Easylife Property Thailand

Easylife Property Thailand

คุณอาจจะชอบ

N'nkauj hmoob
N'nkauj hmoob

รับฝากขาย ขายฝาก บ้านที่ดิน คอนโด โกดัง
ฟรีรับให้คำปรักษาการขาย
รับหาบ้านที่ดิน คอนโด ตามต้องการ

06/09/2024

🏡 จากข้อมูลการเข้าชมประกาศอสังหาฯ ในเว็บไซต์ DDproperty ปี 2023 พบว่า #เขตวัฒนา ครองอันดับ 1 สุดยอดทำเลทองในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการซื้อและเช่ามากที่สุด

ซึ่งทำเลวัฒนา หรือที่เรารู้จักกันคือถนนสุขุมวิท ยาวไปถึง อโศก ทองหล่อ เอกมัย อ่อนนุช ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทำเลศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBD) ที่สำคัญ

เนื่องจากเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่และเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า จึงเป็นทำเลย่านใจกลางเมืองที่น่าจับตามองทั้งในฝั่งผู้ซื้อและผู้เช่า

___________________________________________

โดย 10 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการซื้อมากที่สุดในรอบปี 2566 ได้แก่

อันดับ 1 เขตวัฒนา
อันดับ 2 เขตจตุจักร
อันดับ 3 เขตห้วยขวาง
อันดับ 4 เขตบางกะปิ
อันดับ 5 เขตคลองเตย
อันดับ 6 เขตประเวศ
อันดับ 7 เขตสวนหลวง
อันดับ 8 เขตบางนา
อันดับ 9 เขตพระโขนง
อันดับ 10 เขตบางเขน

___________________________________________

โดยแบ่งความต้องการซื้อตามประเภทอสังหาฯ ได้ดังนี้

- คอนโดมิเนียม 56%
- บ้านเดี่ยว 27%
- ทาวน์เฮ้าส์ 17%

___________________________________________

ความต้องการซื้อแบ่งตามระดับราคา

1-3 ล้านบาท 33%
>10 ล้านบาท 21%
3-5 ล้านบาท 20%
5-10 ล้านบาท 20%

___________________________________________

🔷 แหล่งที่มาของบทความ จาก DD Property : https://bit.ly/3OeYIQE


#อสังหา #ซื้อบ้าน #ขายบ้าน #เช่าบ้าน #ฝากขาย #นายหน้า #บ้าน #คอนโด

05/09/2024

🏡 ชีวิตเกษียณสุขสบายมีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องทำงาน ถือเป็นหนึ่งในความฝันที่ทุกคนต้องการ และการเข้ามาลงทุนอสังหาฯ ของคนส่วนใหญ่นั้นก็เพื่อต้องการ Passive Income ให้ชีวิตตัวเองในบั้นปลายมีความสุขมีเงินใช้ได้อย่างเพียงพอนั่นเอง แต่ทั้งนี้ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ปัจจุบันมีสินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุแนวใหม่ ที่สามารถเปลี่ยนให้บ้านของเรากลายเป็น Passive Income ส่งเงินให้เราใช้ได้ทุกเดือนด้วย ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นนักลงทุนอสังหาฯ หรือมีบ้านเป็นของตัวเองไม่ว่าจะหลังเดียวหรือว่าหลาย ๆ หลัง


1️⃣ สินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ Reverse Mortgage เปลี่ยนบ้านให้เป็นบำบาญเพื่อวัยเกษียณ

โดยปกติแล้ว สินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุโดยทั่วไป จะเป็นสินเชื่อเพื่อ ผู้สูงอายุที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่สำหรับ Reverse Mortgage จะเป็นสินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุแนวใหม่ ให้ผู้ที่มีบ้านเป็นของตัวเองแบบปลอดภาระแล้ว หรือก็คือผ่อนหมดแล้ว ได้เอาบ้านมาขอสินเชื่อกับธนาคาร แล้วธนาคารจะประเมินเพื่อให้เงินกับเจ้าของบ้านเป็นรายเดือน หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือเหมือนเราเปลี่ยนบ้านของตัวเราเองให้กลายเป็นเงินบำนาญ เป็นการขายบ้านให้กับธนาคาร แบบที่ธนาคารผ่อนจ่ายเราถูกเดือน ๆ แต่เรายังสามารถอยู่อาศัยในบ้านของเราได้อยู่ จนกว่าจะครบสัญญา หรือว่าเราเสียชีวิต บ้านก็จะตกเป็นของธนาคารนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบัน ธนาคารที่มีสินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ Reverse Mortgage ให้บริการ ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน

___________________________________________

2️⃣ อะไรคือข้อดีของสินเชื่อบ้านสำหรับผู้อายุ Reverse Mortgage

สินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ Reverse Mortgage เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีบ้านเป็นของตัวเอง หรือเป็นนักลงทุนอสังหาฯ ที่อยากวางแผนเกษียณให้บั้นปลายมี Passive Income เลี้ยงตัวเองได้ไปตลอดชีวิต แบบที่ไม่ต้องเป็นภาระใคร เพราะแม้จะนำบ้านไปขอสินเชื่อเป็นเงินบำนาญให้ตัวเองแล้ว เราก็ยังสามารถอยู่ในบ้านหลังนั้นได้อยู่ ไม่ต้องเดือดร้อนไปหาที่อยู่ใหม่ หรือต้องไปพึ่งพาลูกหลานครอบครัวให้เป็นภาระ เป็นความทุกข์ใจในบั้นปลายชีวิต ยิ่งกับนักลงทุนที่มีบ้านหลาย ๆ หลังแล้ว ก็อาจเลือกที่จะขายบ้านหลังอื่น ๆ ให้ได้เงินก้อน แล้วเลือกขอสินเชื่อ Reverse Mortgage กับบ้านหนึ่งหลัง ก็จะทำให้บั้นปลายชีวิตนั้นมีทั้งที่อยู่อาศัย มีเงินก้อนไว้ใช้ทำสิ่งที่อยากทำ และมีเงินบำนาญเลี้ยงตัวเองได้ทุกเดือน แบบที่ไม่ต้องทำงานเลยแม้แต่น้อย ถือเป็นแผนเกษียณที่มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับบั้นปลายชีวิตได้เป็นอย่างดี

___________________________________________

ในเมื่อทั้งชีวิตเราต้องผ่อนเงินเพื่อมีบ้านเป็นของตัวเองมายาวนานหลายสิบปี การที่สุดท้ายแล้วเราสามารถเปลี่ยนให้บ้านหลังนั้นผ่อนเงินเลี้ยงชีวิตเรากลับคืนบ้างในบั้นปลายให้อยู่ดีกินดีมีความสุขโดยไม่ต้องทำงาน จึงถือหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะนั่นจะเท่ากับว่าแรงกายแรงใจที่เราทุ่มเททำเพื่อให้ได้มีบ้านเป็นของตัวเองนั้น สามารถออกดอกออกผลให้เราได้มากกว่าแค่เป็นที่อยู่อาศัย แต่ยังกลายมาเป็น Passive Income เป็นบำนาญเลี้ยงเราให้บั้นปลายมีความสุขได้มากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังวางแผนเกษียณอยู่ การทำความรู้จักให้เข้าใจสินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ Reverse Mortgage และนำไปเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้วางแผนเกษียณ จะช่วยให้แผนเกษียณของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตของเราในวัยเกษียณที่ดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อย

___________________________________________

🔷 แหล่งที่มาของบทความ จาก REIC


#อสังหา #ซื้อบ้าน #ขายบ้าน #เช่าบ้าน #ฝากขาย #นายหน้า #บ้าน #คอนโด

04/09/2024

🏡 ข้อกังวลใหญ่ของคนที่อยากกู้ซื้อบ้านเป็นของตัวเองนั้น ก็คือความกลัวว่าจะขอกู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน ธนาคารไม่อนุมัติ ซึ่งแน่นอนสำหรับพนักงานประจำมีเงินเดือนมั่นคง มีรายได้สม่ำเสมอเป็นประจำทุกเดือนคงไม่มีปัญหา แต่กับผู้ที่ไม่ได้เป็นพนักงานประจำ ประกอบอาชีพค้าขายออนไลน์ที่รายได้แต่ละเดือนไม่แน่นอนนั้นตรงกันข้าม โดยพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุกคนจะกังวลเสมอว่าจะไม่สามารถขอกู้ผ่านได้ ซึ่งในความเป็นจริงแม้จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ไม่ได้มีเงินเดือนประจำก็มีสิทธิ์ขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านผ่านได้ง่าย ๆ เช่นกัน แต่ต้องเตรียมตัว เตรียมเอกสารให้พร้อมมากกว่าพนักงานประจำทั่วไปเป็นพิเศษ ดังต่อไปนี้


1️⃣ ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้าออนไลน์ต้องชัดเจนเชื่อถือได้

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ไม่ได้มีเงินเดือนประจำ จะทำให้ธนาคารเชื่อมั่นได้ว่าจะมีความสามารถในการผ่อนชำระได้ไหวนั้น จะต้องแสดงให้ธนาคารเห็นก่อนว่า ร้านค้าออนไลน์ของตัวเองนั้นมีความน่าเชื่อถือ มีความมั่นคง มีสินค้าที่พร้อมขายตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้จริง มีตัวตนที่สามารถตรวจสอบได้ โดยตัวอย่างหลักฐานที่ต้องเก็บรวบรวมเพื่อยื่นประกอบการขอกู้ซื้อบ้านกับธนาคารในหมวดนี้ ได้แก่ เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของผู้กู้ หน้าร้านเฟสบุค IG ตลอดจนภาพถ่ายสินค้าต่าง ๆ หรือถ้ามีการจดทะเบียนเป็นบริษัท ก็นำเอกสารหลักฐานการจดทะเบียนบริษัทที่เป็นร้านค้าของเรานั้นแนบมาด้วย เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราทำธุรกิจค้าขายออนไลน์จริงจัง มีความมั่นคงเพียงพอที่จะสามารถผ่อนชำระหนี้จากการกู้ซื้อบ้านได้

___________________________________________

2️⃣ ข้อมูลเกี่ยวกับรายรับ-รายจ่ายจากร้านค้าออนไลน์

การมีหลักฐานแสดงว่ามีหน้าร้านค้าออนไลน์ มีสินค้าพร้อมขายจริงนั้น บางทีก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้ธนาคารเชื่อมั่นได้ว่าผู้ขอกู้มีความสามารถในการผ่อนชำระจริง เพราะการมีร้านค้าออนไลน์ก็ไม่ได้การันตีว่าจะมีรายได้เพียงพอ หรือขายมีกำไรได้จริง ดังนั้น สิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะต้องเตรียมมาเพื่อยื่นกับทางธนาคารประกอบการขอกู้ซื้อบ้านอีกส่วนหนึ่งก็คือ เอสารเกี่ยวกับการซื้อขายทั้งหมด เช่น รายจ่ายต่อเดือนที่เป็นต้นทุนในการซื้อของมาขายเป็นจำนวนเงินเท่าไร มีอะไรบ้าง แนบมาพร้อมกับใบเสร็จ ใบกำกับภาษี เพื่อให้เห็นว่ามีการซื้อของเข้าร้านจริง และอีกส่วนหนึ่งคือใบเสร็จเมื่อขายสินค้าได้ หรือรายการขายสินค้า ว่าแต่ละเอียดขายอะไรไปได้บ้างเป็นจำนวนเงินเท่าไร ข้อมูลการซื้อขายเหล่านี้จะสะท้อนถึงต้นทุน ยอดขาย และกำไรของร้าน ทำให้ธนาคารเห็นแนวโน้มว่าธุรกิจมีรายได้เฉลี่ยเดือนละเท่าไร เพียงพอที่จะสามารถทำให้ผ่อนชำระค่างวดบ้านที่ขอกู้ซื้อหรือไม่

___________________________________________

3️⃣ ข้อมูลภาษีและการเงินส่วนตัว

หลักฐานการยื่นภาษีส่วนตัวของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ถือว่าเป็นสิ่งที่จะช่วยยืนยันได้อีกทางหนึ่งว่าผู้ขอกู้มีรายได้จริง และยังสะท้อนถึงความรับผิดชอบทางการเงินตามกฎหมายด้วย ในขณะเดียวกันเมื่อยื่นหลักฐานทางภาษีแล้ว ก็ควรรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับการเดินบัญชีส่วนตัวให้ธนาคารเห็นด้วย รวมถึงบัญชีเงินเก็บเงินออมทั้งหมดที่มี เพื่อให้ธนาคารเห็นวินัยทางการเงิน เห็นสภาพคล่อง เห็นว่าเราไม่มีหนี้ หรือมีหนี้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถดูแลได้ และมั่นใจได้อย่างแน่นอนว่าแม้เราจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ แต่ก็มีความสามารถในการบริหารจัดการเงินที่ดี สามารถรับผิดชอบค่างวดผ่อนชำระค่าบ้านได้ไหว

___________________________________________

แม้จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ไม่ได้ทำงานประจำ แต่ถ้าเราสามารถทำให้ธนาคารเห็นว่าเราทำธุรกิจจริงจัง ค้าขายออนไลน์มีรายได้สม่ำเสมอ มีความมั่นคง มีการบริหารจัดการเงินในธุรกิจและเงินส่วนตัวอย่างมีวินัย เสียภาษีเป็นประจำทุกปี และไม่มีหนี้สินติดตัวแล้ว โอกาสที่จะขอกู้ซื้อบ้านผ่านได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก หรือทั้งนี้หากเราอยากเพิ่มโอกาสในการขอกู้ซื้อบ้านให้อนุมัติผ่านง่ายมากขึ้น ก็สามารถทำได้ด้วยการหาผู้กู้ร่วมที่เป็นพนักงานประจำนั่นเอง

___________________________________________

🔷 แหล่งที่มาของบทความ จาก REIC


#อสังหา #ซื้อบ้าน #ขายบ้าน #เช่าบ้าน #ฝากขาย #นายหน้า #บ้าน #คอนโด

03/09/2024

🏘️ 🔊😨 หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการอยู่อาศัยอย่างมีความสุข คือ เพื่อนบ้าน และหนึ่งในปัญหาเพื่อนบ้านยอดฮิต คือ เสียงรบกวน ซึ่งพบบ่อยกับทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และคอนโด ที่มีแค่กำแพงกั้นระหว่างตัวบ้าน ทำให้เกิดปัญหามลพิษทางของเพื่อนบ้านได้ง่าย หากปัญหาเสียงรบกวนนี้เกิดขึ้นสม่ำเสมอ ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต การอยู่อาศัย รวมถึงกิจธุระได้

___________________________________________

ขั้นตอนการแก้ไขปัญหาเพื่อนบ้านเสียงดัง


1. หาตัวช่วยป้องกันเสียงดังเข้ามาในบ้าน
มีหลายวิธีที่จะช่วยป้องกันหรือลดความดังของเสียง ได้แก่

🔹 ใช้วัสดุดูดซับเสียง เช่น ผ้าม่านหนา ๆ พรมหนา ๆ แผ่นดูดซับเสียง และวอลเปเปอร์โดยเฉพาะชนิดหนาแบบโฟม ซึ่งจะช่วยซึมซับและลดทอนความดังของเสียงได้

🔹 ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อิน การสร้างตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ และ/หรือชั้นวางของติดผนังห้องส่วนที่ติดกับเพื่อนบ้านนั้นสามารถลดทอนการหักเหของคลื่นเสียง ซึ่งส่งผลให้เสียงเดินทางเข้ามาในห้องได้น้อยลงมากทีเดียว

🔹 ปิดช่องโหว่ไม่ให้เสียงเข้ามา เลือกใช้หน้าต่างแบบที่ปิดสนิท เช่น หน้าต่างแบบบานปิดตาย บานเปิด หรือบานกระทุ้ง แต่ไม่ควรใช้หน้าต่างแบบบานเกล็ดและบานเลื่อน ซึ่งมีช่องว่างที่ทำให้เสียงเดินทางเข้ามาได้ สำหรับประตูนั้น ควรหาแผ่นโฟม แผ่นยาง หรือแผ่นซิลิโคนมาติดใต้ประตูเพื่ออุดช่องว่างระหว่างบานประตูกับพื้น

🔹 วางเตียงนอนและโต๊ะทำงานให้ห่างจากผนังหรือมุมห้อง ระยะห่างระหว่างเตียงหรือโต๊ะทำงานกับผนังจะช่วยลดทอนการถ่ายทอดเสียง จึงจะทำให้เสียงดังน้อยลง

🔹 ปลูกต้นไม้รอบบ้าน ต้นไม้ช่วยป้องกันหรือสะท้อนเสียงที่จะเข้ามาในบ้านให้ออกไปได้ ในกรณีที่อยู่อาศัยในคอนโด อาจตกแต่งคอนโดด้วยต้นไม้จริงที่ระเบียง และต้นไม้เทียมหรือต้นไม้จริงที่จะไม่แย่งออกซิเจนที่ผนังฝั่งที่ติดกับเพื่อนบ้าน

___________________________________________

2️⃣ เจรจาขอความร่วมมือ

หากเสียงดังมากจริง ๆ จนตัวช่วยในข้างต้นไม่ได้ผลดี และดูแล้วเพื่อนบ้านน่าจะสามารถพูดคุยกันได้ ให้ลองแก้ปัญหาด้วยการเกริ่นถึงปัญหาเสียงดังที่เกิดขึ้น หากพอจะพูดคุยกันรู้เรื่อง ก็ขอให้เพื่อนบ้านช่วยลดเสียงหรืออย่าส่งเสียงดังยามวิกาลหรือในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมก็ลองพูดขอให้ลดเสียงหรืออย่าส่งเสียงดังยามวิกาลหรือในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม

___________________________________________

3️⃣ ขอความช่วยเหลือจากนิติบุคคลกรณีคอนโดและหมู่บ้านจัดสรร

หากดูแล้วไม่น่าจะคุยกับเพื่อนบ้านได้ หรือได้ขอร้องกันดี ๆ แล้วไม่ได้ผล แก้ปัญหาเพื่อนบ้านเสียงดังนี้ได้โดยไปร้องเรียนกับนิติบุคคล ซึ่งมีหน้าที่ดูแลปัญหาภายในคอนโดหรือหมู่บ้านจัดสรรที่คุณอยู่อาศัย นิติบุคคลจะแจ้งเตือนและเข้าไปคุยกับเพื่อนบ้านของคุณเพื่อให้ลด ละ หรือเลิกการสร้างเสียงรบกวน

___________________________________________

4️⃣ ขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

แต่หากขั้นตอนที่ 1, 2 และ 3 ไม่ช่วยอะไร ลองจัดการปัญหาเพื่อนบ้านเสียงดังด้วยกฎหมาย ทั้งแพ่งและอาญา

🔹 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และ 421 ผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นในด้านชีวิต ร่ายกาย อนามัย เสรีภาพ หรือสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งในกรณีนี้ ถือว่า เพื่อนบ้านได้ส่งเสียงดังรบกวนการพักผ่อนอันมีผลต่อสุขภาพอนามัยและละเมิดสิทธิในการอยู่อาศัยอย่างสงบนั้น ศาลสามารถออกคำสั่งให้เพื่อนบ้านหยุดพฤติกรรมเสียงดังได้ และเพื่อนบ้านก็ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนหากเกิดความเสียหาย

🔹 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 370 ผู้ที่ส่งเสียงดังอันไม่มีเหตุอันสมควรและทำให้บุคคลอื่นเดือดร้อน มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และตามมาตรา 371 หากเป็นการส่งเสียงดังที่คุกคามต่อคนจำนวนมาก มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

___________________________________________

🔷 แหล่งที่มาของบทความ จาก DD Property


#อสังหา #ซื้อบ้าน #ขายบ้าน #เช่าบ้าน #ฝากขาย #นายหน้า #บ้าน #คอนโด

02/09/2024

🏡💸 ใครก็ตามที่กู้ซื้อบ้านหรือคอนโดอยู่ เชื่อเหลือเกินว่าจะต้องเคยได้ยินคำว่า “รีไฟแนนซ์” ผ่านหูแน่นอนไม่มากก็น้อย ซึ่งในความหมายของการ “รีไฟแนนซ์” (Refinance) นั้น ก็คือ การกู้เงินก้อนใหม่มาโปะหนี้เก่าให้หมดไป เพื่อ “หนีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น” ในการผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโดที่จำนวนปีสูงขึ้นนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม เราจะพิจารณาเพียงแค่ตัวเลขอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ที่ต่ำลงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญไม่แพ้กันด้วยดังต่อไปนี้


1️⃣ ค่าใช้จ่ายในการทำรีไฟแนนซ์

ในการทำรีไฟแนนซ์นั้น จะมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่เราจะต้องเสีย อาทิ ค่าปรับการคืนเงินกู้ก่อนสัญญา ประมาณ 2-3% ของวงเงินกู้เต็มจำนวน ค่าจัดการสินเชื่อสัญญาใหม่ ค่าธรรมเนียมในการจดจำนอง ค่าประเมินหลักประกันใหม่ ค่าประกันอัคคีภัย ค่าอากรแสตมป์ เป็นต้น ซึ่งเราจะต้องคำนวณค่าใช้จ่ายเหล่านี้ออกมาให้ชัด จะได้เห็นว่า ดอกเบี้ยที่ลดลงแล้วนั้น เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายดังกล่าว ก็ยังทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายน้อยลงจากการทำรีไฟแนนซ์หรือไม่ คุ้มค่ากันหรือเปล่าที่จะทำการรีไฟแนนซ์ รวมถึงค่าใช้จ่ายนี้ก็นับเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายทันทีด้วย ซึ่งรวมกันก็ไม่ใช่เงินน้อย ๆ หากเราไม่วางแผนให้พร้อมก่อน ก็จะกลายเป็นต้องดึงเงินก้อนใหญ่มาใช้จนอาจทำให้เกิดปัญหาทางการเงินตามมาภายหลังได้

___________________________________________

2️⃣ ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานขึ้น

ถือเป็นข้อเสียอันดับหนึ่งเลยของการทำรีไฟแนนซ์ คือทำให้เรามีภาระการผ่อนชำระยาวนานออกไปอีก เพราะเมื่อเราไปกู้หนี้ใหม่มาโปะหนี้เดิม แม้ค่างวดจะลดลงได้ ดอกเบี้ยลดลงได้ แต่ระยะเวลาภาระผูกพันในการผ่อนจะยืดยาวออกไป ซึ่งหากเราไม่ได้มีเป้าหมายในการผ่อนนาน ๆ ไม่ได้อยากเป็นหนี้ไปนาน ๆ ที่หากเสียชีวิตไประหว่างทาง หนี้ก้อนนี้จะกลายเป็นภาระลูกหลานล่ะก็ การรีไฟแนนซ์ก็อาจไม่ได้ตอบโจทย์เท่าไร แต่การหาเงินก้อนมาจบหนี้ให้ไวน่าจะเป็นทางออกที่ตอบโจทย์มากกว่า

___________________________________________

3️⃣ สถานะความมั่นคงทางการเงิน

ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถทำรีไฟแนนซ์บ้านได้เลยง่าย ๆ แต่การจะทำรีไฟแนนซ์หรือขอกู้หนี้ก้อนใหม่มาโปะก้อนเดิมได้นั้น สถานะทางการเงินของเราจะต้องมั่นคงมากพอให้ธนาคารยอมอนุมัติเงินกู้ให้ด้วย กล่าวคือ ถ้าเรากำลังตกงาน เพิ่งเริ่มงานใหม่ได้ไม่นาน หรือเงินเดือน รายได้ ไม่ได้มากพอที่จะขอกู้วงเงินใหม่ผ่านได้ ก็จะไม่สามารถทำการรีไฟแนนซ์ได้สำเร็จ ซึ่งการทำเรื่องขอรีไฟแนนซ์นั้น จะต้องใช้เวลาและการเตรียมเอกสารจำนวนมาก ดังนั้น หากตัดสินใจจะทำรีไฟแนนซ์จริง ๆ ก็ต้องมั่นใจด้วยว่าในช่วงเวลานั้น การเงินของเราไม่มีปัญหา

___________________________________________

การรีไฟแนนซ์ เป็นการทำเพื่อให้เราแบกรับภาระค่างวดผ่อนที่น้อยลง ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงเป็นสำคัญ ซึ่งย่อมเป็นเรื่องที่ดีมากกว่าเสีย แต่การจะการันตีว่าการรีไฟแนนซ์จะเป็นประโยชน์ได้จริง ๆ นั้น เราก็จะต้องพิจารณาปัจจัยรอบด้านให้รอบคอบก่อนด้วย โดยเราจะต้องพิจารณาเปรียบเทียบหาอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า ให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้อย่างแท้จริง โดยต้องไม่ลืมคำนวณค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์เข้าไปด้วย ไม่เช่นนั้นแล้ว ก็จะทำให้การรีไฟแนนซ์ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเสียเวลาทุ่มเทในการดำเนินการเท่าที่ควร

___________________________________________

🔷 แหล่งที่มาของบทความ จาก REIC


#อสังหา #ซื้อบ้าน #ขายบ้าน #เช่าบ้าน #ฝากขาย #นายหน้า #บ้าน #คอนโด

30/08/2024

การไม่จ่าย #ค่าส่วนกลาง จะมีผลเสียอย่างไร? ❌💸

หากนิติบุคคลไม่สามารถเก็บค่าส่วนกลางได้ตามเป้าหมายในระดับหนึ่ง จะทำให้งบประมาณในการดูแลรักษาไม่เพียงพอ ซึ่งจะส่งผลกระทบดังนี้

🔹 ทำให้ผู้อยู่อาศัยต้องประสบกับสภาพพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ชำรุดทรุดโทรมลง รวมทั้งไม่ได้รับการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่หรืออาจเกิดความบกพร่องในการรักษาความปลอดภัยได้

🔹 ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมของโครงการจะสูงขึ้นกว่าที่ควรเป็น เพราะการขาดงบประมาณดูแลรักษาให้ดีอย่างสม่ำเสมอจะส่งผลให้อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ และระบบต่าง ๆ ชำรุดได้ง่ายและเร็วขึ้น

🔹 #บ้าน หรือ #คอนโด ดูไม่น่าอยู่จากผลกระทบ 2 ข้อในข้างต้น จึงทำให้ขายและปล่อยเช่าไม่ได้ราคาดี


___________________________________________

ไม่จ่ายค่าส่วนกลางได้หรือไม่? 💸

ไม่จ่ายค่าส่วนกลางได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ได้ เนื่องจากสาเหตุสำคัญ 2 ประการคือ

🔹 ตามปกติแล้ว สัญญาซื้อขายบ้าน/คอนโดจะระบุไว้ว่าเจ้าของห้องชุด/บ้านมีหน้าที่ต้องเสียค่าส่วนกลาง นั่นคือ ผู้ซื้อได้ตกลงไว้แล้วว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนี้

🔹 มีกฎหมายดำเนินการกับผู้ที่ค้างชำระค่าส่วนกลาง โดยตาม พ.ร.บ. จัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 กำหนดให้นิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการดูแลโครงการ สามารถดำเนินการระงับการให้บริการเจ้าของห้องชุด/บ้านที่ค้างชำระเงินค่าส่วนกลางได้ รวมถึงสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อบังคับให้จ่ายได้ด้วย

ดังนั้น ผู้ที่ไม่จ่ายค่าส่วนกลางตามกำหนดจึงต้องเสียค่าปรับค่าส่วนกลาง

___________________________________________

จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ที่ไม่จ่ายค่าส่วนกลาง? 💸

นิติบุคคลมีอำนาจในการดำเนินการกับผู้ที่ค้างชำระค่าส่วนกลาง ซึ่งนอกจากเสียค่าปรับค่าส่วนกลางแล้วยังโดนตัดสิทธิ์ในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้

กรณีนิติบุคคลคอนโด

1️⃣ สามารถถูกเรียกเก็บค่าปรับค่าส่วนกลาง 12-20% ของยอดที่ต้องชำระพร้อมดอกเบี้ยหากไม่จ่ายตามกำหนด

2️⃣ ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงในที่ประชุม

3️⃣ ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้จนกว่าจะจ่ายค่าส่วนกลางคอนโดพร้อมค่าปรับค่าส่วนกลางและดอกเบี้ยอย่างครบถ้วน และได้รับใบปลอดหนี้จากนิติบุคคล

4️⃣ สามารถถูกฟ้องร้องเพื่อบังคับให้ชำระหนี้

กรณีนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร

1️⃣ สามารถถูกเรียกเก็บค่าปรับค่าส่วนกลาง 10-15% ของยอดที่ต้องชำระพร้อมดอกเบี้ยหากไม่จ่ายตามกำหนด

2️⃣ สามารถถูกระงับการให้บริการพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกหากค้างชำระเกิน 3 เดือน

3️⃣ สามารถถูกอายัดไม่ให้จดทะเบียนสิทธิหรือทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับโครงการ รวมถึงการขายด้วย หากค้างชำระเกิน 6 เดือน

4️⃣ สามารถถูกฟ้องร้องเพื่อบังคับให้ชำระหนี้

ทั้งนี้ รายละเอียดของบทลงโทษขึ้นอยู่กับนิติบุคคลของแต่ละโครงการ

___________________________________________

ขอยกเว้นค่าส่วนกลางได้หรือไม่? 💸

ตามกฎหมายแล้ว ไม่ได้ เว้นแต่ไม่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางค้างชำระของบ้านหรือคอนโดที่ซื้อมาจากการประมูลทรัพย์สินขายทอดตลาดของกรมบังคับคดีเท่านั้น หมายความว่า หากซื้อบ้านหรือคอนโดอื่นที่มีการค้างชำระค่าส่วนกลาง ไม่ผู้ขาย ผู้ซื้อ หรือทั้งผู้ขายและผู้ซื้อก็ต้องเคลียร์หนี้ที่ค้างชำระนั้นก่อน จึงจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้


___________________________________________

🔷 แหล่งที่มาของบทความ จาก DD Property : bit.ly/3Pr3yv7


#อสังหา #ซื้อบ้าน #ขายบ้าน #เช่าบ้าน #ฝากขาย #นายหน้า #บ้าน #คอนโด

26/08/2024

อาชีพอิสระอยาก #ซื้อบ้าน #กู้แบงก์ ให้ผ่านต้องทำอย่างไร? 💸🏦
อาชีพอิสระอยากซื้อบ้าน อยู่อาศัยเป็นของตนเอง กู้แบงก์ให้ผ่านต้องทำอย่างไร?
หากไม่สามารถซื้อด้วยเงินสด ไม่มั่นคงเหมือนคนทำงานประจำ
เมื่อคนทำงานอิสระ อยากมีบ้านอยู่อาศัยกับเขาสักหลัง ต้องการกู้แบงก์ให้ผ่าน จะทำอย่างไรให้แบงก์ไม่ปฏิเสธสินเชื่อ ใช่ว่าจะไม่มีหนทาง เมื่อเทียบกับคนทำงานประจำเพียงแต่ต้องมีความพยายาม มากกว่าคนทำงานประจำ ในการเก็บออมจากรายได้
มีเงินหมุนเวียนผ่านบัญชี มากพอ เก็บหลักฐานการเสียภาษี ประกันสังคม แสดงที่ตั้งของที่ทำงานส่วนตัวที่ตั้งที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง รายได้ผ่านบัญชีให้ชัดเจน ไม่มีภาระหนี้ครัวเรือนที่มากเกินตัว รวมถึงหนี้ที่เกิดจากบัตรเครดิตหรือการใช้เงินอนาคต
แม้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำมากกว่า มนุษย์เงินเดือน สิ่งที่เขาทำได้คือ ซื้อเงินสด แต่ยุคนี้ มีการผ่อนผันอาชีพมากขึ้นอาจเป็นเพราะคนทำงานอิสระมากขึ้นและธนาคารต้องการขยายฐานลูกค้านั่นเอง
สำหรับแนวทางง่ายๆในการเตรียมตัวขอกู้ซื้อบ้าน ของคนทำงานอิสระให้ผ่าน ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รวบรวมข้อมูลประกอบการตัดสินใจไว้ดังนี้
___________________________________________
1️⃣ เคลียร์เครดิตการเงินให้ดี ไม่ควรมีหนี้ ไม่ติดเครดิตบูโร 💵💳
ต้องไม่ลืมเสมอว่า สำหรับคนทำงานอิสระแล้ว ธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ จะมองว่าเรา เป็นผู้มีรายได้ที่ไม่มั่นคง แม้รายได้ต่อเดือนเราจะสูง แต่ก็มีโอกาสที่บางเดือนจะพลิกเป็นต่ำ หรือบางเดือนหากไม่มีงานเข้ามาก็อาจมีรายได้เป็นศูนย์ได้ ดังนั้น ยิ่งหากเราไม่มีเครดิตทางการเงินที่ดี
มีหนี้ต้องผ่อนชำระต่อเดือนให้มากที่สุด เช่น หนี้ผ่อนรถ ผ่อนโทรศัพท์มือถือ หนี้บัตรเครดิต ฯลฯ ก็ยิ่งทำให้โอกาสในการพิจารณาอนุมัติผ่านต่ำลงเท่านั้น และหากเรามีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดี ค้างชำระบ่อย ติดเครดิตบูโรด้วยแล้ว
ยิ่งแทบจะทำให้ปิดประตูโอกาสกู้ผ่านไปได้เลย ดังนั้น หากวางแผนอยากขอกู้ซื้อบ้าน จึงจำเป็นต้องสำรวจเครดิตทางการเงินตัวเองให้ดี เคลียร์หนี้เก่าให้เรียบร้อยก่อน จึงจะมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นที่จะกู้ผ่านสำเร็จได้
___________________________________________
2️⃣ แสดงเอกสารรายได้ และความมั่นคงรายได้ให้ชัดเจนที่สุด 🧑🏻‍💻💵
ก่อนจะทำการขอกู้ซื้อบ้าน สำหรับอาชีพอิสระ จำเป็นจะต้องรวบรวมเอกสารทางการเงินให้พร้อม เพื่อแสดงถึงความมั่นคงของรายได้ให้ธนาคารเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Statement แสดงสถานะการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 4-6 เดือน เพื่อให้ธนาคารเห็นว่ามีรายได้เข้าบัญชีจำนวนเท่าไร และต่อเนื่องเป็นประจำมากน้อยแค่ไหน
นอกจากนั้นก็ควรมีเอกสารที่แสดงถึงการเป็นผู้ชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสถาบันทางการเงินว่าเราเสียภาษีถูกต้องครบถ้วน ตลอดไปจนถึงเอกสารอื่น ๆ อย่างเช่น ใบเสร็จรับเงิน หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เอกสารสัญญาการว่าจ้างงานที่ทำกับบริษัทผู้ว่าจ้าง ฯลฯ
เอกสารเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้เราได้มากขึ้นว่า แม้จะเป็นฟรีแลนซ์ แต่ก็มีรายได้ที่มั่นคง เพียงพอที่จะสามารถผ่อนชำระค่างวดจากการขอกู้ซื้อบ้านได้
___________________________________________
3️⃣ รวบรวมเงินออม และทรัพย์สินอื่น ๆ ประกอบการขอกู้ 💵🏡
การมีเงินออม หรือมีสินทรัพย์ที่มีค่าอื่น ๆ แสดงความเป็นเจ้าของเองนั้น จะเปรียบเสมือนคนทำงานอิสระมีหลักประกันประกันว่า ถึงรายได้จะไม่มั่นคง แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ต้องจ่ายหนี้ ก็มีเงินหรือสินทรัพย์มีค่าที่นำมาใช้คลี่คลายปัญหาหนี้ได้
ไม่ว่าจะเป็นสลากออมสิน หุ้น พันธบัตร ประกันชีวิต หรือแม้แต่ที่ดิน ฯลฯ เรียกได้ว่า ยิ่งเรามีเงินเก็บ เงินเย็น และมีสินทรัพย์ที่มีค่าในครอบครองมากเท่าไร ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้เราสามารถขอกู้ซื้อบ้านได้ผ่านง่ายมากขึ้นเท่านั้น แม้จะเป็นฟรีแลนซ์ก็ตาม
___________________________________________
4️⃣ กู้ร่วมเพื่อเพิ่มโอกาสอนุมัติผ่านมากขึ้น 👫🏡✅
ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้อาชีพอิสระมีโอกาสเพิ่มสูงมากสำหรับการกู้ซื้อบ้านผ่าน ยิ่งถ้าคนที่จะมากู้ร่วมกับเราเป็นพนักงานประจำที่มีเงินเดือนมั่นคง มีเครดิตทางการเงินดี มีรายได้ดีด้วยแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสกู้ผ่านได้มากขึ้น เพราะแน่นอนว่าการกู้ร่วมคือการรวมเอาสถานะการเงินของคน 2 คนไว้ด้วยกัน
ทำให้มีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น และมีโอกาสที่จะผ่อนชำระได้อย่างไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะมาขอกู้ร่วมกับเรานั้น ควรเป็นญาติ พี่น้อง หรือคนในครอบครัว หรือเป็นคู่หมั้นคู่รักที่วางแผนจะแต่งงานกัน เพื่อป้องกันการผิดใจหรือการทะเลาะเบาะแว้ง ที่อาจทำให้มีปัญหาเรื่องการกู้ร่วมในภายหลัง
แม้อาชีพอิสระทำให้สามารถหารายได้ได้มาก มีอิสระมีโอกาสเติบโตได้สูง แต่ธนาคารก็ยังมองว่าเป็นอาชีพที่มีรายได้ไม่มั่นคงอยู่ดี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ธนาคารมักจะประเมินฐานรายได้ของฟรีแลนซ์ต่ำกว่าปกติเสมอ
เช่นคนทำงานอาชีพอิสระที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 100,000 บาท ธนาคารอาจประเมินฐานรายได้ของเราเหลือเพียง 30-70% คือ 30,000-70,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น จึงทำให้ยิ่งหากรายรับเฉลี่ยไม่สูง และมีหนี้ติดตัว ก็จะยิ่งถูกประเมินความสามารถในการผ่อนชำระได้ต่ำลงไปอีก อันเป็นเหตุผลที่ทำให้ฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน
___________________________________________
🔷 แหล่งที่มาของบทความ จาก ฐานเศรษฐกิจ : https://bit.ly/3Stur3G
#อสังหา #ซื้อบ้าน #ขายบ้าน #เช่าบ้าน #ฝากขาย #นายหน้า #บ้าน #คอนโด #สินเชื่อ #ที่ดิน #ขายที่ดิน #ปล่อยเช่า

23/08/2024

🏡 บ้านในฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สำหรับบางคนโครงการบ้านจัดสรรที่เปิดขายใหม่ในแต่ละปีอาจสวยถูกใจ แต่สำหรับบางคนนั้นไม่ใช่ จึงทำให้ทางออกเดียวที่พวกเขาจะได้บ้านที่สวยถูกใจ มีฟังก์ชั่นครบถ้วนอย่างที่ตัวเองต้องการก็คือ การสร้างบ้านด้วยตัวเอง ซึ่งการจะสร้างบ้านเป็นของตัวเองได้นั้นก็ต้องมีที่ดินเป็นของตัวเองก่อน และการซื้อที่ดินเป็นของตัวเองเอาไว้สำหรับปลูกบ้านนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นก้าวแรกที่ต้องใส่ใจอย่างมาก เพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาภายหลัง โดยสำหรับใครก็ตามที่อยากซื้อที่ดิเนเปล่าเอาไว้สำหรับปลูกบ้านอยู่เอง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมในเรื่องสำคัญต่าง ๆ ดังต่อไปนี้


1️⃣ เตรียมเลือกทำเลที่ดินที่ตอบโจทย์

บ้านที่เราปลูกขึ้นมาเพื่ออยู่อาศัยเองกับครอบครัวนั้น จะไม่สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข สะดวกสบาย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างที่ต้องการได้เลย หากเราปลูกบ้านบนที่ดินที่ไม่ใช่ทำเลที่มีคุณภาพ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เช่น หากเราเลือกซื้อที่ดินที่อยู่ติดกับนิคมอุตสาหกรรม ก็จะต้องเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษได้ หรือถ้าเราเลือกซื้อที่ดินที่มีปัญหาน้ำท่วม ก็จะเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาวุ่นวายตามมาในทุกปีที่ฝนตกหนักได้ เป็นต้น ดังนั้น การเลือกซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านนั้น ต้องให้ความสำคัญกับการพิจารณาเลือกทำเลให้ดี โดยจะต้องเลือกที่ดินที่ตอบโจทย์กับการอยู่อาศัย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวเราให้ได้มากที่สุด เช่น อยู่ติดกับสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ เป็นแหล่งเมือง ชุมชน ติดถนน เดินทางเข้าออกสะดวก เป็นต้น

___________________________________________

2️⃣ เตรียมความพร้อมทางด้านการเงิน

ที่ดินแปลงหนึ่งนั้นมีราคาสูงต่ำขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งขนาดเล็กใหญ่ ทำเลที่ตั้ง ตลอดจนความต้องการที่ดินในบริเวณโดยรอบนั้นว่ามีมากแค่ไหน ซึ่งยิ่งพื้นที่โดยรอบมีโครงการพัฒนาอสังหาฯ อยู่มาก ก็จะส่งผลให้ที่ดินบริเวณนั้นมีราคาสูงตามไปด้วย ดังนั้น หากต้องการที่จะซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านเอง เมื่อเลือกทำเลได้แล้ว ก็จะต้องตรวจสอบราคาประเมินที่ดิน รวมถึงต้องพิจารณาถึงราคาประเมินสำหรับการก่อสร้างบ้านาที่เราต้องการด้วย เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนที่สุดว่าจะต้องใช้เงินมากน้อยเพียงใดในการซื้อที่ดินปลูกบ้านในครั้งนี้ จากนั้นก็กลับมาสำรวจความพร้อมทางการเงินของตัวเองว่ามีกำลังเงินทุนมากพอหรือไม่ ซึ่งจะต้องเผื่อเงินทุนสำรองฉุกเฉินเอาไว้ด้วยสำหรับใช้รับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โดยหากตรวจสอบความพร้อมทางด้านการเงินแล้วพบว่ายังไม่ไหว ก็ควรเลื่อนระยะเวลาการตัดสินใจในการซื้อที่ดินสำหรับปลูกบ้านออกไปก่อน

___________________________________________

3️⃣ เตรียมเอกสารในการขอกู้ซื้อที่ดิน

แม้จะมีความพร้อมทางการเงินแค่ไหน ทางที่ปลอดภัยที่สุดที่ทำให้เราสามารถซื้อที่ดินปลูกบ้านเองได้แบบเสี่ยงเรื่องเงินน้อยที่สุดก็คือ การขอกู้ซื้อที่ดิน ซึ่งสามารถทำได้ โดยการขอกู้ซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านนั้น ธนาคารจะให้วงเงินกู้สูงกว่าการขอกู้ซื้อที่ดินเปล่าอย่างเดียวโดยไม่ได้นำเอาไปใช้ปลูกบ้าน ดังนั้น เพื่อให้การขอกู้ซื้อที่ดินเป็นไปด้วยความราบรื่นและได้รับอนุมัติวงเงินกู้สูงที่สุด ผู้ขอกู้จึงต้องเตรียมเอกสารสำคัญให้ครบถ้วน อาทิ แบบแปลนบ้านและสัญญาจ้างรับเหมาก่อสร้าง ใบอนุญาตในการถมที่และก่อสร้าง เป็นต้น เพราะเอกสารเหล่านี้จะเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นเป้าหมายของการกู้ซื้อที่ดินอย่างชัดเจนว่าเป็นไปเพื่อการปลูกบ้านอยู่อาศัยเอง ไม่ได้ซื้อเพื่อการลงทุนที่อาจมีความเสี่ยงได้มากกว่า

___________________________________________

บ้านจัดสรรสวย ๆ ในตลาดอาจไม่ได้สวยถูกใจไปเสียหมดทุกคน ในขณะที่แม้บางทีจะสวยถูกใจแล้ว แต่ทำเลก็อาจจะยังไม่ใช่ รวมไปถึงราคาก็อาจจะเอื้อมคว้าไม่ไหวก็ได้ การซื้อที่ดินเปล่าแล้วปลูกบ้านอยู่เองนั้น จึงถือเป็นหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ให้ความฝันในการมีบ้านของเราสมบูรณ์แบบได้ ตรงตามความต้องการของเราและครอบครัวมากที่สุด ซึ่งสามารถขอกู้ซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านได้จากธนาคารและมีโอกาสได้รับอนุมัติผ่านได้ไม่ยากเลย หากเราเตรียมความพร้อมเรื่องเงินและเรื่องเอกสารต่าง ๆ ในการสร้างบ้านเอาไว้ให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินหน้าขอปรึกษายื่นกู้กับทางธนาคาร

___________________________________________

🔷 แหล่งที่มาของบทความ จาก REIC


#อสังหา #ซื้อบ้าน #ขายบ้าน #เช่าบ้าน #ฝากขาย #นายหน้า #บ้าน #คอนโด

22/08/2024

🏡 การ “กู้ร่วม” คือหนึ่งในวิธีการที่จะช่วยให้ความฝันในการอยากมีบ้านเป็นของตัวเองสำเร็จได้ง่ายมากขึ้น เพราะการกู้ร่วมมีสิทธิ์ที่จะทำให้เราขออนุมัติสินเชื่อกู้ซื้อบ้านผ่านได้มากกว่าเดิมที่ยื่นกู้คนเดียว โดยเหตุผลก็เพราะการกู้ร่วมจะหมายถึงการนำเอารายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของเราและผู้ที่กู้ร่วมกับเรามารวมกัน ทำให้มีคนมาช่วยรับผิดชอบชำระหนี้เพิ่มขึ้น ธนาคารจึงมีแนวโน้มที่จะอนุมัติผ่านได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม การจะกู้ร่วมได้นั้น ก็ไม่ใช่ว่าเราจะกู้ร่วมกับใครก็ได้ แต่ผู้ที่เราสามารถขอให้มากู้ร่วมซื้อบ้านซื้อคอนโดกับเราได้นั้น ได้แก่


🔹 ครอบครัวที่มีนามสกุลเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือว่าลูกของเรา

🔹 พี่น้องที่คนละนามสกุล แต่จำเป็นจะต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตนให้ได้ว่า ผู้กู้ร่วมเป็นพี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกันกับเรา

🔹 สามี-ภรรยา ซึ่งจะจดทะเบียนสมรสกันหรือไม่ก็ได้ โดยในกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย ก็จะต้องแสดงหลักฐานยืนยันให้เห็นว่าเป็นสามีภรรยากันจริง อยู่ร่วมกันจริง เช่น เอกสารรับรองบุตร

___________________________________________

คู่รัก LGBT ขอกู้ร่วมได้หรือไม่ ?

.

ปัจจุบันความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเศได้รับการยอมรับในวงกว้าง จึงทำให้คู่รัก LGBT จำนวนไม่น้อยที่มีข้อสงสัยว่าจะสามารถกู้ร่วมซื้อบ้านได้หรือไม่ ทั้งนี้ ถ้าตอบโดยพิจารณาตามหลักการกู้ร่วมแล้ว จะไม่สามารถที่จะกู้ร่วมได้ เพราะไม่มีหลักฐานที่แสดงถึงความสัมพันธ์ในทางกฎหมาย เช่นเป็นพ่อแม่ พี่น้อง หรือว่าเป็นสามีภรรยา แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกฎหมายสมรสเท่าเทียมก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา และมีแนวโน้มว่าจะได้รับการอนุมัติ เพื่อให้สิทธิ์กับทุกคนอย่างเท่าเทียม จึงทำให้ทุกวันนี้ มีธนาคารหลายแห่ง ที่สามารถให้คู่รัก LGBT ทำการกู้ร่วมซื้อบ้านได้ อาทิ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ฯลฯ ซึ่งเงื่อนไขก็จะเป็นไปตามที่แต่ละธนาคารกำหนด

___________________________________________



การกู้ร่วมซื้อบ้านมีข้อควรระวังใดบ้าง ที่ต้องคำนึงถึงเป็นพิเศษ?

.

แม้โดยหลักการแล้วการกู้ร่วมจะให้กู้ร่วมได้เฉพาะกับครอบครัวและคนรักตามกฎหมาย เพื่อให้ลดความเสี่ยงเรื่องความบาดหมางทะเลาะเบาะแว้งกันในระหว่างการเป็นหนี้ร่วมกัน แต่ในความเป็นจริงด้วยระยะเวลาในการกู้ร่วมที่ยาวนาน จึงอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้เสมอ ดังนั้น ผู้กู้ร่วมทั้ง 2 คน จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลได้ผลเสีย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งตามมาภายหลัง ที่สำคัญคือ สุดท้ายแล้วหากมีเหตุการณ์ใดก็ตามที่ทำให้ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้ตามเงื่อนไข ก็จะมีสิทธิ์ถูกยึดบ้านได้อยู่ดี การกู้ร่วมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการหาวิธีกู้ให้ผ่านได้เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของความรับผิดชอบร่วมกันที่จะผ่อนชำระหนี้ไปให้ผ่านได้จนถึงงวดสุดท้ายด้วย

___________________________________________

การกู้ร่วมซื้อบ้านมีโอกาสทำให้เราขอกู้ซื้อบ้านผ่านได้ง่ายขึ้นจริง แต่นั่นก็หมายความว่า ผู้ที่เราพามากู้ร่วมด้วยนั้นจะต้องมีรายได้มั่นคง ไม่มีหนี้มากเกินไป และมีความสามารถในการผ่อนชำระด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นแล้ว ถึงกู้ร่วม 2 คนก็อาจไม่เพียงพอให้ธนาคารพิจารณาอนุมัติผ่านได้อยู่ดี ทั้งนี้ ยังต้องรวมไปถึงราคาของบ้านหรือคอนโดที่ซื้อด้วยว่าไม่ควรสูงเกินกว่าความสามารถในการผ่อนชำระของเรา และสุดท้ายเพื่อให้การกู้ร่วมซื้อบ้านผ่านไปได้อย่างราบรื่นจนสามารถผ่อนจบโอนกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของได้สำเร็จ ผู้กู้และผู้กู้ร่วมจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด

___________________________________________

🔷 แหล่งที่มาของบทความ จาก REIC


#อสังหา #ซื้อบ้าน #ขายบ้าน #เช่าบ้าน #ฝากขาย #นายหน้า #บ้าน #คอนโด

21/08/2024

🏡 เปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ จากเดิมผ่อนบ้านหลังเล็ก ผ่อนคอนโดห้องเล็กอยู่คนเดียว เมื่อแต่งงานมีครอบครัว หรือมีลูก หรือต้องรับญาติพี่น้องเข้ามาอยู่ด้วย ก็อาจจะต้องซื้อบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม หรือบางทีผ่อนบ้านอยู่กับครอบครัวอยู่ดี ๆ เกิดต้องย้ายที่ทำงานใหม่ ก็อาจมีเหตุให้ต้องไปผ่อนคอนโดห้องเล็กเพิ่มอีกห้องใกล้ออฟฟิศให้เดินทางทำงานสะดวกได้มากกว่า ฯลฯ ซึ่งเมื่อชีวิตเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ก็มักมีคำถามว่า จะสามารถผ่อนบ้านหลังที่ 2 เพิ่มได้ไหมถ้าหลังแรกยังผ่อนไม่หมด จะสามารถกู้ขอสินเชื่อกับธนาคารผ่านได้หรือไม่ คำตอบคือสามารถทำได้ แต่ก็ต้องเตรียมความพร้อมทางการเงินให้ดี โดยมีแนวทางที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขอกู้ซื้อบ้านหลังที่สองให้อนุมัติผ่านง่ายขึ้น ดังต่อไปนี้


1️⃣ แสดงสถานะการเงินให้เห็นว่าเราผ่อนไหว

หลักการสำคัญที่สุดของการพิจารณาอนุมัติปล่อยกู้ของธนาคาร คือธนาคารจะยอมให้กู้ผ่านก็ต่อเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ขอกู้จะผ่อนไหว ดังนั้น ผู้ขอกู้จึงต้องเตรียมสถานะการเงินให้ธนาคารเห็นว่ามีความสามารถในการผ่อนชำระได้ ทั้งนี้ วิธีคิดหาความสามารถในการผ่อนชำระคือ คนเราไม่ควรมีภาระผ่อนเกิน 40% ของเงินเดือน เช่น ถ้าเราเงินเดือน 100,000 บาท ค่าผ่อนต่อเดือนก็ไม่ควรเกิน 40,000 บาท ดังนั้น หากบ้านหลังแรกเราต้องผ่อนอยู่เดือนละ 15,000 บาท ก็เท่ากับว่า เรายังเหลือความสามารถในการผ่อนอยู่อีก 25,000 บาท ถ้าหากขอกู้ซื้อบ้านที่ราคาผ่อนไม่เกิน 25,000 บาท ต่อเดือน โอกาสอนุมัติผ่านก็จะไม่ได้ยากเย็นอะไร แต่ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมภาระหนี้สินอื่น ๆ ของเราด้วย เช่น ค่าผ่อนรถ หรือสินเชื่ออื่น ๆ โดยถ้าหากเราหนี้อื่นติดตัวอยู่มาก แล้วคำนวณพบว่าความสามารถในการผ่อนชำระไม่เพียงพอ ก็อาจจะกู้ไม่ผ่านได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้เอง หากอยากกู้ซื้อบ้านหลังที่สองผ่านในขณะที่ยังผ่อนหลังแรกอยู่ เราก็ต้องประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของตัวเองให้เป็น เพื่อจะได้เลือกบ้านหลังที่สองได้ในราคาที่เหมาะสมกับการขอกู้ให้ผ่านง่ายขึ้น หรือหารายได้เพิ่มขึ้นเพื่อให้เรามีความสามารถในการผ่อนชำระสูงขึ้นนั่นเอง

___________________________________________

2️⃣ ใช้วิธีขอสินเชื่อบ้านแบบกู้ร่วม

ในเมื่อเหตุผลที่จะทำให้กู้ไม่ผ่านเป็นเพราะธนาคารมองว่าเราผ่อนไม่ไหว รายได้ไม่มากพอ รวมถึงมีหนี้บ้านหลังแรกค้ำคอ มีหนี้อื่น ๆ ประกอบจนเพิ่มความเสี่ยง ซึ่งถ้าเราไม่สามารถเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระให้ตัวเองได้โดยตรง ก็ต้องให้คนที่มีความสามารถในการผ่อนชำระมากู้ร่วมกับเราเพื่อช่วยผ่อน การขอกู้ร่วมจะเปรียบได้กับการเอาเงินเดือนของคนสองคนมารวมกัน เอาความสามารถในการผ่อนชำระของคนสองคนมารวมกันจึงทำให้สถานะการเงินดีขึ้นกว่ากู้คนเดียวหลายเท่า จึงมีโอกาสทำให้กู้ซื้อบ้านหลังที่สองผ่านได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ เราก็จำเป็นต้องพิจารณาสถานะการเงินของผู้กู้ร่วมด้วยว่าเป็นอย่างไร เพราะถ้าเงินเดือนผู้กู้ร่วมไม่สูง มีหนี้ติดตัวเยอะ เมื่อรวมกันแล้วก็อาจจะขอกู้ร่วมไม่ผ่านอยู่ดีก็เป็นได้

___________________________________________

3️⃣ ทำให้หนี้ที่มีอยู่เหลือน้อยที่สุด

ความสามารถในการผ่อนชำระของผู้กู้จะเพิ่มขึ้นได้ ถ้าไม่ได้มาจากการหารายได้เพิ่ม หาคนมากู้ร่วมด้วย ก็ต้องทำให้หนี้เดิมที่มีอยู่นั้นน้อยลง เพราะเมื่องวดผ่อนต่อเดือนน้อยลงก็จะทำให้ความสามารถในการผ่อนเพิ่มขึ้นทันที โดยแนวทางที่สามารถทำได้นั้น มีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ การรีไฟแนนซ์บ้านหลังแรกให้ดอกเบี้ยต่ำลงยอดผ่อนลดลง แต่ก็จะทำได้ในกรณีที่ผ่อนมาแล้ว 3 ปีเท่านั้น ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือ การวางเงินดาวน์ในการซื้อบ้านหลังที่ 2 ให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าเราวางเงินดาวน์เยอะ ยอดกู้ก็จะน้อยลง ก็เท่ากับว่าหนี้ หรืองวดผ่อนของหลังที่สองก็จะน้อยลง ทำให้ความสามารถในการผ่อนของเรามีโอกาสได้รับอนุมัติจากธนาคารผ่านได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

___________________________________________

แม้จะผ่อนบ้านหลังแรกหรือคอนโดห้องแรกยังไม่หมด เราก็มีโอกาสที่จะขอกู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 หรือคอนโดห้องที่สองเพิ่มจากธนาคารได้ โดยสิ่งสำคัญอยู่ที่เราต้องมีสถานะการเงินที่มั่นคง มีรายได้ที่มากพอที่จะผ่อนชำระได้อย่างไม่มีปัญหา แต่อย่างไรก็ตาม แม้เราจะมีสถานะการเงินที่มั่นคง มีความสามารถในการผ่อนชำระที่ธนาคารยอมให้อนุมัติผ่านแล้ว ตัวเราเองก็ต้องมั่นใจด้วยว่าจะมีวินัยทางการเงินมากพอที่จะบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการผ่อนบ้านพร้อมกันสองหลังนั้น ถือเป็นภาระที่หนักอึ้ง ซึ่งหากบริหารจัดการเงินไม่ดี หรือประเมินความเสี่ยงทางการเงินไว้ไม่รอบคอบพอ เช่น ตกงานกลางครัน ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถหมุนเงินได้ทันและก่อให้เกิดวิกฤตการเงินขึ้นกับชีวิตและครอบครัวคนที่รักได้

___________________________________________

🔷 แหล่งที่มาของบทความ จาก REIC


#อสังหา #ซื้อบ้าน #ขายบ้าน #เช่าบ้าน #ฝากขาย #นายหน้า #บ้าน #คอนโด

ต้องการให้ธุรกิจของคุณ ธุรกิจ ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง การปฏิบัติตามกฎหมาย ใน Bangkok?
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?

วิดีโอทั้งหมด (แสดงผลทั้งหมด)

Casa Ville รามอินทรา-วงแหวน2 บ้านเดี่ยว 52.3 ตรว ตกแต่งบิวด์อิน SB เฟอร์นิเจอร์ พร้อมเข้าอยู่  ราคาเพียง 6,950,000 บาท ส...
Aqua Divina by สัมมากร รามคำแหง94 Rare item บ้านหลังมุมติดสวน พื้นที่ใช้สอย 236 ตรม เนื้อที่ดิน 80.3 ตรว  ราคา 12,900,00...
ขายที่ดินเพชรเกษม68  ถมแล้ว มีรั้วคอนกรีตแล้ว พร้อมใช้ เนื้อที่ 183 ตรว จากถนนเพชรเกษมเพียง 700 เมตร สนใจติดต่อ 081-829 ...
Available For Rent.  29,000 baht/month, 🌟⭐️ H Sukhumvit43 Condominium . 1 Bed 1 Bath 500 meters from Prom-Pong BTS. Call...
ทาวน์โฮม 3 ชั้น ทำออฟฟิสได้ อยู่อาศัยได้ ห่างรถไฟฟ้า 150 เมตร ต้นซอยรามอินทรา65 สวยพร้อมอยู่ ราคา 5.69 ลบ สนใจติดต่อ 081...
ให้เช้าบ้านเดี่ยว 25,000 บาทต่อเดือน 3 น/ 3 น , ห้องอเนกประสงค์ เรือนเล็กรับรอง  หลังมุม  บ้านนันทวัน รามคำแหง94 ติดสถาน...
🔥🔥Hot Sales!!! Last Price🔥🔥 #Vtara Sukhumvit36 Condomenium, Sukhumvit 36 , ⭐️🌟#BTS ThongLor, Bangkok , Thailand.  ขาย#รา...
#Hot Sale 🔥🔥🔥#รับฝากขาย บ้านที่ดิน คอนโด โกดัง #รับปรึกษาการตลาดฟรี   #ติดต่อเข้าชม  081-829 3649 #รับส่วนลด ภายใน กพ 25...
#ติดต่อเข้าชม #รับฝากขาย บ้านที่ดิน โกดัง #รับปรึกษาการตลาดฟรี

เบอร์โทรศัพท์

เว็บไซต์

ที่อยู่


900/31 SV City Buildings. , Bld2 2 Floor, Room S21, S25-S28, Rama3 Road. BangPongPang Yannawa
Bangkok
10120

เวลาทำการ

จันทร์ 08:00 - 18:00
ศุกร์ 08:00 - 18:00

บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ อื่นๆใน Bangkok (แสดงผลทั้งหมด)
Agency for Real Estate Affairs - AREA Agency for Real Estate Affairs - AREA
5/15 ถ. นนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา
Bangkok, 10120

Thailand's independent property consultants specializing in international standard valuation, survey

Longstay Advisor Services Longstay Advisor Services
Bangkok, 10250

1 STOP CONSULTANT AGENCY for Medical & Business travellers by expert & professional team members.😊

Blossom Sathorn-Charoenrat Condo Blossom Sathorn-Charoenrat Condo
ถนนสาทร-เจริญราษฏร์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร
Bangkok, 10120

Blossom Sathorn-Charoenrat Condo For SALE and RENT 欢迎中国人 - 买/出租 共管公寓

GoodJob Handyman Thailand GoodJob Handyman Thailand
Bangkok, 10110

由過去為香港和泰國不同之酒店集團,到今天延伸到為各類型商場,住宅提

WorkStories Serviced Offices WorkStories Serviced Offices
81 Sukumvit Soi 2
Bangkok, 10110

👩🏻‍💻𝐍𝐄𝐖𝐄𝐒𝐓 𝐒𝐞𝐫𝐯𝐢𝐜𝐞𝐝 𝐎𝐟𝐟𝐢𝐜𝐞 for the NEW GENERATION in the heart of Bangkok!

Sense Property Sense Property
Bangkok, 11120

ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับการข?

Durian Prop Bangkok Durian Prop Bangkok
Muang Thai-Phatra Complex Buidling
Bangkok, 10310

Specializing in Buying and Selling real estate in Thailand.

Golden Gates Real Estate Development Golden Gates Real Estate Development
Bangkok, 10250

Golden Gates Development - ทีมงานมืออาชีพที่มีศักยภ?

IKEY Property Bangkok IKEY Property Bangkok
388/59 Biz Galleria, Nuanchan, Bueng K*m
Bangkok, 10230

PP AGENT PP AGENT
Sukhumvit Road
Bangkok, 10260

We are Professional Real Estate Consultants in Thailand, whether Buying, Renting, Selling or Investing. If you have any needs You can contact and inquire with our team at any time.

KN Asset and Property KN Asset and Property
เพชรเกษม
Bangkok, 10160

คอนโดเพื่อการลงทุน CDC Asset คอนโดเพื่อการลงทุน CDC Asset
ดอนเมือง
Bangkok, 10210

CDC ASSET คอนโดเพื่อการลงทุน - ที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ บ้านและคอนโด