชยเงิน 20,000 ยูโรต่อบัญชี ในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย

(เพิ่มเติม การจดทะเบียบกับ CySEC จะมีหลายระดับ โบรคที่ได้ระดับ Portfolio Management จะสามารถจัดตั้งกองทุนขึ้นมา เพื่อบริหารจัดการได้อย่างถูกต้อง และจะตรวจสอบทุนก่อตั้งของบริษัท ว่ามีทุนจริงๆ ให้บริหารจัดการ ดังนั้น ทุนหมุนเวียนจะอยู่ในระดับสูงมาก และมากกว่า 750,000 ยูโร หลายเท่า ดังนั้น Broker ที่มีโครงการ Proptrade จะต้องมี Portfolio management ขณะที่โบรคเกอร์อื่น ที่มี CySEC เช่นกันทำไม่ได้ เพราะไม่มี Portfolio management )
---------------------------------
🎀ASIC (Australian Securities and Investments Commission) ออสเตรเลีย
โบรกเกอร์ที่จดทะเบียนกับ ASIC ต้องมีเงินทุนหมุนเวียน อย่างน้อย 1 ล้านปอนด์
----------------------------------
🎀IFSC (International Financial Services Commission) เบลีซ, อเมริกากลาง
โบรกเกอร์ที่จดทะเบียนกับ IFSC ต้องมีเงินทุนหมุนเวียน อย่างน้อย 500,000 เหรียญ
----------------------------------
ใบอนุญาติจาก offshore

🎀Labuan FSA (Labuan Financial Services Authority) ลาบวน, มาเลเซีย
🎀MED Ministry Of Economic Development (MED) มัลดีฟ

โบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาติ offshore ทั้ง 2 นี้ จะฝากเงินเพื่อเริ่มเทรด FOREX โดยใช้เงินเริ่มต้นเพียง $25 และได้รับ Leverage สูง ถึง 1:1000 และสามารถ ฝาก - ถอน ง่าย และได้หลายช่องทาง เช่น ธนาคารในประเทศ (Local transfer) สกุลเงิน Cryptocurrency เป็นต้น

🔰
2. ต้องไม่มีเงื่อนไขในการฝากเข้าหรือถอนเงินออกจากบัญชี ในชื่อของเรา หากโบรกเกอร์ใดมีเงื่อนไขที่ดูผิดสังเกต บีมแนะนำให้ถอยห่างไว้ก่อนเลย

🔰
3. หากจำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการช่วยเทรด เงินในการลงทุนต้องอยู่ในการควบคุมของเราเท่านั้น ต้องไม่มีการโอนเงินไปให้บุคคลอื่นไม่ว่ากรณีใดๆ และต้องไม่มีเงื่อนไขในการถอนเงินของเรา

🛎ข้อนี้สำคัญมาก เพราะพวกมิจฉาชีพขบวนการแชร์ลูกโซ่มักจะสร้างเงื่อนไขข้ออ้างไม่ให้เราทำการถอนเงินหรือไม่ก็บังคับให้เราโอนเงินไปให้บุคคลอื่น โดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา จำไว้เสมอว่า “ทุกการลงทุน เงินลงทุนของเราต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของเราได้ตลอดเวลา”

🔰
4. อย่าหลงเชื่อผลตอบแทนที่สูง แต่ระดับความเสี่ยงต่ำ

ในตลาด FOREX ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนที่สามารถทำกำไรได้ในระดับสูง แต่คนที่ทำได้เหล่านี้คือคนที่มีประสบการณ์สูงและยอมรับความเสี่ยงที่สูงมากได้เช่นกัน

ในทางกลับกันพวกมิจฉาชีพแชร์ลูกโซ่จะชอบบอกว่าได้ผลกำไรสูงโดยไม่มีความเสี่ยงหรือความเสี่ยงต่ำมาก

⛔️อย่าเชื่อโดยเด็ดขาด บีมอยู่กับตลาดทุนมานานกว่า 10 ปี ยังไม่เคยเจอสินค้าตัวไหน เข้าเงื่อนไขนี้ ถ้าใครอยู่มานาน จะได้ยินคำนี้เสมอ

🚥High risk, High return
🚥Low risk, Low return

🌞ต้องบอกว่าในตลาดทุน ไม่มีใครสามารถการันตีผลตอบแทนได้อย่างคงที่ เพราะผลกำไรจากการเทรดขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศเจ้าของสกุลเงินนั้น และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย🌬
🚀บีมอยากบอกว่า Forex ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ง่ายจนไม่ต้องศึกษาข้อมูลก่อนเข้าตลาด หากแต่เราทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ตลาดแห่งนี้ก็จะเป็นอีกตลาดลงทุนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

เป็นไงบ้างคะ? 😊

✨️สำหรับเรื่องที่เอามาบอกเล่ากันวันนี้ เพื่อนๆ คนไหนคิดเห็นอย่างไร เห็นด้วยหรือเห็นต่าง เขียนคอมเมนมาพูดคุยกับบีมมี่ได้นะคะ 🤗
🎀หากใครชอบบทความแนวนี้ ช่วยกดไลค์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้กับบีมมี่ด้วยน้าา ครั้งหน้าบีมมี่สัญญาว่าจะหาบทความดีๆ มาเรียบเรียงให้อ่านกันอีกค่ะ

🥳ขอบคุณสปอนเซอร์ผู้ใจดี Lirunex
โบรกเกอร์คุณภาพที่ได้รับใบอนุญาตและควบคุมจาก Cysec, LFSA, MED
สนใจเปิดพอร์ตเทรด FOREX เลือก Lirunex นะคะ
https://bit.ly/LirunexRegister

สวัสดีค่าาา 🙂

วันนี้บีมมี่ไปอ่านเจอบทความหนึ่ง เขียนไว้ได้ดีมาก เลยอยากจะเอามาแบ่งปันให้กับเพื่อนได้อ่านตามบีมมี่กันจ้าา 😉
⭕️ ก่อนอื่นเลย เราลองมานั่งสมมติกันดูนะคะ ...

ถ้าหากว่าาา เราวางแผนที่จะต้องแต่งงานในปีหน้า 😳😳😳 และต้องการทองคำ 100 บาทเพื่อเป็นสินสอด ‼️ (บีมมี่ก็อยากได้สินสอดแบบนี้เหมือนกันนะ 5555)

เราจะวางแผนการเงินยังไง ❓️

โดยที่เราไม่รู้เลยว่า ราคาทองวันนั้นจะราคาเท่าไหร่ ❓️
ถ้าสูงกว่านี้ล่ะ ⁉️
งื้อออ อดแต่งแน่เลยยย (Ohh Nooo 😱😱😱)

⛔️ แต่ๆๆ

ถ้า จู่ๆ มีคนมาเสนอที่จะล็อคราคาและขายให้ ในราคาบาทละ 33,000 ในอีกหนึ่งปีข้างหน้าล่ะ ❓️

จะรับไว้มั้ยเอ่ยย❓️

ถ้าวันนี้ราคาทองคำเท่ากับ 30,000 บาท 🤔🤔🤔

น่าคิดอยู่นะ ลองตอบตัวเองดูกันจ้ะ
เก็บคำตอบไว้ในใจน้า แล้วดูซิ ว่าถ้าคุณเข้าไปในตลาดอนุพันธ์วันนี้ คุณจะโดนเอาเปรียบหรือไม่ ❓️ 😉
เมื่อเห็นคำถามข้างต้น หลายๆ คนคงมองไปถึงราคาทองในอนาคต ซึ่งก็คือ 1 ปีข้างหน้า ว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร จะมีสงครามหรือไม่ สำหรับคนที่ต้องใช้ทองคำในอนาคต คงอาจจะกลัวว่าอาจจะมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ทองคำราคาพุ่งสูงขึ้น 😵‍💫😵‍💫😵‍💫 และการที่เราเก็บเงินไปซื้อทองที่บาทละ 30,000 ในวันนี้ พอปีหน้าถ้าราคาทองเป็น 60,000 เราก็อาจจะไม่มีเงินพอที่จะซื้อ ( ไม่ได้ทองแท่งละ นอนกอดคานทองต่อไป 🥲🥲🥲 )

ดังนั้นการทำสัญญาล็อคราคาไว้ ถือเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยที่เดียว ในโลกการเงินสัญญาประเภทนี้เรียกว่า ค่ะ
แต่รู้หรือไม่ ⁉️ ว่าราคาที่ยุติธรรมในการซื้อทองในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ไม่เกี่ยวอะไรกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาทอง เช่น สงคราม! (แปลกไหม?)
ราคาที่เหมาะสมของการซื้อทองในหนึ่งปีข้างหน้าคือ 31,500 บาท (ถ้าดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 5%) ถ้าคุณโอเคที่จะซื้อราคาเกินนี้ คุณกำลังโดนหลอกแล้วล่ะ ‼️
ถ้าคุณคิดว่าราคาทองจะไปสูงกว่า 33,000 บาท และตกลงที่จะทำสัญญากับคนล็อคราคา สิ่งที่เขาจะทำคือ...💰
〽️
1. ทำสัญญา

2. ไปยืมเงิน 30,000 บาท (อาจจะจากธนาคาร จากเพื่อน หรือใครก็ตาม สมมติดอกเบี้ย 5%)

3. นำเงิน 30,000 บาท ไปซื้อทองมาเก็บไว้
〽️
หลังจากนั้นเขาจะรอเวลาให้ผ่านไปให้ครบ 1 ปี และเมื่อถึงเวลา
🔰

1. เขาก็จะนำทองไปขายให้กับคุณบาทละ 33,000 บาท (เขาไม่สนใจว่าตอนนั้นราคาทองจะเป็นเท่าไหร่ จะบาทละแสนก็ได้ เนื่องจากเขาได้ซื้อทองมาแล้วตั้งแต่ 30,000)

2. เขาจะนำเงินที่ยืม พร้อมดอกเบี้ย เท่ากับ 30,000(1+0.05) = 31,500 ไปคืนธนาคาร

3. เขาจะเหลือเงิน 33,000 – 31,500 = 1,500 ไปกินหนมฟรีๆ โดยที่ไม่มีความเสี่ยง

🔰
เงินตรงนี้เรียกว่า หรือเป็นการทำกำไรโดยไม่มีความเสี่ยง โดยกระบวนการ 1-3 เรียกกว่าการ ซึ่งคือกระบวนการในการกำจัดความเสี่ยงออกจากการลงทุนค่ะ
🔺️ซึ่งไอเดียการทำ Pricing แบบนี้เป็นไอเดียที่อยู่บนพื้นฐานของการ Hedging ไม่ได้ใช้ความน่าจะเป็นต่างๆ ไม่ได้ดู Micro- Macro- economics ไม่ได้สนใจสงคราม หรือราคาน้ำมันใดๆ เลย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวิชา Risk Neutral Pricing ซึ่งใช้ Q-Measure ในการกำหนดราคาซึ่งจะซับซ้อนกว่านี้มาก
เป็นไงบ้างคะ? 😊

✨️สำหรับเรื่องที่เอามาบอกเล่ากันวันนี้ เพื่อนๆ คนไหนคิดเห็นอย่างไร เห็นด้วยหรือเห็นต่าง เขียนคอมเมนมาพูดคุยกับบีมมี่ได้นะคะ 🤗
🎀หากใครชอบบทความแนวนี้ ช่วยกดไลค์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้กับบีมมี่ด้วยน้าา ครั้งหน้าบีมมี่สัญญาว่าจะหาบทความดีๆ มาเรียบเรียงให้อ่านกันอีกค่ะ

🎯เรื่องเล่าในวันนี้ ต้องยกเครดิตให้กับ: ติดเล่า เรื่องลงทุน

🥳ขอบคุณสปอนเซอร์ผู้ใจดี Lirunex
โบรกเกอร์คุณภาพที่ได้รับใบอนุญาตและควบคุมจาก Cysec, LFSA, MED
สนใจเปิดพอร์ตเทรด CFD เลือก Lirunex นะคะ
https://bit.ly/LirunexRegister