โครงการปล่อยวัวแดง คืนสู่ธรรมชาติ จ.กาญจนบุรี

ล้อ หล่อ

เจ้า"ปีใหม่" วัวแดงตัวแรกของโครงการปล่อยวัวแดงคืนสู่ธรรมชาติฯ เมื่อปี 2557 #ปรากฏโฉม

เจ้าปีใหม่เกิด 1 ม.ค.53 ในคอกเลี้ยง
ปล่อยคืนธรรมชาติ ปี 57
ปัจจุบันอายุ ย่างเข้า 15 ปี ใช้ชีวิตอยู่ในป่าตามธรรมชาติมาแล้ว เข้าปีที 10

โดยภาพนี้ จนท สามารถบันทึกภาพไว้ได้ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2567 จากการเก็บกู้กล้อง หลังเคยปรากฎในกล้อง ครั้งก่อน ม.ค.65 #ชื่นใจจริงๆ

#ศรัทธาเคลื่อนภูผา
#โครงการน้องวัวแดง

#มวลชนจิตอาสาอนุรักษ์วัวแดง

"เพิ่มวัวแดง" ให้ผืนป่าสลักพระสมดุล...

#โครงการน้องวัวแดง

#มวลชนจิตอาสาอนุรักษ์วัวแดง

ป่าทับลาน ป่าลานผืนสุดท้ายของประเทศไทย...

ชวนรู้จัก ‘ป่าทับลาน’ ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร?
ช่วงนี้คงไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินคำว่า ‘ทับลาน’ แต่จะมีใครบ้างที่รู้ว่า ทับลานอยู่ที่ไหน? แล้วคำว่าทับลานมีที่มาที่ไปอย่างไร? เกร็ดความรู้ในสัปดาห์นี้ ชวนมาทำความรู้จักกับป่าทับลาน อีกหนึ่งระบบนิเวศที่มีความสำคัญที่ใครหลายคนมักมองข้ามไป
‘ป่าลานธรรมชาติผืนที่สมบูรณ์ที่สุด และเป็นผืนสุดท้ายของประเทศไทย’
นี่คือนิยามของลานป่าธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ‘อุทยานแห่งชาติทับลาน’ ชื่ออุทยานที่ถูกตั้งตามลักษณะเด่นของระบบนิเวศในพื้นที่ ที่มีลานป่าขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นและพบได้บางพื้นที่เท่านั้น โดยเฉพาะบริเวณที่ราบบนเขาละมั่ง อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ที่สามารถพบต้นลานป่าได้ทั่วพื้นที่และเรียกบริเวณนี้ว่า ‘ป่าลาน’
#ลานป่าคืออะไร?
ลาน หรือ ต้นลาน จัดเป็นไม้ตระกูลปาล์ม (Palmae) เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว และเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นสูงประมาณ 10 - 26 เมตร ในประเทศไทยสามารถพบต้นลานได้ 2 ชนิดที่เป็นชนิดท้องถิ่น คือ ลานป่า (Corypha lecomtei) และลานพรุ (Corypha utan) ด้วยลำต้นและช่อดอกที่มีขนาดใหญ่ของต้นลาน จึงต้องอาศัยพื้นที่ในการเจริญเติบโต ดังนั้นการที่เรายังพบเห็นป่าลานในธรรมชาติ นั่นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของพื้นที่ป่าที่ยังมีความเหมาะสมและเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติทับลานในปัจจุบัน
#อุทยานแห่งชาติทับลานตั้งอยู่ที่ไหน?
อุทยานแห่งชาติทับลาน ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ อำเภอปักธงชัย อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอครบุรี อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญของผืนป่ามรดกโลก ‘กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่’ ซึ่งได้รับการประกาศจากยูเนสโกเมื่อปี พ.ศ. 2548
อุทยานแห่งชาติทับลานตั้งอยู่ตรงกลางของผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ซึ่งถือเป็นทางเชื่อมที่สำคัญในการสัญจรไป-มาของสัตว์ป่านานาชนิด ระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติตาพระยา และอุทยานแห่งชาติปางสีดา และถือเป็นอุทยานที่มีพื้นที่มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
อุทยานแห่งชาติทับลาน มีสังคมพืชที่จัดเป็นป่าลุ่มต่ำที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก มีความหลากหลายทั้งสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อาทิ ช้างป่า กระทิง วัวแดง กวางป่า และกลุ่มพันธุ์พืชโดยเฉพาะป่าลาน ซึ่งในอุทยานฯ มีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ มีสภาพเป็นป่าโปร่ง เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยและพื้นที่หากินที่สำคัญของสัตว์ป่านานาชนิด อาทิ กระต่ายป่า พังพอน เก้ง กวางป่า สัตว์เหล่านี้ล้วนมีความสำคัญกับระบบนิเวศ คอยรักษาสมดุล และสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ
ดังนั้นชื่ออุทยานแห่งชาติทับลานจึงสื่อถึงเอกลักษณ์และความโดดเด่นของ ‘ป่าลาน’ ที่เป็นอีกหนึ่งระบบนิเวศที่มีความสำคัญของพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพของอุทยานแห่งนี้
#รู้หรือไม่
ในกรณีของพื้นที่กว่า 265,000 ไร่ ที่กำลังพิจารณาการถูกเพิกถอนนี้ แม้จะเป็นพื้นที่ชุมชน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพื้นที่นี้ยังอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ และบริเวณรอบ ๆ ยังคงเป็นหย่อมป่ากระจายอยู่ทั่วพื้นที่ชายขอบ สัตว์ป่ามีการเข้ามาใช้ประโยชน์และใช้เป็นเส้นทางหากิน โดยเฉพาะช้างป่า ที่มักหากินในป่าที่ราบ ทุ่งหญ้า และพบได้บ่อยครั้งบริเวณชายขอบป่า ในอนาคตหากมีการเปลี่ยนแปลงเป็นชุมชนหรือแหล่งท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว และไม่ได้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ นอกจากเส้นทางการใช้ประโยชน์ของสัตว์ป่าจะถูกตัดขาดและแยกออกจากกันแล้ว ยังก่อให้เกิดปัญหาสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่และจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบผืนป่าอย่างแน่นอน
ร่วมปกป้องผืนป่า สัตว์ป่า เพื่อความยั่งยืนของทุกชีวิต https://www.seub.or.th/donate/
อ้างอิง
- อุทยานแห่งชาติทับลาน | กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช : https://bit.ly/4dcCeKn
- ลานพืชพิ้นเมืองของไทย | กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช : https://bit.ly/3zChDAz
#อุทยานแห่งชาติทับลาน
#ป่าทับลาน

ชุมชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัวแดง
ตามโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน
ในการอนุรักษ์วัวแดง (Bos javanicus)

ับลาน
เปิดให้ลงชื่ิอคัดค้านแสดงความคิดเห็น
การกระทบต่อระบบนิเวศ
การสูญเสียพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานไปกว่า 265,000 ไร่
การเปิดโอกาสให้นายทุนเขามาลงทุนในพื้นที่ป่าที่ถูกเพิกถอนได้ง่ายขึ้น
แต่ในขณะเดียวกัน ชาวบ้านในพื้นที่ก็อยากที่จะให้มีการจัดแนวเขตใหม่ #แล้วเรื่องนี้ที่มาที่ไปมันเป็นยังไง?

➡️ #ก่อนที่จะเป็นอุทยานแห่งชาติทับลาน เดิมพื้นที่นี้เป็นป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกนำไปทำสัมปทานไม้ไปแล้วมาจัดที่ดินทำกินให้ชาวบ้าน เป็นพื้นที่สปก. หรือสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แต่เมื่อปี 2524 มีการประกาศแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน จึงเกิดปัญหาที่ดินทับซ้อนจนมาถึงปัจจุบัน

➡️ #ปัญหาคาราคาซังเพราะพื้นที่ทับซ้อน
ตั้งแต่ที่มีปัญหา ชาวบ้านที่ได้พื้นที่สปก. ได้พยายามต่อสู้เพื่อแนวเขตใหม่จนมาเป็นเส้นปรับปรุงการสำรวจแนวเขต พ.ศ. 2543 ที่พยายามระบุที่ดินสปก.ออกจากอุทยาน และกำหนดที่ดินไม่ให้มีการรุกล้ำเพิ่มจากแนวเขตที่กำหนด ทว่า ยังไม่มีการปรับแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฏีกาของอุทยานแห่งชาติทับลาน
และถ้าอิงจากกฎหมายของอุทยาน พื้นที่ตรงนั้นก็ยังเป็นอุทยานอยู่ ยังคงมีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนผิดกฎหมาย

➡️ #การปรับแผนที่สู่การแสดงความคิดเห็นว่อนโซเชียล
เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 67 คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติมีมติรับทราบข้อเสนอของ ครม. ที่เห็นชอบข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ใช้แผนที่ ONE MAP ให้ใช้มาตราส่วน 1 : 4000 เหมือนกันหมด ที่มีมาตั้งแต่รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อนระหว่างแผนที่ของหน่วยงานราชการที่ไม่ตรงกัน และกลับมาใช้เส้นปรับปรุงการสำรวจแนวเขต พ.ศ. 2543 ที่พยายามระบุที่สปก.ออกจากอุทยาน และกำหนดที่ไม่ให้มีการรุกล้ำเพิ่มจากแนวเขตที่กำหนด ในการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน แต่ก่อนจะใช้งานจริงก็ต้องมีการเปิดแสดงความคิดเห็นของกรมอุทยานก่อน จึงเป็นที่มาของการลงชื่อเปิดรับฟังความคิดเห็น การเพิกถอนพื้นที่ อุทยานแห่งชาติทับลาน จำนวน 265,286.58 ไร่ ออกจาการเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน-12 กรกฎาคม 2567

➡️ #ข้อกังวลเรื่องป่า #ข้อกังวลของชาวบ้าน
เมื่อมีตัวเลข 265,286.58 ไร่ หลายคนจึงกังวลว่าผืนป่าของไทยอาจได้รับผลกระทบ ระบบนิเวศอาจเปลี่ยนไป สัตว์ป่าอาจไม่มีที่อยู่อาศัย และเกรงว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้นายทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่ป่า ซึ่งก็พอเข้าใจได้เพราะพื้นที่ 2 แสนกว่าไร่นี้นั้นเป็นจำนวนที่เยอะมาก ในขณะเดียวกัน ชาวบ้านที่อาศัยและทำกินอยู่ในพื้นที่นั้นยังคงรอการปรับแนวเส้นหลายแสนไร่ที่กลายเป็นที่ใช้สอยไปแล้วเช่นกัน เพราะปัจจุบันแนวเขตอุทยานตามแผนที่ ปี 2524 ทับซ้อนที่ดินของราษฎรในชุมชน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ทำไร่ หรือปลูกสร้างอะไรก็ลำบากและผิดกฎหมายอุทยาน

➡️ #ให้ความเป็นธรรมกับทั้งป่าและชาวบ้าน
ท้ายที่สุด เราต้องมาดูว่าพื้นที่ 265,286.58 ไร่ เป็นพื้นที่ของชาวบ้านเท่าไหร่ที่ต้องการเส้นแนวเขตจริง ๆ และพื้นที่ที่กลัวว่าจะมีการถูกโยกไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นของนายทุนเท่าไหร่ ควรจะถูกนำออกไปทั้ง 265,286.58 ไร่เลยหรือไม่? หรือควรจะให้อยู่ทั้ง 265,286.58 ไร่ หรือไม่? เพราะจากข้อมูลของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร พื้นที่แบ่งเป็นกลุ่มที่ 1 พื้นที่ทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดิน 58,582 ไร่ กลุ่มที่ 2 พื้นที่จัดที่ดินทำกินตามโครงการจัดสรรที่ดินทำกินแก่ราษฎรผู้ยากไร้ (คจก.) 59,183 ไร่ และ กลุ่มที่ 3 พื้นที่ที่ไม่ใช่กลุ่ม 1 และ กลุ่ม 2 จำนวน 152,072 ไร่ (จำพวกกลุ่มทุนที่มาสร้างรีสอร์ท บ้านพัก และราษฎรที่ถือครองทั่วไป) ทั้งหมดนี้ควรถูกตั้งคำถามและควรมีการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีการตรวจสอบสิทธิสปก. รวมถึงรับฟังประชาชนในท้องที่ และคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

ที่มา
https://www.ombudsman.go.th/new/news660316/

https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/227975

https://theactive.net/news/agriculture-20240708/

https://www.seub.or.th/bloging/work/2024-36/

หนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส0906.503/10359 17 พ.ค.60

https://www.env-ngos.net/endless-politics/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR1SJrd1auM991yIDXvia290h3kzyzjUt4UsEY1mjs5N_stZ_vUeC1buBA4_aem_52-6b2DErbZ-XXstVrYZCA

https://dl.parliament.go.th/handle/20.500.13072/363054?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2Au7gJqtpK7t4_FO9dQSuZaiWnXRDMLEYXSRI2IwIiW_lvcrvzU99xbt4_aem_CvPOaslrOmfOVf1_C7EfHA

โครงการน้องวัวแดง...สู่
การสร้างเศรษฐกิจให้ชุมชนผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวชุมชนผู้พิทักษ์วัวแดง

มวลชนฯ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้โครงการน้องวัวแดงประสบความสำเร็จ และกลับมาโลดแล่นได้อีกครั้งหลังจากสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่นานกว่า 30 ปี
จากนี้ไป โครงการน้องวัวแดง จะสร้างเศรษฐกิจให้ชุมชนผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน

ผ่านมาแถวนี้ อย่าลืมแวะเที่ยวชุมชน
อุดหนุนผลผลิตของชุมชนกันนะครับพี่น้อง
ศรัทธาเคลื่อนภูผาได้เสมอ
#โครงการน้องวัวแดง

#มวลชนจิตอาสาอนุรักษ์วัวแดง

🌳🔻 หลังจากไม่ได้ทอเพิ่มมาเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม ทาง IMPANI PA-KAO-MA :: อิมปานิ ผ้าขาวม้า :: ก็ทำคลอด #ผ้าขาวม้าติ่งป่า ลายใหม่มาให้เชยชมในที่สุด เย้ 😍📌

ผ้าขาวม้าติ่งป่าลายใหม่ ตาม Concept เดิม สีพิเศษกลมกลืนกับธรรมชาติ ขนาดพิเศษ เพื่อการใช้งานเอนกประสงค์ กลับมาให้ช้อปใช้เองและช่วยสนับสนุนผู้พิทักษ์ป่าเหมือนเดิมแล้วค่ะ
🌳 ซื้อ 1 แถม 1 ของแถมยึดไว้แจกผู้พิทักษ์ป่า
🌳 ซื้อ 1 แถม 1 ของแถมระบุผู้พิทักษ์ป่าในดวงใจให้เพจจัดส่งเลย
🌳 ซื้อ 1 สมทบทุนจัดหาเสบียงให้ผู้พิทักษ์ป่า
🌳 ซื้อจำนวนมาก ราคาพิเศษ เพื่อมอบให้ผู้พิทักษ์ป่าที่ไหนก็ได้ตามใจเลย

🔻 อยากซื้อ อยากแจก แบบไหนบอกมาเลยป้าจัดให้ค่ะ 😘

ผ้าขาวม้าติ่งป่า
ฝ้าย 90x200 cm. 200.-

*Lot ตัวอย่างมีจำนวนจำกัด ยังไม่ได้ส่งจำหน่ายตามร้านสวัสดิการค่ะ* @แฟนตัวยง

วัวแดงอิ่มเปล้ ไม่หิวแล้ว
ขอขอบคุณ บ.คาร์กิลล์ ประเทศไทย
(สำนักงานใหญ่)
ธุรกิจโภชนาการอาหารสัตว์และสุขภาพ
และธุรกิจห่วงโซ่อุปทานการเกษตร มากค่ะ

น้องวัวแดงต้องอิ่ม
ขอขอบคุณผู้อุปการะ เอ็นดู
ให้ความสำคัญกับวัวแดง สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์
และผู้สนับสนุนอาหารน้องวัวแดงทุกท่านค่ะ

#ศรัทธาเคลื่อนภูผา
#โครงการน้องวัวแดง

#มวลชนจิตอาสาอนุรักษ์วัวแดง

📕ขอเชิญร่วมงานเปิดตัวหนังสือ และเยี่ยมชมนิทรรศการภาพถ่าย "วัวแดง...ลมหายใจแห่งป่าราบต่ำ: Beautiful Banteng...Iconic Rarity of Lowland Forests" ได้ตั้งแต่วันที่ 26 - 31 มีนาคม ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สามารถเข้าชมได้ฟรี❗️
📍กำหนดการสำหรับงานเปิดตัวหนังสือวันที่ 26 มีนาคมนี้ อยู่ในคอมเมนต์ด้านล่างค่ะ 👇
-------------------
📕You are invited to join the book launch and visit the photography exhibition of "Beautiful Banteng...Iconic Rarity of Lowland Forests," taking place from March 26 to 31 at the Auditorium, 5th floor of the Bangkok Art and Culture Centre (BACC).
Admission is free❗️

📍The book launch is scheduled for March 26. Feel free to check the details in the comments below 👇