Thai Warrior Massage in Norway

Thai Warrior Massage is an ancient traditional Thai therapy. Before the 13th century, this massage was used to heal injured warriors returning from war. Teach

Warrior Thai massage was officially prohibited because Government considered it to be primitive.

12/08/2023
12/04/2023

รีบจองเข้ามานะค่ะ

ปลายเดือนกรกฎาคมจะเปิดคอร์สนวดนักรบโควิด
สนใจรีบลงทะเบียนก่อนเต็มฝากกดแชร์ให้เพื่อนๆที่สนในนะค่ะ

#หมอนวดนักรบ

27/02/2023

เพื่อนที่ไทยคนใหนสนใจติดต่อไปนะค่ะ

19/02/2023

#สาเหตุหลักที่ทำให้คนป่วยเกิดจากลมติด,เส้นจม ลมติดทำให้กล้ามเนื้อเเข็งตึงเมื่อลมติดนานๆจะกลายเป็นเถาดานทำให้เกิดอาการปวดเเสบปวดร้อนจุดลมติดที่พบเจอบ่อยๆตามร่างกาย

1.ลมติดระหว่างร่องคอกะสะบักจะมีก้อนเเข็งยุระหว่างร่องคอกะสะบักจะสังเกตุเห็นผุไข้ส่วนมากจะมีอาการปวดหัวคอบ่าไหล่เเข็งตึงถ้าปลดลมจุดนี้ออกกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่จะนิ่มลงทันที

2.ลมติดท้ายทอยบางคนที่เป็นนานๆคอจะขึ้นหนอกคนมักคิดว่าตัวเองอ้วนจนคอขึ้นหนอกอาการที่พบผุไข้จะมีอาการปวดหัวหน้ามืดบ่อยๆบางคนก็เกิดอาการบ้านหมุน

3.ลมติดกลางเเขนผุไข้จะมีอาการชาเเขน

4.ลมติดใต้พับเเขนผุไข้จะมีอาการชาเเขนหยิบจับอะไรก็หลุดมือเเขนไม่มีเเรง

5.ลมติดกลางหน้าขาผุไข้จะมีอาการปวดชาขาสมรรถภาพทางเพศเสื่อมเส้นเข้าจู๋เข้าจิ๋ม

6.ลมติดกลางน่องผุไข้จะมีอาการขาปั้นขาเป็นตะคริวรุสึกเหมือนมีอะไรมาฉุดรั้งดึงขาไว้

7.ลมติดบนหลังเท้าผุไข้จะมีอาการปวดเเสบปวดร้อนบางคนเวลาก้าวเท้าเดินรุสึกเสียวใต้ฝ่าเท้าต้องงุ้มเท้าเดินใช้นิ้วจิกเดินจนนิ้วหดนิ้วงอบางคนก็คิดว่าตัวเองเป็นรองช้ำจุดนี้อันตรายกว่าทุกจุดเพราะถ้าเป็นนานๆจะทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อขาอ่อนเเรงเเละกลายเป็นอัมพฤกในที่สุด

8.ลมดานในช่องท้องส่วนมากจะพบเจอกลางสะดือเเละท้องน้อยด้านขวามือถ้าอยู่จุดกลางสะดือจะทำให้เดินขาเด้งไปข้างหน้าเกิดอาการปวดเเสบปวดร้อนช่องท้องบางรายผุไข้จะมีอาการหลังหง่อม

9.ดานลมใต้ก้นย้อยถ้าเป็นนานๆจะกลายเป็นเถาดานจะมีก้อนเเข็งๆคล้ายกระดูกติดยุใต้ก้นย้อยผุไข้จะมีอาการปวดสะโพกปวดขึ้นหลังนั่งยองๆไม่ได้ นั่งโถส้วมธรรมดาไม่ได้จุดนี้หมอส่วนมากมักหาไม่เจอ

10.ลมติดปีกสะบักจะมีพังผืดเกาะเนื้อหนังติดกระดูกปีกสะบักผุไข้จะมีอาการปวดเเสบปวดร้อนบริเวณหลัง

11.ลมติดสีข้างพังผืดเกาะเนื้อหนังติดกระดูกซี่โครงผุไข้จะมีอาการวิงเวียนอาเจียนหน้ามืดรุสึกเสียวเเปล๊บๆบริเวณสีข้างเวลาหายใจรุสึกเสียดๆๆสีข้าง

12.ลมติดตามข้อจริงๆเเล้วเกิดจากเส้นดึงกันมาขอดเเล้วมีพังผืดเกาะติดเส้นไว้พอนานๆเข้าจึงเกิดอาการปวดตามข้อทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ห้ามเชื่อเด็ดขาดจนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองได้ผลอย่างไรมาเเชร์กันนะคะ
Cr.หมอ นวด บาทเดียว

13/06/2022
31/05/2022

😍สวยงาม

15/03/2021

ฝากอีกหนึ่งผลงานและขอกำลังใจแชร์ให้ด้วยนะค่ะ https://www.facebook.com/nmimassasje/videos/927654577975330/

07/01/2021

27 อาการที่ ❌ #โรคที่ห้ามนวดเด็ดขาด 🔥🔥
☠️ #นวดไปอาจถึงตายได้

📍ห้ามนวดเด็ดขาด หมายถึง ห้ามนวดส่วนใดๆ ในร่างกาย จะมาเนียนแบบขอนวดขา หรือเท้าได้ไหม บอกเลยว่าไม่ได้

☠️🔥นวดไปโอกาสตายสูง แถมหมอนวดผิดเต็มประตู

💆🏼การนวดบำบัดโดยนักนวดบำบัดที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
✅สามารถให้ประโยชน์กับร่างกายของเราได้หลายวิธี
แต่มีบางกรณีที่ไม่สามารถทำการนวดส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายได้เลย

💁‍♀️สาเหตุที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับบริการนวดได้ก็เพื่อ
✅ความปลอดภัยของผู้ป่วยเอง
และในบางกรณี เช่น หากผู้ป่วยมีโรคติดเชื้อ – ✅เพื่อความปลอดภัยของผู้นวดและผู้ป่วยรายอื่น

🚨🚑ผู้ป่วยต้องถูกส่งต่อไปพบแพทย์ / แพทย์แทน👩🏻‍⚕️

เมื่อไม่สามารถทำการนวดได้:
1. เมื่อผู้ป่วยอยู่ในภาวะช้อค
จะมีหรือเพียงป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
หรือหัวใจวาย (ระยะเฉียบพลัน)
ผู้ป่วยต้องรอจนกว่าโรคจะผ่านช่วงอาการหนัก
ACUTE PHASE / ACUTE STAGE ไปก่อน
✅ ที่จะได้รับการนวด

✳️ แต่อย่างไรก็ตามต้องมีใบรับรองจากแพทย์เพื่อรับนวดหากผู้ป่วยเคยมีอาการเหล่านี้มาก่อน

ตัวอย่างเช่น
#ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดสมองครั้งที่สองขึ้นภายในหนึ่งเดือนของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองครั้งแรก
หลังจากผ่านไปประมาณหกเดือนความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองอีกครั้งจะลดลง
# ภาวะช็อกเป็นภาวะวิกฤตที่มีเลือดไหลผ่านร่างกายลดลงอย่างรวดเร็วซึ่งจะลดการส่งออกซิเจนและสารอาหารไปยังอวัยวะสำคัญอย่างรวดเร็ว

2. ผู้ป่วยมึนเมา 🥴 (ยาเสพติดและแอลกอฮอล์)
- ผู้ป่วยที่มึนเมาอย่างหนักจากยาและแอลกอฮอล์จะต้องไม่ได้รับการนวด

3. ไข้สูง - ผู้ป่วยที่มีไข้สูง🤒 (สูงกว่า 100.4 องศาฟาเรนไฮต์หรือสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส)
ไม่สามารถรับการนวดได้
หากคุณป่วยและมีไข้ควรรอจนกว่าคุณจะหายเป็นปกติก่อนจะได้รับการนวด
📍คนส่วนใหญ่มีไข้เพราะกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อจากไวรัสหรือแบคทีเรีย (ซึ่งอาจติดต่อได้เช่นกัน)

4. ห้ามทำการนวดทันทีหลังการผ่าตัดใหญ่ 💉🩸🌡🧪การผ่าตัดใหญ่คือขั้นตอนการผ่าตัดใด ๆ ที่เจาะและเปิดเผยโพรงในร่างกาย
- การผ่าตัดที่มีโอกาสทำให้เกิดความบกพร่องทางกายวิภาคหรือสรีรวิทยาอย่างถาวร 👨🏻‍🦼👩🏼‍🦽ขั้นตอนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศัลยกรรมกระดูกหรือการทำธุรกรรมหรือการผ่าเนื้อเยื่ออย่างกว้างขวาง

5. เยื่อหุ้มสมองอักเสบ 🤯
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบไม่สามารถนวดได้ นอกจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบจะเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต☠️☠️☠️เพราะมีผลต่อสมองและไขสันหลังแล้วเยื่อหุ้มสมองอักเสบยังสามารถติดต่อได้

6. ผู้ป่วยที่มีอาการปวดภายในอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุไม่สามารถรับการนวดบำบัดได้ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที🤮

7. การตกเลือด 🩸🩸🩸

8. การนวดบำบัดไม่แนะนำสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องหลอดเลือด 🩸โดย กลุ่มของโรคที่มีการหนาขึ้นและการสูญเสียความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด

9. ไม่อนุญาตให้นวดสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคปอดบวมเฉียบพลัน 😷(การอักเสบของปอด - แบคทีเรียหรือไวรัส)

10. หญิงตั้งครรภ์ 🤰ที่เป็นโรค Eclampsia : อาการชักที่เกิดขึ้นในหญิงตั้งครรภ์ที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูง โปรตีนในปัสสาวะหรืออาการบวมน้ำ
📍หมายเหตุ:สตรีมีครรภ์ที่มีสุขภาพดีสามารถรับบริการนวดได้ แต่ต้องเป็นการนวดสำหรับผู้หญิงตั้งครรถ์เท่านั้น

11. การนวดบำบัดไม่แนะนำ
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการฮีโมฟีเลียอย่างรุนแรง
🩸อาการฮีโมฟีเลียเป็นโรคเลือดออกทางพันธุกรรมที่ทำให้เลือดออกเองในระดับที่แตกต่างกัน
เช่น เลือดออกภายใน (ในข้อต่อและกล้ามเนื้อ)
อาจเกิดจากการบาดเจ็บเล็กน้อยที่กล้ามเนื้อและข้อต่อ

12. การนวดบำบัดสำหรับไตวายขั้นสูงมีข้อห้าม ผู้ป่วยที่ไตวายระยะลุกลามจะต้องไม่ได้รับการนวด🤢

13. ไม่แนะนำอย่างยิ่งให้นวดผู้ป่วยที่มีภาวะระบบทางเดินหายใจล้มเหลว

14. ไม่แนะนำอย่างยิ่งให้นวดผู้ป่วยที่มีภาวะตับวาย

15. ไส้ติ่ง

16. ผู้ป่วยมะเร็งระยะแพร่กระจายสูงเช่น ไม่ควรนวดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเนื้องอก

17. ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน 1 หรือ 2 ที่มีโรคหัวใจหรือไตขั้นสูงหรือมีภาวะแทรกซ้อนไม่สามารถนวดได้

18. ข้อห้ามนวดในผู้ที่เริ่มมีอาการปวดศีรษะรุนแรง🤕
โดยไม่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ – เมื่ออาการปวดศีรษะรุนแรง และเวียนศีรษะมึนงง หรือง่วงนอนบุคคลนั้นจะต้องถูกส่งตัวไปพบแพทย์ด่วน

19. ไม่แนะนำอย่างยิ่งให้นวดผู้ป่วยที่มีภาวะอวัยวะภายในล้มเหลวขั้นสูง🤮

20. ผู้ป่วยที่มีอาการบวมน้ำไม่สามารถนวดได้ Pitting Edema คืออาการบวมน้ำ / บวมซึ่งเมื่อกดทับผิวหนังบริเวณที่บวมแล้วปล่อยออกมาจะมีการเยื้องทิ้งไว้ หากจะนวดควรมีใบรับรองแพทย์และต้องรับการนวดระบายน้ำเหลืองเท่านั้น

21. ห้ามนวดโรคตับอักเสบเรื้อรัง (การอักเสบของตับอย่างต่อเนื่อง)

22. ห้ามนวดผู้ป่วย ติดเชื้อ เยื่อบุหัวใจอักเสบ ♥️ เยื่อบุหัวใจอักเสบคือการอักเสบของเยื่อบุชั้นในของหัวใจ

23. ผู้ป่วยที่เป็นฝีในปอดหรือเนื้องอกในปอดไม่ควรได้รับการนวดบำบัด

24. ผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด หรือ Bacteremia (การติดเชื้อในกระแสเลือด)ไม่สามารถรับการนวดบำบัดได้

25. เพื่อป้องกันผู้นวดและผู้ป่วยนวดอื่น ๆ ห้ามนวดผู้ป่วยมีโรคติดต่อเชื้อโรคที่ติดเชื้อผ่านอากาศได้ เช่น ไข้หวัดหวัดเจ็บคอ หรืองูสวัดเป็นต้น😵

26. โรคโควิด Covid แน่นอนว่าห้ามนวด🦠🦠

27. ผู้ป่วยที่มีภาวะผิวหนังติดเชื้อจะต้องไม่ได้รับการนวด ตัวอย่างของสภาพผิวหนังที่ติดเชื้อที่ไม่อนุญาตให้นวดที่ใดก็ได้ในร่างกาย / มีข้อห้าม:

💊 สภาพผิวที่ติดเชื้อที่ไม่แนะนำให้นวดโดยเด็ดขาด ได้แก่ :
💊 Cellulitis การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังโดยทั่วไปและอาจร้ายแรง เซลลูไลติส ปรากฏเป็นบริเวณผิวหนังที่บวมแดงและรู้สึกร้อน สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
💊โรคผิวหนังอักเสบจากผิวหนังทั่วไป - ผื่นแดงและลอกของผิวหนังในบริเวณส่วนใหญ่ของร่างกาย คำว่า“ exfoliative” หมายถึงการผลัดเซลล์ผิวหรือการผลัดเซลล์ผิว Dermatitis หมายถึงการระคายเคืองหรือการอักเสบของผิวหนัง
💊 โรคข้ออักเสบเฉียบพลัน Psoriatic - รูปแบบของโรคข้ออักเสบที่มีผลต่อคนบางคนที่เป็นโรคสะเก็ดเงินซึ่งเป็นภาวะที่มีผิวหนังเป็นสีแดงที่มีเกล็ดสีเงิน
💊 พุพอง - การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังทำให้เกิดแผลพุพองและแผล พุพองส่งผลกระทบต่อเด็กเป็นส่วนใหญ่มักเกิดที่ใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณจมูกและปากและบางครั้งอาจเกิดที่แขนหรือขา
💊 การติดเชื้อ Staphylococcal ;
💊 Scalded skin syndrome - เป็นความเจ็บป่วย ที่มีลักษณะเป็นผิวหนังพุพองสีแดง ที่ดูเหมือนแผลไฟลวกหรือน้ำร้อนลวก SSSS เกิดจากการปล่อย exotoxins สองชนิด (epidermolytic toxin A และ 😎 จากสายพันธุ์ toxigenic ของแบคทีเรีย Staphylococcus aureu
😱 Toxic Shock Syndrome - (TSS) เป็นภาวะที่หายาก แต่เป็นอันตรายถึงชีวิตที่เกิดจากแบคทีเรีย (Streptococcus pyogenes หรือ Staphylococcus aureus หรือ Staph) เข้าสู่ร่างกายและปล่อยสารพิษที่เป็นอันตราย มักเกี่ยวข้องกับการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดในหญิงสาว แต่อาจส่งผลต่อทุกคนทุกวัยรวมถึงผู้ชายและเด็ก
💊 Folliculitis - การติดเชื้อในรูขุมขน - มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา คนสามารถมีรูขุมขนอักเสบในส่วนใดก็ได้ของร่างกายที่มีขน แต่พบได้บ่อยที่สุดบนใบหน้าและหนังศีรษะและบริเวณที่ถูด้วยเสื้อผ้าเช่นต้นขาและขาหนีบ
🥵 Carbuncles - กลุ่มแดงบวมและเจ็บปวดที่เชื่อมต่อกันใต้ผิวหนัง
💊 Erysipelas - การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังที่เกี่ยวข้องกับผิวหนังชั้นบนที่มีลักษณะขยายไปสู่น้ำเหลืองที่ผิวหนังชั้นตื้น
💊ไข้ผื่นแดงหรือที่เรียกว่าสการ์ลาติน่าเป็นการติดเชื้อที่สามารถพัฒนาได้ในผู้ที่เป็นโรคคออักเสบ มีลักษณะเป็นผื่นแดงสดตามร่างกายมักมีไข้สูงและเจ็บคอ แบคทีเรียชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคคออักเสบยังทำให้เกิดไข้ผื่นแดง
💊 Necrotizing Fasciitis (โรคกินเนื้อ) - Necrotizing fasciitis คือการติดเชื้อที่เนื้อเยื่ออ่อนซึ่งส่งผลให้เนื้อเยื่ออ่อนของร่างกายตาย เป็นโรคที่รุนแรงจากการโจมตีอย่างกะทันหันและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว อาการต่างๆ ได้แก่ ผิวหนังสีแดงหรือสีม่วงในบริเวณที่ได้รับผลกระทบปวดรุนแรงมีไข้และอาเจียน Necrotizing fasciitis มักเกิดจากการติดเชื้อ Group A Streptococcus หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า“ แบคทีเรียกินเนื้อ

โรคพวกนี้หากนวดไปอาจส่งผลอันตรายต่อชีวิตได้👻

✅เพราะฉะนั้นสอบถามอาการทุกครั้งก่อนนวด
🙄หากสงสัยว่าอาจป่วยตามโรคทั้ง 27 นี้
ควรแนะนำให้ผู้ป่วยพบแพทย์ด่วน🔥

Photos from Thai Warrior Massage in Norway's post 08/12/2020

#ผังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือ (Carpal tunnel syndrome)
1 ในโรคที่เรียนในคอร์ส #นวดนักกีฬา

Carpal Tunnel Syndrome คืออะไร?
Carpal tunnel syndrome หรือที่เรียกว่าผังผืดกดทับเส้นประสาทมีเดียนเป็นภาวะที่ทำให้เกิดอาการชา รู้สึกปวด หรืออ่อนแรงในข้อมือ เกิดขึ้นเพราะความดันในโพรงข้อมือมีมากขึ้นทำให้กดทับเส้นประสาทมีเดียน

✳️ในข้อมือมีโพรงที่เรียกว่า carpal ซึ่งเส้นเอ็นกล้ามเนื้อและเส้นประสาทจะลอดผ่านในนร้ โดยด้านบนจะมีพังผืดพาดผ่าน หากพังผืดหนาตัวและกดทับเส้นประสาท จะทำใช้การเคลื่อนไหวของข้อมือทำได้ไม่เต็มที่ ผู้ป่วยจะมีอาการชาหรือเจ็บที่นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และครึ่งนึงของนิ้วนาง


💁‍♀️ อาการ Carpal Tunnel Syndrome ได้แก่ :
❇️ แสบร้อนรู้สึกเสียวซ่าหรือคันชาที่ฝ่ามือและนิ้วหัวแม่มือหรือนิ้วชี้หรือนิ้วกลาง และครึ่งนึงของนิ้วนาง
❇️ กล้ามเนื้อมืออ่อนแรงและมีปัญหาในการถือสิ่งของ หรือหยิบสิ่งของลำบาก
❇️ ความรู้สึกเหมือนช็อกที่ในนิ้ว
❇️ การรู้สึกเสียวซ่าที่เคลื่อนขึ้นไปที่แขน ช่วงแรกอาการนี้มักเกิดขึ้นในตอนกลางคืน แต่หากเป็นขั้นรุนแรง ในตอนเช้าคุณอาจตื่นขึ้นมาพร้อมด้วยอาการชาและรู้สึกเสียวซ่าในมือของคุณ หรือในระหว่างวันอาการคุณอาจรู้สึกวูบวาบในขณะที่คุณถือของโดยงอข้อมือเช่นเวลาขับรถหรืออ่านหนังสือ

😄ในช่วงแรกอาการนี้จะหายไปได้ด้วยการสะบัดข้อมือ หรือการเขย่ามือก็อาจช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น แต่เมื่อผ่านไปสักระยะ ถึงจะสะบัดก็ไม่อาจทำให้อาการชาหายไปได้

😅 เมื่ออาการ carpal tunnel แย่ลงคุณอาจมีแรงในการจับน้อยลงเนื่องจากกล้ามเนื้อในมือหดตัว คุณจะมีอาการปวดและตะคริวที่กล้ามเนื้อมากขึ้นเส้นประสาทมีเดียนจะไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น เนื่องจากเกิดการระคายเคืองหรือแรงกดรอบ ๆ นี่นำไปสู่:
🔥 กระแสประสาทช้าลง
🔥 รู้สึกน้อยลงในนิ้วของคุณ
🔥 ความแข็งแรงและการประสานงานน้อยลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการใช้นิ้วมือเพื่อหยิบ หรือถือสิ่งของ

🔑 สาเหตุ Carpal Tunnel Syndrome อาจเกิดจาก:
✳️ การเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ของข้อมือเป็นเวลานานเกินไป เช่น การพิมพ์หรือการเคลื่อนไหวข้อมือที่คุณทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่คุณทำโดยมืออยู่ต่ำกว่าข้อมือ
✳️ hypothyroidism
✳️ โรคอ้วน
✳️ โรคไขข้ออักเสบ
✳️โรคเบาหวาน
✳️การตั้งครรภ์

คุณอาจมีความเสี่ยงสูงในการเป็นโรค carpal tunnel หากคุณ:
✅ เป็นผู้หญิง. ผู้หญิงมีโอกาสมากกว่าผู้ชายถึงสามเท่า อาจเป็นเพราะผู้หญิงจะมีอุโมงค์ข้อมือ carpal ที่เล็กกว่าผู้ชาย
✅ มีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคนี้
✅ ทำงานที่คุณเคลื่อนไหวแบบเดียวกันด้วยแขนมือหรือข้อมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช่น พนักงานสายการประกอบท่อระบายน้ำ หรือช่างถัก คนทำขนมปัง แคชเชีย ร์ช่างทำผมหรือนักดนตรี
✅ เคยหรือมีอาการกระดูกแตกร้าวหรือทำให้ข้อมือหลุด

💡การวินิจฉัยและการทดสอบ Carpal Tunnel Syndrome
🔥แพทย์ของคุณอาจแตะที่ด้านฝ่ามือของคุณการทดสอบที่เรียกว่า Tinel sign หรืองอข้อมือของคุณอย่างเต็มที่พร้อมกับกางแขนออก นอกจากนี้ยังอาจทำการทดสอบได้แก่ :
💁‍♀️การทดสอบการถ่ายภาพ การเอ็กซเรย์อัลตราซาวนด์หรือการตรวจ MRIสามารถช่วยให้แพทย์ตรวจดูกระดูกและเนื้อเยื่อของคุณได้

👩🏻‍⚕️Electromyogram . แพทย์ของคุณใส่อิเล็กโทรดบาง ๆ เข้าไปในกล้ามเนื้อเพื่อวัดกิจกรรมทางไฟฟ้า การศึกษาการนำกระแสประสาท แพทย์ของคุณจะติดเทปอิเล็กโทรดที่ผิวหนังของคุณเพื่อวัดสัญญาณในเส้นประสาทที่มือและแขนของคุณ


👨‍⚕️การรักษาโรค Carpal Tunnel Syndrome
การรักษาของคุณจะขึ้นอยู่กับอาการและความคืบหน้าของอาการ คุณอาจต้องการ:

✅การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต หากการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ทำให้เกิดอาการของคุณให้หยุดพักบ่อยขึ้นหรือทำกิจกรรมที่ทำให้คุณเจ็บปวดน้อยลง
✅การออกกำลังกาย. การยืดกล้ามเนื้อหรือการเคลื่อนไหวให้แข็งแรงสามารถทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น การออกกำลังกายด้วยการเลื่อนเส้นประสาทสามารถช่วยให้เส้นประสาทเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
✅การตรึงเพื่องดการใช้งานข้อมือโดยแพทย์ของคุณอาจบอกให้คุณใส่เฝือกเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมือเคลื่อนไหวและเพื่อลดแรงกดทับเส้นประสาท คุณอาจสวมใส่ในตอนกลางคืนเพื่อช่วยกำจัดอาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่า วิธีนี้สามารถช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นและพักเส้นประสาทกลางได้
✅ยา แพทย์ของคุณอาจให้ยาต้านการอักเสบหรือยาสเตียรอยด์เพื่อลดอาการบวม
✅ ผ่าตัด หากการรักษาเหล่านี้ไม่ได้ผลคุณอาจต้องผ่าตัดที่เรียกว่า carpal tunnel release ซึ่งจะเพิ่มขนาดของอุโมงค์และลดแรงกดบนเส้นประสาทของคุณ

😓ภาวะแทรกซ้อนของ Carpal Tunnel Syndrome
หากคุณมีอาการ carpal tunnel และไม่ได้รับการรักษาอาการอาจคงอยู่เป็นเวลานานและแย่ลง หากได้รับการวินิจฉัย แต่เนิ่นๆ การรักษา จะง่ายกว่า คุณสามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายของกล้ามเนื้อถาวรและทำให้มือของคุณทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น

😀การป้องกันโรค Carpal Tunnel Syndrome
เพื่อหลีกเลี่ยงโรค carpal tunnelให้พยายาม:
🔑จับข้อมือให้ตรง
🔑ใช้เฝือกหรือรั้งที่ช่วยให้ข้อมืออยู่ในตำแหน่งที่เป็นกลาง
🔑หลีกเลี่ยงการงอและยืดข้อมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า
🔑ทำให้มือของคุณอบอุ่น
🔑หยุดพักทุกเมื่อที่ทำได้
🔑วางมือและข้อมือในตำแหน่งที่เหมาะสมในขณะที่คุณทำงาน

คอร์สนี้เหมาะกับหมอนวดที่มีลูกค้า มานวดแก้อาการบ่อยๆ สอนละเอียดทั้งอะนาโตมีและอาการ รวมถึงเทคนิคนวด

#คอร์สนวดนักกีฬาSportMassage เนื้อหาพร้อมเรียนทบทวนได้ตลอดเวลา เหมาะกับคนที่อยากพัฒนาฝีมือการนวดให้เป็นมืออาชีพ สอนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านจบด้านการนวดจาก ออสเตรเลียที่มีประสบการณ์มากกว่า 11 ปี

Photos from หมอวิ่ง's post 29/11/2020
25/11/2020

Lymphatic Drainage Massage
________________________________________
การนวดระบายน้ำเหลืองเพื่อลดอาการบวม
________________________________________
การระบายน้ำเหลืองเป็นการนวดบำบัดและส่งเสริมสุขภาพ
- ในการนวดเพื่อลดอาการบวมจะใช้แรงกดเบามากและใช้จังหวะที่ยาวนุ่มนวลเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของน้ำเหลืองให้มากขึ้น

- ทิศทางการนดจะต่างจากการนวดทั่วไปที่เน้นทิศทางการนวดไปยังหัวใจ แต่การนวดระบายน้ำเหลืองจะนวดไปในทิศทางที่ต่อมน้ำเหลืองตั้งอยู่ที่ใกล้ที่สุด เช่น บริเวณคอ หน้าอก ใต้กระบังลม ขาหนีบ ข้อพับหลังเข่า เป็นต้น

- ระบบน้ำเหลืองเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพื่อช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อ

- น้ำเหลืองเป็นของเหลวใสสีเหลืองเล็กน้อยมีองค์ประกอบเป็นไขมัน และเม็ดเลือดขาว

- น้ำเหลืองลำเลียงช่วยสารอาหารประเภทไขมันและออกซิเจนไปยังเซลล์

- น้ำเหลืองยังช่วยรวบรวมเอาสารพิษ เศษของเหลือจากการเผาผลาญพลังงานในเซลล์ หรือสารพิษที่ตกค้างระหว่างทางเพื่อขับออกหรือขจัดออกทางต่อมน้ำเหลือง

- ท่อน้ำเหลืองมากกว่าหลอดเลือดในร่างกายประมาณสองเท่า เพื่อที่จะเป็นสารแทรกให้หลอดเลือดฝอยแดงและดำมีการแลกเปลี่ยนก๊าซและสารอาหารได้อย่างสะดวก

- ท่อน้ำเหลืองไม่เหมือนกับเลือดที่สูบฉีดไปทั่วหัวใจ ระบบน้ำเหลืองไม่มีปั๊ม น้ำเหลืองอาศัยแรงดันจากการบีบตัวของหลอดเลือด และการเคลื่อนไหวยืดตัว-หดตัวของกล้ามเนื้อเพื่อบีบให้น้ำเหลืองไหลเวียนได้

การนวดระบายน้ำเหลืองมีประโยชน์อย่างไร?
- การนวดระบายน้ำเหลืองสามารถส่งผลดีต่อสุขภาพโดยทั่วไป เนื่องจากน้ำเหลืองเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณทำงานอย่างเป็นปกติ ช่วยลดอาการบวมได้เป็นอย่างดี
- ช่วยลดการกักเก็บน้ำ เนื่องจากระบบน้ำเหลืองไม่มีปั๊ม หากนั่งเป็นเวลานานโดยไม่เคลื่อนไหวน้ำเหลืองจะไหลไม่สะดวกนี่ คือสาเหตุที่คุณอาจรู้สึกเท้าหรือนิ้วบวม
- ช่วยกระตุ้นการลดน้ำหนัก เนื่องจากการปรับปรุงระบบน้ำเหลืองจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในระดับเซลล์ ซึ่งจะช่วยให้เผาผลาญแคลอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยให้สุขภาพดี ไม่เป็นหวัดง่าย ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อและเร่งการรักษาและฟื้นตัวจากความเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น

การนวดระบายน้ำเหลืองกับผิวพรรณ:
-ช่วยลดอาการบวมน้ำและรอยจ้ำ
- ช่วยกระชับรูขุมขน
- ช่วยเร่งการรักษาในเนื้อเยื่อแผลเป็น ทำให้รอยแตกลายเล็กลง
- ช่วยลดเซลลูไลท์ การนวดจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและการไหลเวียนไปยังบริเวณที่ได้รับผลกระทบซึ่งจะช่วยให้ร่างกายสลายสารพิษที่ทำให้ผิวหนังจางลงได้

สิ่งที่คาดหวังจากการนวดระบายน้ำเหลือง
- ได้รับการผ่อนคลายจากการนวดอย่างเต็มที่
- การระบายน้ำเหลืองอาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ควรให้เวลาร่างกายได้พักผ่อนหลังการนวด
- การระบายน้ำเหลืองเป็นเรื่องของการชะล้างระบบร่างกาย ควรดื่มน้ำมากๆ หลังการนวด เพื่อให้ระบบน้ำเหลืองของคุณทำงานได้ดีขึ้น

ดร. สิปปสินี บาเรย์
Ba-Rhey Wellness School.
076226472

19/11/2020

สนใจติดต่อสอบถามได้นะค่ะhttps://www.facebook.com/108690097559247/videos/2813864355515254/

Photos from Thai Warrior Massage in Norway's post 08/11/2020

อาการปวดร้าวชาลงแขน ที่เกิดขึ้นขณะยกแขนและหันคอ กับอาการที่หมอโบราณเรียกว่า "ปัตฆาตไหล่" ลักษณะอาการชาลงแขนคล้าย ๆ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทแต่ไม่ใช่

บทความโดย พท.กมลลาสน์ ชีวสาธน์เวชกุล

อาการปวดร้าวชาลงแขนคืออาการที่เป็นกันเยอะในสมัยนี้ เยอะพอ ๆ กับอาการปวดหลังปวดขาเลยก็ว่าได้ หลาย ๆ ท่านที่กำลังมีอาการปวดร้าวชาลงแขนอยู่ก็พยายามหาข้อมูลจาก Internet ก็พากันตกใจไปตาม ๆ กัน เพราะส่วนใหญ่เวลาพูดถึงอาการปวดร้าวชาลงแขน มักจะพูดถึงแต่อาการหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทกันซะเยอะ

*** เลยกลายเป็นว่า ใครที่มีอาการปวดร้าวชาลงแขน ก็มโนกันไปว่าเป็นหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทกันหมด

จะบอกว่ามันไม่จำเป็นเสมอไป เพราะอาการปวดร้าวชาลงแขน ไม่จำเป็นต้องเกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทเสมอไป กล้ามเนื้อของเราเกิดอาการตึงแล้วไปเบียดเส้นประสาทก็ทำให้เกิดอาการปวดร้าวชาลงแขนเหมือนกันนั่นแหละ

จากรูปด้านล่าง กล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่อเกิดอาการตึงแล้วจะทำให้เกิดอาการปวดร้าวชาลงแขนได้ คือ โค้งคอ ไหล่ ต้นแขน ศอก ความผิดปรกติของกล้ามเนื้อในแต่ละส่วนที่ไม่เหมือนกัน ย่อมทำให้เกิดอาการปวดร้าวชาลงอขนไม่เหมือนกัน

ลักษณะอาการปวดร้าวชาลงแขนที่เกิดจากล้ามเนื้อที่เจอกันได้บ่อย ๆ คือ

- หันคอแล้วเกิดอาการปวดร้าวชาลงแขน
- ยกแขนขึ้นแล้วเกิดอาการปวดร้าวชาลงแขน
- เอามือไขว้หลังแล้วเกิดอาการปวดร้าวชาลงแขน
- กำมือแล้วเกิดอาการสะท้านขาจากต้นแขนแล้วลงแขน
- ยกของหนักแล้วแขนค่อย ๆ อ่อนแรงลง ชาลงแขน

****************************************

กล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดอาการแบบนี้ได้มีหลายมัด และเป็นกล้ามเนื้อตั้งแต่โค้งคอยาวลงมาจนถึงแขน ยกตัวอย่างเช่น

- Scalene Muscle
- Teres Major Muscle
- Coracobrachialis Muscle
- Latissimus Dorsi Muscel
- Triceps Brachii Muscle
- และอื่น ๆ อีกมากมาย

อาการที่เกิดขึ้นในแต่ละแบบเกิดจากกล้ามเนื้อคนละส่วน คนละมัด ก่อนที่จะทำการนวดจะต้องตรวจให้เจอก่อนจริง ๆ แล้วอาการเกิดจากกล้ามเนื้อมัดไหนกันแน่ อาการที่แสดงออกมาจะคล้าย ๆ ถ้าไม่ตรวจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันเกิดจากกล้ามเนื้อคนละมัด

สำหรับวันนี้ จะเอาอาการปวดร้าวชาลงแขนที่เกิดขึ้นตอนหันคอและยกแขนมาอธิบายให้เข้าใจเบื้องต้นก่อน

*** อาการปวดร้าวชาลงแขนทั้งสองแบบนี้ จะต้องแยกออกเป็น 2 อาการ เพราะกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับอาการไม่เหมือนกัน

- คนที่หันคอแล้วเกิดอาการร้าวชาลงแขน เวลายกแขนก็จะเกิดอาการร้าวชาลงแขนได้

- แต่คนที่ยกแขนแล้วเกิดอาการปวดร้าวชาลงแขน ไม่จำเป็นจะต้องหันคอแล้วเกิดอาการปวดร้าวชาชงแขนเสมอไป

******************************************

ตรงจุดบริเวณคอตามรูปข้างล่าง หมอโบราณเรียกจุดนี้ว่า "ปัตฆาตไหล่" หากกล้ามเนื้อแถว ๆ นี้มีปัญหา นอกจากการยกแขนจะมีปัญหาแล้ว ยังจะทำให้เกิดอาการปวดร้าวชาลงแขนอีกด้วย

*** อาการปวดร้าวชาลงแขนที่เกิดขึ้นจากความผิดปรกติของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ คืออาการที่คนเป็นกันเยอะมากที่สุด และเป็นจุดที่ควรระวังมากที่สุดถ้าจะนวด

กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับอาการที่บริเวณคือ

- Scalene Muscle กล้ามเนื้อคอชั้นลึก 3 มัด
- Omohyoid Muscle
- Platysma Muscle
- Sternocleidomastoid Muscle

อาการปวดร้าวชาลงแขนที่เกิดจากความผิดปรกติบริเวณนี้ มักจะเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้

- เกิดจากอาการนอนคอตกหมอน แล้วไม่ได้นวดคลายกล้ามเนื้อ ปล่อยไว้ให้หายเอง แต่มันไม่หายเอง เกิดอาการตึงเรื้อรัง

- คนที่นั่งทำงานหน้าคอมนาน ๆ ในลักษณะก้มคอ

- คนที่ชอบสะบัดคอเวลาเกิดอาการเมื่อยคอ

- และอื่น ๆ

**************************************

อาการปวดร้าวชาลงแขนแบบนี้ ไม่ได้เกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท เพราะอาการปวดร้าวชาลงแขนที่เกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ไม่เหมือนกับอาการปวดร้าวชาลงแขนที่เกิดจากกล้ามเนื้อ เพราะฉะนั้นก่อนนวดต้องตรวจอาการให้ดีก่อนว่ามันเกิดจากอะไร

*** เพราะถ้ามันเกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังคอผิดปรกติ จนไม่สามารถนวดได้แล้วก็ไม่ควรนวด เพราะมันจะเป็นอันตราย

ที่เหลือตามต่อในกลุ่ม VIP

Photos from Thai Warrior Massage in Norway's post 05/11/2020

เส้นกาลธารี หรือ กาลทารี
เป็นหนึ่งในเส้นประธานสิบ แนวเส้นกาลธารีอยู่เหนือสะดือ 1 องคุลี (1องคุลี = 1 ข้อนิ้วกลางข้อแรกของนิ้วมือผู้ถูกนวด) หรือ 1 นิ้วมือ ลักษณะแนวแล่นของเส้นกาลธาลีจะแตกออกเป็น 4 เส้น 2 เส้น ขึ้นสู้ด้านบน ผ่านแนวชายโครง ขึ้นเฉียงสู่หัวไหล่ด้านหน้าทั้ง 2 ข้าง ขณะเดี่ยวกันก็แล่นทะลุไปสู่สะบักหลังทั้ง 2 ข้าง และขึ้นสู่ด้านหลังของต้นคอ ขึ้นไปสู่กะโหลกศีรษะที่ “กำด้น” (บริเวณท้ายทอย) ค่อนมาทางด้านข้างของต้นคอที่ส่วนยื่นขวางของกระดูก แล่นจากกำด้นขึ้นไปยังศีรษะ เข้าสู่ขมับ (บริเวณเพรียงหู) และจะแล่นกลับมาที่หน้าหูทั้ง 2 ข้าง ลงมาบรรจบที่แนวบ่าทั้ง 2 ข้าง เข้ามาที่ไหล่ลงสู่ต้นแขน แขนส่วนล่าง ข้อมือทั้ง 2 ข้างและแยกเป็นเส้นนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว
ส่วนเส้นกาลธารีอีก 2 เส้น จะแล่นลงสู่ด้านล่าง ลงมาด้านหน้าท่อนขาบน แล่นผ่านข้อเข่าด้านหน้า ลงมาแล่นอยู่ตามส้นหน้าแข้งด้านหน้า ลงมาที่ข้อเท้าด้านหลังลงถึงหลังเท้า แยกเป็นเส้นนิ้วเท้าทั้ง 10 นิ้ว
เส้นกาลธารี ที่เป็นเส้นนิ้วมือนิ้วเท้าของร่างกาย เป็นหนึ่งในเส้นปัญจสัมผัส

สาเหตุ เกิดเพราะลมประจำเส้น
ลมกาลธารี
🍃อาการมือเท้าเย็น เป็นเหน๊บชาทั้งตัว จับเย็นสะท้าน เกิดเพราะกินอาหารแสลง ได้แก่ ขนมจีน ข้าวเหนียว ถั่ว (มักจับวันอาทิตย์, วันจันทร์)
ลมนิยมหัสรังษี (ลมสรรนิบาต)
🍃อาการ เมื่อแรกจับให้นอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัว ตัวเนื้อ แข็งแกร็ง เดินทื่อๆเฉื่อยๆ ผิวชาด้าน ไม่มีความรู้สึก ให้อยากนอน เรียกไม่รู้สึกตัวนั้นเองจ้าว
ลมปัตตะฆาฏ
🍃อาการเมื่อย แข็งขา มือเท้าชาเป็นเหน็บ
ลมมหาเพลิง
🍃อาการปวดแสบปวดร้อน ตลอดฝ้าเท้าทั้ง 2 ข้าง ฯลฯ

กราบขอบพระคุณที่มาของแห่งความรู้ครูบาอาจารย์ทุกท่าที่สอนนวดไทย
ปู่ปิง แผนไทย ,หมอชาคริยา หลิน, หมออนิกรณ์ จันทร์แสง,
ร.ศ.ดร. ภก. สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ จากการนวดรักษาโรค ด้วยหลักเส้นประธานสิบ

ด้วยความเคราพอย่างสูงครูจิดาภา วิคลินสัน UK
JIDAPHA WILKINSON “Assessor/Trainer Massage, IMA Approved Teacher”
AMTC Approved Teacher, WaveStone Approved Teacher

🌺Please follow this link and you will see some of my work. Thank you
YouTube - Asian Massage Training Centre uk

https://youtu.be/N06dM2Z_zlE
https://www.facebook.com/JidaphasMassage/
https://www.facebook.com/Jidaphas-Spa-491749960872797

Asian Massage Training Centre “IMA Approved Schools Teaching Massage”
By: Jidapha’s Spa Treatments & Therapies
99a Ashacre Lane, Worthing, West Sussex
BN13 2DE ENGLAND 🏴󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿
☎️: 01903 261738
📲: +44 7899354146
Email: [email protected]
www.jidaphas-spa.com

Photos from Thai Warrior Massage in Norway's post 05/11/2020

Sport Massage กับ Remedial Massage นวดแก้อาการ แตกต่างกันอย่างไร

Sport Massage

ประวัติความเป็นมา
การนวดสปอร์ตมีประวัติยาวนานกว่า 1,000 ปี เริ่มจากชาวกรีกและโรมันที่มีการใช้การนวดให้กับนักกีฬาในช่วงเทศกาลการแข่งขันกีฬา Galen เป็นแพทย์ชาวโรมันที่เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีความชำนาญในการนวดให้เหล่านักสู้ (Gladiators) ทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกาย ในช่วงศตวรรษที่ 20 การนวดในนักกีฬาถูกนำมาใช้มากขึ้น ได้รับความนิยมทั้งในยุโรปและเผยแพร่เข้าสู่อเมริกาโดยเฉพาะการนวดให้กับนักกีฬาชกมวย

วัตถุประสงค์ของการนวดสปอร์ต

วัตถุประสงค์หลักของการรักษาด้วยการนวดสปอร์ต คือ การช่วยบรรเทาความเครียดและความตึงตัวของกล้ามเนื้อซึ่งสร้างขึ้นในเนื้อเยื่ออ่อนของร่างกายในระหว่างการออกกำลังกาย ในกรณีที่บาดเจ็บเล็กน้อยและแผลเกิดขึ้นเนื่องจากการออกแรงมากเกินไปและการใช้งานมากเกินไป การนวดสามารถลดความตึงตัวและส่งเสริมความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การนวดจะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานและระบายน้ำออกเพื่อบรรเทาอาการบวม
มีการใช้เทคนิคที่หลากหลาย เช่น ลูบยาว ลูบสั้น เคาะ ตบ คลึง เขย่า ยืดกล้ามเนื้อ เทคนิคการนวดทั้งหมดเป็นไปเพื่อให้นักกีฬาได้ใช้กล้ามเนื้อได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และลดโอกาสที่จะเกิดอาการบาดเจ็บขณะแข่งขัน

ภาวะการนวดสปอร์ต

การนวดสปอร์ตอาจแบ่งได้เป็น 3 ชนิด ตามภาวะของการแข่งขัน คือ การนวดก่อนการแข่งขัน การนวดในช่วงของการแข่งขัน และการนวดหลังการแข่งขัน จุดประสงค์ของการนวดคือการเตรียมความพร้อมของกล้ามเนื้อนักกีฬาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ส่งเสริมความยืดหยุ่นและเพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการใช้งานแบ่งเป็น 3 ชนิด
- การนวดก่อนการแข่งขัน
- การนวดระหว่างการแข่งขัน
- การนวดหลังการแข่งขัน

การนวดก่อนการแข่งขัน

การนวดสปอร์ตก่อนการแข่งขัน จะนวดก่อนการแข่งขันหนึ่งวันหรือภายในสี่ชั่วโมงก่อนการแข่งขัน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและช่วยลดการบาดเจ็บ นับว่าเทียบได้กับการเป็นอาหารเสริมของนักกีฬาและเป็นการ Warm - up เพื่อเพิ่มการไหลเวียนและลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ทั้งนี้เพื่อให้นักกีฬารู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจทำให้นอนหลับพักผ่อนได้เต็มที่ และเมื่อถึงวันแข่งขันจะได้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า

การนวดก่อนการแข่งขัน 20-60 นาที

การนวดช่วงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อให้ตื่นตัว พร้อมสำหรับการใช้งาน ลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บ

แพทย์ หรือนักกายภาพบำบัด หรือผู้ทำการนวด จะเน้นนวดกล้ามเนื้อส่วนที่จำเป็นต้องใช้งานมากที่สุด ให้เหมาะกับผู้เล่นกีฬาแต่ละชนิดกีฬา เช่น
-นักวิ่ง จะเน้นนวดบริเวณขาเป็นหลัก
-นักเทนนิส จะเน้นบริเวณขา แขน และหัวไหล่
-ช่วยคลายอาการเจ็บ ตึง ปวดกล้ามเนื้อ
-ช่วยลดอาการเมื่อยล้า
-เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ และข้อต่อ
-ลดโอกาสเกิดพังผืดบริเวณกล้ามเนื้อ
-ช่วยให้อาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหายเร็วขึ้น
-การนวดลักษณะนี้จะใช้เทคนิคลูบยาว ลูบสั้น เคาะ ตบ คลึง เขย่า ไม่มีการรีดเส้นหรือกดจุด เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บได้ การนวดก่อนการแข่งขันจะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที

การนวดระหว่างการแข่งขัน

การนวดช่วงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อได้มากขึ้น คลายความอ่อนล้า ช่วยให้ข้อต่อยืดหยุ่น ลดโอกาสเสี่ยงของอาการปวดเกร็งหรือเป็นตะคริวระหว่างการแข่งขัน

สาเหตุที่ต้องมีการนวดระหว่างการแข่งขัน เป็นเพราะนักกีฬาจะมีการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระบวนการเผาผลาญพลังงานของกล้ามเนื้อนั้นจะทำให้เกิดของเสียนั่นคือกรดแลคติก (Lactic acid) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้า

การนวดด้วยเทคนิคลูบยาว ลูบสั้น เขย่า คลึง จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายขับกรดแลคติกออกได้เร็วขึ้น

บางครั้งอาจมีการใช้น้ำแข็งประคบกล้ามเนื้อร่วมด้วย เพื่อช่วยลดการอักเสบ ปวด บวม หรือช้ำ

ทั้งนี้ การนวดระหว่างการแข่งขันนั้นจะไม่มีเวลาที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาพักของกีฬานั้นๆ แต่ส่วนใหญ่จะใช้เวลานวดประมาณ 5-10 นาที

การนวดหลังการแข่งขัน

การนวดสปอร์ตหลังการแข่งขันประมาณ 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง
การนวดช่วงเวลานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต กำจัดกรดแลคติกออกจากร่างกาย และลดอาการบาดเจ็บ ช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

ช่วงเวลานวดที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุดคือ 30 นาทีหลังการแข่งขันเสร็จ แต่ไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมงครึ่ง

การนวดหลังการแข่งขันจะใช้เวลาตั้งแต่ 90 นาทีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับร่างกายของนักกีฬา

จุดเด่นของการนวดสปอร์ตคือ

เป็นการนวดที่เน้นเฉพาะส่วนที่มีปัญหาลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ และความยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ

นวดสปอร์ต เหมาะกับใคร

นักกีฬาที่จะลงเล่นกีฬา หรือคนที่อยู่ในสปอร์ตคลับ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องนวดก่อน และหลัง การออกกำลังกายทุกครั้ง แม้ว่าการนวดสปอร์ตจะถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับวงการกีฬาเป็นหลัก แต่สำหรับบุคคลทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือผู้ที่ทำงานต้องใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมๆ ซ้ำๆ เช่น พนักงานออฟฟิศ ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ ตลอด 8 ชั่วโมง ก็สามารถนำเทคนิคการนวดสปอร์ตมาช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ คลายความเมื่อยล้าได้เช่นเดียวกัน

สรุป นวดสปอร์ต คือ การเตรียมความพร้อมก่อนลงเล่นกีฬา การแก้ปัญหาความตรึงของกล้ามเนื้อในระหว่างเล่นกีฬาเพื่อให้สามารถทำการเล่นกีฬาต่อไปได้ และ การนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ใช้งานมาอย่างหนักเนื่องจากการเล่นกีฬา

นอกจากเทคนิคในการนวดแล้ว ผู้นวด ยังต้องมีความรู้ในระบบกายวิภาคศาสตร์ ของร่างกายเป็นอย่างดี

-------------------------------------------------------------------------

การนวดแก้อาการ หรือ การนวดไทยบำบัด Remedial Massage

ได้แก่....

การนวดแก้ปวดขา เข่า
การนวดแก้ปวดหลัง
การนวดแก้ปวดแขน ไหล่ ข้อนิ้ว ข้อมือ ข้อศอก
การนวดแก้ปวดคอ ศีรษะ
การนวดแก้เป็นลม
การนวดแก้คอตกหมอน
การนวดแก้สะบักจม
การนวดแก้จุกเสียด
การนวดแก้ท้องผูก
การนวดป้องกันการปวดประจำเดือน
การนวดป้องกันตะคริว
การนวดแก้ข้อเท้าแพลง
การนวดแก้อัมพฤกษ์ อัมพาต.......

ผลของการนวดไทยบำบัดต่อสุขภาพ

ด้านการส่งเสริมสุขภาพ
-การนวดเสมือนยาอายุวัฒนะ

ด้านการป้องกันโรต
-การนวดกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
-การนวดป้องกันแผลกดทับ ปวดศรีษะ ปวดประจำเดือน

ด้านการรักษาผู้ป่วย และบำบัดโรค
-แก้ปวด เคล็ด ขัด ยอก ของกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อ
-ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อ
-ลดการติดขัดของข้อต่อ และอื่น ๆ

ด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ
-กระตุ้นให้กล้ามเนื้อที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตฟื้นตัวเร็วขึ้น ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพเด็กพิการ

จะเห็นได้ว่า การนวดไทยบำบัด หรือการนวดแก้อาการในแบบของการนวดไทยนี้ นอกจากจะเป็นการแก้อาการแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การบำบัด ฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วย อีกด้วย

ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ หมอนวดแก้อาการนี้ จะต้องมีความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี รวมทั้ง ข้อควรระวัง ข้อห้ามต่าง ๆ เพราะถ้าเกิดความผิดพลาดในการรักษา หรือการวินิจฉัย การบำบัด อาจทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ที่เข้ารับการบำบัดได้ เพราะส่วนใหญ่ ผู้ที่เข้ารับการรักษานี้ จะมีโรค มีอาการ ที่แตกต่างกันออกไป

--------------------------------------------------------------------------

ไม่ว่าจะเป็นหมอนวดสปอร์ต หมอนวดแก้อาการ อีกแผนกหนึ่งในศาสตร์แพทย์แผนไทย แน่นอนที่สุด วิชากายวิภาคศาสตร์ เป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรที่ต้องเรียนรู้

--------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณข้อมูล: Chatrapipath Maliwongkane (Gluay Sports Massage)/ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาธุรกิจสุขภาพและความงาม ประเทศไทย /สาขาวิชาการแพทย์แผนไทย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง /คณะแพทย์แผนไทย ม.สงขลานครินทร์

รูปภาพประกอบ: Chatrapipath Maliwongkane (Gluay Sports Massage) / ชนัชพันต์ คลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์

Photos from Thai Warrior Massage in Norway's post 23/10/2020

อาการตึงกล้ามเนื้อขาด้านข้าง ตามแนวตะเข็บกางเกง อาการที่สร้างความทรมาณให้กับใครหลาย ๆ คน ใครเป็นอยู่รีบรักษาให้หาย

บทความโดย พท.กมลลาสน์ ชีวสาธน์เวชกุล

อาการตึงกล้ามเนื้อขาด้านข้าง ตามแนวตะเข็บกางเกง ใครนึกไม่ออกว่ามันคืออาการแบบไหน ให้ดูรูปด้านล่างประกอบเอาได้เลย หลาย ๆ คนที่กำลังมีอาการแบบนี้อยู่ จะรู้ว่าเป็นแล้วมันรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมาก เพราะจะส่งผลต่อการเดินของเรา

สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคนที่มีอาการตึงของกล้ามเนื้อแนวขาด้านข้างคือ

- เวลาเดินแล้วจะชอบสะดุดพื้นอยู่บ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่พื้นไม่ได้สูง
- เวลาเดิน อาจเกิดอาการปวดสะโพกด้านข้าง
- เดินอยู่ดี ๆ ก็เกิดอาการเสียดสะโพกด้านข้างขึ้นมาเฉยเลย
- มีอาการปวดเข่าด้านข้างตามแนวขาด้านนอก
- จะงอเข่าแล้วจะเกิดอาการตึงขาด้านข้างขึ้นไปถึงเอว
- และอื่น ๆ อีกมากมาย

อาการเหล่านี้เป็นอาการผลพวงจากอาการตึงของกล้ามเนื้อบริเวณขาด้านข้าง และสาเหตุทำให้เกิดอาการได้มากมายขนาดนี้ เพราะบริเวณขาด้านข้างไม่ได้มีกล้ามเนื้อแค่มัดเดียว หากกล้ามเนื้อแนวขาด้านข้างมัดใดมัดหนึ่งเกิดปัญหา จะทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง

**************************************

อาการตึงกล้ามเนื้อขาด้านข้าง ที่เวลาหมอนวดจับเจอ หรือคนไข้จับกล้ามเนื้อของตัวเองเจอ นั่นคือกล้ามเนื้อที่ชื่อว่า "Iliotibial Tract" บางคนไม่เรียกมันว่ากล้ามเนื้อด้วยซ้ำ เพราะมันคือเนื้อเยื่อที่มีส่วนผสมของเส้นใยกล้ามเนื้อกับ Fascia หนา ๆ

เพราะฉะนั้นหน้าที่ของมันโดยรวมคือ รักษาการทรงตัวให้ท่านสามารถยืนอยู่ได้แบบมั่นคง

กล้ามเนื้อมัดนี้มันจะเกิดอาการตึงเหมือนแผ่นเหล็กหนา ๆ ด้วยสาเหตุดังต่อไปนี้

- ตัวคนไข้ มีการใช้กล้ามเนื้อขามากเกินไปทั้งยืนและเดิน
- คนไข้กำลังมีอการอักเสบของเข่า (จับโปงเข่า)
- กล้ามเนื้อหลังมีปัญหา หรือกำลังมีอาการปวดหลัง
- กำลังมีปัญหากับข้อสะโพก

นอกจาก "Iliotibial Tract แล้ว ยังมีกล้ามเนื้อที่อยู่ตามแนวขาด้านข้างมัดอื่นอีก ที่จะทำให้เกิดอาการตึงกล้ามเนื้อขาด้านข้างได้ คือ

- Biceps Femoris Muscle
- Gluteus Medius Muscle
- Gluteus Minimus Muscle
- Tensor Fasciae Latae

และกล้ามเนื้ออื่น ๆ อีกมากมายบางมัด

***************************************

ถ้าหากคนไข้มีอาการแบบนี้ หมอนวดบางส่วนจะแทบไม่ใส่ใจกล้ามเนื้อโดยรอบเลย สิ่งที่จะทำคือ นวดเน้นแต่บริเวณกล้ามเนื้อขาด้านข้างเป็นหลัก

*** การเน้นนวดกล้ามเนื้อ Iliotibial Tract เพื่อหวังให้เกิดการคลายกล้ามเนื้อแนวขาด้านข้าง เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะนวดเน้นให้ตาย กล้ามเนื้อแนวขาด้านข้าง ก็ยังเกิดอาการตึงอีกอยู่ดี เพราะกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อขาด้านข้างตึง อาจไม่ใช่แค่ Iliotibial Tract เท่านั้น

ผลเสียที่เกิดจากการนวดกล้ามเนื้อตามแนวขาด้านข้าง โดยที่ไม่รู้ว่าอาการจริงเกิดจากกล้ามเนื้อมัดไหน คือ

- สำหรับคนที่ไม่เคยมีอาการตึงเข่าด้านข้าง ก็จะเกิดอาการตึงเข่าด้านข้าง

- สำหรับคนที่กำลังมีอาการตึงเข่าด้านข้าง ก็จะเกิดอาการตึงมากว่าเดิม

- อาจเกิดอาการก้าวขาไม่ออก เดินแล้วสะดุดพื้นมากกว่าเดิม

******************************************

ที่เหลือตามต่อในกลุ่ม VIP

Vil du plassere din skole på toppen av Skole-listen i Oslo?
Klikk her for å få din Sponsede Oppføring.

Videoer (vis alle)

Telefon

Nettsted

Adresse

Rogneveie 5
Oslo
0588

Åpningstider

Tirsdag 11:00 - 17:00
Onsdag 11:00 - 17:00
Torsdag 09:00 - 17:00

Andre skoler i Oslo (vis alle)
ANSA - Association of Norwegian Students Abroad ANSA - Association of Norwegian Students Abroad
Biskop Gunnerus Gate 2
Oslo, 0184

ANSA er samskipnaden for norske studenter i utlandet. Vi er her for deg før, under og etter utenlandsstudier.

U.S.-Norway Fulbright Foundation U.S.-Norway Fulbright Foundation
Arbinsgate 2
Oslo, 0253

Contact us if you have any questions regarding studies in the US or the Fulbright Grant: [email protected]

Operasjon Dagsverk Operasjon Dagsverk
Kolstadgata 1
Oslo, 0652

Følg Operasjon Dagsverk på Twitter: @avmedforungdom og instagram: operasjondagsverk www.od.no

Elev- og lærlingombudet i Oslo Elev- og lærlingombudet i Oslo
Rådhusplassen 1
Oslo, 0037

Ombud for elever og lærlinger i Oslo kommune.

Institutt for geofag, Universitetet i Oslo - UiO Institutt for geofag, Universitetet i Oslo - UiO
Sem Sælands Vei 1
Oslo, 0371

Velkommen til Institutt for geofag, Universitetet i Oslo sin offisielle facebookside – Department of Geosciences, University of Oslo, Norway.

Deichman Bjørnholt Deichman Bjørnholt
Slimeveien 17
Oslo, 1275

Bjørnholt bibliotek er åpent for alle, og vi er samlokalisert med Bjørnholt vgs. Vi tilbyr bøker for alle aldre, aviser, tidsskrifter, PC-er, et stort utvalg filmer, spill, studiep...

Akademiet Oslo Akademiet Oslo
Pilestredet 56
Oslo, 0167

For deg som vil litt mer! Akademiet VGS Oslo holder til i moderne lokaler svært sentralt på Bislett.

Båtførerprøven Båtførerprøven
Oslo, 1254

Maritime kurs for yrke og fritid! Online og klasseromskurs. Fritidsskipper D5L/D5LA Kystskipper D5 Kystskipper D6 Båtførerkurs SRC/VHF GOC/GMDSS ROC/GMDSS

Bogen musikkskole Bogen musikkskole
Postadresse: Møllefaret 26 C
Oslo, 0750

Bogen musikkskole har musikkgrupper for barn og foreldre med Musikk i livets begynnelse, piano- og gitarundervisning, damekor, jentekor og kurs for barnehagepersonale. Skolen ble s...

Bestum skole og aktivitetsskole Bestum skole og aktivitetsskole
Holgerslystveien 18
Oslo, 0280

Bestum skoles offisielle Facebook-side.

Bilder Nordic School of Photography Bilder Nordic School of Photography
Kirkegata 24
Oslo, 0153

Følg kreativiteten og historiefortellingen som engasjerer oss. Nordens største fotoskole finner du på

Qross Kurssenter Qross Kurssenter
Østensjøveien 36
Oslo, 0667

Klasseromskurs, digitale kurs og bedriftsinterne kurs over hele landet. Velg mellom over 200 kurs.