Rewards Engstitute

อีกหนึ่งความภาคภูมิใจ ไม่ใช่ในฐานะครูแต่ในฐานะคนๆหนึ่งที่ได้รู้จักกับน้องที่ชื่อ "ยูม่อน"

ครั้งแรกที่คุณผู้ปกครองติดต่อเข้ามาเพื่อปรึกษาเรื่องน้องยูม่อนเป็นหัวข้อที่ดูไม่มีอะไรน่ากังวลเป็นพิเศษคือ "ฝึกสอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ" ซึ่งภาษาอังกฤษของน้องไม่ใช่ปัญหาเลย หลังจากพูดคุยกับผู้ปกครองไปได้ประมาณ 15-20 นาทีก็รู้ว่าโจทย์สำคัญไม่ใช่น้องยูม่อนเท่านั้น หลังจากวางสายเราถึงขั้นโทรไปปรึกษารุ่นน้องที่ทำงานด้านจิตวิทยาการให้คำปรึกษา หลังจากนั้นเราก็กลับมาทำการบ้านกับตัวเองหนักมาก เป็นครั้งแรกที่ติวภาษาอังกฤษโดยที่ภาษาอังกฤษไม่ใช่ประเด็นเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นเรื่องของการปรับ mindset ที่ผู้เรียนมีต่อตนเอง (ให้เห็นศักยภาพและความสามารถของตนเอง) ต่อคนรอบข้าง และต่อผู้สัมภาษณ์ (ที่เขาจะได้เจอในอนาคต) การตอบโต้เพื่อ make a conversation ไม่ใช่แค่การ reply ทุกคาบจะมีการพูดคุยเรื่องทั่วไปและเรื่องราวของตัวน้องเองและมีงานศิลปะให้น้องทำ (เป็น art therapy ที่เพื่อนแนะนำมาและนำกลับไปให้เพื่อนประมวลเพื่อนำมาออกแบบคลาสสอนครั้งต่อๆไป) และหลังเรียนเสร็จทุกครั้งจะทำงานต่อร่วมกับคุณผู้ปกครองเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีร่วมกัน

จนสุดท้าย จากเด็กที่คะแนนสูงทุกวิชา กิจกรรมและโปรเจคโดดเด่นแต่ต้องผิดหวังจากรอบสัมภาษณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า วันนี้น้องยูม่อนสอบสัมภาษณ์ผ่านถึง 3 คณะและหนึ่งในนั้นคือคณะในฝันของน้องยูม่อน (ICT) ตอนที่คุณผู้ปกครองไลน์มาบอกก็คือน้ำตาไหลเลยเพราะมันเป็นเรื่องที่น่าดีใจมากที่คนคนหนึ่งที่เคยหมดความเชื่อและความหวังในตัวเองกล้าเปิดใจและจูงมือเราเดินทางเข้าไปสำรวจตัวเองด้วยกันโดยการวางความเชื่อเดิมๆไว้ก่อน

วันนี้คุณผู้ปกครองมีความสุขมากเพราะเห็นลูกได้ในสิ่งที่ทุ่มเทอย่างหนักมาตลอดแรมปี ส่วนตัวน้องยูม่อนเองก็มีความสุขมากกับโลกใบใหม่และประสบการณ์ใหม่ที่รอเขาอยู่ คุณผู้ปกครองถึงขั้นบอกว่า "ดูเค้าแฮปปี้มากค่า"

อยากบอกว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่ได้น้องยูม่อนที่กล้าหาญและคุณผู้ปกครองที่ให้สิ่งที่ลำ้ค่ากับน้องมากคือ "เวลา" ทั้งการพูดคุยกับตัวน้องและครู เพื่อจะได้เข้าใจกันมากขึ้น ให้น้องสัมผัสได้จริงๆว่า พ่อแม่เชื่อมั่นในตัวเขาและพร้อมจะเป็นผู้เชียร์ที่ดี

There are so many things that I’m grateful for, and one of them is meeting you guys. You’ve given me a thousand reasons to be happy driving a long way to teach on Wednesdays.

Your efforts and contributions are well appreciated. ❤️😘👏😎

Thank you for a great time and your hard work. Because of you guys, I was able to relax and have fun.

Also, I wanted to thank everyone that showed responsibilities during the course, and I also wanted to extend a special thanks to those who have always contributed to the class. Your opinion and experience are counted. You guys are awesome!

PS. หมี่กรอบน้ำมะดันก็ awesome เหมือนกัน 55+

จากสุขุมวิทสู่เมืองทองธานี สอนเสร็จก็ออกบู๊ทเลยจ๊ะ

M กับ N นี่ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่มูลค่าในกระเป๋ามันช่างแสนไกล ฮืออ

ใครอยากมี Great power ก็เตรียมใจ เตรียมเงินไว้ด้วยนะฮับ ^^"

(power หมายถึง พลัง อำนาจ หรือ พลังงานไฟฟ้า ก็ได้เช่นกัน)

Engineering Day!

คาบเช้า: แอร์ในห้องไม่เย็นเหมือนจะเสีย เดชะบุญนิสิตเป็นวิศวะเอกไฟฟ้า เรียกว่าดิฉัน in good hands นิสิตตัวแทนหมู่บ้านเดินไปที่แผงสวิชต์แอร์ จับๆ กดๆ โยกขึ้นโยกลงอยู่สักพัก สุดท้ายเอามือลูบที่สวิชต์ไฟเบาๆ พร้อมพูดว่า "ขอร้องหละติดเถอะนะ"
ผลคือ ดิฉันได้รู้ว่าเด็กไฟฟ้าเขาแก้ปัญหากันแบบนี้นี่เอง และสอง แอร์ไม่ฟังคำขอร้องอ้อนวอนของพวกเราเลยค่ะ

คาบบ่าย: หลังจากที่นิสิตได้เรียนสำนวน It's a tall order (an unreasonable or difficult demand.) ท้ายคาบสั่งงานอะไรไป นิสิตก็สวนกลับด้วยสำนวนนี้ตลอด แถมยังพาแมวเข้ามาเรียนอีก หันไปสบตากับแมวทีไร รู้สึกเหมือนโดนกดดันจากบอสเหลือเกิน

One of my fascinating class (ไหนๆก็เรียนเรื่อง extreme adjective กันอะเนอะ 55+)

ขอบคุณนิสิตทุกคนนะคะที่พยายามทุกวิถีทางให้มาเรียนทันคาบเช้า ขอบคุณที่สร้างความสนุกสนานในห้องเรียนและสร้างสิ่งแวดล้อมในการเรียนที่ supportive

สิ่งที่เป็น memory checkpoint สำหรับกล่มนี้น่าจะเป็น "กล้วยและสายไหม" ขอบคุณที่พยายามรับผิดชอบตัวเองแม้ว่าจะโดน bombarded ด้วยงานจากทุกภาคส่วน

ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ เลิฟยู

Good Morning B35
Rise and Shine
Oh! Bring your pen ^^

น่ารัก
https://www.facebook.com/gdh559/photos/pcb.2278884525604042/2278880975604397

เมื่อ..ตัวย่อ
ทุกที่..ทุกมอ
ต่างกำลัง..รอรัก
รักมหารอ..ในรั้วมหา’ลัย
ของใครจี๊ดหนักสุด ไปดูกันเลย!

คลิก! ชม Official Trailer
ได้ที่ https://openlink.co/OMGThemovie

‘OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ’
หนังรักของคนที่เคมีมันได้…แต่จังหวะไม่ได้!
27 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

ักจังวะผิดจังหวะ

1 เพลงที่บอกถึงชีวิตช่วงนี้

Next Station ...

ดีใจ🥳นอกจากได้สอนทั้งสองตัวครบ 4 ทักษะ ยังได้ไปครบทั้งสองแคมปัสเลย ตื่นเต้นจังกลับมาสอน on-site แล้ว

shopping ATK เพิ่มดีก่า 😅

หลังจากหายหน้าหายตาไปสักพักเพราะมัวแต่สนุกกับงานต่างๆที่เข้ามา จนลืมนำเรื่องราวมาแบ่งปันและขอบคุณผู้คนที่เราพบเจอ วันนี้ปิดคอร์สระยะสั้น (2 วัน) "โครงการพัฒนาศักยภาพนิสิตสู่สากล: กิจกรรมเตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ วิทยาลัยนวัตกรรมการสื่อสารสังคม" มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ

ขอบคุณทางวิทยาลัยที่ให้ความไว้วางใจและมอบโอกาสสนุกๆ ให้เราและนิสิตได้เจอกัน การได้เห็นไอแพดหรือโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะเรียนแทน textbook เป็นอะไรที่แปลกตาไปอีกแบบ แม้ว่าเราจะไม่รู้ได้เลยว่าเขากำลังเดินทางไปพร้อมกับเราหรือไม่ แต่การที่นิสิตแสดงออกด้วยการตั้งข้อสงสัย แสดงความคิดเห็น ช่วยเหลือเพื่อนด้วยกันเอง หรือแม้แต่นำสิ่งที่เราเพิ่งพูดมาใช้งานเลย แถมยังใช้ตลอดทั้งสองวันที่เจอกันด้วย ก็เป็นข้อพิสูจน์ (อีกครั้ง) ว่า "ทุกคนมีรูปแบบการเรียนรู้ของตัวเองในระยะเวลาที่ไม่เท่ากัน"

ขอบคุณนิสิตทุกคนที่ครั้งที่ใส่ใจกับงานที่ได้รับมอบหมายและใส่ใจเพื่อนร่วมคลาสด้วยกัน กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นเพื่อให้เพื่อนได้พัฒนา เพราะการเติบโตไปข้างหน้าคนเดียวบางทีมันก็ไม่สนุกเท่าเราเติบโตไปด้วยกันเนอะ

เก้าอี้ว่างนั้นคือสัญลักษณ์ว่า พื้นที่นี้เปิดกว้างต้อนรับสำหรับทุกคน
เก้าอี้ว่างนั้นคือสัญลักษณ์ว่า ไม่ว่าใครก็สมควรมีที่พักพิง
เก้าอี้ว่างนั้นคือสัญลักษณ์ว่า เราจะต้องปฏิบัติกับทุกคนด้วยความเคารพ
เขาค่อยๆ สร้างคนที่เชื่อว่า “ที่นี่มีเก้าอี้พอ” ขึ้นคนแล้วคนเล่า รุ่นแล้วรุ่นเล่า
สังคมจะได้มี “เก้าอี้” เพียงพอสำหรับทุกคน
❤️❤️❤️
อีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจและทำให้พวกเราเห็นความหมายของเก้าอี้ในอีกมุมหนึ่ง

https://www.facebook.com/photo/?fbid=571545814339950&set=a.238558047638730

คุณครูผู้สอนให้นักเรียนเปิดใจด้วยเก้าอี้ว่าง 1 ตัวที่อยู่ในห้องเรียนเสมอ
1
ห้องเรียนชั้นมัธยมต้นของ Dan Gill คุณครูวัย 75 ปี ของโรงเรียน Glenfield Middle School จะมีเก้าอี้ 1 ตัวว่างอยู่เสมอ
เก้าอี้ที่ว่างนี้มีเรื่องราวจากความทรงจำวัยเด็กที่เขาไม่มีวันลืม
2
ย้อนไปสมัยที่เขาอายุ 9 ขวบ เขามีเพื่อนที่สนิทที่สุดเป็นคนผิวดำชื่อ Archie Shaw ทั้งคู่ไปงานวันเกิดของเพื่อนอีกคนด้วยกัน
เมื่อคุณแม่ของเด็กคนนั้นเปิดประตู คุณแม่อนุญาตให้ Dan เข้ามาได้ แต่ไม่อนุญาตให้ Archie เข้ามาในบ้าน และมองด้วยสายตาเหยียดหยาม
“ที่นี่มีเก้าอี้ไม่พอ” คุณแม่เด็กคนนั้นบอก
Dan เห็นเพื่อนสนิทไม่ได้เข้าบ้าน จึงบอกว่า “ให้ผมนั่งกับพื้นก็ได้ Archie จะได้นั่งเก้าอี้ เราจะได้มาด้วยกัน”
“ไม่ได้ เธอไม่เข้าใจ ที่นี่มีเก้าอี้ไม่พอ” คุณแม่เจ้าของบ้านตอบ
ภาพและคำพูดนั้นยังอยู่ในความรู้สึกของ Dan
3
ในวันนั้น Dan ฝากของขวัญให้เพื่อน และไม่เข้าไปในบ้านนั้นเพื่ออยู่กับ Archie
“งั้นเดี๋ยวพวกเราจะไปที่บ้านผมกัน ที่บ้านผมมีเก้าอี้เต็มเลยครับ” Dan บอก
ทั้ง Dan และ Archie กลับมาที่บ้านด้วยกันและร้องไห้ ทั้งคู่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเลือกปฏิบัติ
“ที่นี่มีเก้าอี้ไม่พอ” คำพูดนั้นไม่เคยเลือนหายไปจากความทรงจำของ Dan
และกลายเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เขามาเป็นครู
เมื่อเคยเจ็บปวดจากผู้ใหญ่ที่ไม่ดี งั้นเขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีให้เด็กไม่ต้องเจ็บปวด
เขาเข้าใจว่าคนที่ถูกเลือกปฏิบัติเจ็บปวดอย่างไร เข้าใจว่าการที่คนรักต้องเจ็บปวดเป็นอย่างไร
เขาจึงอยากเป็นครูที่ทำให้นักเรียนไม่ต้องเจ็บปวดแบบนั้น หรือไม่ไปสร้างความเจ็บปวดให้คนอื่นๆ แบบนั้น
เขาจึงอยากปลูกฝังให้นักเรียนมี “เก้าอี้ว่าง” สำหรับทุกคน
4
“พฤติกรรมไม่ดีที่เด็กมีก็ได้มาจากผู้ใหญ่ และพฤติกรรมดีๆ ที่เด็กมี พวกเขาก็ได้จากผู้ใหญ่เหมือนกัน” Dan บอก
ตลอดชีวิตการเป็นคุณครูของ Dan เขาจึงสอนเรื่องความเท่าเทียมและการเคารพซึ่งกันและกันผ่านเก้าอี้ว่าง 1 ตัวที่อยู่ในห้อง
เก้าอี้ว่างนั้นคือสัญลักษณ์ว่า พื้นที่นี้เปิดกว้างต้อนรับสำหรับทุกคน
เก้าอี้ว่างนั้นคือสัญลักษณ์ว่า ไม่ว่าใครก็สมควรมีที่พักพิง
เก้าอี้ว่างนั้นคือสัญลักษณ์ว่า เราจะต้องปฏิบัติกับทุกคนด้วยความเคารพ
เขาค่อยๆ สร้างคนที่เชื่อว่า “ที่นี่มีเก้าอี้พอ” ขึ้นคนแล้วคนเล่า รุ่นแล้วรุ่นเล่า
สังคมจะได้มี “เก้าอี้” เพียงพอสำหรับทุกคน
5
นักเรียนที่เคยเรียนกับ Dan บอกกันว่า เก้าอี้ว่างตัวนั้นทำให้พวกเขาได้เรียนรู้หลายอย่าง
“หลายอย่างที่ฉันได้เรียนรู้จากคุณครู Dan Gill ล้วนมาจากเก้าอี้ว่างตัวนั้น” Emily McCarthy 1 ในลูกศิษย์ของ Dan บอก
ล่าสุด Dan Gill กำลังเขียนหนังสือชื่อ “No More Chairs”
เขาตั้งใจอุทิศหนังสือเล่มนี้ให้กับ Archie Shaw เพื่อนสนิทที่สุดในวัยเด็กที่เคยถูกบอกว่าไม่มีเก้าอี้สำหรับเขา ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว
ที่เคยร้องไห้ด้วยกันในตอนนั้นว่า ทำไมไม่มีเก้าอี้ให้เพื่อนนั่ง
ตอนนี้ “เก้าอี้” มีเยอะกว่าเดิมแล้ว
6
เรื่องราวของ Dan ทำให้ผมนึกถึงคำที่ผมชอบมากคือ
“Leave a room better than you found it”
ทำให้ที่ที่เราอยู่ดีขึ้นกว่าตอนที่เราเข้ามา
เหมือนกับการที่ Dan เคยเติบโตมากับการไม่มี “เก้าอี้” เพียงพอสำหรับทุกคน เมื่อเขาทำงานเป็นครู เขาจึงพยายามหล่อหลอมทัศนคติที่ดีให้นักเรียน เพื่อทำให้โลกนี้มี “เก้าอี้ว่าง” เพียงพอสำหรับทุกคน
ที่ที่ Dan อยู่ในตอนแรกไม่มี “เก้าอี้” เพียงพอสำหรับทุกคน แต่เพราะเขาทำงานอย่างมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไป ที่ที่เขาอยู่จึงมี “เก้าอี้” มากขึ้นกว่าเดิม
การทำงานที่มีคุณค่าคือการทำให้ที่ที่เราอยู่ดีขึ้นกว่าตอนที่เราตอนเข้ามา
ดีขึ้นเพราะมีเราอยู่
ท้อฟฟี่ แบรดชอว์

Reference :

The Washington Post “Why this teacher keep one chair empty in his middle school classroom”

Photo : Dan Gill

กิจกรรมดีๆ เผื่อมีน้องๆคนไหนสนใจนะคะ

https://www.facebook.com/ThaiPBSPodcast/photos/a.170651153012962/5237930099618350

📣 ขอเชิญชวนสถาบันการศึกษาเข้าร่วมโครงการ “ปล่อยของ ลองเล่า” ซีซั่น 4
🎙- เสียง สร้าง เรื่อง -

Thai PBS Podcast จัด Workshop ให้สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย เรียนรู้เรื่องการผลิตพอดคาสต์ การเขียนบทละคร พากย์เสียง และการใช้ดนตรีเล่าเรื่อง กับวิทยากรมืออาชีพ

📍 จัดการอบรม 2 รอบ ตั้งแต่เวลา 9.00-15.30 น. ผ่านระบบ Online
รอบที่ 1 เสาร์ 6 สิงหาคม 2565
รอบที่ 2 อาทิตย์ 7 สิงหาคม 2565
**สามารถเลือกวันอบรมได้ตามความสะดวกของท่าน
**หมายเหตุ รับสมัครเฉพาะอาจารย์ที่ต้องการนำนักศึกษาเข้าร่วมโครงการเท่านั้น
สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถสแกนคิวอาร์โค้ด
หรือคลิกลิงก์ได้ที่ https://thaip.bs/Lu8MfL4
รับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 24 มิถุนายน 2565

#ปล่อยของลองเล่า

แม้ว่าหลายคนในที่นี้ยังเป็นนักเรียนอยู่ หรือเป็นผู้ใหญ่ที่เรียนจบออกจากรั้วมหาวิทยาลัยมาแล้ว สิ่งที่ Taylor ได้กล่าวไว้นั้นเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนจริงๆ

BRIEF: “คุณเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองแล้ว” ถอดบทเรียนถึงบัณฑิตจากเทย์เลอร์ ในงานรับปริญญา ม.นิวยอร์ก
“ฉันจะให้คำแนะนำในชีวิตแก่พวกคุณยังไงดีนะ? ฉันคงไม่ทำแบบนั้น แต่ข่าวร้ายคือ ตอนนี้คุณเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองแล้ว ส่วนข่าวที่เจ๋งที่สุดคือ คุณเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองแล้ว”
ในวันนี้ เทย์เลอร์ สวิฟต์ นักแต่งเพลงชาวอเมริกันได้รับเกียรติให้ขึ้นรับปริญญาบัตรกิตติมศักดิ์ระดับปริญญาเอก สาขาศิลปะ จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค และได้ถูกเชิญขึ้นมาพูดสุนทรพจน์แด่นิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนิวยอร์คทุกคน
เธอเริ่มต้นด้วยประโยคว่า “ขอให้ฉันพูดว่า ยินดีต้อนรับทุกคนสู่นิวยอร์ค เมืองนี้กำลังรอทุกคนอยู่” ถึงแม้จะเป็นเจ้าของเพลงหลากหลายแนวตั้งแต่ โฟล์ค, คันทรี่ หรือป็อป ผ่านการออกอัลบั้มมาถึง 11 อัลบั้ม แต่เธอก็ยังกล่าวย้ำอยู่หลายครั้งว่า เธอไม่คุ้นกับการให้คำแนะนำในชีวิตใครเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้เธอจะพยายาม และนี่คือคำแนะนำที่ เทย์เลอร์ อยากมอบให้แก่นิสิตนักศึกษาทุกคนก่อนออกไป
#เราไม่ได้สำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว
“ไม่มีใคนที่ยืนตรงนี้ทำสำเร็จด้วยตัวคนเดียว เราต่างเป็นผ้านวมที่ถูกเย็บขึ้นจากความรัก คนที่เชื่อในอนาคตของเรา และคนที่แสดงความจริงใจและเห็นใจ หรือพูดกับความจริงแก่เราในเวลาที่ยากเย็นที่สุด”
เทย์เลอร์ กล่าวเช่นนั้นก่อนพูดขอบคุณไปยังครอบครัวของเธอ ที่เสียสละทุกอย่างเพื่อให้เธอเปลี่ยนจากนักร้องในคาเฟ่ต์และได้รับปริญญาบัตรระดับดอกเตอร์เช่นวันนี้ และเธอหวังว่าทุกคนที่ฟังเธออยู่ “จะสามารถหาวิธีแสดงความซาบซึ้งต่อทุกก้าวที่สำเร็จและผิดพลาด” ไปยังคนที่รักได้เช่นกัน
#ไม่มีใครได้ทุกสิ่งที่หวังไว้
เทย์เลอร์ เล่าว่าตั้งแต่เด็ก เธอวาดฝันว่าจะได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย มีชีวิตที่สนุกสนาน และมีความรักกับใครสักคน แต่ในความเป็นจริงทุกสิ่งต่างออกไป เช่นเดียวกับเพื่อนบัณฑิตทุกคนที่ในช่วงเวลาของการระบาดของ COVID-19 ไม่ได้เจอเพื่อนมหาวิทยาลัย ต้องทนเรียนออนไลน์ และถูกบังคับให้อยู่แต่ในหอพัก อย่างไรก็ตาม เธออยากให้ทุกคนยินดีกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และพาเรามาถึงความสำเร็จในวันนี้
#รู้จักเก็บบางสิ่งและปล่อยบางสิ่ง
“ชีวิตเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะถ้าคุณพยายามจะถือทุกอย่างเอาไว้” ริมฝีปากสีแดงของเธอหยุดชั่วครู่ ก่อนขยับกล่าวต่อ “ส่วนหนึ่งของการเติบโตและเคลื่อนสู่บทใหม่ของชีวิตคือ รู้จักเก็บและปล่อย ฉันหมายถึงว่าคุณควรเรียนรู้ว่าควรจะเก็บอะไรไว้ และอะไรที่คุณควรโยนทิ้งไป”
“คุณไม่สามารถเก็บทุกอย่างเอาไว้ ความโกรธแค้น ความเป็นไปของแฟนเก่า หรือความอิจฉาเมื่อเห็นคนที่เคยบูลลี่คุณได้รับการเลื่อนขั้น ขอให้เลือกว่าจะเก็บสิ่งใดไว้ และโยนที่เหลือทิ้งให้หมด” เธอกล่าว
#เรียนรู้ที่จะอยู่กับความอับอายจากความพยายาม
“ไม่ว่าคุณพยายามแค่ไหนที่จะหลีกหนีความอับอาย เมื่อคุณโตขึ้นและมองกลับไป คุณจะมองชีวิตที่ผ่านมาด้วยความอับอายอยู่ดี (หัวเราะ) ความอับอายเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แม้แต้ ‘ความอับอาย’ ในตัวมันเอง เมื่อถึงวันหนึ่งมันก็ถือว่า ‘น่าอับอาย’ ได้เช่นกัน”
เทย์เลอร์ เปรียบเทียบเรื่องนี้กับสิ่งที่เรากำลังทำหรือสวมใส่อยู่ในวันนี้ ที่เมื่อเรากลับมามองดูมันอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป มันอาจทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองและเสื้อผ้าที่ใส่น่าขำสิ้นดี แต่ “คุณหนีมันไม่พ้น ดังนั้น ไม่ต้องพยายามแบบนั้น” เธอกล่าวว่า เป็นแฟนคลับของความพยายามไม่ว่ามันจะออกมาดีหรือไม่ แต่เธอก็ชื่นชมมันอยู่ดี
#ความผิดพลาดไม่ใช่ความล้มเหลวและโลกยังไม่แตกสักหน่อย
เทย์เลอร์ แชร์ประสบการณ์ความสำเร็จของเธอตั้งแต่อายุ 15 ให้ฟังว่า “ในฐานะคนที่เริ่มชีวิตสาธารณะตั้งแต่อายุ 15 มันมาพร้อมราคาที่ต้องจ่าย และราคานั้นคือคำแนะนำมากมายที่ฉันไม่พึงประสงค์” เธอเล่าว่าเมื่อสมัยเธอเริ่มดังใหม่ๆ เธอเหมือนถูกเปรียบให้เป็นต้นแบบและถูกคาดหวังอย่างสูงจากทุกคน เธอรู้สึกเหมือนกับว่า “ถ้าฉันไม่ทำอะไรที่ผิดพลาด เด็กทุกคนในอเมริกาจะเติบโตเป็นนางฟ้าที่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าฉันพลาด ทั้งโลกจะแตกออก และทุกอย่างจะกลายเป็นความผิดของฉันตลอดไป” เธอกล่าวว่า เราทุกคนถูกสอนให้เชื่อว่า ความผิดพลาดเท่ากับความล้มเหลว และถึงที่สุด เราจะเสียโอกาสในการมีความสุขและรับรางวัลในชีวิตทั้งหมดไป
“แต่ประสบการณ์ส่วนตัวฉันไม่ได้บอกแบบนั้น มันบอกว่าความผิดพลาดคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน” เธอยิ้มต้อนรับเสียงปรบมือ “ความอับอายที่คุณพบ มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมนุษย์ ลุกขึ้น ปัดฝุ่นออกจากตัว และมองรอบตัวว่าใครยังอยากออกไปเที่ยวและระเบิดเสียงหัวเราะให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณบ้าง? นั่นคือของขวัญ”
#เมื่อเราสูญเสียเรากำลังได้รับกลับมาเช่นกัน
“ในชีวิตของคุณ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่พูดผิด เชื่อคนผิด แสดงความรู้สึกน้อยหรือมากเกินไป ทำร้ายคนที่ไม่สมควรทำร้าย คิดมากเกิน ไม่คิดอะไรเลย.. และฉันจะไม่โกหกว่าความผิดพลาดเหล่านี้ทำให้คุณพลาดบางอย่าง” เธอทิ้งจังหวะ ก่อนกล่าวต่อ “แต่ฉันกำลังบอกคุณว่า เมื่อคุณสูญเสียบางอย่าง มันไม่ใช่การสูญเสียทุกครั้ง เพราะหลายครั้งที่เราสูญเสีย เราได้บางอย่างคืนมาเช่นกัน”
“บางครั้งสิ่งที่ถูกต้องคือนั่งลงและขอโทษ บางครั้งคือการยืดหยัดต่อสู้ บางครั้งต้องหันหลับแล้ววิ่งหนี… แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเลือกไหนที่ถูกต้อง? ไม่ คุณไม่มีทางเลย” เธอกล่าวต่อว่า “แล้วฉันจะให้คำแนะนำอะไรแก่คนเหล่านี้ดีล่ะ? ฉันจะไม่ทำแบบนั้นหรอก ข่าวที่น่ากลัวคือ ชีวิตเป็นของคุณ และข่าวที่เจ๋งที่สุดก็คือ ชีวิตเป็นของคุณ”
“ฉันขอฝากพวกคุณว่า พวกเราล้วนถูกขับเคลื่อนด้วยสัญชาติญาณ ความอยากและความกลัว บาดแผลและความฝัน และบางครั้งพวกเราก็ทำมันพังทั้งหมด เช่นเดียวกับฉัน” เธอทิ้งท้ายว่า “สิ่งยากมากมายจะเกิดขึ้นกับพวกเรา แต่เราจะฟื้นตัว เรียนรู้จากมัน และจะเติบโตมากข้ึนเพราะสิ่งเหล่านั้น”
อ้างอิง:
https://www.billboard.com/music/music-news/taylor-swift-nyu-commencement-speech-full-transcript-1235072824/

#รับปริญญา

https://thelanguagenerds.com/2020/20-clever-and-funny-illustrations-showing-the-literal-meanings-of-idioms/?fbclid=IwAR3iQzTePTFe6unJEsLzPt8W-R5iSNF6ig21vlvmTJ1jccUyg8ii0ePuH9o

20 Clever And Funny Illustrations Showing The Literal Meanings Of Idioms. 20 Clever And Funny Illustrations Showing The Literal Meanings Of Idioms. When we use language we don’t often notice what some words mean if taken literally, but when you actually pause for a second and think about what some expressions literally mean, you’d be surprised how you didn’t notice ...

เอิ่มมม จริงๆตอนนี้ก็มีบัตรทั้งสามแบบเลยนะ เพิ่มเติมคือบัตรหยอดเห็บหมัดแมว

บัตรสะสมแต้ม

มิน่าหละ 😂

What is better than saying sorry?
Well, they are plenty.

Yes, superheroes go to school. And yes, they play football with their superhero friends.

(เมื่อทีมยอดมนุษย์ลาเรียนไปเตะบอล(แบบออนไลน์)

หลายคนคงเคยได้ยินประโยค "รู้หน้าไม่รู้ใจ" และเพื่อให้ทุกคนรู้จักและรู้ใจตัวเองมากขึ้นกับสารพัดซอสพาสต้าเผื่อครั้งหน้าจะได้มีเรื่องเล่าสนุกๆระหว่างกินพาสต้า

😂😂😂
void
noun [ C ]
(EMPTY SPACE)
a space with nothing in it

ส่วนการออกเสียงคำว่า mentor นั้นออกเสียงได้หลายแบบแล้วแต่สำเนียงของแต่ละที่ แต่ว่าหลักๆเลย (อเมริกัน) สามารถอ่านออกเสียงได้สองแบบคือ เม็นโทออร์ หรือ เม็นเทอรฺ ค่ะ


https://tomorn.co/2022/01/27/mentor/?fbclid=IwAR1gbANsKmqrgnDD2mNNQ0AV_xNyxaqE5r9Ufkytwgvk7C8xWx9bLhsps-w

ที่มาแสนน่าทึ่งของคำว่า Mentor Mentorship หมายถึงความสัมพันธ์ซึ่งคนที่มีความรู้หรือประสบการณ์มากกว่า (เรียกว่า Mentor) ช่วยแนะนำหรือ ‘นำทาง’ คนที่ม...