Blue Oak

R.I.P.

ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่การล้มในผู้สูงอายุ จะเป็นวาระแห่งชาติ

https://www.matichon.co.th/politics/news_4534317

เปิดสาเหตุ ทวี ไกรคุปต์ เสียชีวิต ปารีณา แจงชัดทำไมไม่บอก ตั้งวันที่ 11 เม.ย. | ThaiNews - ไทยนิวส์อ จากข่าวการเสียชีวิตของ นายทวี ไกรคุปต์ อดีตรมช.พาณิชย์ และอดีต สส.ราชบุรี บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตสส.....

มาพบกับ 15 จุดเสี่ยง ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้.. ที่อยู่ในบ้านของคุณเอง!
ทาง Blue Oak อยากเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเรียนรู้และออกแบบบริการ นวัตกรรม และเทคโนโลยีสำหรับผู้สูงวัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Bangkok Design Week ในปีนี้
ภายในงานพบกับ Joy Ride Thailand ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น พาผู้สูงอายุไปหาหมอ และ เชื่อหนูสิ และเครือข่ายพันธมิตรของเรา ที่จะนำเสนอกิจกรรม นวัตกรรม และแนวคิดของธุรกิจใหม่ๆ ที่ทำให้การยกระดับคุณภาพชีวิตของคนที่เรารักไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป
🗓️ วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567
🕓 16.00 - 18.30
📍 สวนสาธารณะกรมประชาสัมพันธ์ อารีย์
Bangkok Design Week 2024
Livable Scape
คนยิ่งทำ เมืองยิ่งดี
27 Jan - 4 Feb 2024

Blue Oak Tech: Not Limited to Smart Home & Healthcare
-----

Militaries constantly look for opportunities to collaborate with specialists to come up with innovations that are cost-effective, robust, easy-to-use, and could be deployed in extreme conditions.

Dr. Kunanon Kittipute, our CTO and former Thai Royal Airforce Sensor Specialist, was invited to share his expertise on cutting-edge technology with the Thai Royal Military on a special knowledge sharing session on radar and sonar technology.

Militaries have been adopting sonar technology for decades to detect objects of interest. There are 2 types of sonar: active and passive. Active sonar system requires the detector -- which could be ships or submarines -- to emit acoustic waves, which will bounce back from the object of interest to its source. However, in passive sonar system, the detector does not emit out any acoustic wave and only senses and interprets the acoustic waves they can sense. Passive sonar is commonly used by submarines, since it allows them to maintain stealth.

Blue Oak's fall detection smart device senses human falls and footsteps using the same principle as a passive sonar system. This ensures that it does not emit any acoustic waves that could interfere with the functioning of other electronic devices, thus maintaining reliability in critical conditions.

(Passive and active sonar diagram from The Japan News, The Yomiuri Shimbun)

เมื่อพูดถึง ‘สุขภาพ’ เราทุกคนต่างรู้ดีว่าเป็นเรื่องที่ควรต้องให้ความสำคัญ แต่เมื่อชีวิตเริ่มเติบโต มีภาระงานมากขึ้น สิ่งแรกๆ ที่คนเรามักจะหลงลืมคือการดูแลสุขภาพ
เมื่อเราเจ็บป่วย คนส่วนหนึ่งอาจมีกำลังในการดูแลค่าใช้จ่ายเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง แต่บางครั้งและบางโรคเราอาจต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านการรักษาที่สูงจนน่าใจหาย ขณะเดียวกันรัฐบาลเองก็มีหน้าที่จะต้องดูแลประชาชนผ่านบริการสาธารณสุข ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะผ่านโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ไทยใช้มาแล้วกว่า 20 ปี
แต่ระบบสาธารณสุขไทยกำลังถูกท้าทายอย่างหนักด้วยปัจจัยใหม่มากมาย ที่หากไม่ปรับอาจทำให้ระบบนี้ถึงทางตันได้
ปัญหาเรื่องสังคมผู้สูงอายุและการดูแลสุขภาพของคนไทยในตอนนี้เป็นอย่างไร เรามีสิทธิเข้าถึงระบบบริการสุขภาพและยารักษาโรคมากน้อยแค่ไหน จะทำอย่างไรให้ไทยพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขที่มีคุณภาพได้มากขึ้น โดยที่รัฐเองยังสามารถบริหารจัดการงบประมาณได้ หาคำตอบทั้งหมดไปพร้อมกัน
อ่านบทความฉบับเต็มต่อได้ที่ https://thestandard.co/challenges-thailand-aging-society/
#การลงทุนด้านสุขภาพ #หลักประกันสุขภาพ #สุขภาพ #นวัตกรรมยา

Blue Oak won first place in the prestigious Thailand ICT Award in the R&D category for our Vibration-Based Home Health Hub.

We are grateful to all our team members, partners, and customers for your contributions. We will continue to develop our technology and products to enhance the impact on our customers' lives.

AI in Healthcare - Is it Good or Bad and Why? 🤔

Our CEO, Pat Lee, is honored to be a panelist at the upcoming Medical Fair event in Bangkok. He will be sharing some ideas and experience in using AI in Healthcare.

The panel discussion is on Sep 13. Pat would love if you stop by to say hi if you're around!

Event info: https://lnkd.in/gT36yWyp

เพราะล้มหนึ่งคน เจ็บทั้งบ้าน

ญาติเพื่อนคนหนึ่งล้มฟาดพื้นเพราะเส้นเลือดในสมองตีบ ผ่านไปไม่กี่วันหมดค่ารักษาไปเกินหนึ่งล้านบาท

แม่เพื่อนอีกคนเลือดตกใน นอนโรงพยาบาลหนึ่งสัปดาห์ หมดไปสองล้านบาท

ความจริงที่น่าเจ็บปวดของมนุษย์ยุคนี้คือ เมื่อป่วยก็สามารถหมดตัวได้ เงินทองที่สะสมมาทั้งชีวิตอาจอันตรธานไปเพราะป่วยครั้งเดียว

ไม่รักษาก็ทำใจไม่ได้ รักษาก็ทำใจไม่ได้

ดังนั้นดูเหมือนว่า เราแต่ละคนควรดูแลตัวเองก่อน อย่างน้อยหากต้องเข้าโรงพยาบาล และสูญเสียเงินทองที่สะสมมาทั้งชีวิต ก็ยังบอกได้ว่า “ฉันทำดีที่สุดแล้ว”

เวลาอ่านบทความหรือข้อมูลเรื่องสุขภาพ บางคนอาจรู้สึกว่าทำไมเราต้องดูแลสุขภาพของตัวเองถึงขนาดนั้น นี่ก็กินไม่ได้ นั่นก็ไม่ควรกิน แล้วจะมีชีวิตไปทำไม

นี่เป็นตรรกะที่ผิดเพี้ยน เพราะ “กินได้-กินไม่ได้” เป็นคนละประเด็นกับ “จะมีชีวิตไปทำไม” เราโยงมันเอาเอง ไม่เช่นนั้นพระที่ฉันอาหารมื้อเดียว เลือกอาหารไม่ได้ จะมีความสุขได้อย่างไร

ถามว่าคนเรามีสิทธิเสรีภาพที่จะใช้ชีวิตอย่างไรก็ได้ ดื่มกินอะไรก็ตามใจตัวเองได้ มิใช่หรือ? การกินอาหารขยะและไม่ดูแลตัวเองไม่ได้หนักกบาลใครสักหน่อย ใช่ไหม?

ใช่ ถูกต้อง นี่คือเสรีภาพ

แต่นี่อาจเป็นการมองความไม่ครบด้าน เพราะยังมีอีกเรื่องหนึ่งเรียกว่า cause - effect มันมาเกี่ยวกับเราโดยเราหนีไม่พ้น ทุกสิ่งทุกเรื่องที่เรากระทำส่งผลต่อออกไปเป็นลูกโซ่เสมอ

cause - effect ในที่นี้ไม่ได้หมายเพียงถึงสูบบุหรี่แล้วเป็นมะเร็งปอด ดื่มเหล้าแล้วเป็นมะเร็งตับ แต่มันกินพื้นที่กว้างกว่าแค่ตัวเรา

cause - effect คือเวลาเราป่วย เราไม่ได้ป่วยคนเดียว

จำได้ไหมว่าเวลาเราเป็นวัยรุ่น ออกไปเที่ยวนอกบ้านตอนกลางคืน แม่โทร.ตามทุกชั่วโมง เมื่อกลับถึงบ้านตอนตีสอง ก็เห็นแม่นั่งรออยู่ เราอาจนึกรำคาญ บอกแม่ว่า “ผมโตแล้วน่า”

การที่แม่ไม่นอน มากับ cause ของการกลับบ้านดึกของเราเสมอ

เช่นกัน เราดื่มเหล้าทุกวัน กินตามใจปากจนป่วย เมื่อเรานอนในโรงพยาบาล คนที่ต้องลางานมาเฝ้าดูเราก็คือเมีย ลูก และคนที่รักเรา และสร้างความเครียดให้คนที่เรารัก ดังนั้นมันไม่ใช่แค่ร่างกายของเราเท่านั้น

ทุกครั้งที่ใครคนหนึ่งป่วย จะมีคนอื่นป่วยด้วย cause - effect กินพื้นที่กว้างกว่าการป่วยของคนหนึ่งคน

ถึงจะไม่มีครอบครัวต้องห่วงใย เราก็ไม่ได้ป่วยคนเดียวเช่นกัน เพราะทุกครั้งที่ป่วย สังคมต้องมีส่วนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของการรักษา เงินที่ใช้จ่ายค่ายา บุคลากรที่ดูแลเรา สามารถไปใช้กับสิ่งที่จำเป็นกว่าได้

โรคจำนวนมากเกิดจากกิน กินจนป่วย กินจนตาย

อาหารทุกคำที่เรากินในระยะสั้นจะกระทบตัวเรา ในระยะยาวกระทบคนที่รักเรา

การกินตามใจปากโดยไม่ยั้งคิด ไม่มองผลที่ตามมา ก็อาจจัดเป็นความเห็นแก่ตัวอย่างหนึ่ง!


จากเรื่อง มากกว่าสามสิบสอง / วินทร์ เลียววาริณ / ตอนนี้ยังมีโปรโมชั่น 3 in 1
https://www.winbookclub.com/store/detail/196/แพคเกจพิเศษ%203%20in%201

และมีจำหน่ายที่ Shopee ด้วย (ค้นคำ namol113)

1 ใน 3 ของผู้สูงวัย ล้มทุกปี
1 ใน 2 ของคนที่ล้ม ลุกขึ้นเองไม่ได้
1 ใน 2 ของคนที่นอนรอความช่วยเหลือเกิน 1 ชม. เสียชีวิตในอีก 6 เดือนถัดมา

เจาะประเด็นเรื่อง
- คนล้มแล้วผู้ดูแลไม่รู้
- สังคมผู้สูงวัย
- ทำไมคนสูงวัยไม่ยอมใส่ smart watch และ
- เทคฯ วิเคราะห์แรงสั่นสะเทือนของ Blue Oak ที่จะมาแก้ปัญหานี้

Live - จากรายการ IT24HR วันอังคารนี้!

💪 พร้อมรับมือกับสังคมผู้สูงวัยด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยภายในบ้าน 👴🏻👵 และ 👉 หมดปัญหาความกังวลใจกับค่าไฟฟ้าด้วย Smart meter สุดอัจฉริยะที่จะคอยรายงานค่าไฟฟ้าแบบ Real-time 🔌!!! ห้ามพลาดกับรายการ
🚀 Startup Marketplace is Live Now ตอนที่ 8 วันอังคารที่ 13 มิถุนายนนี้!!!
เชิญมาทำความรู้จักกับนวัตกรรมที่จะคอยดูแลความปลอดภัยของคนในครอบครัว 👨‍👩‍👦‍👦 และเทคโนโลยี IoT สุดล้ำสมัยที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ขององค์กรในยุค 5G ด้วยการช่วยคำนวณและวางแผนการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในอาคารกันแบบ Real-time 📶

พบกับ
🦄 Blue Oak Solution อุปกรณ์ Smart Home อัจฉริยะ ที่ตรวจจับการล้มและแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินให้กับคนในครอบครัวและผู้ดูแลได้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้มีการเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

🦄 WellfineTech ระบบบริหารจัดการ Smart meter และเซนเซอร์ ด้วยเทคโนโลยี IoT สำหรับโครงการ Smart Grid และ Smart City EnergyZ เพื่อวางแผนการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์องค์กรยุคดิจิทัล

🔴LIVE 🔴
🗓️ วันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2566 เวลา 18:00-19:00 น.
💻 ทางเพจ และ
🌟 พบกับรายการ Startup Marketplace is Live Now ปีที่ 4
ทั้ง 12 ตอน ตลอดเดือนเมษายน-มิถุนายน ทุกวันพุธ เวลา 18:00-19:00 น.
📌 ตอนที่ 5-8 ดำเนินรายการโดย 🔸เอิ้น-ปานระพี
จัดโดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA

Blue Oak 's Health Saver Launch
[ภาษาไทยด้านล่าง]

Thanks to AIA for inviting Blue Oak to exhibit our Comprehensive care Solution at the Health Saver Launch event at Central Festival Chiang Mai yesterday.

Attendees were lining up to try out fall risk screening and gait analysis system (provided by our partner LongGood Meditech), which produces test result within 30 seconds.

People were also eagerly discussing how our floor-vibration-sensing, non-wearable fall detection smart device could be used to improve indoor security of seniors at home.

-----

Blue Oak ขอขอบคุณ AIA ที่เชิญเราไปเป็นพาร์ทเนอร์เพื่อจัดแสดง Comprehensive Fall Care Solution ของเราที่งาน Health Saver Launch ที่ Central Festival เชียงใหม่

ผู้เข้าร่วมงานต่อแถวกันเพื่อทดลองใช้ ระบบสแกนความเสี่ยงในการ #ล้ม และวิเคราะห์การเดิน (gait analysis) โดย LongGood Meditech บริษัทพาร์ทเนอร์ของเรา ที่ให้ผลตรวจอย่างแม่นยำภายใน 30 วินาที

นอกจากนั้น ผู้เข้าร่วมงานได้เข้ามาแสดงความสนใจและพูดคุยกับทางทีมงานว่าจะสามารถใช้ Blue Oak smart device อุปกรณ์ตรวจจับและแจ้งเตือนเหตุคนล้มโดยไม่ต้องสวมใส่ ในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้สูงวัยที่บ้าน และสร้างความสบายใจให้กับทุกคนในครอบครัวได้อย่างไร

ยิ่งกลัว...ยิ่งล้ม!
[English in Comment]
-------

เมื่อวานทีมงานบลูโอ๊คได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน “ล้มหนึ่งครั้ง ลามเกินหนึ่งเจ็บ รุกก่อนล้ม ป้องกันก่อนลาม” ซึ่งจัดโดยบริษัท AIA ร่วมกับรพ.กรุงเทพ ให้กับลูกค้าคนพิเศษ ได้แก่สมาชิก AIA Prestige Club และผู้ถือบัตร Chivawattana ของรพ.กรุงเทพ

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความรู้และกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัย ให้รู้เท่าทันความเสี่ยงเรื่องการล้ม และวิธีปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยง (ภาษาในงาน เรียก “ยันต์กันล้ม” 😌) ไม่ว่าจะเป็นการตรวจมวลกระดูก การจัดบ้านให้เหมาะสม หรืออาหารเสริมเพื่อเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยในส่วนของบลูโอ๊คได้ให้บริการตรวจสแกนความเสี่ยงด้านการล้มโดยเครื่อง GaitBEST จากบริษัท LongGood Meditech ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพชื่อดังจากไต้หวัน

หนึ่งในการบรรยายที่น่าสนใจ โดยจิตแพทย์จากรพ.กรุงเทพ มาแชร์ให้เราฟังเกี่ยวกับผลของสภาพจิตใจ ต่อความเสี่ยงด้านการล้มในผู้สูงอายุ

เรามักจะคุ้นชินกับปัจจัยทางสภาพแวดล้อม และสุขภาพ ที่มีผลต่อความเสี่ยงด้านการล้ม แต่ไม่ค่อยได้นึกถึงผลกระทบจากสภาพจิตใจ ข้อมูลนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่ทีมงานฯอยากนำมาเผยแพร่ให้ฟังกัน

คุณหมอเล่าถึงงานวิจัยที่ประเทศบราซิล ที่ให้ผู้สูงอายุเดินบนพื้นที่โยกเยก โดยกลุ่มหนึ่งได้รับคำบอกเล่าว่า พื้นจะสั่นแรงขึ้นเรื่อยๆ ให้ระวังล้ม ในขณะที่อีกกลุ่มไม่ได้รับข้อมูลดังกล่าว

แต่ในความเป็นจริง พื้นสั่นเท่าเดิม! ไม่ได้สั่นแรงขึ้นแต่อย่างใด

ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ได้รับคำบอก มีท่าทางการเดินที่เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด! นอกจากนี้ แม้จะออกจากพื้นที่ใช้ทดสอบแล้ว ท่าทางการเดินก็ยังไม่กลับสู่ปกติ!!

เห็นได้ชัดว่า ความกลัวล้ม ทำให้ยิ่งมีโอกาสล้มมากขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ คุณหมอยังแชร์ให้ฟังอีกว่า ระดับความกลัวที่เข้าขั้น “ภาวะกลัวล้ม” หรือ Fear of Falling (FOF) ในไทย เกิดขึ้นในคนผู้สูงอายุ กว่า 1/3 ของผู้ที่เคยล้มแล้ว และกว่า 1/5 ของผู้ที่ยังไม่เคยล้ม!!

นอกจากนี้ ภาวะความกลัวดังกล่าวยังเป็น vicious circle เพราะยิ่งกลัว ยิ่งไม่ค่อยเดินเหิน ไม่กล้าออกนอกบ้านหรือทำกิจกรรมที่ปกติเคยทำ ยิ่งทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นถูกใช้งานน้อยลง กลับยิ่งเสื่อมสภาพลง กลายเป็นมีความเสี่ยงที่จะล้มสูงขึ้นไปอีก!

ยังไม่นับผลกระทบด้านอื่น เช่น การเป็นโรคซึมเศร้า ไปจนถึงอาจต้องเข้ารับการบำบัดทางจิต!

คุณหมอทิ้งท้ายไว้ว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะกลัวล้ม นอกเหนือจากสุขภาพอ่อนแอแล้ว ปัจจัยอันดับรองลงมา คือ การไม่รู้สึกอุ่นใจไว้ใจในการ support จากคนรอบข้าง เช่น ถ้ารู้สึกว่าล้มแล้วจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ หรือเลยเถิดไปจนถึงว่าหากติดเตียงจะถูกทอดทิ้ง กลายเป็นยิ่งทำให้กลัวล้มมากขึ้นไปอีก

——————

จะเห็นได้ว่า การดูแลทางจิตใจ การสร้างความอุ่นใจให้กับผู้สูงอายุ ว่าท่านจะได้รับการดูแลไม่ถูกทอดทิ้ง มีส่วนช่วยให้ท่านสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นปกติสุข เสมือนติด “ยันต์กันล้ม” ที่มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับอย่างแท้จริง

Our Innovative Fall Care Solutions booth at the Thai Society of Gerontology and Geriatric Medicine (สมาคมพฤฒาวิทยาและเวชศาสตร์ผู้สูงอายุไทย) garnered a lot of interest from and professionals from both public and private sectors.

Looking forward to work together with all stakeholders to improve the quality of life and save lives using our integrated IoT and service solutions.

Blue Oak is now in space.

In addition to being a promising and solution from Thailand, today Blue Oak is recognized also as a leader in InsurTech space, thanks to the CIT - Center of InsurTech Thailand, the special innovation unit of Office of Insurance Commission.

Elderly fall is a major peril that contributes significantly to the prohibitively high insurance premiums to the elderly segment. By ensuring timely help, Blue Oak minimizes damage when a fall happens.

Insurance community is beginning to realize the benefits and synergy and will soon be able to offer policyholders using Blue Oak equipment with sensible and competitively priced coverage.

Read more about the event (in Thai) at:
https://lnkd.in/guzxEtWF

บลูโอ๊ค พร้อมเป็น #เทคโนโลยีเพื่อธุรกิจประกันภัย

บลูโอ๊คไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยี HealthTech & IoT เท่านั้น ด้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งในงาน Thailand InsurTech Fair 2022 ประเภทบุคคลทั่วไป บลูโอ๊คกำลังก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน InsurTech ที่จะปฏิวัติวงการประกันต่อไป

การล้มเป็นภัยอันดับต้น ๆ ในผู้สูงอายุ และเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำให้เบี้ยประกันในผู้สูงอายุแพงจนแทบจับต้องไม่ได้ การแจ้งเตือนทันทีที่เกิดเหตุจากอุปกรณ์บลูโอ๊คช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตและทุพพลภาพถาวร ทำให้บริษัทประกันสามารถออกแบบกรมธรรม์ให้กับผู้ใช้งานบลูโอ๊คในอัตราเบี้ยที่ถูกลงได้

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่:
https://lnkd.in/guzxEtWF

โอกาสใหม่ สร้างรายได้ให้กับโครงการของคุณ!!!
กับอุปกรณ์ Smart Device ตั้งพื้นตรวจจับการล้มด้วย AI ใหม่ล่าสุดจาก Blue Oak

✅ เสริมภาพลักษณ์องค์กรอัจฉริยะทันสมัย ที่ปลอดภัยยิ่งกว่า
✅ สร้างรายได้เพิ่มให้โครงการทันที
✅ ไม่มีค่าติดตั้ง บริหารจัดการง่าย

สนใจจัดจำหน่าย
โทร. 066-124-3562
[email protected]
www.blueoaksolution.com

#เทคโนโลยีตรวจจับการล้ม #ผู้สูงอายุล้ม #ผู้สูงอายุ #บ้านพักคนชรา #เทรนด์ผู้สูงอายุ

Blue Oak นำเสนอเทคฯ แรงสั่นสะเทือนในฐานะ Deep Tech Company จากเอเชียอาคเนย์
[English below]
Blue Oak ภูมิใจที่ได้นำเสนอเทคโนโลยีตรวจจับและวิเคราะห์แรงสั่นสะเทือนของเรา ตลอดจนการนำไปใช้เพื่อแก้โจทย์การเฝ้าระวังเหตุฉุกเฉินในที่ส่วนบุคคล

เพื่อนำเสนอศักยภาพของ deep tech company ในเอเชียอาคเนย์

Online workshop นี้ถูกจัดขึ้นโดย OpTecBB - สถาบันวิจัยและความร่วมมือในการพัฒนา optics, quantum, และ sensor technologies จากเยอรมนี - เพื่อนำเสนอโอกาสความร่วมมือระหว่างองค์กรในเยอรมนีและองค์กรในเอเชียอาคเนย์
Blue Oak is proud to showcase our company's vibration technology and how it is being used to fill in the enormous gap in indoor area monitoring application.

This presentation is a part of an online workshop on opportunities of deep tech collaboration among organizations in Thailand and Germany, organized by OpTecBB (Germany-based research and collaboration institution, focusing on optics, quantum, and sensor technologies).
อ่านเกี่ยวกับ event นี้และ OpTecBB ได้ที่:
Read more about the event and the exciting projects at OpTecBB at:
https://optecbb.de/veranstaltungen/veranstaltung/opportunities-in-thailand-1798/
https://optecbb.de/

เพิ่มมูลค่า เพิ่มยอดขายให้กับโครงการของคุณ

ยกระดับบ้านธรรมดาให้เป็น Smart Home ที่มีความปลอดภัยสูงสุด

ด้วยนวัตกรรมตรวจจับการล้มที่พัฒนาโดยวิศวกรระดับแนวหน้าของไทยที่ต่อยอดจากงานวิจัยของ Carnegie Mellon University และ University of California, Merced

✅ ไร้กล้อง , ไม่รบกวนพื้นที่ส่วนตัว
✅ สะดวก , ไม่ต้องสวมใส่อุปกรณ์ รู้สึกอิสระได้มากกว่า
✅ รวดเร็ว , แจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินอัตโนมัติเพื่อการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
✅ ติดตั้งง่าย , ติดตั้งภายในอาคารได้ทั้งพื้นที่ส่วนกลางและโซนอยู่อาศัย

Blue Oak อุปกรณ์ Smart Home ตรวจจับการล้มที่โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำเลือกใช้เพื่อความปลอดภัยที่เหนือกว่า

ยกระดับโครงการของคุณ
เพิ่มมูลค่า เพิ่มยอดขาย ตั้งแต่วันนี้
สอบถามเพิ่มเติม : 066-124-3562
[email protected]
www.blueoaksolution.com

#เทคโนโลยีตรวจจับการล้ม #ผู้สูงอายุล้ม #ผู้สูงอายุ #บ้านพักคนชรา #เทรนด์ผู้สูงอายุ

ความปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญของผู้สูงอายุ ในการเลือกที่พักและโรงแรม

เพราะผู้สูงอายุอาจล้มได้ทุกเมื่อ

ความปลอดภัยที่เชื่อถือกันดี คือ การดูแลโดยพยาบาล
ที่จะดูแลอย่างใกล้ชิด และสามารถเรียกได้ตลอด 24 ชม.

หากคุณอยากมีพยาบาลดูแลในห้องพักของโครงการ
แต่ยังไม่อยากมีรายจ่ายที่สูงในการบริหาร ต้องทำอย่างไรดีล่ะ ?

Blue Oak นวัตกรรมที่เปรียบเสมือนมีพยาบาลเข้ามาดูแลผู้เข้าพัก 24 ชม.

ด้วยระบบตรวจจับและแจ้งเตือนเหตุการล้มอัตโนมัติ ที่พัฒนาโดยวิศวกรระดับแนวหน้าของไทย ซึ่งต่อยอดจากงานวิจัยของ Carnegie Mellon University และ University of California, Merced ที่สามารถตรวจจับการล้มได้แม่นยำมากถึง 95 %

ยกระดับที่พักธรรมดา
ให้เป็น Smart Building ที่มีความปลอดภัยสูงสุด
เพิ่มมูลค่า เพิ่มยอดขายให้กับโครงการของคุณ

Blue Oak อุปกรณ์ Smart Sensor ตรวจจับการล้ม
ที่โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำและ Nursing Home ระดับพรีเมียมเลือกใช้ เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้เหนือกว่า

✅ ไร้กล้อง , ไม่รบกวนพื้นที่ส่วนตัว
✅ สะดวก , ไม่ต้องสวมใส่อุปกรณ์ รู้สึกอิสระได้มากกว่า
✅ รวดเร็ว , แจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินอัตโนมัติเพื่อการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
✅ ติดตั้งง่าย , ติดตั้งภายในอาคารได้ทั้งพื้นที่ส่วนกลางและโซนอยู่อาศัย

สอบถามเพิ่มเติม : 066-124-3562
[email protected]
www.blueoaksolution.com

#เทคโนโลยีตรวจจับการล้ม #ผู้สูงอายุล้ม #ผู้สูงอายุ #บ้านพักคนชรา #เทรนด์ผู้สูงอายุ

ความจริงของธุรกิจดูแลผู้สูงวัย
แข่งขันสูง ลูกค้ามีตัวเลือกเยอะขึ้น
ตัดสินใจช้าลงเพราะยังไม่มั่นใจว่าดูแลดีจริง

Blue Oak อุปกรณ์ Smart Home ตรวจจับการล้ม
ที่ Nursing Home ชั้นนำเลือกใช้

เทคโนโลยี Floor Vibration Analysis ของ Blue Oak
ตรวจจับการล้มได้แม่นยำมากถึง 95 %
สามารถลดค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ดูแลได้มากถึง 20 %

Blue Oak นวัตกรรมตรวจจับการล้มที่พัฒนาโดยวิศวกรระดับแนวหน้าของไทย
ที่ต่อยอดจากงานวิจัยของ Carnegie Mellon University
และ University of California, Merced

✅ ไร้กล้อง , ไม่รบกวนพื้นที่ส่วนตัว
✅ สะดวก , ไม่ต้องสวมใส่อุปกรณ์ รู้สึกอิสระได้มากกว่า
✅ รวดเร็ว , แจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินอัตโนมัติเพื่อการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
✅ ติดตั้งง่าย , ติดตั้งภายในอาคารได้ทั้งพื้นที่ส่วนกลางและโซนอยู่อาศัย

เพิ่มความมั่นใจ เร่งการตัดสินใจ เพิ่มยอดขาย
และลดค่าใช้จ่ายหลักแสนให้กับ Nursing Home ของคุณ
ยกระดับ Nursing Home
ให้เป็น Smart Nursing Home ก่อนใคร

สอบถามเพิ่มเติม : 066-124-3562
[email protected]
www.blueoaksolution.com

#เทคโนโลยีตรวจจับการล้ม #ผู้สูงอายุล้ม #ผู้สูงอายุ #บ้านพักคนชรา #เทรนด์ผู้สูงอายุ

ยกระดับ Nursing Home ของคุณ
ด้วยเทคโนโลยี Floor Vibration Analysis
ที่สามารถตรวจจับการล้มได้แม่นยำมากถึง 95 %

✅ เพิ่ม ประสิทธิภาพในการดูแลของพยาบาล
✅ เพิ่ม ความมั่นใจด้านความปลอดภัยในสถานประกอบการ
✅ ลด Case เข้าช่วยเหลือล่าช้าจนเสี่ยงสูญเสีย
✅ ลด ค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจได้มากถึง 20 %

นวัตกรรมตรวจจับการล้มที่พัฒนาโดยวิศวกรระดับแนวหน้าของไทยที่ต่อยอดจากงานวิจัยของ Carnegie Mellon University และ University of California, Merced

✅ ไร้กล้อง , ไม่รบกวนพื้นที่ส่วนตัว
✅ สะดวก , ไม่ต้องสวมใส่อุปกรณ์ รู้สึกอิสระได้มากกว่า
✅ รวดเร็ว , แจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินอัตโนมัติเพื่อการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
✅ ติดตั้งง่าย , ติดตั้งภายในอาคารได้ทั้งพื้นที่ส่วนกลางและโซนอยู่อาศัย

Blue Oak อุปกรณ์ Smart Home ใหม่ล่าสุด
ที่โรงพยาบาลชั้นนำเลือกใช้

Blue Oak ยกระดับ Nursing Home ของคุณให้เหนือกว่าใคร
มั่นใจในความปลอดภัยได้มากกว่า

สอบถามเพิ่มเติม : 066-124-3562
[email protected]
www.blueoaksolution.com

#เทคโนโลยีตรวจจับการล้ม #ผู้สูงอายุล้ม #ผู้สูงอายุ #บ้านพักคนชรา #เทรนด์ผู้สูงอายุ

การดูแลรักษาเล็บเท้าผู้สูงอายุก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นเหตุแห่งการล้มได้ 😲🤔👌🤓

กังวลว่าคนที่บ้านจะล้มหรือเปล่า?

1 ใน 3 ของผู้สูงวัยล้มทุกปี และครึ่งหนึ่งของคนที่ล้มลุกขึ้นเองไม่ได้

ดังนั้น ทุกวินาทีที่ผ่านไปเมื่อคนที่เราห่วงใยล้มแล้วเราไม่รู้ คือความเสียหายที่ไม่อาจเรียกคืนได้...

บ.บลูโอ๊ค ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ตรวจจับการล้มและแจ้งเตือนผู้ดูแลได้โดยอัตโนมัติในที่พักอาศัย

และกำลังมองหาผู้ใช้งานเริ่มต้น (early birds adopter) ของผลิตภัณฑ์ของเราที่มีคุณสมบัติ 3 ข้อ

1. พักอยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

2. มีผู้สูงวัย หรือมีผู้ที่เคยล้มพักอยู่ในบ้าน

3. ยินดีทดลองใช้งานและให้ feedback

ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

หมดห่วง! เพราะเป็นอุปกรณ์ smart home วางอยู่บนพื้น และไม่ได้ใช้กล้อง หมดปัญหาการรุกล้ำความเป็นส่วนตัว

สำหรับท่านที่สนใจ สามารถแจ้งความจำนงได้ที่
https://bit.ly/2SMwdjT
(เมื่อกรอกรายละเอียดส่งมาแล้ว ทางบริษัทจะติดต่อกลับไป)

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 082-383-9955 ระหว่างเวลา 08:00 - 22:00 น. ได้ทุกวัน

ด่วน! รับจำนวนจำกัด

ในสภาวะที่

▫️ การเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้สูงอายุ

▫️ การต้องลดกำลังคน+ลดเวลาในการดูแล

▫️ การดูแลกลุ่ม 'ติดบ้าน' (ที่ไม่แข็งแรงพอจะ 'ติดเที่ยว') ไม่ให้ slip ไปเป็นกลุ่ม 'ติดเตียง' อันจะกลายเป็นภาระหนัก

เป็นวาระสำคัญระดับชาติ

บลูโอ๊คดีใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำพาประเทศ เผชิญกับความท้าทายใหม่นี้ ด้วยเทคโนโลยี deep tech ที่เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้ ปรับจูนให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว
.. และพร้อมเสมอเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

สังคมผู้สูงอายุ ความท้าทายที่รออยู่ หลังโควิด /โดย ลงทุนแมน
ปัญหาโรคระบาดโควิด 19 ทำให้เศรษฐกิจไทยบอบช้ำอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม หลายคนเชื่อว่า
สุดท้ายปัญหานี้น่าจะผ่านพ้นไปเมื่อประชากรในประเทศส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคนี้

แต่ปัญหาระยะยาวที่ท้าทายเศรษฐกิจอีกเรื่องคือ “สังคมผู้สูงอายุ”
จนอาจทำให้แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะผ่านพ้นวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ไปได้
แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจอาจไม่กลับไปเหมือนเดิม

เรื่องนี้จะสร้างความท้าทายให้กับประเทศไทยมากแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นเรามาดูจำนวนผู้สูงอายุชาวไทยที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ในช่วงที่ผ่านมาและการคาดการณ์โดยคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ปี 2560 จำนวนผู้สูงอายุชาวไทย 11.1 ล้านคน คิดเป็น 16.9% ของจำนวนประชากร
ปี 2564 จำนวนผู้สูงอายุชาวไทย 13.2 ล้านคน คิดเป็น 19.9% ของจำนวนประชากร
ปี 2569 จำนวนผู้สูงอายุชาวไทย 15.9 ล้านคน คิดเป็น 23.4% ของจำนวนประชากร

พอเรื่องเป็นแบบนี้ ทำให้ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Completely Aged Society) หรือสังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป เกินกว่า 20% ของประชากรทั้งประเทศในปี พ.ศ. 2565

จริงๆ แล้ว ต้องบอกว่า การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก็สร้างโอกาสให้แก่หลายธุรกิจ เช่น

ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งผู้สูงอายุมักให้ความใส่ใจกับอาหารการกิน เมื่ออายุมากขึ้น

ธุรกิจด้านการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งการดูแลสุขภาพทั่วไป หรือให้บริการประเภทโฮมแคร์ที่มีผู้เชี่ยวชาญมาดูแลผู้สูงอายุถึงบ้าน

ธุรกิจเกี่ยวกับการวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะบ้านพักอาศัยที่ถูกสร้างมาสำหรับผู้สูงอายุ

ซึ่งเรื่องนี้ก็สะท้อนมายังจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจดูแลผู้สูงอายุนั้นมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น

ปี 2560 จำนวนธุรกิจตั้งใหม่ 76 ราย
ปี 2562 จำนวนธุรกิจตั้งใหม่ 113 ราย
ปี 2563 จำนวนธุรกิจตั้งใหม่ 117 ราย

จะเห็นว่า ในปี 2563 แม้ประเทศไทยจะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ก็ยังคงมีผู้สนใจเข้ามาทำธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอีกด้านหนึ่งก็สร้างความท้าทายต่อประเทศเช่นกัน ทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ

เรื่องแรกคือ เรื่องของโครงสร้างประชากรไทยที่ดูแล้วจะเป็นที่น่ากังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต
ลองมาดูอัตราการเกิดของประชากรไทยที่มีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ

ปี 2543-2553 ประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่เฉลี่ยปีละ 845,000 คน
ปี 2554-2563 ประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่เฉลี่ยปีละ 738,900 คน

ที่น่าสนใจคือ ปีสุดท้ายที่ประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่เกินปีละ 1 ล้านคน คือ ปี 2538 หรือเมื่อ 26 ปีที่แล้ว
เด็กเกิดใหม่ที่ลดลง นั่นหมายถึง กำลังแรงงานที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานจะค่อย ๆ ลดลง จนก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน ในบางอุตสาหกรรม เราจึงเห็นว่าบางองค์กรเริ่มมีการขยายอายุเกษียณให้ยาวขึ้น แต่นั่นอาจเป็นเพียงการแก้ปัญหาในระยะสั้นเท่านั้น

เด็กเกิดใหม่ที่ลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ ยังทำให้ธุรกิจการศึกษาหลายแห่งเริ่มได้รับผลกระทบ เพราะปัญหาเรื่องจำนวนนักเรียนที่น้อยลงเรื่อย ๆ จนทำให้ปัจจุบัน บางคณะในบางมหาวิทยาลัยต้องปิดตัวลง จนบุคลากรทางด้านการศึกษาบางส่วนเริ่มได้รับผลกระทบ

จำนวนแรงงานที่ลดลงขณะที่จำนวนผู้สูงอายุค่อย ๆ เพิ่มขึ้น พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้สัดส่วนของคนวัยทำงานต่อผู้สูงอายุจะค่อย ๆ ลดลง

ในปี 2560 สัดส่วนของคนวัยทำงานต่อผู้สูงอายุ อยู่ที่ 3.8 คนต่อผู้สูงอายุ 1 คน
แต่มีการประเมินกันว่า
ในปี 2579 สัดส่วนของคนวัยทำงานต่อผู้สูงอายุ จะอยู่ที่ 1.9 คนต่อผู้สูงอายุ 1 คน

หมายความว่า ผู้สูงอายุจะพึ่งพาคนวัยทำงานได้น้อยลง หรือพูดอีกด้านหนึ่งก็คือ คนที่เกิดมาช่วงหลัง ๆ จะแบกรับภาระในการเลี้ยงดูผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง

อีกปัญหาหนึ่งที่ดูน่าเป็นห่วงไม่น้อยก็คือ ประชากรผู้สูงวัยจำนวนไม่น้อยยังขาดความมั่นคงด้านการเงิน หรือคำพูดที่เรามักได้ยินกันเสมอ ๆ นั่นก็คือ “แก่ก่อนรวย”

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ทำการสำรวจฐานะการเงินของผู้สูงอายุชาวไทยนั้นพบว่า
2% มีเงินใช้เกินพอ
62% มีรายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย
36% มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย

หมายความว่า ทุก ๆ 100 คนของผู้สูงอายุชาวไทย จะมี 36 คนที่ยังมีเงินไม่พอใช้หลังเกษียณ

ขณะที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่บอกว่า มีรายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย
รายได้เหล่านั้นส่วนมากก็มาจากลูกหลานของพวกเขา

แต่คำถามคือ
ถ้าเป็นผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลาน และไม่ได้ทำงานแล้วจะสามารถพึ่งพาใครได้ ?

แน่นอนว่า เรื่องนี้ก็ทำให้ภาครัฐอาจต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งสร้างความท้าทายต่อฐานะการเงินการคลังของประเทศ

เพราะต้องยอมรับว่า ประเทศเรายังเป็นประเทศฐานะรายได้ปานกลาง ความสามารถในการจัดสวัสดิการให้แก่ทุกคนรวมทั้งผู้สูงอายุด้วย จะมีข้อจำกัดหลายอย่าง

รู้ไหมว่า ในช่วงระหว่างปี 2555-2562 ประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรวมกันสูงกว่า 500,300 ล้านบาท ซึ่งในแต่ละปีนั้นค่าใช้จ่ายดังกล่าวก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้ การที่สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้การบริโภคภาคเอกชนมีสัดส่วนต่อ GDP ลดลง เมื่อเทียบกับในอดีต

โดยในปี 2547 สัดส่วนการบริโภคภาคเอกชนต่อ GDP อยู่ที่ประมาณ 58% แต่ปัจจุบันกลับลดลงเหลือเพียง 51%

หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ การบริโภคภาคเอกชนที่ในอดีตนั้นถือว่า เป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย กำลังมีบทบาทลดลงเรื่อย ๆ

สรุปแล้ว การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทยนั้น กำลังสร้างความท้าทายให้แก่ประเทศไทยหลายด้าน โดยเฉพาะทางด้านสังคมและเศรษฐกิจซึ่งก็เป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องต้องคิดหาทางออกที่เหมาะสมให้แก่ประเทศต่อไป

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอัตราส่วนผู้สูงอายุสูงที่สุดในโลก โดยในปี 2562 จำนวน 1 ใน 3 ของประชากรญี่ปุ่นทั้งหมดหรือประมาณ 42 ล้านคน นั้นเป็นผู้สูงอายุ จนนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า นี่ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตได้ช้าลงตลอดทศวรรษที่ผ่านมา..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
https://www.dbd.go.th/download/document_file/Statisic/2564/T26/T26_032021.pdf
-https://knoema.com/atlas/Thailand/topics/Demographics/Fertility/Number-of-births
https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/EconomicConditions/AAA/AgePeriodCohort.pdf
-https://www.youtube.com/watch?v=oXRqHQQkCa0
-https://thediplomat.com/2019/11/how-does-japans-aging-society-affect-its-economy/ #:~:text=%E2%80%9CA%20rapidly%20aging%20population%20and,over%20the%20next%20three%20decades.

ทาง Blue Oak ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกรมแพทย์ทหารอากาศในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในไทยและเตรียมพร้อมสำหรับ Ageing Society megatrend

Blue Oak is honored to be working with the Thai Royal Airforce Medical Directorate in developing a fall detection technology to improve the living condition of the elderly and prepare us all for the Ageing Society megatrend.

บลูโอ๊ค ส่งมอบอุปกรณ์ตรวจจับการล้ม ให้กรมแพทย์ทหารอากาศ เพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วยที่มี เร็วๆนี้ นายพัฒนะ ลี ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 3 จากขวา) จ.อ. ดร. คุณานนต์ กิตติพุฒิ ประธานฝ่ายพัฒนาเ....

[[เทคโนโลยีสร้าง "ความปลอดภัย" ให้ "ผู้สูงอายุ" EP.1]] by Blue Oak
สำหรับบุคคลเปราะบางอย่างผู้สูงอายุแล้ว มีโอกาสสูงที่เหตุการณ์ไม่คาดฝันจะนำมาสู่ความสูญเสีย การเฝ้าระวังและเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยได้มาก โชคดีที่พัฒนาการของเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้มีทางเลือกใหม่ๆในท้องตลาดมากมายที่ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยในผู้สูงอายุ และเราขอนำเสนออุปกรณ์บางรายการที่จะช่วยดูแลสุขภาพกายของคนที่เรารักมากที่สุด
🚨 เทคโนโลยีแรกที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ คือ ระบบตอบสนองอย่างทันท่วงทีและกระดิ่งเตือนภัย (Easy-to-use alarm bells or Personal emergency response systems: PERS)
🚨 เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้สูงวัยเรียกหาความช่วยเหลือได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยการกดปุ่มหรือดึงเชือกฉุกเฉิน
🚨 อุปกรณ์บางรุ่นจะมาพร้อมวิทยุสื่อสารสำหรับให้คนชราติดต่อกับผู้ดูแลได้ทันทีที่สัญญาณฉุกเฉินดังขึ้น
นอกจากนี้แล้ว บางรุ่นยังมีระบบตรวจจับการหกล้มอัตโนมัติติดตั้งไว้บนกระดิ่งเตือนภัยแบบสวมใส่บนร่างกาย ซึ่งจะเรียกหาความช่วยเหลือได้อย่างอัตโนมัติทันทีเมื่อตรวจพบการหกล้ม
นอกจากนี้ จะมีเทคโนโลยีอย่างอื่นอีก ซึ่งเราจะมาติดตามกันต่อในโพสต์ถัดไป
╔═══════════════════╗
ติดตามเนื้อหาดีๆ จาก Blue Oak ได้ที่
Facebook - https://facebook.com/blueoaksol
╚═══════════════════╝

[[บทสรุป 13 ข้อ — ทำไม COVID ทำให้ชีวิตเราไม่มีวันเหมือนเดิม]] by Blue Oak
ในช่วงที่ผ่านมานี้มีทั้งข่าวเหตุความเป็นไปได้ของการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในไทยรอบ 2 และข่าวความคืบหน้าของทดสอบวัคซีนจากทีมนักวิจัยจาก Oxford
ทีมงาน Blue Oak จึงขอเขียนอธิบายเรื่องไวรัส เรื่องวัคซีน และอธิบายว่าโควิด-19 มีผลกับการดำเนินชีวิตของเราในระยะยาวยังไงบ้าง
“เรา” ในที่นี้จะโฟกัสไปที่ผู้สูงอายุ เพราะข้อมูลบ่งชี้ไปทางนั้น
เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนยังรู้สึกว่าสถานการณ์ที่เราเจออยู่นี้ “แป๊บเดียว” เดี๋ยวก็ “ผ่อนคลาย” → ถ้าใครรู้สึกอย่างนั้น เราอยากให้อ่าน
หรือถ้ามีคนรู้จักคิดแบบนั้น ก็อยากให้แชร์ไปให้เขาอ่าน
ท้ายที่สุด ใครที่มีผู้สูงอายุอยู่ในคนใกล้ตัว เรายิ่งอยากให้อ่าน
ในวันนี้ที่ข้อมูลจากประเทศที่คลาย lockdown เริ่มออกมา เช่นที่เยอรมนี ค่า R0 กลับไป > 1 อย่างรวดเร็วหลัง reopen (เป็นค่าทางระบาดวิทยา แปลว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะเกิดการระบาด) หรือบันทึกจากประสบการณ์ตรงของดร. Piot นักไวรัสวิทยาหนึ่งในผู้ค้นพบอีโบลา ที่ติดเชื้อโควิด รักษาหายแล้ว แต่ชีวิตกลับไปไม่เหมือนเดิม
ข้อมูลเหล่านี้ เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความ “ระยะยาว” ของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ กับผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเรา
จากบทความภาษาอังกฤษที่เราเขียน บทความแรก เราขอสรุปเป็นใจความสำคัญที่แชร์กันได้สะดวกขึ้น ดังนี้:
1. เชื้อ “ตระกูล” นี้ ไม่ใหม่ แต่ร้ายกาจ เป็นกลุ่มเดียวกับ SARS และ MERS ซึ่งถ้าใครพอจำข่าวได้จะรู้พิษสงของมันดี
2. เชื้อกลุ่มนี้ เน้นเล่นงานทางเดินหายใจส่วนล่าง (ก็คือบริเวณปอด) ทำให้บางทีคนที่เป็นก็ตรวจด้วยวิธี swab test (swab คอ, จมูก) ไม่เจอ
3. แต่ swab test ก็ยังเป็นวิธีที่ดีสุดที่เรามี ใช้เวลานานหน่อย เพราะต้องเพาะเชื้อ แล้วก็ต้องระวังไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย (ยิ่งติดต่อง่ายๆอยู่)
4. วิธีใหม่ๆ อื่นๆ ลืมไปได้เลย ประโคมข่าวเฉยๆ ไม่มีวิธีเร็วๆ ดีๆ ออกมาเร็วๆ นี้แน่ (น่าจะอีกเป็นปี)
5. ยารักษาก็มีข้อจำกัด การคิดค้นยาต้องมีทดสอบเรื่องความปลอดภัย, ผลข้างเคียงระยะยาว ฯลฯ ตอนนี้ทางลัดก็เลยคือหายารักษาโรคอื่นที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัย แล้วมาดูว่ามีฤทธิ์รักษาโควิดด้วยมั้ย ซึ่งตอนนี้ก็ทดสอบกันอยู่หลายตัว
6. ต่อให้ค้นพบยาแล้ว คอขวดจริงๆอยู่ที่ขั้นตอนการผลิต ของที่ไม่ซับซ้อน รู้ขั้นตอนการผลิตแล้วอย่างหน้ากากอนามัย ยังขาดตลาดอยู่ตั้งนาน ยานี่ กว่าจะรู้ว่าตัวไหน กว่าจะวางแผนการผลิตให้รองรับคนทั้งโลก ไม่ง่ายและเร็วๆนี้แน่
7. เมื่อตรวจก็ช้า รักษาก็ลำบาก เราก็ต้องป้องกัน ซึ่งการป้องกันที่ดีที่สุดคือ… วัคซีน ซึ่งโดยปกติใช้เวลาคิดค้น 12–18 เดือน (ข่าวที่บอกว่า บางประเทศคิดค้นวัคซีนได้แล้ว มีความเป็นไปได้ว่าสิ่งที่คิดค้นอาจยังไม่ได้ถูกนำมาใช้จริง เพราะจำเป็นต้องทดสอบหลายรอบจนกว่าจะมั่นใจได้ว่าปลอดภัยไร้ผลค้างเคียงทางต่อร่างกายจึงจะนำมาใช้ในวงกว้าง)
8. หลักการของวัคซีนตรงไปตรงมากว่า คือ ฉีดเชื้ออ่อนๆเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิ หรือไม่ก็เอาภูมิจากคนอื่นมาฉีดเข้าร่างกายเรา เพียงแต่ “การหาสูตร” มันยุ่งยากหน่อย (เช่น เหมือนบางวัคซีนที่เราฉีดตอนเด็กๆต้องฉีดหลายเข็ม เว้นระยะกี่เดือนกี่ปี ฯลฯ) แล้วก็ทดสอบยากลำบากหน่อย (หาคนไม่เป็นมาติดเชื้อโควิด??)
9. ที่น่ากังวลสุดคือ กว่าจะพัฒนาวัคซีนได้ แล้วถ้าเชื้อมันกลายพันธุ์ไปจนวัคซีนไม่เวิร์คแล้วล่ะ!? ซึ่งเชื้อตัวนี้ก็กลายพันธุ์เร็วซะด้วยสิ นับจากเริ่มระบาดที่อู่ฮั่น กลายพันธุ์มา 3 รอบแล้ว
10. จากข้อ 1–9 → มาตรการที่ดีที่สุด ที่เหลืออยู่จึงมีแค่ การหลีกเลี่ยงสัมผัสเชื้อ ซึ่งน่าจะต้องทำไปอีกเป็นปี
11. โรคนี้สถิติชี้ชัดว่าเป็นอันตรายกับผู้สูงอายุมาก ถ้าติดเชื้อแล้วโอกาสทรุดหนักหรือเสียชีวิตมากกว่าคนหนุ่มสาวหลายเท่า
12. แถมโรคนี้แพร่กระจายเร็วมาก คนติดเชื้อยังไม่แสดงอาการก็สามารถเป็นพาหะได้แล้ว แถมเชื้อมีรายงานว่าสามารถอยู่บนพื้นผิวหรือสิ่งของได้เป็นวันๆ
13. จากข้อ 10–12 → ผู้สูงอายุควรต้องหลีกเลี่ยงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสัมผัสกับคนหนุ่มสาว
เมื่อผู้สูงอายุควรอยู่เพียงลำพังเพราะผู้ดูแลอาจนำมาซึ่งความเสี่ยง เราจึงต้องปรับการดำเนินชีวิตขนานใหญ่
และอาจไม่มีวันได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม...

╔═══════════════════╗
ติดตามเนื้อหาดีๆ จาก Blue Oak ได้ที่
Facebook - https://facebook.com/blueoaksol
╚═══════════════════╝