BeautiBox
ตำแหน่งใกล้เคียง ร้านขายของ
100/408
(CDC)
Bangkok
ม. เดอะสวีทการ์เด้นวิลล์
bangkok
1745
587/10 ถนน กำแพงเพชร 2 แขวง จตุจักร เขต จตุจักร
10240
222/677 Platinum Fashion Mall Nathan 7
สินค้าเครื่องสำอางค์ น้ำหอม อาหารเ? ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและความงามSoulSkin
เช็คกันสักนิด
ประจำเดือนของคุณปกติหรือไม่
สีประจำเดือน
ควรมีสีแดง ไม่มีการแข็งตัวหรือเป็นลิ่ม
ปริมาณของประจำเดือน
โดยปกติจะอยู่ที่ 30 – 80 มล./ครั้ง ซึ่งปริมาณจะแตกต่างไปในแต่ละคน แนะนำให้สังเกตปริมาณจากจำนวนแผ่นผ้าอนามัยที่ใช้ หากมีการเปลี่ยนแปลง ควรจดบันทึกไว้
จำนวนวันที่ประจำเดือนมา
โดยปกติประจำเดือนจะมาประมาณ 3 – 7 วันต่อครั้ง
ซึ่งควรสังเกตและจดบันทึกเพื่อเฝ้าระวังความผิดปกติ
ระยะห่างของรอบประจำเดือน
โดยเฉลี่ยประมาณ 28 วัน อาจถี่หรือห่างกว่านี้ไม่เกิน 7 วัน ซึ่งนับจากวันแรกที่มีประจำเดือน จนถึงวันแรกของรอบเดือนหน้า
อาการที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างมีประจำเดือน
ท้องอืด
ตัวบวม
คัดเต้านม
ปวดหลัง
ในบางรายอาจมีอาการไมเกรนร่วมด้วย
หากสังเกตว่าลักษณะ ปริมาณ หรือความถี่ของการมีประจำเดือนเปลี่ยนแปลง
หรือมีอาการร่วมอื่นๆ ที่กระทบต่อการใช้ชีวิตหรือก่อให้เกิดความไม่สุขสบาย
ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยต่อไป
ข้อมูลโดย : ศ.นพ.สมชาย ธนวัฒนาเจริญ
ฝ่ายสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
ข้อมูล ณ วันที่ : 2 พฤศจิกายน 2567
อุจจาระร่วงเฉียบพลัน อันตราย
อุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute Diarrhea) คือ อาการถ่ายอุจจาระเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ อาจมีอาการปวดท้องบิด คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีไข้ต่ำ ๆ ร่วมด้วย หากอาการไม่รุนแรง มักดีขึ้นได้เองภายใน 3 – 5 วัน
สาเหตุ
การติดเชื้อไวรัส
การติดเชื้อแบคทีเรีย
อาหารเป็นพิษ
อาการที่ควรพบแพทย์ทันที
ไข้สูงนานเกิน 3 – 5 วัน
ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด
ถ่ายอุจจาระนานเกิน 3 – 5 วัน
อาเจียนรุนแรง
อาการขาดน้ำมาก
การป้องกัน
รับประทานอาหารปรุงสุกทุกครั้ง
ดื่มน้ำสะอาด
ไม่รับประทานอาหารหมดอายุ
ล้างมือบ่อยครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร และหลังใช้ห้องน้ำ
แนวทางการรักษา
1.การป้องกันและรักษาภาวะขาดน้ำ โดยการทดแทนด้วยสารน้ำ เนื่องจากร่างกายมีความจำเป็นที่ต้องรักษาระดับของเกลือแร่ โดยเฉพาะเกลือโซเดียมและโพแทสเซียมให้เพียงพอเพื่อรักษาระดับการเต้นของหัวใจ หากร่างกายสูญเสียความสมดุลของเกลือแร่และไม่สามารถทดแทนสารน้ำได้โดยการดื่มเกลือแร่ ภาวะการสูญเสียความสมดุลของเกลือแร่อาจส่งผลให้เกิดภาวะอันตรายได้ เช่น ชัก หมดสติ เป็นต้น
2. การให้ยาปฏิชีวนะ CENOXCIN (Norfloxacin) และยาต้านอุจจาระร่วง ขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์
ข้อมูลโดย : ศ.นพ.ชิษณุ พันธุ์เจริญ
สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์
ข้อมูล ณ วันที่ : 24 สิงหาคม 2567
รู้จักกับยาไวอากร้า และ XEGRA (Sildenafil)ใช้อย่างไร มีผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
หลายคนต้องเจอกับปัญหาสมรรถภาพทางเพศ โดยเฉพาะอาการหลั่งเร็ว นกเขาไม่ขัน หรือความต้องการทางเพศลดลง ทำให้ต้องหาตัวช่วยเพื่อเพิ่มสมรรถภาพเพศชายมากขึ้น ซึ่งไวอากร้าก็เป็นตัวเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากมีการโฆษณาถึงสรรพคุณที่จะช่วยเพิ่มความอึดทน ชะลอการหลั่งเร็ว และกระตุ้นความต้องการทางเพศได้ดี
ไวอากร้า XEGRA (Sildenafil) คือยาสำหรับกระตุ้นความต้องการทางเพศ รักษาอาการหลั่งเร็ว นกเขาไม่ขัน โดยจะออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศชาย ทำให้มีการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น และช่วยให้แข็งตัวได้นานกว่าเดิม หลายคนจึงมักจะกินไวอากร้าก่อนมีเพศสัมพันธ์นั่นเอง
ส่วนประกอบของยาไวอากร้ามีอะไรบ้าง
ยาไวอากร้า มีส่วนประกอบหลัก คือ ซินเดนาฟิล ซึ่งเป็นตัวยาที่มีส่วนช่วยในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยจัดอยู่ในกลุ่มยาขยายหลอดเลือด ทำให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือดบริเวณอวัยวะเพศชายมากขึ้น
กลไกการออกฤทธิ์ของไวอากร้า
กลไกการออกฤทธิ์ของยาไวอากร้า สรุปได้ดังนี้
เมื่อมีการกระตุ้นทางเพศ จะทำให้เกิดการหลั่งสารไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) จากเซลล์หลอดเลือดบริเวณอวัยวะเพศชาย
สารไนตริกออกไซด์จะกระตุ้นให้เอนไซม์ Cyclic Guanosine Monophosphate – cGMP ทำงานมากขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดคลายตัว
ซิลเดนาฟิล ซึ่งเป็นตัวยาสำคัญในไวอากร้าจะออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Phosphodiesterase Type 5 – PDE5
PDE5 เป็นเอนไซม์ที่จะย่อยสลายcGMP จึงทำให้ cGMP คงอยู่และออกฤทธิ์นานขึ้น
เมื่อ cGMP ออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดบริเวณอวัยวะเพศชายได้นานขึ้น จะส่งผลให้มีการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวและคงสภาพแข็งตัวอยู่ได้นาน
ผลข้างเคียง ข้อควรระวัง
ไวอากร้า หากใช้มากเกินไป หรือใช้ผิดวิธี รวมถึงในผู้ที่มีโรคประจำตัว อาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ จึงไม่ควรซื้อมาทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ ซึ่งตัวยาไวอากร้ามีผลข้างเคียงต่อร่างกายอย่างไร? มาดูกันเลย
ผลข้างเคียงทั่วไปที่พบบ่อย
โดยทั่วไปจะมีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย ๆ แต่ไม่เป็นอันตราย ดังนี้
ปวดศีรษะ เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย โดยอาจเกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดในสมอง ทำให้ได้รับเลือดมากขึ้น หรืออาจเกิดจากความไวต่อยาของแต่ละบุคคล อาการปวดศีรษะมักไม่รุนแรงและจะหายไปเองภายใน 1-2 ชั่วโมง
คลื่นไส้ พบได้บ่อยโดยเฉพาะในช่วงแรกของการใช้ยา อาจเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อลำไส้จากผลของการขยายหลอดเลือด
มึนงง สาเหตุเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นในสมอง ทำให้รู้สึกเวียนศีรษะบ้าง แต่มักไม่รุนแรงและหายไปเอง
ผลข้างเคียงที่ร้ายแรง
สำหรับผลข้างเคียงที่ร้ายแรงก็มีมากเช่นกัน ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ โดยมักจะพบผลข้างเคียงดังต่อไปนี้
การแข็งตัวนานเกิน 4 ชั่วโมง เป็นผลข้างเคียงที่รุนแรงที่สุดของยาไวอากร้า เนื่องจากอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่ออวัยวะเพศ หากเกิดขึ้นควรรีบพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาในทันที
ปวดหน้าอกรุนแรง หายใจลำบาก อาจเป็นอาการบ่งบอกภาวะหัวใจวาย เนื่องจากยาออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือดทั้งหมด รวมถึงหลอดเลือดหัวใจด้วย
สูญเสียการมองเห็นชั่วคราวหรือถาวร เกิดจากผลกระทบของการขยายหลอดเลือดไปยังจอประสาทตา ทำให้การไหลเวียนเลือดผิดปกติ อาจทำให้ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน หากพบอาการควรหยุดใช้ยา
ข้อห้ามใช้และข้อควรระวังในการใช้ยาไวอากร้า มีดังนี้
ผู้ป่วยที่กำลังได้รับยาสำหรับรักษาโรคหัวใจบางชนิด เช่น ยากลุ่มไนเทรตซึ่งเป็นยาขยายหลอดเลือดหัวใจ ไม่ควรใช้ร่วมกับไวอากร้า เนื่องจากตัวยาทั้งสองจะเสริมฤทธิ์กัน และมีผลต่อหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้
ผู้ป่วยที่มีโรคทางสายตา เช่น ต้อกระจกชนิดที่ไม่รู้สาเหตุ และ โรคจอประสาทตาเสื่อม เนื่องจากจะทำให้เสี่ยงสูญเสียการมองเห็นได้
ควรใช้ยาไวอากร้าด้วยความระมัดระวังในผู้สูงอายุเนื่องจากมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงมากกว่าคนหนุ่มสาว
ผู้ที่มีการทำงานของไต และตับผิดปกติ หรือมีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วยอาจต้องปรับขนาดยาลง และในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ ขอแนะนำให้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาไวอากร้าจะดีที่สุด
สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม หรือยาจากสมุนไพรบางชนิดที่อ้างสรรพคุณว่าช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศ พึงระวัง เนื่องจากอาจผสมสารประกอบของซิลเดเนฟิลลงไปโดยไม่ได้ระบุ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้หากใช้ควบคู่กับยาไวอากร้า
สำหรับใครที่มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศเสื่อม หลั่งเร็ว นกเขาไม่ขัน ไม่จำเป็นต้องใช้ยาเสมอไป คุณสามารถใช้วิธีอื่น ๆ ในการแก้ปัญหานี้ได้ โดยเราขอแนะนำดังนี้
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด
งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ทานอาหารเสริมจากสมุนไพรบางชนิด เช่น โสมเกาหลี ถั่งเช่า กระชายดำ และอื่น ๆ ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างกำลังวังชา และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อมลง จำพวกอาหารทอด เช่น เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด เต้าหู้ทอด เหล่านี้มักมีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์สูง ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
ฝึกบริหารกล้ามเนื้อบริเวณก้นบ่อย ๆ จะช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ดี โดยทำเป็นประจำทุกวันจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมากทีเดียวล่ะ
สรุปเกี่ยวกับการใช้ยาไวอากร้า
ไวอากร้า XEGRA (Sildenafil) เป็นยาที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ แก้ปัญหาหลั่งเร็วได้ ทำให้มีความอึดมากขึ้น แต่ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าการใช้ยาไวอากร้าค่อนข้างมีผลข้างเคียงสูง ควรอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์เท่านั้น ไม่ควรซื้อมากินเอง
เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อันตรายจากไวอากร้า หากคุณมีปัญหาด้านสมรรถภาพทางเพศ ก็อาจเลือกใช้วิธีอื่น ๆ ที่ให้ผลดีโดยไม่เสี่ยงต่อผลข้างเคียงในการรักษาแทน อย่างการไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมและตรงจุดนั่นเอง รับรองเลยว่าสมรรถภาพทางเพศของคุณจะดีขึ้น ได้อย่างปลอดภัยแน่นอน
#ไวอากร้า #อาการหย่อนสมถภาพทางเพศ
#นกเขาไม่ขัน
ทำยังไง ถ้านกเขาไม่ขัน (ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ)
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศคืออะไร
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “erectile dysfunction” นั้นมีคำจำกัดความทางแพทย์ว่า ภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเพียงพอ หรือไม่สามารถคงการแข็งตัวไว้ได้นานขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์จนเสร็จกิจได้
ภาวะนี้ แม้จะไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ก็เป็นสัญญานบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพทางกายโดยรวม โดยเฉพาะโรคที่มีสาเหตุเกิดจากความผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิตและหลอดเลือด เช่น โรคเส้นเลือดสมองอุดตัน โรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งล้วนมีปัญหาจากเลือดไปเลี้ยงอวัยวะนั้นไม่เพียงพอนั่นเอง
นอกจากนี้ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ยังอาจส่งผลถึงสัมพันธภาพกับคู่สมรสจนอาจทำให้มีปัญหาในครอบครัวตามมาได้
ผู้ชายจะเสื่อมสมรรถภาพเมื่ออายุเท่าไหร่
ชายอายุต่ำกว่า 40 ปี – พบประมาณ 5 %
ผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปี - พบประมาณ 50 %
โดยธรรมชาติแล้ว การแข็งตัวขององคชาต เป็นการทำงานร่วมกันของระบบประสาทและหลอดเลือด (neurovascular) ภายใต้การควบคุมของฮอร์โมน การแข็งตัวขององคชาตต้องอาศัยการทำงานที่ปกติของ 4 ปัจจัยคือ
เส้นประสาทที่มาเลี้ยง (intact neuronal innervations)
เลือดที่มาเลี้ยง (intact arterial supply)
กล้ามเนื้อเรียบที่ copora (appropriately responsive corporal smooth muscle)
การอุดตันของหลอดเลือดดำ (intact veno-occlusive mechanics)
ในภาวะปกติองคชาตจะมีลักษณะอ่อนตัว และจะมีการตอบสนองเมื่อได้รับการกระตุ้นทางเพศ
การป้องกันภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงทั้งทางกายและจิตใจ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ
วิธีรักษาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
การให้คำแนะนำปรึกษา เข้าใจเหตุและผลของปัญหา การปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงหรือกำจัดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ
การใช้ยา ปัจจุบันมียากินที่รักษาโรคนี้ได้ผลดีพอควร กินง่าย ไม่ค่อยมีภาวะแทรกซ้อน แต่ก็มีข้อควรระวังและข้อห้ามใช้บางประการจึงควรใช้เมื่อจำเป็นและอย่างถูกต้องภายใต้การดูแลและแนะนำของแพทย์ โดยแพทย์จะให้ยารับประทานชนิดที่มีฮอร์โมนเพศชาย หรือ “เทสโทสเตอโรน” เสริมเข้าไปก่อน สำหรับคนไข้กลุ่มที่อายุยังไม่ถึง 50 ปี แต่ถ้ายังไม่ได้ผล แพทย์จะให้ยาช่วยเรื่องการแข็งตัวขององคชาตเพิ่มเข้าไป แต่ในคนไข้ที่อายุตั้งแต่ 50 – 60 ปีขึ้นไป กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ฮอร์โมนเพศชายต่ำ มีเส้นเลือดตีบและเส้นประสาทเสื่อม แพทย์จะให้ทั้งฮอร์โมนเพศชายและยาช่วยเรื่องการแข็งตัวไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งยารับประทานนี้มีผลข้างเคียงค่อนข้างต่ำ คือ มีอาการปวดศีรษะและร้อนวูบวาบบ้าง โดยใช้ 1 เม็ดต่อการมีเซ็กส์ 1 ครั้ง ที่สำคัญห้ามรับประทานยาชนิดนี้ร่วมกับกลุ่มยาสำหรับโรคหัวใจขาดเลือด หรือยากลุ่มไนเตรท เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ปั๊มสุญญากาศ เป็นกระบอกพลาสติกสวมครอบอวัยวะเพศ เมื่อดูดลมในกระบอกออกจนเป็นสูญญากาศ เลือดจะวิ่งเข้ามาในอวัยวะเพศแทน ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ แต่จะให้คงแข็งใช้งานต่อไปได้ หลังเอากระบอกออกต้องใช้ยางรัดที่โคนอวัยวะเพศเพื่อกันไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับเข้าสู่ร่างกาย วิธีนี้ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องเสี่ยงกับการใช้ยา และได้ผลกว้างขวางไม่ว่าเกิดจากสาเหตุใด
ยาฉีด ใช้หลอดและเข็มเล็ก ๆ เหมือนที่ใช้ฉีดอินซูลินในคนไข้เบาหวาน โดยฉีดเข้าที่อวัยวะเพศโดยตรง ยามีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดที่อวัยวะเพศขยายตัว และแข็งได้นานครึ่งถึง 1 ชั่วโมง ข้อดีคือประสิทธิภาพสูง ข้อเสียคืออาจมีภาวะแทรกซ้อนได้
ยาสอด ตัวยาเช่นเดียวกับยาฉีด แต่ใช้สอดเม็ดยาเล็ก ๆ เข้าทางท่อปัสสาวะ หลังจากคลึงอวัยวะเพศประมาณ 5 – 10 นาที ยาจะซึมเข้าไปในอวัยวะเพศและทำให้แข็งตัวขึ้นมาได้
การผ่าตัดแก้ไขเส้นเลือดแดงหรือดำที่มีปัญหา วิธีเหล่านี้ได้ผลน้อย จึงทำเฉพาะกรณีที่จำเป็นและเหมาะสมเท่านั้น
การใส่แกนอวัยวะเพศเทียม เป็นวิธีสุดท้าย เมื่อใช้อย่างอื่นไม่ได้ผลแล้ว แกนอวัยวะเพศเทียมค่อนข้างแพงมาก และศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะบางคนเท่านั้นที่สามารถทำผ่าตัดชนิดนี้ได้
รู้ทันยาไวอากร้า
ข้อควรรู้เกี่ยวกับยาไวอากร้า (VI**RA) ได้แก่
ใช้เฉพาะชายที่มีปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศเท่านั้น
ยานี้ได้ผลประมาณ 7 ใน 10 คน และไม่ช่วยให้พลังทางเพศสูงขึ้น
ต้องใช้ให้ถูกวิธี เพราะมีอันตรายถึงเสียชีวิตได้ คนที่กินยากลุ่มไนเตรต เช่น ไอซอดิล (Isordil) ไนโตรกลีเซอรีน (Nitroglycerin) ห้ามใช้ยานี้เด็ดขาด
กินครั้งละ 1 เม็ด ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ ยาจะออกฤทธิ์ได้เมื่อมีการกระตุ้นทางเพศเท่านั้น และจะใช้งานได้นานประมาณ 30 นาที
กำจัดปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะเหล้าและบุหรี่ เสริมสร้างสุขภาพกาย สุขภาพใจ และความรักความผูกผันในครอบครัว จะทำให้ประสิทธิภาพของยาดีขึ้น และมีโอกาสเลิกหรือลดยาได้ในที่สุด
มาทำความรู้จักเกลือแร่กันก่อน เกลือแร่คือ แร่ธาตุที่ช่วยทดแทนการสูญเสียน้ำและแร่ธาตุต่าง ๆ มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มพลังงาน เพิ่มแร่ธาตุ และน้ำในร่างกาย เมื่อมีอาการท้องเสีย ร่างกายจะสูญเสียน้ำพร้อมเกลือแร่ปริมาณมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำและเสียชีวิตได้ หากไม่ทดแทนเกลือแร่ที่สูญเสียไป โดยทั่วไปเกลือแร่ในที่มีในท้องตลาดแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
1. เกลือแร่สำหรับผู้ที่ท้องเสีย จะเป็นชนิดผงน้ำตาลเกลือแร่หรือที่เรียกว่า ORS (Oral Rehydration Salt) การเสียน้ำจากอาการท้องเสียเป็นภาวะที่ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ในทันที ร่างกายจึงต้องการน้ำและเกลือแร่มาทดแทน ซึ่งแตกต่างจากการเสียน้ำหรือเสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย ที่ร่างกายจะเสียน้ำและน้ำตาลเป็นหลัก โดยจะเสียเกลือแร่ในปริมาณที่น้อยมาก
วิธีการผสม ORS : ทำได้โดยเทผงเกลือแร่ทั้งซอง ละลายในน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 แก้วหรือน้ำดื่มสะอาดจากขวดที่เพิ่งเปิดใหม่ ปริมาตร 150-250 มิลลิลิตร หรือตามที่ฉลากข้างซองระบุ จิบเกลือแร่ช้า ๆ ตลอดวันแทนน้ำ เมื่อเริ่มมีอาการท้องเสียหรืออาเจียน ผสม ORS กับน้ำแล้วไม่ควรเก็บไว้เกิน 24 ชั่วโมง
2. เกลือแร่สำหรับผู้ออกกำลังกาย เรียกว่า ORT (Oral Rehydration Therapy) เป็นวิธีการรักษาอาการขาดน้ำและเกลือแร่ที่เกิดจากการเสียเหงื่อ จะมีปริมาณของน้ำตาลที่มากกว่า ORS เช่น การออกกำลังกาย การทำงานหนัก หรืออยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด ซึ่ง ORT จะช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลและเกลือแร่ในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติจากภาวะดังกล่าว
สิ่งที่ต้องระวังคือ ไม่แนะนำให้ผู้ที่มีอาการท้องเสียดื่มเกลือแร่ทดแทนสำหรับการออกกำลังกาย (ORT) เนื่องจากเมื่อมีน้ำตาลปริมาณสูงในทางเดินอาหาร จะเกิดการดึงน้ำเข้าสู่ทางเดินอาหารมากขึ้น ส่งผลให้อาจท้องเสียหรืออาเจียนมากกว่าเดิม ร่างกายจึงสูญเสียน้ำและแร่ธาตุอย่างฉับพลัน เป็นเหตุให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะขาดน้ำจนเป็นอันตรายได้ ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จำกัดปริมาณน้ำตาลใน ORS ให้ไม่เกิน 111 mEq (มิลลิอิควิวาเลนต์) ที่จะไม่ส่งผลให้เกิดปัญหาดังกล่าว ดังนั้น ORS จึงสามารถใช้ในผู้ที่ท้องเสียได้
ข้อมูลอ้างอิงจาก : Manual for Procurement & Supply of Quality-Assured MNCH Commodities. Oral rehydration [Online]. USAID. 2019. https://www.ghsupplychain.org/sites/default/files/2019-02/MNCH%20Commodi...
ธีรัตถ์ เหลืองมั่นคง. น้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสีย: เลือกที่ใช่ ใช้ถูกต้อง. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. 2563. https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/529/น้ำเกลือแร่-ท้องเสีย/
พัชรี บอนคำ. “เกลือแร่” เลือกให้ดี ดื่มให้เป็น. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. 2560. https://www.thaihealth.or.th/?p=230948
คาวาซากิ หรือ “โรคหัดญี่ปุ่นในเด็ก” สู่หลอดเลือดอักเสบเฉียบพลัน
โรคคาวาซากิ (Kawasaki disease) หรือ “โรคหัดญี่ปุ่นในเด็ก” มักเกิดในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี อาการเริ่มต้นจะมีอาการคล้ายไข้หวัดแต่มักจะมีไข้สูงนาน ต่อมาจะเกิดการอักเสบที่นำไปสู่หลอดเลือดอักเสบทั้งร่างกาย รวมทั้งอาจทำให้หลอดเลือดหัวใจโป่งพองและเสียชีวิตเฉียบพลันได้
ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคที่แน่ชัด และยังไม่ทราบเชื้อก่อโรค จึงยังไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันโรคได้
อาการ
มีไข้สูง และไม่ลดลง นานเกิน 5 วัน
ตาแดง ไม่มีขี้ตา
ริมฝีปากแห้งแดง แตกลอก
ลิ้นแดงเป็นตุ่ม คล้ายสตรอว์เบอร์รี
มือเท้าบวมแดง ผิวหนังลอก
มีผื่นแดงขึ้นตามตัว
มีก้อนบริเวณคอ เนื่องจากต่อมน้ำเหลืองที่คอโต
วิธีรักษา
ให้ยาแอสไพริน เพื่อลดการอักเสบของหลอดเลือดในช่วงแรก และให้เพื่อป้องกันลิ่มเลือดอุดตันในช่วงต่อมา
ให้ยาอิมมูโนโกลบุลิน ทางหลอดเลือด ในระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อลดโอกาสเกิดหลอดเลือดหัวใจโป่งพอง
ติดตามอาการด้วยการตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ
ดังนั้น หากมีอาการที่น่าสงสัยเหล่านี้ควรรีบพบกุมารแพทย์ และกุมารแพทย์โรคหัวใจ เพื่อให้การวินิจฉัย และรักษาโดยเร็ว เพื่อลดโอกาสเกิดหลอดเลือดหัวใจโป่งพอง และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ
ข้อมูลโดย : อ.พญ.อังควิภา ทรัพย์รุ่งเรือง
หน่วยกุมารเวชศาสตร์โรคหัวใจ ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์
ข้อมูล ณ วันที่ : 17 กรกฎาคม 2567
ปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยในผู้ที่ต้องผจญกับภาวะน้ำท่วมและส่งผลกระทบถึงสุขภาพได้แก่ โรคผิวหนัง เนื่องจากเมื่อเกิดอุทกภัย กระแสน้ำจะพาสิ่งสกปรก สารเคมี รวมถึงเชื้อโรคต่างๆ ให้แพร่กระจายและปะปนอยู่ในน้ำที่ท่วมขัง
โรคน้ำกัดเท้า เป็นอาการทางผิวหนังที่พบบ่อยในช่วงที่เกิดน้ำท่วม เกิดจากการระคายเคืองของผิวหนังบริเวณเท้าที่แช่อยู่ในน้ำที่สกปรกเป็นเวลานาน หรือมีความชื้นที่เท้าอยู่ตลอดเวลา หากปล่อยให้มีการอักเสบอย่างต่อเนื่อง
เชื้อต้นเหตุ
เป็นเชื้อราที่มีลักษณะเป็นเส้นใย สร้างสปอร์และโครงสร้างต่างๆหลายแบบ จัดอยู่ในกลุ่ม dermatophytes มี 3 ชนิดใหญ่ ๆ คือ Trichophyton, Epidermophyton และ Microsporum ซึ่งเป็นเชื้อที่ชอบเคราติน (keratin) หรือสารที่พบได้ที่ผิวหนัง ผม ขน และเล็บ
โครไทร-บี ครีม
บรรจุหลอด 20 กรัม
สูตรยา
Batamethasone 1 gm.
Clotrimazole 1 gm.
ใช้รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา และมีอาการคันร่วมด้วย
ใช้ทารักษาโรคกลาก เกลื้อน โรคน้ำกัดเท้า ฮ่องกงฟุต
ใช้ทารักษาโรคผิวหนังอักเสบ ผื่นแดง จากการติดเชื้อรา
ใช้ทาบรรเทาอาการคัน จากการติดเชื้อรา
จำหน่ายโดย
บริษัท ซีเอ็มพี ฟาร์มาซี จำกัด
โทร.02-880-4043-4
#ยาฆ่าเชื้อรา #ยารักษาโรคกลากเกลื้อน
#ยารักษาโรคผิวหนัง #โรคน้ำกัดเท้า
#โรคเชื้อรา
ไขมันเปลือกตาอุดตัน ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตาแห้ง อักเสบ
ภาวะต่อมไขมันเปลือกตาอุดตัน พบได้บ่อยในชาวเอเชีย
เกิดจากความผิดปกติของต่อมผลิตน้ำมันทำให้เกิดการอักเสบของเปลือกตา ระคายเคืองตา น้ำตาระเหยเร็วขึ้น และตาแห้ง
ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะต่อมไขมันอุดตัน
โรคทางตา เช่น เปลือกตาส่วนหน้าอักเสบ การใส่คอนแทคเลนส์ การติดเชื้อไร
โรคทางกาย เช่น วัยหมดประจำเดือน โรคสะเก็ดเงิน ความดันโลหิตสูง โรคต่อมลูกหมากโต
การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาฮอร์โมนเพศหญิง ยาแก้แพ้ ยาต้านเศร้า
สิ่งแวดล้อม เช่น PM2.5 การเขียนขอบตา
อาการ
ระคายเคืองตา
แพ้แสง
แสบตา
น้ำตาไหล
รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา
ระดับความชัดเจนในการมองเห็นลดลง
แนวทางการรักษา
ประคบอุ่นบริเวณเปลือกตา โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น ประมาณ 40 – 45 องศาเซลเซียส นานคร้ังละ 10 – 15 นาที
นวดเปลือกตาในแนวตั้งฉากกับขอบตา โดยนวดเข้าหาโคนขนตา
ทำความสะอาดบริเวณขอบเปลือกตา
หยอดน้ำตาเทียมเพื่อลดการระคายเคือง
ภาวะไขมันเปลือกตาอุดตัน เป็นโรคเรื้อรังที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง
ข้อมูลโดย : รศ.(พิเศษ) พญ.วรรณรัตน์ สาธิตพิฐกุล
ฝ่ายจักษุวิทยา
ข้อมูล ณ วันที่ : 6 กรกฎาคม 2567
รู้หรือไม่! ฤดูฝนที่มาถึงนี้ อาจนำพาโรคหลายชนิดมาด้วย เช่น โรคไข้หวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก โรคฉี่หนู และโรคติดต่อที่เกี่ยวกับดวงตา เราจึงควรใส่ใจดูแลสุขภาพให้มากขึ้น
#ติดจอฬจุฬา จะพาคุณไปรู้จัก 5 โรคที่พบบ่อยในฤดูฝน ตั้งแต่สาเหตุ การป้องกันและการรักษา ใน #เกร็ดความรู้คู่สุขภาพ โดย อ.นพ.วศิน เลาหวินิจ ฝ่ายเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
เกร็คความรู้คู่สุขภาพ l 5 โรคที่มากับฤดูฝน รู้หรือไม่! ฤดูฝนที่มาถึงนี้ อาจนำพาโรคหลายชนิดมาด้วย เช่น โรคไข้หวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก โรคฉี....
ภาวะโลหิตจาง หรือภาวะซีด เป็นภาวะที่เกิดจากจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกายลดลง ทำให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายได้น้อยลง หรือไม่เพียงพอ
เป็นภาวะที่พบได้บ่อย และไม่ใช่โรคโดยตรง แต่เป็นสิ่งบอกเหตุว่าอาจมีโรคอื่น ๆ แฝงอยู่ในร่างกาย ควรมีการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
สาเหตุของภาวะโลหิตจาง
ร่างกายผลิตเม็ดเลือดแดงน้อยลง เนื่องจาก
การขาดธาตุเหล็ก กรดโฟลิก หรือวิตามินบี
เกิดจากโรคบางชนิด เช่น โรคมะเร็งไขกระดูก โรคไตเรื้อรัง โรคที่มีการอักเสบเรื้อรัง
การเสียเลือด
การเสียเลือดจากบาดเจ็บเฉียบพลัน
เสียเลือดมากจากประจำเดือนออกมากหรือนาน
การเสียเลือดจากภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร
การทําลายเม็ดเลือดแดงมากขึ้น ซึ่งอาจเกิดจาก
โรคโลหิตจางกรรมพันธุ์บางชนิด เช่น โรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia) โรคขาดเอนไซน์ G-6-PD โรคภูมิต้านทานทําลายเม็ดเลือดแดงตนเอง
การติดเชื้อบางชนิด เช่น มาลาเรีย
ภาวะโลหิตจางมีอาการอย่างไร
อ่อนเพลีย หน้ามืด มึนงง สับสน
หายใจเร็ว ใจสั่น เหงื่อออก
ตัวซีด ตัวเหลือง
ปวดศีรษะ
ใจเต้นเร็วโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน
เบื่ออาหาร
นอนไม่หลับ
ปวดท้อง คลื่นไส้
ป้องกัน “ภาวะซีด” ได้อย่างไร
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และวิตามินบี
ระมัดระวังการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุที่ทำให้เลือดออกเฉียบพลัน
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนโลหิต
งดแอลกอฮอล์ หรือยาบางชนิด ที่อาจทำให้เกิดการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดง
ตรวจสุขภาพเป็นประจำ ตรวจสอบระดับธาตุเหล็ก และความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงในร่างกาย
ข้อมูลโดย : ศ.พญ.ดารินทร์ ซอโสตถิกุล
ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ
ข้อมูล ณ วันที่ : 19 มิถุนายน 2567
กระเพาะทะลุ อาการปวดท้องที่ต้องเฝ้าระวัง !
กระเพาะทะลุ
เกิดจากผนังกระเพาะอาหารมีรูรั่วทำให้กรดหรือน้ำย่อยไหลเข้าช่องท้อง ทำให้ ปวดท้องอย่างรุนแรง และมีความเสี่ยงในการติดเชื้อในกระแสเลือดและอาจทำให้เสียชีวิตได้
อาการ
-ปวดท้องรุนแรง
-ท้องบวมแข็งผิดปกติ
-ไข้สูง
-อ่อนเพลีย
-หายใจเหนื่อย หอบ
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดกระเพาะทะลุ
-ความเครียด
-ดื่มแอลกอฮอล์หรือการสูบบุหรี่
-ใช้ยาเสพติด เช่น โคเคน หรือแอมเฟทามีน
-ติดเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร
-ใช้ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดและต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (เช่นแอสไพริน โอบูโพรเฟน) ยาสเตียรอยด์ และยาเคมีบำบัดบางชนิด
-เจ็บป่วยด้วยโรคทำให้มีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารผิดปกติ เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร
-ผ่าตัดกระเพาะอาหาร
-อุบัติเหตุทางร่างกาย เช่น มีดหรือกระสุนทะลุกระเพาะอาหาร การกลืนวัตถุลงกระเพาะอาหาร เช่น ของเล่น เครื่องเขียน เป็นต้น
-การส่องตรวจกระเพาะอาหารด้วยกล้องแม้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก
วิธีรักษา
-รักษาแผลตามสาเหตุ
-ผ่าตัดเพื่อปิดรอยรั่ว และล้างช่องท้อง
-ใช้ยาลดกรด รักษาแผลในกระเพาะ OPRAH (Omeprazole)
ข้อมูลจาก
อ. พญ.ศุกมาส เชิญอักษร
สาขาวิชาโรคทางเดินอาหารและตับ
ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
ทำความรู้จัก ปัจจัยกระตุ้นปวด “ไมเกรน
ไมเกรน คือ โรคปวดศีรษะชนิดหนึ่ง ที่หลายคนอาจคิดว่ามีสาเหตุมาจากความเครียด แต่แท้จริงแล้ว ไมเกรนมีปัจจัยกระตุ้นที่หลากหลายและแตกต่างกันออกไปในผู้ป่วยแต่ละคน
ปัจจัยกระตุ้นไมเกรน
อดนอน นอนหลับไม่สนิท
การอยู่ในที่แสงจ้า หรือการจ้องหน้าจอที่มีความเข้มข้น
ของแสงมากเป็นเวลานาน
การอยู่ในที่เสียงดัง
การได้กลิ่นที่รุนแรง
การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ เช่น ความเครียด ความกังวล
ฯลฯ
คำแนะนำจากแพทย์
ควรสังเกตว่าอะไรคือสิ่งกระตุ้นที่ทำให้รู้สึกปวดไมเกรน เพื่อให้สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเหล่านั้นได้
ผู้ที่มีอาการไมเกรนบ่อยหรือกระทบชีวิตประจำวัน ควรพบแพทย์เพื่อแนะนำการใช้ยาบรรเทาอาการหรือยาป้องกัน
BUWEN 400
มีตัวยา Ibuprofen 400 mg. ใช้บรรเทาอาการปวดศรีษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดบาดแผล
ข้อมูลโดย : ผศ.นพ.เสกข์ แทนประเสริฐสุข
ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ
ข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2567
#ยาแก้ปวด #ปวดไมเกรน
#อนาคตประเทศ
รู้สึกเหมือนกันว่า
เจอ เคส แบบนี้บ่อยขึ้น
ขนาดไม่ใช่เฉพาะทางด้านนี้
ยังเจอ สามสี่รายแล้วตั้งแต่ขึ้นปีนี้มา
กินน้ำกระท่อม กันเป็นว่าเล่น
ล่าสุดก็ไม่กี่วันที่ผ่านมา
อายุ 20 ปลาย ๆ ค่าไตขึ้น
ไอ้เราก็ถาม เรื่องยา เรื่องเหล้า
เรื่องบุหรี่ เรื่องยาเสพติด
ก็ปฏิเสธทุกอย่าง จนแฟนคนไข้
กระซิบถามว่า กินน้ำกระท่อม ทุกวันเลย เกี่ยวไหม
เกี่ยวเลย ล่ะครับ
อายุแค่นี้ ค่าไตก็สูงแล้ว
คิดว่า หลักสูตรหมอรุ่นใหม่
เวลาซักประวัตินี่ ต้องเพิ่มเติม
ถามไอ้เรื่องกระท่อม กัญชาไปด้วยแล้ว
ต้องถามจำเพาะเจาะจงด้วยนะ
ถ้าถามว่า ใช้ยาเสพติดไหม
เขาจะตอบว่า ไม่ เสมอ
เพราะ ตามกฎหมาย มันไม่ใช่แล้วจริงๆ
🥹🥹🥹🥹🥹🥹🥹
บางทีเจอแบบนี้บ่อยๆ
มันก็อดห่วงไม่ได้ว่า ต่อไป
อนาคตประเทศเราจะเป็นยังไงกันนะ
เรียนออนไลน์ฟรีได้ใบเซอร์ ! 5 หลักสูตรระยะสั้นด้านการแพทย์
✅เรียนออนไลน์ฟรี มีใบประกาศ
✅เรียนได้ทั้งนักศึกษาแพทย์ คุณหมอและบุคคลทั่วไปที่สนใจ
✅สมัครเรียนได้ตั้งแต่วันนี้
1.หลักการและพื้นฐานของเครื่องมือทางรังสีวิทยา (Basic Principle of Diagnostic Radiology Imaging Instruments)
📌สมัครเรียน https://bit.ly/Principle-Radiology
2.รังสีกายวิภาคจากภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) เบื้องต้น (Basic Normal Anatomy of Computed Tomography Scan)
📌สมัครเรียน https://bit.ly/Basic_CT
3.เตรียมความพร้อมทางรังสีวิทยาสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ (Preparation for Clinical Radiology)
📌สมัครเรียน https://bit.ly/clinical-radiology
4.การวินิจฉัยภาวะฉุกเฉินจากอุบัติเหตุ (Diagnostic Radiology of Traumatic Emergency)
📌สมัครเรียน https://bit.ly/Traumatic-Emergency
5.การวินิจฉัยภาวะฉุกเฉินที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ (Diagnostic Radiology of Non-Traumatic Emergency)
📌สมัครเรียน https://bit.ly/Non-Traumatic
พบกับหลักสุตรและกิจกรรมอีกมากมายรอให้ผู้เรียนเข้าไปค้นหากันที่
👉 www.lifelong.cmu.ac.th
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Line OA :
#การศึกษาตลอดชีวิต #ผู้เรียน #เรียนออนไลน์ #เรียนร่วม #เรียนได้ใบประกาศ #มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #อบรมระยะสั้น
สิวหัวหนอง ปัญหากวนใจของสาว ๆ
สิวหัวหนอง คืออะไร ?
สิว อักเสบชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นตุ่มบวมแดงขนาดใหญ่และมีหนองอยู่ด้านบนของสิว หากดูแลไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงหรือลุกลามทำให้รักษายากยิ่งขึ้น
สาเหตุ
การอุดตันของรูขุมขน
ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
ติดเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acne (P.ance) ที่ผิวหนัง
มีการอักเสบที่บริเวณสิว
มีการเพิ่มของไขมันที่รูขุมขน
วิธีรักษา
ใช้แผ่นดูดสิว
ใช้ครีมหรือเจลผลัดเซลล์ผิว
ใช้ยาหรือครีมที่มีสารวิตามินเอ
ใช้เข็มสะกิดหัวสิวและที่กดสิว
วิธีป้องกัน
รักษาความสะอาดของผิวอย่างถูกวิธี
จัดการกับความเครียด
เลือกครีมบำรุงผิวที่ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือสิวอุดตัน
พักผ่อนให้เพียงพอ
ข้อมูลจาก
รศ. พญ.สุธนี รัตนิน
สาขาวิชาโรคผิวหนัง
ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
ไลโคปีน สารสีแดง
ปกป้องผิวให้กันแดดได้จากภายใน
UPDATE: กรมอุตุฯ คาดหมายดัชนีความร้อนไทยช่วง 5-6 มี.ค. สูงทะลุ 50 องศาเซลเซียส มากสุดที่ชลบุรี
วานนี้ (4 มีนาคม) กรมอุตุนิยมวิทยาได้เผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ ระบุถึงการคาดหมายค่าดัชนีความร้อนหรือ Heat Index ซึ่งเป็นค่าอุณหภูมิที่คนรู้สึกได้ถึงอากาศร้อนในขณะใดขณะหนึ่ง ในช่วงวันที่ 5-6 มีนาคม พบตัวเลขอุณหภูมิที่น่าสนใจดังนี้
🔺วันที่ 5 มีนาคม🔺
ภาคเหนือ: ตาก 39.9 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับเตือนภัย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: นครราชสีมา 38.7 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับเตือนภัย
ภาคกลาง: กรุงเทพฯ 48.1 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับอันตราย
ภาคตะวันออก: ตราด 50.6 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับอันตราย
ภาคใต้: กระบี่ 42.5 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับอันตราย
🔺วันที่ 6 มีนาคม🔺
ภาคเหนือ: ตาก 39.6 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับเตือนภัย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: บุรีรัมย์ 39.4 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับเตือนภัย
ภาคกลาง: กรุงเทพฯ 48.1 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับอันตราย
ภาคตะวันออก: ชลบุรี 51.4 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับอันตราย
ภาคใต้: ภูเก็ต 48.3 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับอันตราย
🔥อะไรคือ ‘ดัชนีความร้อน’🔥
กรมอุตุนิยมวิทยาอธิบายว่า ดัชนีความร้อนคือความร้อนที่ร่างกายมนุษย์ปกติรู้สึกได้ ณ ขณะนั้น ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิอากาศและความชื้นสัมพัทธ์ที่ตรวจวัดได้ ณ เวลานั้นๆ ซึ่งค่าดัชนีความร้อนมักจะมีค่าสูงกว่าอุณหภูมิของอากาศที่ตรวจวัดได้เสมอ เช่น ที่เวลา 12.00 น. วัดอุณหภูมิได้ 33.0 องศาเซลเซียส วัดความชื้นสัมพัทธ์ได้ 80 เปอร์เซ็นต์ จะมีดัชนีความร้อน 49 องศาเซลเซียส เป็นต้น
สำหรับค่าดัชนีความร้อนระดับเฝ้าระวังเตือนภัยผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน แบ่งเป็น 4 ระดับ ตามข้อมูลกรมอนามัย ดังนี้
🔥ระดับเฝ้าระวัง-ดัชนีความร้อน 27.0-32.9 องศาเซลเซียส🔥
ผลกระทบต่อสุขภาพ: เมื่อสัมผัสความร้อนและทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายเกิดอาการเบื้องต้น เช่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ผื่นจากความร้อน บวมจากความร้อน ปวดเมื่อยตามร่างกาย นำไปสู่การเกิดตะคริวจากความร้อนได้
🔥ระดับเตือนภัย-ดัชนีความร้อน 33.0-41.9 องศาเซลเซียส🔥
ผลกระทบต่อสุขภาพ: เมื่อสัมผัสความร้อนและทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเพลียแดด (Heat Exhaustion) และเป็นตะคริวจากความร้อนได้ และอาจส่งผลให้เกิดโรคลมร้อนหรือฮีตสโตรก (Heat Stroke)
🔥ระดับอันตราย-ดัชนีความร้อน 42.0-51.9 องศาเซลเซียส🔥
ผลกระทบต่อสุขภาพ: เมื่อสัมผัสความร้อนและทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน อาจทำให้เป็นตะคริวจากความร้อน และเกิดโรคเพลียแดดจากความร้อน และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลมร้อนหรือฮีตสโตรกได้ หากสัมผัสความร้อนอย่างต่อเนื่อง
🔥ระดับอันตรายมาก-ดัชนีความร้อนมากกว่าหรือเท่ากับ 52.0 องศาเซลเซียส🔥
ผลกระทบต่อสุขภาพ: เมื่อสัมผัสความร้อนและทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดโรคลมร้อนหรือฮีตสโตรก
ภาพ: Shutterstock
อ้างอิง:
https://www.tmd.go.th/
เอกสารชี้แจง จากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมโภชนาการเด็กแห่งประเทศไทย เรื่อง การบริโภคนมวัวกับสุขภาพเด็ก
อาการเสี่ยง กรดไหลย้อน ! ที่ต้องรู้
เคยรู้สึกแบบนี้หรือไม่ ? แสบร้อนกลางอก หลังรับประทานอาหารมื้อหนัก เรอมีกลิ่นเปรี้ยว แน่นท้อง อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือน “โรค กรดไหลย้อน”
กรดไหลย้อน เกิดจาก ?
กรดไหลย้อนโรคทางเดินอาหารอีกหนึ่งชนิด เป็นภาวะที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปผ่านหลอดอาหารทำให้เกิดความผิดปกติของอวัยวะข้างเคียง เช่น กล่องเสียง ช่องคอ เกิดจากการทำหน้าที่ของกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารหย่อนตัวลง และมาจากพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม เช่น การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา รับประทานอาหารรสจัด ทำให้เกิดอาการ แสบร้อนกลางอก โรคนี้สามารถพบได้ในผู้ป่วยทุกเพศทุกวัย หากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานานอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อร่างกายของผู้ป่วยได้
อาการกรดไหลย้อน
เรอมีกลิ่นเปรี้ยว
แสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ขึ้นมาที่หน้าอกและคอ
กลืนลำบากคล้ายมีก้อนอยู่ในคอ
ท้องอืด แน่นท้อง
คลื่นไส้หรืออาเจียน
เสียงแหบ เจ็บคอ
มีเสมหะในคอตลอดเวลา
ปัจจัยเสี่ยงกรดไหลย้อน
กรดไหลย้อนมักเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมซึ่งเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อน ได้แก่
น้ำหนักที่เกินเกณฑ์มาตรฐาน
รับประทานอาหารและนอนทันที
ความเครียด
การรับประทานอาหารรสจัดมากเกินไป
ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
สูบบุหรี่จัด
กรดไหลย้อนเสี่ยง มะเร็งหลอดอาหาร จริงหรือไม่
เมื่อผู้ป่วยมีอาการกรดไหลย้อนจะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังบริเวณหลอดอาหาร บริเวณกล่องเสียง และช่องคอ หากผู้ป่วยมีอาการอักเสบเรื้อรังเป็นเวลานานจะส่งผลให้เซลล์บริเวณเยื่อบุผิวของหลอดอาหารมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยส่วนใหญ่จะไม่สามารถพัฒนาไปเป็นมะเร็ง แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า ภาวะหลอดอาหารบาร์เรตต์ ซึ่งนำไปสู่การเกิดมะเร็งหลอดอาหารได้
วิธีการรักษาเบื้องต้นเมื่อเป็นกรดไหลย้อน
ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น งดอาหารมันหรือทอด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด
งดน้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ช็อกโกแลต ชา หรือกาแฟ
รับประทานอาหารให้อิ่มพอดี
รักษาด้วยยา ได้แก่ ยาที่ยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 เดือน
เช่น ยา OPRAH (Omeprazole 20mg)
วิธีป้องกัน กรดไหลย้อน
ไม่รับประทานอาหารมากหรืออิ่มจนเกินไปในแต่ละมื้อ
หลีกเลี่ยงอาหารที่เพิ่มความเป็นกรด เช่น น้ำมะนาว
ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป
พักผ่อนให้เพียงพอ
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
กรดไหลย้อนไม่ควรปล่อยไว้จนกลายเป็นภาวะเรื้อรัง อาจทำให้เกิดแผลรุนแรงจนกระทบต่อหลอดอาหาร ดังนั้นหากผู้ป่วยมีอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าเป็น กรดไหลย้อนควรรีบเข้ารับการรักษากับทางแพทย์เพื่อป้องกันภาวะเรื้อรังที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย
ข้อมูลจาก
อ. พญ.โยษิตา หมื่นแก้ว
ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
ร่วมรักไม่ป้องกัน อาจเกิด 4 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Infections) ยังคงเป็นปัญหาสำคัญในประเทศไทย ซึ่งมี 4 โรคที่พบได้บ่อย ดังนี้
1.ซิฟิลิส
เกิดจากแบคทีเรียชื่อ Treponema pallidum
ระยะติดเชื้อเฉียบพลันจะมีแผลที่อวัยวะเพศ มีผื่นขึ้นตามตัว มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต หรืออาจไม่มีอาการใด ๆ ในระยะแฝง
ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ได้
วินิจฉัยได้ด้วยการตรวจเลือด
ป้องกันได้โดยการใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ทุกช่องทาง
รักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ และการติดตามการรักษากับแพทย์อย่างใกล้ชิด
2.โรคหนองใน
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhea
ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทั้งทางช่องคลอด ปาก หรือทวารหนัก
ในผู้ชายมักจะพบว่ามีอาการปัสสาวะแสบขัด มีหนองไหลจากท่อปัสสาวะ
ในผู้หญิงอาจจะมีอาการเพียงตกขาวผิดปกติ ไม่คัน
ป้องกันได้โดยการใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ทุกช่องทาง
รักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะและการติดตามการรักษากับแพทย์อย่างใกล้ชิด
3.โรคหูดหงอนไก่
ส่วนมากเกิดจากเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 6 และ 11
ติดต่อได้ง่ายทั้งผ่านทางเพศสัมพันธ์และการสัมผัสใกล้ชิด มีโอกาสเป็นซ้ำได้บ่อย ๆ
อาการคือมีติ่งเนื้อนูนคล้ายดอกกะหล่ำ อาจมีอาการคัน เจ็บหรือมีเลือดออก
ป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน
รักษาด้วยการใช้ยาทา การผ่าตัด การจี้ด้วยความเย็น เป็นต้น
4.โรคไวรัสตับอักเสบบี
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B Virus)
ผู้ติดเชื้ออาจมีอาการตาเหลือง ตัวเหลือง ปัสสาวะเหลืองเข้ม ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย
ผู้เป็นพาหะมักไม่มีอาการ
สามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การใช้ของมีคมเปื้อนเลือดร่วมกัน และจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ขณะตั้งครรภ์หรือการคลอด
ป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน
รักษาด้วยการใช้ยา
ใช้ถุงยางอนามัย Lover
ขณะมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันโรคติดต่อ
ข้อมูลโดย : อ.นพ.ธนภพ บำเพ็ญเกียรติกุล
ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านสุขภาพคนข้ามเพศ (CETH)
ข้อมูล ณ วันที่ : 14 กุมภาพันธ์ 2567
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?
ติดต่อ ธุรกิจของเรา
เว็บไซต์
ที่อยู่
Bangkok
10700
195 ONE BANGKOK TOWER 4, 22nd FLOOR, WIRELESS Road, LUMPHINI, PATHUMWAN
Bangkok, 10330
Confident Beauty Powered By You
อาคารบีบี 54 ซ. สุขุมวิท 21 แขวงคลองเตยเหนือเขตวัฒนากรุงเทพมหานคร 10110
Bangkok, 10400
ผลิตภัณฑ์หรูหราชั้นนำของ ELISE สำหรับผู้หญิงที่มีรสนิยมด้านความงามที่ทันสมัย
ถนน ทวีวัฒนา เขต บางแค/บางไผ่
Bangkok, 10160
สินค้านำเข้าจากตุรกี ครีมลดเลือนริ้วรอย สำหรับอายุ 40 ปีขึ้นไป
เลียบคลองทวีวัฒนา
Bangkok, 10170
สบู่ฟักข้าว ลดฝ้า ลดสิว อ่อนโยนต่อผิว คุมความมันเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว คนแพ้ง่ายสามารถใช้ได้
Krung Kasem Road, Bang Khun Phrom, Phra Nakhon
Bangkok, 10200
Everlift เป็นครีมต่อต้านริ้วรอยช่วยปรับ?