Deartiktok อิหล่าภูไท
ในวัย 41 ชั้นค้นพบว่าอยากลองทำเพจแนวตลกๆ กับแม่บ้าง พออายุ 41 ชั้นก็อยากลองเปลี่ยนธีมเพจเป็นตลกบ้าง ... ถ้าตลกไม่มากพอ แกคอมเม้นท์บอกกันในช่องคอมเม้นท์หน่อยนะ~
เมล็ดคอสมอส นำเข้าจากญี่ปุ่น
100++ เมล็ด
10 บ.
ส่งฟรีทุกออเดอร์ สำหรับคนที่สั่งผ่าน LINE OA: ร้าน Sunshine Garden Cafe
ลิงก์ https://lin.ee/K6vX29B
หรือสแกน QR Code
โปรโมชั่นส่งฟรี เฉพาะ 1-14 ก.พ. 66
#ดอกไม้ภูไทขุนเขา
เขาวง กาฬสินธุ์
ชวนชาวเขาวง และอำเภอใกล้เคียง แวะมาถ่ายรูปทุ่งมินิคอสมอส เข้าฟรี
สถานที่ นาครูวิ ซอยหลังโรงเรียนบ้านโพนนาดี (เข้ามาราว 400 เมตร อยู่ซ้ายมือ มีที่จอดรถ / ไม่มีห้องน้ำ)
วันที่ 1-8 ก.พ.2566
เวลาทำการ: 15-17 น.
อัพเดต & สอบถาม fb.me/deartiktok
ดอกไม้ ภูไท และขุนเขา
01-08 ก.พ. 2566
เวลา 15-17น.
ติดตามอัพเดตได้ที่แฮชแท็ก
#ดอกไม้ภูไทขุนเขา
Google map :
https://maps.app.goo.gl/cJhA2RJgVj88JvmD8?g_st=ic
หมายเหตุ: ทุ่งคอสมอสจะอยู่ข้างในสวน ต้องเข้ามาจอดรถ แล้วเดินสัก 100 เมตร.
ปล.1
สวนปลูกและดูแลด้วยงบประมาณส่วนตัว หากขาดตกบกพร่องใดๆ ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า และขอความร่วมมือไม่เด็ดหรือทำลายดอกไม้นะคะ เนื่องจากทางสวนจะเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์เพื่อมาเพาะสวนดอกไม้เขาวงอีกในปีถัดไป
ปล.2
เนื่องจากดูแลกันเองและกำลังพลน้อย สวนเลยจะเปิดให้เข้าเฉพาะช่วงเวลา 15.00-17.00 น. ระหว่าง 1-8 กุมภาพันธ์ นี้
เลิกเรียน/เลิกงาน แล้วแวะมาถ่ายรูปกันได้เลยนะคะ
ปล.3
สวนเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล มีสมาชิกครอบครัวอยู่ด้วย เลยขอรบกวนไม่เข้าชมในช่วงเวลาอื่น เนื่องจากอาจรบกวนเวลาทำงานหรือพักผ่อนของสมาชิกครอบครัวค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
ครูวิเปิดสวน/ฟาร์ม ชวนผู้สนใจมาเกี่ยวข้าววิวภูเขา เสาร์อาทิตย์ 12,13,19, และ 20 พ.ย. นี้ค่ะ
โดยมีค่าใช้จ่ายท่านละ 400 บาท รายละเอียดดังด้านล่าง
อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นอำเภอชายขอบ วางตัวอยู่ในอ้อมกอดของเทือกเขาภูพาน ชื่อ "เขาวง" มาจากที่มาทางภูมิศาสตร์ที่เป็นพื้นที่ราบลุ่ม ขนาบด้วยภูเขาในทุกทิศทาง เรียกได้ว่า "มีเขาล้อมรอบเป็นวง"
มีชื่อเล่นอีกชื่อว่า "เมืองภูอ้อม" แปลว่า มีภูเขาอ้อมล้อมไว้ทุกด้าน
จุดแข็งคือเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ ไม่เคยเกิดน้ำท่วมเลย
จุดอ่อนมีมากกว่าจุดแข็ง จุดอ่อนสำคัญคือ เป็นพื้นที่ลับแล ไม่อยู่บนถนนเส้นหลักของภาคอีสาน ห่างไกลจากสนามบินประมาณ 90 กิโลเมตร แม้ถนนหนทางจะดีแล้ว แต่ระบบนิเวศน์ที่เกื้อหนุนการท่องเที่ยวยังไม่พร้อม ไม่มีบริษัทเช่ารถยนต์ เช่ามอเตอร์ไซค์ หรือแม้กระทั่งเช่าจักรยาน
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาเยือนเขาวง ต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่พึ่งพาตนเองเป็นหลัก หากไม่มีรถขับทุกอย่างจะเป็นไปได้ยากยิ่ง แต่การจะหารถเช่าจากทั้งตัวเมืองกาฬสินธุ์ ตัวเมืองสกลนคร หรือตัวเมืองร้อยเอ็ด ก็ยังเป็นเรื่องยากเช่นกัน
แต่กระนั้น สำหรับคนที่อยากมา ... เขาวงก็ยังมีอ้อมกอดอบอุ่นของภูพานไว้ให้สัมผัส มีสายลมเย็นที่เคล้าคลอประวัติศาสตร์การเมืองไทยร่วมสมัยอยู่ในละอองอากาศ มีทุ่งข้าว GI "ข้าวเหนียวเขาวง" ที่กรมการข้าวบอกว่าโดดเด่นและมีเอกลักษณ์หอมนุ่มเฉพาะตัว ...แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนที่เชื่อมั่นในการโฆษณาชวนเชื่อของหน่วยงานรัฐ ทางเลือกหนึ่งที่คุณมี คือคุณต้องมาสัมผัสและชิมข้าวเหนียวเขาวงด้วยตัวเอง
เมื่อสิบปีมานี้เอง ที่เขาวงเริ่มมีร้านกาแฟร้านแรกในอำเภอ (แค่สิบปีเอง) ก่อนจะเริ่มมีร้านรวงเกี่ยวกับกาแฟถือกำเนิดตามมาอีกหลายร้าน แต่กระนั้น สถานที่พักเชิงท่องเที่ยวในเขาวงกลับเติบโตอย่างจำกัด ค่อยเป็นค่อยไป
เดินไปทีละคืบ ทีละก้าว ...ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา การเติบโตของเขาวง เหมือนถูกแช่แข็ง ไม่ต่างจากประเทศไทยภายใต้เงื้อมมือของรัฐบาล คสช.และต่อเนื่องมารัฐบาลภายใต้ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เขาวง เดินไปอย่างเชื่องช้า, จนบางครั้งคนนอกตั้งคำถามต่อคนในพื้นที่ "ชาวบ้านไม่เคยอยากลุกขึ้นมาสู้เลยเหรอ?"
นี่คือการสู้ก้าวแรกแล้วกัน - ส่งคำตอบไปให้คนข้างนอก
นี่คือเรื่องราวของหนึ่งในชุมชนภูไทของประเทศ - นี่คือเมืองในวงล้อมของภูเขาที่ไม่ได้สวยที่สุด เมืองที่ยังขาดแคลนหลายอย่าง ไม่ได้ exotic สุดขั้วจนขายความ exotic นั้นได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ได้อากาศดีชวนฝันตลอด 365 วัน ไม่ได้ละมุนอ่อนโยนตลอดเวลา และรสชาติของ "ข้าวเหนียวเขาวง" ก็อาจไม่ถูกจริตของทุกผู้คน
แต่เช่นกันกับทุกพื้นที่ในประเทศไทย คนที่นี่มีความฝัน, มีความหวัง, มีความปรารถนา, มีประวัติศาสตร์และบาดแผล, มีจุดที่เชื่อมโยงกับทั้งภาพใหญ่ของประเทศ ภาพใหญ่ของโลก รวมทั้งมีจุดที่ไม่เชื่อมโยงกับคนนอกเลย
มีจุดที่ดื้อรั้น เป็นตัวเอง และมีจุดที่เต็มไปด้วยความประนีประนอม
บางหน่วยงานของรัฐ ชอบชูจุดเด่นของเขาวง ที่ความเป็นภูไท
บางหน่วยงาน ชูเรื่องข้าว
บางคนชูเรื่องประวัติศาสตร์การเมือง
และบางคนบอกว่า ที่นี่เด่นเรื่องหวย
ขณะที่บางคนบอกว่า - ไม่เห็นจะมีอะไรเลย
ในย่างก้าวที่โลกกำลังก้าวไปสู่อนาคตกาลข้างหน้า
ชาวเขาวง ขอขยับไปคืบหนึ่ง ด้วยการเชิญคนนอกที่อยากสัมผัสทั้งความละมุนและความดื้อรั้นของชาวเขาวง ด้วยการชวนคุณมาเกี่ยวข้าว
"เกี่ยวก้อย เกี่ยวข้าว คืนดีกับตัวเอง ที่เขาวง กาฬสินธุ์"
Half-Day Trip ครึ่งวัน ที่ฟาร์มบ้านโพนนาดี ของครูวิ โฆษกผีแห่งอำเภอเขาวง
_______
Half-Day Trip ครึ่งวัน ที่ฟาร์มบ้านโพนนาดี ของครูวิ โฆษกผีแห่งอำเภอเขาวง
กำหนดการ
10.00 - เกี่ยวข้าววิวภูเขา (ทีมงานเตรียมเคียวเกี่ยวข้าวไว้ให้)
Location https://goo.gl/maps/p9rXH3GzeidkeF6j8
11.30 - Isaan Lunch Set กินข้าวเที่ยงแบบอีสานปนภูไท วิวภูเขา
Location https://goo.gl/maps/p9rXH3GzeidkeF6j8
12.30 - นั่งรถอีแต๊กสักการะพระธาตุหมื่นหิน (ห่างไป 2 กม.), เลาะชุมชน, แวะซื้อหวยที่ตลาดปิดทริป
Location https://goo.gl/maps/1DqWFy8UXBw79nNt5
เสร็จสิ้นกิจกรรม 14.00 น. โดยประมาณ
ราคาท่านละ 400 บาท (ราคานี้รวมอาหารกลางวันและหวยท่านละ 1 ใบ รวมถึงการเดินทางในระหว่าง Half-Day Trip)
ทั้งนี้ผู้ร่วมทริปเป็นผู้รับผิดชอบการเดินทางมายังอำเภอเขาวงเอง
_____
จัดเพียง 4 วัน คือ 12,13,19, และ 20 พ.ย. 2022
รับจำนวนจำกัด วันละไม่เกิน 5 ท่าน
เปิดรับเฉพาะผู้ที่ทำการจองและชำระเงินล่วงหน้ามาแล้วเท่านั้น
รอบวันที่ 12 & 13 : จองและชำระเงินภายใน 10 พ.ย. เท่านั้น
รอบวันที่ 19 & 20 : จองและชำระเงินภายใน 16 พ.ย. เท่านั้น
จองได้ 4 ช่องทาง คือ
FB page: deartiktok - m.me/deartiktok
Email: [email protected]
IG: (DM) instagram.com/tiktokthailand
TEL: 0922429516 (ระหว่าง 8.00-20.00 น. ทุกวัน)
ติดตามภาพและรายละเอียดอื่นๆ ที่ท่านอาจสนใจได้ที่ instagram.com/tiktokthailand
+++ หมายเหตุ: กรณีต้องการคำแนะนำเรื่องการเดินทาง การเช่ารถขับ พิกัดสถานที่ท่องเที่ยวละแวกใกล้เคียง (ภูพาน, เต่างอย, ดงหลวง, ห้วยผึ้ง, นาคู, กุฉินารายณ์, และอื่นๆ), รวมถึงที่พัก สามารถอีเมลหรือติดต่อปรึกษาได้ทาง SNS (FB page & IG) และเบอร์โทร 0922429516 ได้ค่ะพร้อมให้คำแนะนำ +++
หากมีโอกาส แวะมากินข้าว เกี่ยวก้อย เกี่ยวข้าว และคืนดีกับตัวเองที่เขาวง กันนะคะ
#เกี่ยวก้อยเกี่ยวข้าวเขาวง
Explained 5 นาที
เคส #สนามบินเสรีไทย นาคู
พื้นที่ประวัติศาสตร์การเมืองที่เกือบถูกเปลี่ยนเป็นป่าอ้อย 100 ไร่
คลิปนี้เหมาะสำหรับคนไม่ชอบอ่านค่ะ เปิดฟังสรุปได้ใน 5 นาที
ประเทศไทยมีสถานที่ซึ่งเกี่ยวพันกับสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ สนามบินเสรีไทย อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่คนตัวเล็กตัวน้อยในวันนั้น ได้มีส่วนช่วยกู้ชาติ ช่วยเหลือเหล่าสัมพันธมิตรและขบวนการเสรีไทย จนทำให้ไทย หรือสยาม ไม่ตกเป็นผู้พ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2
ลานดินแดง ที่อยู่ค่อนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ของบ้านนาคู ต.นาคู อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ นั้น เป็นลานดินแดงที่มีส่วนเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์การเมืองไทยอย่างยิ่ง เพราะได้กลายเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งช่วยกู้ชาติให้สยามไม่ตกเป็นผู้พ่ายแพ้ในสงครามครั้งสำคัญ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่รัฐบาลไทยในส่วนกลางได้ยอมจำนนต่อกองทัพญี่ปุ่น และได้ประกาศร่วมรบในฐานะมิตรของญี่ปุ่นนั้น มีกลุ่มขบวนการเสรีไทยเกิดขึ้น โดยขบวนการเสรีไทยประกาศอยู่ข้างกลุ่มสัมพันธมิตร พร้อมตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นเพื่อต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นขึ้น
ขบวนการเสรีไทย ได้ช่วยกองทัพสัมพันธมิตรในการลำเลียงอาวุธเข้าสู่ประเทศไทย บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ค่ายเสรีไทย อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ เป็นค่ายที่มีบทบาทสำคัญ เพราะชาวบ้านในพื้นที่บ้านนาคู ได้ร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือขบวนการเสรีไทย และช่วยปกปิดไม่ให้กองทัพญี่ปุ่นล่วงรู้ ทางกลุ่มสัมพันธมิตรจึงสามารถใช้พื้นที่บริเวณสนามบินเสรีไทย ค่ายนาคู นำเครื่องบิน/เฮลิคอปเตอร์ ลงจอด จนลำเลียงอาวุธ และต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นจนทำให้ในท้ายที่สุดญี่ปุ่นพ่ายแพ้ไป
ปัจจุบัน ลานดินแดงส่วนที่เคยเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์กู้ชาติไทย เป็นที่ดินในครอบครองของกองทัพอากาศ ทั้งนี้ชาวบ้านในละแวกตำบลนาคู เคยประชุมและหารือกับหน่วยงานราชการท้องถิ่น โดยแจ้งยื่นเสนอ อยากให้พัฒนาพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่รักษาไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและประวัติศาสตร์ภาพใหญ่ของไทย เพื่อให้ประวัติศาสตร์ส่วนนี้ได้ย้ำเตือนบทบาทของคนตัวเล็กตัวน้อยในชุมชน ว่าเคยมีส่วนสำคัญในการกอบกู้ประเทศ
เนื้อหาสรุปย่อยจากหนังสือ "ขบวนการเสรีไทยที่ค่ายนาคู" รวบรวมและเรียบเรียงโดย ถวิล นาครินทร์ ประธานสภาวัฒนธรรม
ปกหนังสือลงไว้ในคอมเม้นท์
พิกัดสนามบินเสรีไทย อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์
https://goo.gl/maps/wjUVDJTZjPwKPHk59
เมื่อ #อิหล่าภูไท ไปวัด
จัดเต็มของทำบุญ ❌
จัดเต็มชุดที่ใส่ ✅
คลิปใหม่ #อนอัวอิแม่ มาแล้ว
🔴 https://bit.ly/3PPQY5B
#เพจแม่ลูกที่อิแม่ปรากฏตัวน้อยกว่าอิลูก
อนอัวอิแม่ EP นี้ แอบตื่น (สาย) ไป "ป่อนบาตร" หรือใส่บาตรที่วัด
เนื่องในวันเดือนดับเดือน 9 กับบุญข้าวประดับดิน
หนึ่งในประเพณี "ฮีตสิบสองคองสิบสี่" ของอีสาน ที่ตำนานเชื่อว่าเป็นวันที่ประตูนรกเปิดในรอบปี ยมบาลจะปล่อยให้ผีนรกออกมาเยี่ยมญาติในโลกมนุษย์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่างนี้
คนลาวและไทยอีสานมีความเชื่อสืบต่อกันมาแต้โบราณกาลว่ากลางคืนของเดือนเก้าดับ (วันแรมสิบสี่ค่ำเดือนเก้า) เป็นวันที่ประตูนรกเปิดในรอบปี ยมบาลจะปล่อยให้ผีนรกออกมาเยี่ยมญาติในโลกมนุษย์ ในคืนนี้คืนเดียวเท่านั้น ดังนั้นจึงพากันจัดห่อข้าวไว้ให้ญาติพี่น้องที่ตายไปแล้วถือว่าเป็น งานบุญเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ญาติพี่น้องผู้ล่วงลับไปแล้วพิธีกรรม ตอนเย็นของวันแรม 13 ค่ำเดือนเก้า แม่บ้านแม่เรือนทุกครัวเรือนจะ “ห่อข้าวน้อย” ซึ่งมีวิธีห่อดังนี้ ฉีกใบตองออกให้มีขนาดกว้างเท่ากับหนึ่งฝ่ามือ ส่วนความยาวนั้นให้ยาวสุดซี่ของใบกล้วย นําเอาข้าวเหนียวนึ่งสุก แล้วป่นเป็นก้อนเล็ก ๆ ขนาดเท่าหัวแม่มือ วางบนใบตองที่จะห่อ จากนั้นแกะเนื้อปลา ไก่ หมู ใส่ลงไปอย่างละเล็กน้อย (ถือว่าเป็นอาหารคาว) แล้วใส่น้ำอ้อยกล้วยสุก มะละกอสุกหรือขนมหวานอื่น ๆ ลงไปอีกนิด (ถือว่าเป็นของหวาน) จากนั้นใส่หมากหนึ่งคํา บุหรี่หนึ่งมวน เมี่ยงหนึ่งคํา แล้วจึงห่อใบตอบเข้าหากัน โดยใช้ไม้กลัดหัวท้ายและตรงกลางก็จะได้ห่อข้าวน้อยที่มีลักษณะยาวๆ (คล้ายห่อ ข้าวเหนียวปิ้ง) สําหรับจํานวนของ ห่อข้าวน้อยนี้ก็ควรจะให้มีมากกว่าจํานวนญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว ทั้งนี้เพราะจะต้องมีจํานวนหนึ่งเผื่อผีไม่มีญาติด้วย ครั้งถึงเวลาประมาณ 03.00-04.00 น. ของวันแรม 14 ค่ำ เดือนเก้าพวกผู้ใหญ่ในแต่ละครัวเรือนจะนําเอาห่อข้าวน้อยไปวางไว้ตามโคนต้นไม้ในวัด ตามดินริมกําแพงวัดบ้าง ริมโบสถ์ริมเจดีย์ในวัดบ้าง การนําเอาห่อข้าวน้อยไปวางไว้ตามที่ต่าง ๆ ในวัดนี้เรียกว่า “การยายห่อข้าวน้อย” ซึ่งจะพากันทําเงียบ ๆ ไม่มีฆ้องกลอง แห่แต่อย่างใด
ที่มา ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ลิงก์ https://cac.kku.ac.th/cac2021/information/เดือนเก้า-บุญข้าวประดั/
วันนี้ อิแม่มาถามว่า เราจะหาเงิน 15 ล้านให้ได้ยังไงภายใน 3 เดือน
เพราะทุกทางออกมีปัญหา
อิหล่าเลยตอบว่า ...ป่ะ เราวนรถไปยืมเงินผ้าป่ากัน
ขับวนสัก 15 หมู่บ้าน ยืมมาหมู่บ้านละ 1 ล้าน ก็ได้ครบ 15 ล้านแล้วอิแม่
ได้คอนเทนต์ "อิหล่าภูไทสร้างตัว" มา 1 กรุบ
#วันนี้วันศุกร์อิหล่าเลยว่างมาก
#สแตนบายรอปั่นวิวเอ็มวีใหม่BLACKPINK
#อิหล่าภูไท
#อนอัวอิแม่
#เพจแม่ลูกที่อิแม่ปรากฏตัวน้อยกว่าอิลูก
#อนอัวอิแม่ on tour~
วันนี้ อิแม่วัย 69 ปี พาไปคุยกับคุณยายวัย 104 ปี และวัย 85 ปี
คุณยายวัยเกินหลักร้อย เกิดปี พ.ศ.2461 (เกิดก่อน 2475)
ส่วนยายวัยหลักแปดสิบ เกิดปี พ.ศ.2480 (เกิดหลัง 2475 มานิดหน่อย)
หลักๆ ก็คือ เราสงสัยมาตลอดว่า โรงเรียนที่เราเรียนจบประถม และเป็นโรงเรียนที่อิแม่สอนมาตลอด 40 ปี ที่ชื่อ โรงเรียน "กุดปลาค้าวราษฎร์บำรุง" นั้น มีความเกี่ยวพันกับนโยบายการศึกษาของคณะราษฎรไหม
วันนี้ได้รู้แล้วว่า โรงเรียน "กุดปลาค้าวราษฎร์บำรุง" ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2477 (หลังการอภิวัฒน์สยาม 2475) ซึ่งจากหลักฐานเท่าที่เสาะหาได้ในปัจจุบัน คำว่า "ราษฎร์บำรุง" น่าจะเกี่ยวพันกับนโยบายความเท่าเทียมทางการศึกษาที่คณะราษฎรพยายามรณรงค์ในช่วงแรกหลังอภิวัฒน์ 2475
คำว่า "ราษฎร์บำรุง" มีแกนกลางที่เกี่ยวร้อยและยึดโยงกับ "ราษฎร" หรือประชาชนไว้
ปัจจุบัน โรงเรียนกุดปลาค้าวราษฎร์บำรุง ก่อตั้งมาได้ 88 ปีแล้ว
ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่มีความเกี่ยวโยงกับภาพใหญ่ของการเมืองระดับประเทศนั้น ปรากฏใน อ.เขาวง และ อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ อยู่หลายๆ จุด
นอกจาก "โรงเรียนกุดปลาค้าวราษฎร์บำรุง" ที่อาจเป็นดอกผลจากนโยบายการศึกษาของคณะราษฎรแล้ว
ยังมี สนามบินเสรีไท อ.นาคู ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือเครือข่ายสัมพันธมิตร และช่วยให้ไทยไม่ตกอยู่ในสถานะ "ผู้พ่ายแพ้"ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย
📍 พิกัดโรงเรียนกุดปลาค้าวราษฎร์บำรุง อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์
https://goo.gl/maps/qWF69zZFT3v8HyNn6
📍 พิกัดสนามบินเสรีไท อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์
https://goo.gl/maps/c459MSj7gaDJGqSh7
#อิหล่าภูไท
#เพจแม่ลูกที่อิแม่ปรากฏตัวน้อยกว่าอิลูก
อิหล่าภูไท พาไปเลือกตั้งซ่อม
เพราะอนาคตอยู่ในมือเรา
วาร์ปไปปีหน้าเปลี่ยนนายกประเทศเลยได้บ่?
#อนอัวอิแม่ EP.5 มาแล้วจ้า
🔴 มักแฮงแบ่งปัน ฝากแชร์ไปแหน่เด้อสุผู้สุคน
มื้ออื่นลงคลิปใหม่เด้อจ้า
มื้อนี่ เอารูปเก่าไปก่อน
อิแม่บอก เพิ่นจะนอนดูซีรีส์
#ห้ามอนอัว
#อิหล่าภูไท DearTiktok
Herไม่มีหนี้ #2
ความฝันของอิหล่าภูไท season 2
รอบนี้มาเบาๆ มีมอเตอร์ไซค์เป็นพร็อพ~
parody โดย DearTiktok (อิหล่าภูไท)
original song: เฮอร์ไมโอน้อง โดย อูน TheChanisara
ขอบคุณคุณอูน และทีมงาน ที่ผลิตผลงานดีๆ ออกมาค่ะ
____________________
่มีหนี้ The MV
อยากเป็นคนไม่มีหนี้
จะเสกให้มีรถไฟความเร็วสูง
จะทำให้ทางฝุ่นฟุ้ง แถวที่ราบสูง มันเดินรถไหว
ไม่ใช่เวลาฝนตก มาบอกให้เฮาทำใจ
จะท่องคาถาว่าพัก ว่าพัก ไปพัก ให้หมดไป
ไอ้พวก ศาล รอ...ธอ..นอ...
MV: herไม่มีหนี้
parody โดย DearTiktok (อิหล่าภูไท)
original song: เฮอร์ไมโอน้อง โดย อูน TheChanisara
ขอบคุณคุณอูน และทีมงาน ที่ผลิตผลงานดีๆ ออกมาค่ะ
____________________
่มีหนี้ The MV
อยากเป็นคนไม่มีหนี้
จะเสกตรงนี้ให้เป็นคอกหมู
จะทำเกษตรอย่างหรู มีรถดำนาจนฟินไม่ไหว
แต่หนูไม่ใช่คนพิเศษ ไม่ใช่ CP ขายไข่
บอก ธกส. ให้พัก ให้พัก ให้พัก พักหนี้ไว้
เขาบอกไม่ให้นะเออ
มื้อที่สุกที่สุด ทั้งไหม้ ทั้งเกรียม เพราะมันคือ จี่หนังเค็ม!!!
อนอัวอิแม่ EP.4
#อิหล่าภูไท
#อนอัวอิแม่
🔴 กดติดตามในยูทูบได้อีกช่องทาง
https://www.youtube.com/c/DearTiktokChannel
มื้อที่สุกที่สุด ทั้งไหม้ ทั้งเกรียม เพราะมันคือ จี่หนังเค็ม!!!
อนอัวอิแม่ EP.4
#อิหล่าภูไท
#อนอัวอิแม่
🔴 กดติดตามในยูทูบได้อีกช่องทาง
https://www.youtube.com/c/DearTiktokChannel
กฎจักรวาลก็คือ
ก่อนจะเป็นคนดัง
คุณต้องเป็นคนเอาถ่านก่อนนะ...
#กฎฟิสิกส์ก็มา
เย็นนี้ลงคลิปใหม่ค่ะ
#อนอัวอิแม่
#อิหล่าภูไท
DearTiktok
🔴 กดติดตามในยูทูบได้อีกช่องทาง
https://www.youtube.com/c/DearTiktokChannel
เมื่อคุณได้รับเกียรติให้เป็นคนดัง...
ถ้าคุณเข้าใจ คุณคือคนอีสาน ไม่งั้นก็ภูไท
#อนอัวอิแม่ #อิหล่าภูไท
28 กรกฎา วิ่งเทิดไท้อ้ายแจ็กสัน หวัง [อนอัวอิแม่ EP.3 ]
พบคลิป 6 นาที เว้าภูไทปนไทยกลาง กับภารกิจ วิ่งเพื่ออ้ายแจ็ก~
#อนอัวอิแม่ #อิหล่าภูไท #หัวใจเพื่ออปป้า
🔴 ฝากกดติดตามยูทูบได้อีกช่องทาง
https://youtu.be/44oQfDI4pAc
🔴 หากต้องการให้เราปรับปรุงคลิปวิดีโอจุดไหน แจ้งได้ในคอมเม้นท์
#อนอัวศัพท์ภูไท
รู้จักคำศัพท์ภูไท
🔴 เอ็ดเวะ (เสียงสั้น) = ทำงาน, ทำงาน, ทำงาน
ตัวอย่าง: ผู้ว่า กทม. มักเอ็ดเวะ
🔴 นอนเว็น (เสียงนาสิก) = นอนกลางวัน, นอนกลางวัน, นอนกลางวัน
ตัวอย่าง: ป้อมตู่โดดสภาไปนอนเว็น
#ภูไทเจอนี่
เมื่อแม่ลูกภูไทโดนงัดบ้าน : อนอัวอิแม่ EP.2 [ภูไทเจอนี่]
ฟังเสียงชาวนาตัวจริง บอกเหตุผลว่าทำไมต้องทำนาหว่าน (ไม่ใช่นาดำ)
และคุณยังสามารถรับชมคลิปวิดีโอตัวเต็มได้ที่ YouTube
https://youtu.be/HrsEzuPmYtc
หากต้องการให้เราปรับปรุงเพิ่มเติมอะไรในเพจหรือช่อง สามารถส่งข้อความหาได้ในช่องคอมเม้นท์นะคะ
อันยองงงงงง~
ฉันได้อ่านงานของคุณต้าในประชาไท แล้วคิดว่าเป็นงานอันยอดเยี่ยมมาก เลยคิดได้ว่า 5-6 ปีก่อน ฉันเคยคิดอยากทำแอปที่เชื่อมโยงการเดินทางในต่างจังหวัด เพราะตอนนั้นตัวเองทำงานที่หนองบัวลำภู ไม่มีรถยนต์ขับ และต้องสูญเสียเวลาและพลังงานไปกับการเดินทางไม่น้อย
[อ่านบทความของคุณต้าได้ที่ https://prachatai.com/journal/2022/07/99597
"กับดักทางความคิด ที่ทำให้ขนส่งสาธารณะไทยติดหล่ม" ]
อำเภอเขาวงและอำเภอนาคู ที่ฉันและญาติๆ อาศัยอยู่ เป็นอำเภอพื้นที่ปิด เส้นทางของพื้นที่พวกเราไม่ใช่เส้นทางสายหลัก แต่เดิมเมื่อสิบห้าปีก่อน ยังพอมีรถโดยสารประจำทางเชื่องช้าพาพวกเราไปในตัวเมืองอยู่บ้าง แต่หลังๆ รถประจำทางสายนั้นก็ปิดตัวลง จนในที่สุด เวลาที่พวกเราจำเป็นต้องเข้าอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พวกเราก็ต้องดิ้นรนหาหนทางอื่นกันไป
สำหรับฉันนั้น เคราะห์ดีที่แม่ส่งมอบรถยนต์ให้ผ่อนต่อ (ผ่อนต่ออีกราว 4แสนบาท) ทำให้มีรถยนต์ใช้ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้มีรถราให้พึ่งพา ระยะเดินทาง 40 กม. เพื่อไปเจอถนนเส้นหลัก (มุกดาหาร - กาฬสินธุ์) ก็ถือว่าหนักหนาเอาการ
วันก่อน น้องแก้วใส แห่งเพจ แก้วใส : Daily Life Story จะต้องไปเข้าค่ายที่อำเภอเมืองสารคาม จากนั้นก็ไปต่อที่อำเภอคำม่วง ฉันก็ถามว่า แล้วน้องจะออกจากนาคูได้ยังไง (น้องมาฝึกสอนที่นาคู) นั่นเพราะฉันก็เคยผ่านประสบการณ์ต้องไปธุระที่ต่างเมือง แล้วหารถประจำทางไปไม่ได้เหมือนกัน
น้องบอกว่า "นั่นสิ"
ถือว่าทุนทางสังคมฉันยังดีอยู่ไม่น้อย ที่มีเพื่อนสาวคนหนึ่งต้องขับรถไปรับส่งลูกทุกเช้า โดยผ่านเส้นทาง นาคู-ห้วยผึ้ง ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ฉันจึงฝากฝังให้เพื่อนแวะมารับน้องแก้วใสก่อนที่จะบึ่งไปห้วยผึ้ง แม้ว่าจะต้องออกเดินทางเช้าสักหน่อย (สัก 7 โมง) แต่ยังไงก็ถือว่ามีรถไป
อำเภอห้วยผึ้งอยู่ห่างจากนาคู 30 กม. จากจุดนั้น จะมีรถประจำทางไปได้ทั้งสารคามและขอนแก่น (รวมถึงไปมุกดาหารด้วยก็ได้)
ตอนไปทำงานที่หนองบัวลำภูเมื่อ 6 ปีก่อน สมัยก่อนออกรถยนต์ ฉันก็เคยใช้เวลาในการเดินทางจากเขาวง ไปหนองบัวลำภู ถึง 6-7 ชั่วโมง
ใช่ค่ะ, เราอยู่ในภูมิภาคอีสานเหมือนกันนี่แหละ แต่ฉันต้องใช้เวลาในการเดินทาง นั่งรอรถ ขึ้นรถแล้วเปลี่ยนรถอยู่สามครั้ง กว่าจะไปถึงหนองบัวลำภู (ไม่นับเวลาที่ต้องนั่งสามล้ออีก)
จากเขาวง ไปห้วยผึ้ง ในยุคนั้น ฉันมักจะไหว้วานให้พ่อขับรถ 30 กม.ไปส่งอยู่เสมอ รถกระบะมือสองคันเก่าคือคันที่พาฉันออกจากเขาวงไปพบเจอถนนใหญ่ (ทางหลวงแผ่นดิน)
จากห้วยผึ้ง ฉันจะนั่งรอรถอยู่ราวๆ 30-60 นาที (แล้วแต่ชะตาฟ้าดินในวันนั้น) จากนั้นก็จะขึ้นรถไปลงขอนแก่น (ถ้าเจอรถช้า ก็ใช้เวลา 3 ชม.) และจากขอนแก่น ก็ต้องนั่งรถไปอีกสถานีขนส่ง เพราะรถที่จะไปหนองบัวลำภูอยู่อีกสถานี
พอไปถึงสถานีขนส่งอีกแห่ง ก็ต้องนั่งรอรถออก ใช้เวลาราว 30-60 นาทีแล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิต ฉันก็นั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ พยายามดื่มน้ำให้น้อยที่สุด เพราะทุกครั้งที่เดินทางอย่างนี้ ฉันจะไม่เข้าห้องน้ำระหว่างเดินทางเลย
จากขอนแก่น แล่นข้ามเขาอะไรสักอย่าง ไปเรื่อยๆ จนถึงหนองบัวลำภู ฉันจำไม่ได้ว่าใช้เวลา 2 ชม. หรือ 2 ชม. ครึ่ง นี่แหละ แล้วพอถึงขนส่งหนองบัวลำภู ก็ต้องหารถต่อเข้าไปยังที่พักอีก (สมัยนั้นฉันนอนวัด ... ใช่ค่ะ ขีดเส้นใต้คำว่า "นอนวัด")
จริงๆ แล้ว อำเภอเมืองหนองบัวลำภูนี่ ห่างจากอำเภอเมืองอุดรธานี แค่ 40 กิโลเมตรเองค่ะ แต่หนองบัวลำภูเป็นเมืองที่เหมือนพื้นที่ปิด ระยะทางห่างกันแค่ 40 กิโลเมตร แต่ความเจริญห่างจากอุดรเยอะมาก จริงๆ ฉันอยากรณรงค์ให้ 2 จังหวัดนี้ร่วมมือกันมากๆ (เริ่มจากฝั่งเอกชนก่อนก็ได้)
ช่วงชีวิตที่วุ่นวือกับการเดินทาง 6-7 ชั่วโมง (นั่งรถพัดลมเกือบตลอดทาง) นี้ ห่างจากชีวิตปัจจุบันย้อนไปแค่ 6-7 ปีเองค่ะ
และทุกวันนี้ พื้นที่ต่างอำเภอเกือบครึ่งหนึ่งของอีสาน ก็ยังต้องเผชิญชะตากรรมนี้อยู่
ในช่วงทำงานที่หนองบัวลำภูนี้เอง อยู่ๆ ฉันก็คิดว่า คงจะดี ถ้ามีแอปอะไรสักอย่าง ที่เชื่อมโยงคนที่ขับรถส่วนตัวแล้วต้องผ่านเส้นทางนั้น กับชาวบ้านร้านตลาดที่ต้องการเดินทางได้ (จริงๆ ใน กทม.และหัวเมืองใหญ่ เคยมีคนพัฒนาแอปแนวนี้มาก่อน แต่แอปแนวๆ นี้ไม่เคยถูกนำมาใช้งานยังต่างอำเภอเลย ขีดเส้นใต้คำว่า "ต่างอำเภอ" ไม่ใช่ "หัวเมืองต่างจังหวัด")
ตอนที่คิดเรื่องแอปนี้ขึ้นมา จำได้ว่าได้ทักไปถามหาน้องคนหนึ่งที่น่าจะให้คำปรึกษาเรื่องเทคโนโลยีได้ แต่สุดท้าย ความคุ้มทุนต่างๆ ก็คืออุปสรรคหลักที่ทำให้เราไม่อาจพัฒนาแอปได้
ไม่น่าเชื่อว่าประสบการณ์หฤโหดที่ฉันเจอ เมื่อผ่านมา 6-7 ปีให้หลัง น้องแก้วใสก็ยังต้องมาเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันซ้ำ ทั้งที่ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีสื่อสารของโลกก็พัฒนาไปไกลมากแล้ว (อีลอน มัสก์ ก็ปล่อย Starlink และออกรถ Tesla Model 3 ออกสู่ตลาดโลกเรียบร้อยแล้ว)
แต่ชีวิตในต่างอำเภอ ในต่างจังหวัด ของไทย เรายังพบเจอกับปัญหาจากการเดินทาง อันมีรากมาจากการขาดแคลนขนส่งสาธารณะที่ทั่วถึง เท่าเทียม และดีพอ
ด้วยทุนการเงินอันน้อยนิด ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะพอทำอะไรได้บ้างไหม
แต่ด้วยทุนสังคมในชนบทอันกว้างใหญ่ ฉันก็ยังหวังว่าตัวเองจะทำอะไรมากกว่านี้ได้บ้าง
ฉันคิดถึงวันที่คนข้างบ้านป่วย แล้วแม่มาขอให้ฉันขับรถไปส่งเขาที่โรงพยาบาล ฉันเต็มใจจะขับไปส่งเพราะเข้าใจภาวะการขาดแคลนขนส่งสาธารณะได้เป็นอย่างดี ถ้าเราเคยป่วยในพื้นที่ห่างไกล เราจะเข้าใจว่า การมีคนไปรับไปส่งขณะเราป่วยไข้ได้ มันคือของขวัญอันล้ำค่า
วันนั้นฉันบอกพี่ที่ทำงานทางไกลด้วยกันว่าขอลางาน ฉันไม่แน่ใจว่าเขาจะเข้าใจไหม ว่าทำไมฉันต้องขอลางาน เพื่อขับรถไปส่งคนข้างบ้าน
แต่ถ้าใครเคยอยู่ชนบท จะเข้าใจได้ว่า ป้าข้างบ้าน ก็เหมือนป้าของเรา
เด็กข้างบ้าน ก็เหมือนหลานของเรา
จนกว่าเราจะมีขนส่งสาธารณะที่ทั่วถึง เท่าเทียม และดีพอ
คนชนบทก็คงต้องพึ่งพิงทุนทางสังคมแบบนี้ไปก่อน ... ระหว่างที่เรารอให้รัฐและส่วนกลาง (รวมถึงเอกชนทุนใหญ่) หันมาใส่ใจกันบ้างเสียที
ปล. ภาพถ่ายปี 2017 กับ ชินกันเซ็น รถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่น
เมื่อแม่วัย 69 และลูกสาววัย 41ชาวภูไท ใช้เวลาร่วมกัน จึงเกิดเป็นคลิปนี้
คลิปวิดีโอขนาดสั้น ที่จะพาสุผู้สุคนไป "เวียนนา" กัน
หากดูใน FB page ยังไม่จุใจ สามารถดูแบบยาวจัดเต็มได้ใน YouTube
https://youtu.be/HrsEzuPmYtc
หากต้องการให้เราปรับปรุงเพิ่มเติมอะไรในเพจหรือช่อง สามารถส่งข้อความหาได้ในช่องคอมเม้นท์นะคะ
อันยองงงงงง~
เมื่อคุณบอกคนอื่นว่า "จะไปเวียนนา"
สิ่งที่คนอื่นคิด vs. ความเป็นจริง
ถ้าคุณเก็ท
คุณคือคนอีสาน ไม่งั้นก็เป็นภูไท XD
🔴 อยากดู "การเวียนนา" แบบเวอร์ชั่นคลิปวิดีโอ
คลิกที่ลิงก์ยูทูบ https://youtu.be/HrsEzuPmYtc
"ภูไทเจอนี่ | อนอัวอิแม่ EP 1: ทริปพิเศษ ไปเวียนนากับแม่ (รับหน้าฝน)"
🔴 แล้วบอกหน่อยว่า อยากให้เราปรับปรุงคลิปเพิ่มจุดไหนบ้าง?
_________
ฝากกดติดตาม DearTiktok ได้ทางช่องทาง
fb: deartiktok
youtube: deartiktok
ตอน ม.ต้น ก่อนวิกฤต'40 จะมาเยือนประเทศไทย
จำได้ว่า มีเพลงหนึ่งดังทีเดียว เพื่อนมัธยมของเราชอบกันมาก
มันมีเนื้อร้องท่อนหนึ่งว่า "ในความผูกพันนั้นเจ็บปวด แค่คิดถึงกันก็ทรมาน"
อาจด้วยเรามียีนไซโคพาธอยู่ในตัวนิดหน่อย (เหรอ) เราเลยฟังเพลงนั้นไม่เคยเข้าใจ เคยถามเพื่อนอยู่เหมือนกันว่า เพลงต้องการสื่อถึงอะไรกันนะ เด็กในวัยไม่ถึง 15 ปีอย่างเรา ฟังไม่เข้าใจเลย
แต่เนื้อเพลงท่อนนั้นก็ติดอยู่ในใจจนถึงทุกวันนี้
---
เมื่อเติบโตขึ้น เราได้ค้นพบหนังสือชื่อ เจ้าชายน้อย
หนังสือที่ว่ากันว่า เมื่อหวนกลับมาอ่านต่างห้วงเวลา เราจะสัมผัสมุมใหม่ของมันเรื่อยๆ
“สำหรับฉันเธอเป็นเพียงเด็กผู้ชายเล็กๆ คนหนึ่งซึ่งเหมือนๆ กันกับเด็กชายอื่นๆ อีกแสนคน ฉันไม่ต้องการเธอ และเธอก็ไม่ต้องการฉันเช่นเดียวกัน
ฉันก็เป็นเพียงสุนัขจิ้งจอกธรรมดาๆ ตัวหนึ่งเหมือนสุนัขจิ้งจอกอื่นๆ แสนตัว
แต่ทว่าถ้าเมื่อใดเธอคุ้นเคยใกล้ชิดกับฉัน เมื่อนั้นเราต่างก็ต้องการซึ่งกันและกัน เธอก็จะเป็นเด็กคนเดียวในโลกสำหรับฉัน และฉันก็จะเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเดียวในโลกสำหรับเธอด้วย...”
----
นุ่มนิ่ม เป็นแมวจรสีดำ ที่โผล่มาวนเวียนรอบบ้านเราเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว นุ่มนิ่มมาพร้อมด้วยอาการท้องโย้ ความที่บ้านเราไม่เคยรับมือกับแมวตัวเมียมาก่อน เลยไม่รู้จะทำยังไงกัน ช่วงแรกนุ่มนิ่มไม่ได้เข้าบ้าน ได้แค่วนเวียนอยู่ข้างนอก พวกเราก็จัดหาน้ำและอาหารวางไว้นอกบ้านให้
วันแรกสุดที่นุ่มนิ่มได้เข้าบ้าน คือวันที่มีงูโผล่มา แล้วเป็นเราเองที่ตัดสินใจว่า ถ้ามีแมวอยู่ในบ้านไว้คอยขู่งู ก็คงจะดี
นั่นเอง คือจุดเริ่มต้นที่นุ่มนิ่มได้เข้ามาป้วนเปี้ยนในบ้านในที่สุด
นุ่มนิ่มคลอดลูกครอกแรกในปลายปี 2563 เป็นแมวตาแป๋วแสนน่ารัก 3 ตัว แต่ไม่รู้ว่าเป็นธรรมชาติของลูกแมวไหม ในที่สุด ลูกแมว 3 ตัวก็หายไป พวกเราสันนิษฐานกันเองว่า ลูกแมว 3 ตัว เป็นตัวผู้ ดังนั้นตัวผู้อาจต้องการออกไปผจญโลกเอง
แม้ลูกจะหายไป แต่นุ่มนิ่มยังอยู่ นางได้กลายเป็นนางพญาแมวประจำบ้านเพียงตัวเดียว
หลังปี 2564 ได้ไม่นาน นุ่มนิ่มก็ท้องอีก พวกเราไม่เคยรับมือกับแมวตัวเมียมาก่อน เลยไม่รู้ว่าต้องทำหมัน แถมไม่มีใครคิดด้วยซ้ำว่านุ่มนิ่มจะเสน่ห์แรงขนาดนี้
ลูกครอกที่สองของนุ่มนิ่มเกิดเมื่อ 27 มีนาคม 2564 ที่จดจำได้แม่นยำ เพราะเจ้าตัวเล็กเกิดก่อนหน้าวันเลือกตั้งเทศบาลที่ครูวิลงสมัคร สท. แค่หนึ่งวัน
ลูกครอกนี้ของนุ่มนิ่มเป็นแมวดำ เราตั้งชื่อกันว่า "นำโชค" กับ "ลาภลอย" ทั้งคู่เป็นตัวเมีย คราวนี้พอครบ 1 เดือน ครูวิก็พานุ่มนิ่มไปฉีดยาคุม (ไม่ใช่ทำหมัน) เพราะเราไม่รู้กัน และสัตวแพทย์ในอำเภอก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร แต่สุดท้าย การฉีดยาคุมก็ไม่ช่วยอะไร นุ่มนิ่มกลับมาท้องอีกรอบ
ช่วงนั้นบ้านเราตุนปลาทูไว้ทุกวัน เพราะนุ่มนิ่มเป็นแมวจรที่เรื่องมากที่สุด นางไม่ยอมกินอะไรเลย นอกจากปลาทู เราเคยคำนวณว่า ค่าปลาทูของนุ่มนิ่ม ตกปีละเกิน 1 หมื่นบาท แต่นั่นแหละ ในความผูกพัน สุดท้าย ค่าปลาทู ก็กลายเป็นค่าใช้จ่าย fixed cost ประจำบ้านเราไปในที่สุด
เจ้าตัวเล็ก 2 ตัวค่อยๆ ทยอยหายตัวไป เริ่มต้นที่ "นำโชค" ที่หายตัวไปตั้งแต่เดือนแรก เรายังไม่เข้าใจ ว่าทำไม "นำโชค" ถึงหนีออกจากบ้าน เหลือเพียง "ลาภลอย" ไว้ เราเรียก "ลาภลอย" ว่า "ตัวเล็ก" เวลาที่เราประชุมออนไลน์อยู่ ตัวเล็กชอบมาคลอเคลียที่ต้นขา เจ้าตัวเล็กเป็นแมวที่ไม่ร้องเหมียวๆ แต่ร้อง "อี๊ดๆ" เหมือนหมู ชอบกระโดดโลดเต้น และเราคิดว่า ตัวเล็กแสวงหาความรักและความอบอุ่น เพราะชอบขึ้นมานอนที่นอนมนุษย์
แต่ตัวเล็กก็หายไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน หายไปในวันที่เราไปทำธุระที่ขอนแก่น พอกลับมาบ้าน ก็ไม่มีตัวเล็กแล้ว ครูวิบอกว่า ตัวเล็กออกจากบ้าน แล้วไม่กลับมาอีกเลย
นุ่มนิ่มกลับมาท้องครอกที่ 3 จนได้ แต่คราวนี้ นุ่มนิ่มดูเศร้ากว่าเดิม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พวกเราคิดกันว่า นุ่มนิ่มน่าจะใกล้คลอดแล้ว เพราะน้ำคร่ำแตกแล้ว แต่นุ่มนิ่มก็ยังไม่คลอด พวกเราเตรียมที่นอนไว้ให้ นุ่มนิ่มเดินไปเดินมาอย่างเงียบเชียบ ให้ปลาทูก็ไม่ยอมกิน ผิดวิสัยมากๆ
และในเวลา 15.00 น.ของวันที่ 29 มิ.ย.2564 นุ่มนิ่มก็จากไป
จากไปทั้งที่ยังท้องลูกอยู่ จากไปโดยการนอนแน่นิ่งใต้ถุนบ้านของยายบุญ ยายบุญเป็นยายข้างบ้านเรา
---
พวกเราฝังนุ่มนิ่มไว้ที่สวน ครูวิร้องไห้ ฉันคิดถึงหนังสือเรื่อง "เจ้าชายน้อย" และบทเพลงที่เคยได้ยินก่อนวัย 15
"ในความผูกพันนั้นเจ็บปวด แค่คิดถึงกันก็ทรมาน"
เพื่อน
อยากเล่าเรื่องเส้นทางอาชีพของเพื่อนสามคนที่ได้รู้จักตอนเรียนโตได สองคนแรกเป็นคนญี่ปุ่น อีกคนเป็นคนเกาหลี
☀️ คนญี่ปุ่นคนแรก ชื่อ นิโนะมิยะ เป็นชายหนุ่มจากจังหวัดโออิตะ ที่ภูมิใจในจังหวัดของตัวเองอย่างยิ่ง (ชั้นเห็นภาพสะท้อนของตัวเองอยู่ในตัวเพื่อนคนนี้) พอเรียนจบ เขาได้งานที่ EY ซึ่งเป็น consultant company ระดับโลก (EY คือ บ.ที่ทำ Tokyo Olympic 2020) นิโนะจบก่อนเรา แต่เวลาทำงานเหนื่อยๆ ทุกเย็นวันศุกร์มันจะชอบโผล่มาที่โตได มาหาเพื่อนเม้าท์ แล้วก็บ่นๆ เรื่องชีวิตซาลารีแมน จริงๆ เราสนิทกับนิโนะตอนที่นิโนะเข้า EY แล้วด้วยซ้ำ อ้อ นิโนะเคยมาฝึกงานที UN เมืองไทยช่วงที่เกิด รปห.57 พอดีอ่ะ #โว๊ะ
นิโนะทำงาน EY ได้สองปี ก็ลาออกครับ ลาออกมาทำงาน NGO ที่เน้นเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ...แน่นอนว่า เงินเดือนน้อยลงกว่าเดิมเยอะมาก ปีนั้นนิโนะอายุ 28 มั้ง เรากลับไปโตเกียวอีกรอบ ได้นัดกินข้าวกัน นิโนะเงินเดือนน้อยลงแหละ แต่เขาบอกว่า มีความสุขดี (ประกายตามีความสุขกว่าตอนทำ EY อ่ะ)
☀️ คนญี่ปุ่นคนที่ 2 คนนี้เป็นสาวสวยมาก เราว่าสวยที่สุดในโตไดในความคิดของเราเลย (แต่หลายคนก็แย้งเราอ่ะนะ) แล้วบ้านรวยด้วย คือ พ่อเขามีโรงแรมใหญ่ตรงย่านหรูในโตเกียวอ่ะ แล้วเขาก็ไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ ม.ปลาย เป็นลูกครึ่งจีนญี่ปุ่น หน้าสวย หุ่นดี สอนโยคะด้วย เป็นคนที่เข้าวงการบันเทิงได้สบายเลยอ่ะ
ตอนที่เรียนด้วยกัน เขาทำงานพิเศษด้วยนะ แม้จะบ้านรวย แต่เหมือนครอบครัวญี่ปุ่นอีกหลายบ้านอ่ะ คือ ถ้าอยากไ้ด้อะไรที่นอกเหนือจากเรื่องเกี่ยวกับการศึกษา ก็ต้องหาเอาเอง เราเลยได้เห็นเขารับงานพิเศษเป็นล่าม เป็นครูสอนโยคะ เป็นนั่นนี่หลายอย่าง ...คนนี้แปลกมาก แม้จะไปเรียน ม.ปลายที่เมืองนอก แต่ภาษาอังกฤษเขาไม่ได้ดีมากนะ ไม่ได้ fluent อ่ะ ตอนเรียนจบ เขาเลยยังไม่ได้งาน บ.ที่เขาอยากทำเสียทีเดียว
ต่อมา เขาได้งานทำที่ Deloitte สาขาโตเกียว ก็ บ.ดังอ่ะเนอะ แต่ความฝันเขาคือ อยากย้ายไปทำงานเมืองนอก เขาก็เลยลงเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเพิ่ม พัฒนาตัวเองหลายอย่างมากๆ จนสองปีก่อน (ก่อนเกิดโควิด) เขาได้งานที่ Deloitte ลอนดอน ... ซึ่งเขาบอกว่า เขาสมัครเอง แบบยื่นสมัครใหม่เกือบหมดเลย ไม่ได้รับสิทธิพิเศษเพราะเป็นพนักงาน Deloitte สาขาโตเกียวนะ แบบว่า เขาตั้งใจพัฒนาภาษาตัวเองมากๆ เขาเคยเขียนบล็อกไว้ด้วย (เป็นบล็อกที่เน้นสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ญี่ปุ่น) ว่า หากอยากย้ายไปทำงานที่อังกฤษ ควรเตรียมตัวยังไง
ช่วงที่เขาทำงานที่โตเกียว เขาไม่ค่อย active ใน Social Media เลย แต่พอย้ายไปทำงานที่ลอนดอน คือ active มาก โพสต์รูปบ่อยมาก แววตาเป็นประกาย เขาไปช่วงอายุ 28 ปีนี่แหละ เราว่าเขาแฮปปี้ เขาเลยกลับมา active ออนไลน์มากขึ้น
☀️ คนที่ 3 เป็นเด็กเกาหลีที่เก่งมาก เป็นผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก โตเมืองนอกเหมือนกัน ใช้ภาษาได้ดีทั้ง 4 ภาษา คือ เกาหลี อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น แล้วเป็นคนกล้าแสดงออก กล้าสื่อสารความคิดตัวเอง ช่วงแรกที่เรียนจบ เขาได้ทำงานในทำเนียบประธานาธิบดี ทำงานกับ พัคกึนฮเย อ่ะ (ทำแบบใกล้ชิดเลยนะ ติดตามไปทุกการประชุมและทุกหนแห่งที่พัคกึนฮเยไป) แต่ทำได้ประมาณปีกว่าๆ มั้ง เขาก็ลาออก (คิดว่าคงไม่แฮปปี้กับการเมืองเกาหลีใต้)
จากนั้นเขาก็ย้ายไปทำงานที่อเมริกา จำไม่ได้ว่าทำงานที่ Facebook หรือ Google แล้วเขาดูแฮปปี้มาก สุขภาพจิตดีเว่อร์วัง ... แต่จริงๆ ก่อนหน้านี้ เขามีความฝันอยากเปลี่ยนแปลงเอเชียนะ อยากขับเคลื่อนสันติภาพให้เกิดในแถบเอเชียตะวันออก (ลดความขัดแย้งระหว่าง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น) แต่พอได้สัมผัสในระดับหนึ่ง มันคงกัดกร่อนเขามั้ง เขาเลยเปลี่ยนสายงานเลย ไปทำด้านอื่นใน tech company ระดับโลกแทน ซึ่ง to be fair มันก็คือการเปลี่ยนโลกในทางหนึ่ง อ้อ เขาไปก่อนเขาอายุ 30 ปีนะ น่าจะไปช่วง 26 ปี มั้ง
ทั้งสามคนที่เราเล่า เป็นเด็กสายการเมือง สังคมศาสตร์นะ (สายเดียวกับเรา) ไม่ได้มี background วิทย์ หรือ coding หรือแม้กระทั่ง business
ความฝันมันเปลี่ยนรูปร่างได้เรื่อยๆ และเอาจริงๆ จะอยู่ บ.ใหญ่หรือเล็ก อยู่เมืองใหญ่หรือเล็ก มันก็ขึ้นอยู่กับว่า เป้าหมายของเราคืออะไร
และเอาจริงๆ เป้าหมายก็เปลี่ยนแปลงได้เสมอเช่นกัน
"Spring is short,
but it comes again."
สิ่งสุดท้ายบนโลก ที่ฉันอยากให้หายไป คือฤดูใบไม้ผลิ
มันกลับมาอีกครั้ง
การเบ่งบานชั่วขณะ
สัญลักษณ์ที่มาพร้อมความหวัง
“ที่เกาะคิวชู เมื่อได้เผชิญหน้ากับซากุระกลุ่มใหญ่
ที่ยืนล้อลมฝนตรงหน้าพิพิธภัณฑ์ปรมาณู เมืองนางาซากิ
เป็นครั้งแรกที่ฉันตระหนักว่า
ดอกบอบบางนั้นบานก่อนใบสีเขียว
และเราห้ามการโรยร่วงของดอกไม้ไม่ได้
และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ทุกอย่างมีช่วงเวลาของมัน.. ผู้คนในชีวิตก็เช่นกัน”
ซากุระ, ซาโยนาระ
เรื่องราวของผู้หญิงอายุ 34 ปี ที่เพิ่งมีโอกาสได้เรียนปริญญาโท
เรื่องราวของ LGBTQ+ ชาวญี่ปุ่น ที่เพิ่งตระหนักว่าตัวเองเป็นหญิงรักหญิง
เรื่องราวของนักศึกษาคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษ ที่เป็นคนเดียวที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะที่แฟนสาวเสียชีวิตคาที่
บุคคลด้านบน ได้มีโอกาสเดินทางร่วมกันในต้นฤดูใบไม้ผลิ ชั่วขณะหนึ่งที่ดอกซากุระเบ่งบาน
เพราะมีคนบอกว่าให้ลองทำโปรโมชั่น E-Book ดู
เมื่อวานนี้ก็เลยได้ฤกษ์ปล่อยโปรฯ ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิดูค่ะ~
ราคา E-Book 29 บ.
ระหว่าง 25 มี.ค. 2564 - 30 เม.ย. 2564
ลิงก์ซื้อ E-Book : http://bit.ly/SakuraPromotion2021
(จำหน่ายที่ MEB)
ภาพนี้ถ่ายโดยนิริน สถานที่ มหาวิทยาลัยโตเกียว
นอนกลางวัน และ Productivity ของโลกสมัยใหม่
วันก่อนฉันเพิ่งนอนกลางวันไป
เป็นบ่ายที่อากาศร้อนวันหนึ่ง เป็นช่วงกลางสัปดาห์ที่คนส่วนใหญ่น่าจะปักหลักทำงานกันอยู่ที่ออฟฟิศ
ฉันล้มตัวลงนอน ก่อนหลับก็ครุ่นคิดวนไปเวียนมา ว่าการนอนตอนกลางวันที่คนอื่นกำลังทำงานกันทั้งประเทศนี่ ฉันนับเป็นคนขี้เกียจและไม่ Productive ไหมนะ?
วันก่อนนู้นอีกเช่นกัน ฉันไปโรงพยาบาลในเมือง ฉันไม่ได้เจ็บป่วย แต่มีคนในบ้านเจ็บป่วย แม่โทรมาบอกว่า หมอให้กลับบ้านได้แล้ว ให้ขับรถมารับหน่อย ฉันขับรถข้ามอำเภอไป วันนั้นจริงๆ ตั้งใจสะสางงานหลายชิ้นให้เสร็จ คิดในใจว่า ถ้าขับรถไปถึง รพ. แล้วกลับมาเลย ก็จะมีเวลาช่วงบ่ายเหลือสำหรับสะสางงาน
พอไปถึง รพ. เขาคุยกันอีท่าไหนไม่รู้ ไอ้ที่บอกว่า หมอให้กลับบ้านได้แล้ว คือ หมอยังไม่ได้เซ็นเอกสารให้กลับเลย คนอื่นๆ ใน รพ. ก็เลยไม่ยอมปล่อยตัวให้กลับ ก็ต้องนั่งรอไปเรื่อยๆ
3 ชั่วโมงผ่านไป... ใกล้เย็นแล้ว
วันนั้นมีข้อความเกี่ยวข้องกับงานเข้ามาอย่างต่ำ 3 ชิ้น ฉันไม่แน่ใจเรื่องความเร่งด่วนของคนที่ส่งข้อความเข้ามา ฉันอ่านข้อความแล้วอยากรีบกลับไปทำให้เสร็จเหมือนกัน เพราะไม่แน่ใจว่าเขาร้อนใจอยากได้กันเร็วแค่ไหน ...ในใจก็คิดว่า คนอื่นจะมองว่าฉันเป็นคนตอบข้อความช้าหรือเปล่า? คนอื่นจะว่าฉันดองงานไหม? คนอื่นจะว่า พวกเขาตอบข้อความเร็วๆ ได้ แล้วทำไมฉันไม่ยอมตอบหรือเปล่า?
ฉันเคยเจอมนุษย์ Productivity สูงเหมือนกัน ตอบข้อความเร็ว ส่งงานเร็ว จัดการธุระจิปาถะได้เร็ว แต่ฉันค้นพบว่า ตัวเองเป็นคนไม่ multitasking วันที่ไปเฝ้าไข้คนป่วยที่ รพ. ฉันจะไม่ใช่คนที่หยิบคอมพิวเตอร์ออกมาทำงานได้ ... ฉันไม่สามารถเขียนงาน "อย่างที่ตัวเองพอใจ" ได้ในห้องพักคนป่วยที่ รพ. (แต่ฉันรู้ว่ามีคนทำได้นะ)
เช่นกันกับวันที่ นอนกลางวัน, ฉันรู้สึกว่า ... เออ รู้แหละว่าคนอื่นคงกำลังทำงานหนักกันอยู่, แต่ฉันออกมาจากวงโคจรนั้นแล้ว ฉันกำลังออกแบบการงานและเส้นทางการเงินของฉันเอง, ซึ่งการเลือกทำอย่างนี้ แปลว่า... ฉันควรมีสิทธินอนหลับกลางวันโดยไม่ต้องรู้สึกผิดใช่ไหม?
ช่วงเวลา 2 ชั่วโมงที่หลับไป ข่าวบนโลกคงไปถึงไหนแล้ว, ห้อง Clubhouse คงมีประเด็นใหม่ๆ ผุดขึ้นอีกเป็นร้อย, Podcast วิเคราะห์บทสัมภาษณ์ของเมแกนและแฮร์รี่คงโผล่มาเต็มไปหมด, หุ้น Tesla ดิ่งลงถึงไหนต่อไหนแล้วสินะ, ส่วนข่าวในเกาหลี คงมีคนโพสต์ข่าวเรื่องคำขอโทษของพี่ยุนแล้ว
เออ ช่างเถอะ, ฉันขอนอนกลางวันก่อน
ส่วนตอนเย็น ฉันจะไปเตรียมอาหารให้ไส้เดือน
ฉันคิดในใจก่อนล้มตัวลงนอนเวลาบ่ายสามโมง
Our Story
some random thoughts. Tiktok is a fangirl who interested in k-pop, cooking, farming, fashion, films, books, technology, cultures, politics, and etc. She is also a big fan of Elon Musk, and sets her goal to own a Tesla car one day. Haruki Murakami syndrome. Former feature editor of Women’s Health Thailand.