๋Air to Earth by Captain Etaji
Funny, Adventure & Knowledge-anything from the Air down to the Earth
ทุกครั้งที่ได้ยินข่าวอุบัติเหตุเครื่องบินตก ภาพที่ปรากฏความสูญเสียชีวิตของผู้โดยสารในแต่ละครั้ง เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว
จึงมีแนวคิดที่เป็นจินตนาการ การออกแบบของเครื่องบิน โดยเฉพาะห้องโดยสารที่สามารถแยกตัวออกจากเครื่องบินในกรณีเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นต้องตกแน่ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณเหนือพื้นดิน ก็จะมีการแยกชิ้นส่วนออกจากลำตัวเครื่องบินที่กำลังจะตก เมื่อห้องโดยสารที่จะถูกสร้างขึ้นโดยจินตนาการนี้แยกตัวออกมาจะมีร่มชูชีพช่วยประคองลงยังพื้นดิน ก่อนการกระแทกถึงพื้น จะมีถุงลมถูกกางออกโดยอัตโนมัติ เพื่อให้รับแรงกระแทกได้ ทางออกหน้าและหลังเป็นที่ที่ผู้โดยสารจะเดินลงจากห้องโดยสารได้อย่างปลอดภัย หากเป็นพื้นน้ำ ถูงลงดังกล่าวก็จะทำให้ห้องโดยสารลอยอยู่เหนือน้ำได้ เพื่อรอเวลาการช่วยเหลือจากหน่วยงานค้นหาและช่วยชีวิต
ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น เป็นแนวความคิดที่มีมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่หากจะถามว่า จะเป็นจริงได้หรือไม่ คงยังต้องหาคำตอบอีกหลายแง่มุม ที่แน่ๆ คำถามหนึ่งก็คือ นักบินคงจะต้องเป็นผู้เสียสละชีวิต เนื่องจากยังคงต้องบังคับเครื่อง แก้ปัญหาการบินจนถึงที่สุด ในขณะที่ผู้โดยสารทั้งลำจำต้องรอดปลอดภัย บางท่านอาจจะคิดง่ายๆว่า นักบินสามารถดีตัวได้ในภายหลัง คำตอบคือไม่ได้สำหรับเครื่องบินโดยสาร หากจะมีการกระทำอย่างนั้นได้ในอนาคต คงต้องเป็นสิ่งที่ต้องขบคิดกันหนัก และผ่านการออกแบบ และรับรองโดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ คาดว่าไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นจริงได้ง่ายเลย ก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับ
สำหรับคลิปนี้ก็มีข้อมูลสั้นๆ นำเสนอเพียงเท่านี้ก่อนเพราะได้เห็นแชร์กันในโลกออนไลน์เมื่อไม่กี่วันมานี้อีกครั้งหนึ่ง
กัปตันอิตาจิ
27 เมษายน 65
'Air to Earth by Captain Etaji' หรือ 'มองทะลุเมฆ โดย กัปตัน อิตาจิ'
ขอต้อนรับเข้าสู่เพจของผม กัปตันอิตาจิ นำท่านเข้าสู่ ความรู้ ความสนุก ตื่นเต้น และผจญภัย ในหลากหลายรูปแบบ จากฟ้าสู่ดิน ....แน่นอนครับ เรื่องราวของผมจะต้องเกี่ยวข้องกับการบิน ทะลุเมฆลงมาสู่ฐานล่างบนพื้นโลก เรียกได้ว่า สัพเพเหระก็ไม่ผิดเพี้ยน โดยท่านที่เป็นบุคคลทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบิน อย่าเพิ่งรีบหนีไปไหน เพราะผมจะนำเกร็ดจากประสบการณ์ชีวิตของผมมานำเสนอท่านผู้ติดตาม โดยไม่กรอกเรื่องราวที่เป็นเรื่องยากด้านการบินแต่ประการใด ในทางตรงกันข้ามผมยิ่งต้องทำให้คนทั่วไปเข้าใจง่าย และสอดด้วยมุกแป๊กบ้างไม่แป๊กบ้าง ตามแต่ที่จะหามาได้ เพื่อให้ท่านผู้ที่ติดตาม ได้อรรถรสหลายรูปแบบ
ทำไมผมจึงเกิดแรงบันดาลใจ...อันที่จริง หันมามองที่ตัวผมเอง หลักๆ แล้ว อาชีพนักบิน เป็นตัวกระตุ้น เพราะผมกับท่านก็เป็นมนุษย์เหมือนๆ กัน ความรู้สึกแรกที่สร้างภาพเกี่ยวกับเครื่องบินที่ใหญ่โต มันขึ้นบินไปได้อย่างไร คนขับคงเก่งน่าดู เท่ห์ด้วย สามารถเอาเหล็กหนักๆ ลอยขึ้นไปบนอากาศ ...ทุกครั้งที่เฝ้ามองเครื่องบินลงถึงพื้น ช่างงดงามเสียจริง ล้อแตะพื้นทีไร สังเกตกลุ่มควันสีขาวๆ ทุกที ถ้าควันเยอะ อั่นแน่ ลงแรงแน่เลย (ไม่นิ่ม) แต่ถ้าลงมาแล้วแทบไม่เห็นกลุ่มควัน โอ้โห คงนิ่มน่าดู...คิดวาดฝันไปต่างๆนานา จนในที่สุดวันหนึ่งผมได้ทำหน้าที่ในห้องนักบินแคบๆ (เมื่อเทียบกับห้องทำงานในออฟฟิศ) มีกระจก 4-6 บาน (แล้วแต่แบบของเครื่องบิน) เพื่อการมองภายนอก และด้านข้าง ซึ่งอาจมีขีดจำกัดประมาณ 120 องศา (เครื่องบินไม่มีกระจกมองข้างและมองหลังเหมือนรถยนต์นะครับ)
เมื่อจินตนาการจากที่เห็นภายนอก คนส่วนใหญ่ก็อาจจะมีภาพ หรือ มุมมองที่แตกต่างกันออกไปอีกมาก บางคนก็นึกถึงปุ่มต่างๆ ในห้องนักบินก็มักเกิดความฉงน ปนทึ่งว่า แล้วจะจำอย่างไรไหว คนที่บินต้องเก่งมากนะ อะไรทำนองนี้ ไปต่างๆ นานาในหลากหลายความคิด ...ผมก็ไม่ได้ต่างกับแนวคิดคนทั่วไปมากนัก จนวันหนึ่งคำๆ หนึ่งก้องหูขึ้นมาจากนักบินอาวุโสท่านหนึ่งที่ผมจำมาถึงทุกวันนี้ และไม่ลังเลที่จะถ่ายทอดต่อให้รุ่นน้องๆ และคนทั่วไปได้รับฟังกัน...คำๆนั้นที่ว่า "เครื่องบินเขาสร้างโดยมนุษย์ สร้างเพื่อมนุษย์ ถ้าเราเป็นมนุษย์เราก็ต้องบินได้ซิ" นั่นคือ คำพูดเชิงให้กำลังใจนักบินบางคนที่มีความท้อแท้ในการฝึก หรือกำลังคิดว่า ตัวเองคงบินไม่ได้ คำเหล่านี้คือตัวกระตุ้น เพราะเราต้องบินให้ได้ เราคือ คน คือ มนุษย์ มักได้ผลเสมอ ขออย่างเดียว คือ ความไม่ประมาทเท่านั้น และต้องเรียนรู้อยู่เสมอ
ผมมีพื้นฐานอีกมากมายที่น่าจะนำมาเสมอในบทความของผมในเรื่องราวอื่นๆ เพื่อเป็นใบเบิกทางของผม เอาเป็นว่า ผมแอบขอแนะนำตัวสั้นๆ พอประมาณได้ว่า ผมมีประวัติเป็น นายแบบ นักแสดงละครเวที ดาราภาพยนตร์ นักเรียนทุนแพทย์ที่ต่างประเทศ แต่ไม่ประสบผลดังมุ่งหมายจึงเปลี่ยนวิถีชีวิต สู่วงการบิน ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้เรียนเกี่ยวข้องกับการบิน นั่นคือ เศรษฐศาสตร์ เคยเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือ สจ๊วตนั่นเอง ก่อนผกผันมาเป็นนักบินอาชีพ เคยผ่านการทำงานต่างประเทศมาสองประเทศ เป็นทั้งนักบินอาชีพ และครูการบินในต่างประเทศ เคยร่วมก่อตั้งสายการบินต้นทุนต่ำอย่างน้อยสองสาย ที่ยังคงบินอยู่ เคยกอบกู้วิกฤตสายการบินบางสาย แต่ไม่สำเร็จเพราะปัญหาเงินทุนของเจ้าของกิจการ เคยเป็นผู้กำกับดูแลด้านการบิน เคยสอบสวนอุบัติเหตุเครื่องบินตกในประเทศ จนได้ข้อสรุปที่สำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เหล่านี้ จึงพอจะกล่าวได้ว่า ผมน่าจะพอเขียนบทความที่เกี่ยวกับการบิน และไม่เกี่ยวกับการบินได้หลากหลายพอควรนะครับ เนื่องมาจากประสบการณ์ที่ได้กล่าวมาข้างต้น ยังแถมอีกนิดคือ เคยเป็นมักคุเทศน์อิสระ และนักพากย์ กีฬา อเมริกันฟุตบอล ทางเคเบิ้ลทีวี และทีวีช่องหลักมาแล้วด้วย
ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ศักยภาพของตนเองมีพอที่จะเล่าเรื่องราวสู่ท่านผู้อ่านได้ติดตามกันไปตลอด พร้อมรับฟังความเห็น ความต้องการหากท่านมีความประสงค์อยากฟังเรื่องราวต่างๆ หากผมมีความรู้ในด้านนั้นก็จะหามาให้อย่างไม่รีรอครับ
กัปตัน อิตาจิ
27 เมษายน 2565
(วันที่พระอาทิตย์ตรงศีรษะคนกรุงเทพฯพอดี)