Excel Expert Training

🤓 สูตรที่ควรรู้เพื่อใช้แยกแยะข้อมูล

สมมติว่า เซลล์ A1 มีคำว่า Microsoft Excel

=Left(A1) จะได้ M
=Left(A1,9) จะได้ Microsoft

=Right(A1) จะได้ l
=Right(A1,5) จะได้ Excel

=Trim(A1) จะตัดวรรคด้านหน้าและด้านหลังทิ้ง เหลือวรรคตรงกลาง 1 ตัว
=Clean(A1) จะตัดอักขระพิเศษที่ไม่มีบนแป้นพิมพ์ทิ้ง ซึ่งอาจมีในข้อความแต่มองไม่เห็น

ในกรณีที่ไม่รู้ว่าแต่ละคำมีกี่ตัว
=Len(A1) จะได้ 15 นับจำนวนอักขระทั้งหมด
=Find(" ",A1) จะได้ 10 เป็นตำแหน่งเครื่องหมายวรรคที่อยู่ระหว่าง t E
=Mid(A1,11,5) จะได้ Excel โดยเลข 11 หาได้จาก 10+1 ส่วนเลข 5 หาได้จาก 15-10

=Substitue(A1,"Mi","Ma") เปลี่ยนตัว Mi เป็น Ma
=Replace(A1,11,2,"Ab") เปลี่ยนตัวที่ 11 รวม 2 ตัว ให้เป็น Ab

ตรงเวลาทั้งผู้สอนและผู้เรียนดีที่สุดครับ ทุกคนอาจมีนัดที่ต้องทำต่อ รีบกลับ รีบเดินทาง การรักษาเวลาเป็นการคิดถึงใจเขาใจเรา ให้เกียรติกัน

ถ้าอยากถามควรถามก่อนเรียนช่วงพัก หรือระหว่างช่วงเวลาเรียน

ผู้จัดคลาสมักชอบกำหนดเนื้อหามากๆไว้ซึ่งอาจมีเวลาสอนไม่พอ ผมจะย้ำว่าผมจะสอนเท่าที่มีเวลาเท่านั้น จะสอนช้าหรือเร็วตามความสามารถของผู้เรียนเป็นหลัก ถ้าไม่ทันขอให้นัดมาเรียนเพิ่มทีหลังครับ

พอหมดเวลา อาจถามว่าใครอยากกลับเชิญตามสบาย แล้วพักให้กลับกัน หลังจากนั้นใครยังอยู่ต่ออยากถามต่อเชิญถามได้ แต่ขอให้สงสารอาจารย์บ้าง สอนเหนื่อยมาทั้งวัน

ผมชอบคอร์สที่สอนเกินเวลา
เพราะรู้สึกว่าผู้สอน ‘แถม’
ยิ่งคอร์สที่เกินเวลาเยอะ ๆ ยิ่งรู้สึก ‘คุ้ม’

นั่นคือชุดความคิดสมัยเป็นผู้เรียน

แต่เมื่อเป็นผู้สอน พบว่าไม่ใช่

สมัยเป็นผู้สอนใหม่ ๆ ผมยังคงยึดชุดความคิดเดิม นั่นคือสอนเกินเวลา เพราะอยากให้ผู้เรียน ‘คุ้ม’ หรือถ่ายทอดเนื้อหาได้เยอะขึ้น

ยิ่งสไตล์การสอนของผมไม่มีกั๊ก ถาม 100 ตอบ 110
การสอนทุกครั้งจึงเกินเวลา บางครั้งล่าช้าเป็นชั่วโมง 😅

ผมคิด(เอง)ว่าผู้เรียนน่าจะชอบ แต่ผลจากการประเมินกลับไม่ใช่..

ผลประเมินบอกว่า เนื้อหาดี แต่วิทยากรไม่รักษาเวลา
และคอมเมนต์นี้ไม่ได้มีคนเดียว…

มีครั้งนึงผมรับงานวิทยากร คลาสนั้นผู้เรียนค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยมีใครยกมือถาม

เมื่อไม่มีใครถาม ผมจึงไม่ได้ตอบ กลายเป็นจบตรงเวลาเป๊ะ

ผมรู้สึกยังค้างคา อยากอธิบายเนื้อหาเพิ่ม แต่เมื่อผู้เรียนไม่ถาม จะตอบก็ใช่ที่

ปรากฏว่า ผลประเมินดีมาก!

“เนื้อหาแน่น ตอบโจทย์การทำงาน ควบคุมเวลาดีมาก”

และคอมเมนต์นี้ไม่ได้มีคนเดียว…

ผมจึงลองเลิกตรงเวลาอีกครั้ง ผลก็ออกมาคล้ายกัน

พูดง่าย ๆ คือ ผู้เรียนอยากให้เลิกตรงเวลามากกว่า ‘แถม’

ผมประหลาดใจในจุดนี้ สงสัยว่าทำไม แต่เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนั้น ก็ต้องเป็นแบบนั้น

แล้ววันนึงก็พบความจริง

มีคลาสนึง ผมเลิกตรงเวลา กล่าวปิดคลาสเรียบร้อย ขณะกำลังเก็บของกลับบ้าน (อุปกรณ์เยอะ 😅) ก็พบว่าผู้เรียนส่วนใหญ่ยังไม่ลุก ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะและทำอะไรบางอย่าง

ใช่, เค้านั่งทำงานต่อ

การสอนของผมมักเกิดขึ้นในวันธรรมดา ซึ่งก็คือวันทำงาน

สำหรับบางคนแล้ว การมาอบรมไม่ได้แปลว่าไม่ต้องทำงาน
ตรงกันข้าม เค้ายังต้องทำงานและอบรมด้วย

ด้วยความที่ผมขอให้ทุกคนโฟกัส เวลาอบรมเค้าก็อยู่กับผม แต่พอถึงเวลาเบรก เค้าก็ต้องตอบเมล ตอบแชต ตอบข้อความ

พอเลิกอบรมปุ๊ป เค้าก็ต้องรีบเคลียร์งาน เพราะระหว่างที่อบรม งานก็มากองรอแล้ว

บางคนโดนนัดประชุมออนไลน์หลังอบรมก็มี

นั่นคือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์ สิ่งที่เราคิด กับสิ่งที่คนอื่นคิด อาจเป็นคนละทางก็ได้
สิ่งสำคัญคือการให้เกียรติซึ่งกันและกัน

ถ้าเราให้เกียรติเวลาของผู้อื่น ผู้อื่นก็จะให้เกียรติเวลาของเรา

ตรงต่อเวลาคือสิ่งที่ต้องรักษา
แม้จะโดนโรคแทรกจากอะไรก็ตาม ต้องจบตรงเวลา และนั่นคือวิทยากรมืออาชีพ

ป.ล. ผมเขียนบทความนี้เพื่อเตือนตัวเองครับ 🙂

💥 อยากซื้อคอมเพื่อใช้กับ Excel แล้วคำนวณได้เร็วๆ

ขอให้เลือกเครื่องที่มี Core เพื่อใช้งานแบบ Multi Threaded เยอะๆครับ เพราะ Excel สามารถทำงานแบบคู่ขนาน โดยระบบของ Excel Options > Advanced จะกำหนดให้ใช้เต็มที่ไว้อยู่แล้ว

RAM 4GB ก็พอแล้ว เพราะ Excel 32 bit ที่เราใช้กันทั่วไปใช้ RAM สูงสุดได้แค่นี้

ส่วนแป้นพิมพ์ ถ้าเป็นโน้ตบุ้คขอให้สามารถกดปุ่ม Function Key ได้โดยตรง เพราะ Excel ต้องใช้ปุ่ม F2 F3 F4 F5 F9 ต้องใช้บ่อยมาก

F2 = Edit ไว้แก้สูตร
F3 = ไว้ใส่ชื่อ Range Name
F4 = ใช้ใส่ $
F5 = ใช้ค้นหา
F9 = ใช้สั่งคำนวณ

Fast and easy คลาสเรียนแบบส่วนตัววันนี้กับอังคารหน้าครับ

น่าภูมืใจมากที่ให้เกียรติมาเรียนกับผม และนับเป็นครั้งแรกของบริษัทที่ส่งทีมพนักงานมาเรียน Excel พร้อมกัน

😵‍💫 ตั้งถามไปแล้วได้คำตอบมาด้วยสูตรยาวๆ คล้ายๆแบบนี้ รู้สึกยังไงกันบ้างครับ

ผมเองเมื่อก่อนก็เคยชอบตอบแก้ปัญหาเป็นสูตรยาวๆๆๆๆๆๆ แต่พอคิดว่าให้คำตอบไปก็ได้แต่ลอกไปใช้แบบไม่เข้าใจ แก้ไขเองต่อไม่เป็น ไม่ได้ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ ดีไม่ดีจะถูกมองว่าชอบอวดเก่งเสียอีก

ถ้าเจอสูตรยาวๆที่ใครให้มา แนะนำว่าอย่าลอกไปใช้เลยครับ ให้ดูว่าในสูตรนั้นมีการใช้สูตรอะไรผสมกันมาบ้าง จากนั้นพยายามสร้างสูตรด้วยฝีมือของตัวเองดีกว่าครับ

ส่วนคนที่ให้สูตรยาวๆมาใช้ ควรอธิบายที่ไปที่มา แนะนำหลักการคิดมาด้วย

===========================

เชิญ Download คู่มือหลักสูตร ฉลาดใช้สารพัดสูตร Excel อย่างมืออาชีพได้จาก

https://www.excelexperttraining.com/book/index.php/a-to-z/others/download-links/xl-formulas

เรื่องอะไรที่คิดว่าไม่สำคัญ แต่สำคัญมาก ต้องรีบรู้เมื่อเริ่มใช้ Excel

☝️ ทำไม Microsoft จึงถือว่าปีค.ศ.1900 มี 366 วัน (Leap Year) ทั้งๆที่จริงแล้วมีเพียง 365 วัน

เรามักจำกันว่า ถ้านำเลขปีค.ศ.หารด้วย 4 ลงตัว ปีนั้นมี 366 วันใช่ไหมครับ
1900/4 = 475

ที่จริงยังมีหลักคิดต่อไปอีกว่า ถ้าเลขปีลงท้ายด้วย 00 หรือหารด้วย 100 ลงตัวให้หารด้วย 400 ด้วย ถ้าลงตัวจึงมี 366 วัน
1900/400 = 4.75 ไม่ลงตัว ดังนั้นจึงมีเพียง 365 วัน

☝️ ทำไม Microsoft จึงถือว่าปีค.ศ.1900 มี 366 วัน ทั้งๆที่ผิด จากภาพนี้ ลองกรอกวันที่ 29/2/1900 ลงไปในเซลล์จะพบว่าชิดขวา แสดงว่า Excel รับรู้ว่าวันที่นี้มีจริง (ทั้งๆที่ไม่ควรมี)

สูตรที่ใช้ตรวจสอบเลขปีที่กรอกไว้ในเซลล์ A1
=IF(OR(MOD(A1,400)=0,AND(MOD(A1,4)=0,MOD(A1,100)0)),"Leap Year", "NOT a Leap Year")

สาเหตุที่ Microsoft ตัดสินใจทำผิด ไม่ใช่เพราะคิดพลาดไป แต่เป็นเพราะสมัยนั้นโปรแกรมอื่นทำผิดไว้กันทั้งนั้นครับ โดยเฉพาะ Lotus 1-2-3 ที่ใช้กันทั่วบ้านทั่งเมือง ถ้าทำให้ถูกตั้งแต่แรกจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ตามคำอธิบายด้านล่างนี้

Microsoft Excel incorrectly assumes that the year 1900 is a leap year.

This article explains why the year 1900 is treated as a leap year, and outlines the behaviors that may occur if this specific issue is corrected.

More Information

When Lotus 1-2-3 was first released, the program assumed that the year 1900 was a leap year, even though it actually was not a leap year. This made it easier for the program to handle leap years and caused no harm to almost all date calculations in Lotus 1-2-3.

When Microsoft Multiplan and Microsoft Excel were released, they also assumed that 1900 was a leap year. This assumption allowed Microsoft Multiplan and Microsoft Excel to use the same serial date system used by Lotus 1-2-3 and provide greater compatibility with Lotus 1-2-3. Treating 1900 as a leap year also made it easier for users to move worksheets from one program to the other.

Although it is technically possible to correct this behavior so that current versions of Microsoft Excel do not assume that 1900 is a leap year, the disadvantages of doing so outweigh the advantages.

If this behavior were to be corrected, many problems would arise, including:

1. Almost all dates in current Microsoft Excel worksheets and other documents would be decreased by one day. Correcting this shift would take considerable time and effort, especially in formulas that use dates.

2. Some functions, such as the WEEKDAY function, would return different values; this might cause formulas in worksheets to work incorrectly.

3. Correcting this behavior would break serial date compatibility between Microsoft Excel and other programs that use dates.

☝️ If the behavior remains uncorrected, only one problem occurs:

The WEEKDAY function returns incorrect values for dates before March 1, 1900. Because most users do not use dates before March 1, 1900, this problem is rare.

NOTE: Microsoft Excel correctly handles all other leap years, including century years that are not leap years (for example, 2100). Only the year 1900 is incorrectly handled.

https://learn.microsoft.com/en-us/office/troubleshoot/excel/wrongly-assumes-1900-is-leap-year

https://learn.microsoft.com/en-us/office/troubleshoot/excel/determine-a-leap-year

🥰 ขอบคุณที่ให้เกียรติสนใจมาเรียนกับผมครับ เดือนกันยายนนี้มีผู้สมัครมาเรียนแบบกลุ่มกับแบบส่วนตัวเต็มแล้ว

👉 ในกรอบสีน้ำเงินเป็นคลาสส่วนตัว อยากเรียนเรื่องอะไรกำหนดหัวข้อได้ตามสบาย

👉 ส่วนกรอบสีเขียวเป็นคลาสที่มาเรียนแบบกลุ่มแบบ Public ในหลักสูตร Business Planning and Scheduling with Excel Expert

เป็นการเรียนคลาสละ 2 วัน สัปดาห์ละครั้ง จะได้มีเวลาพักได้นำควมรู้ที่เรียนไปทดลองใช้ก่อนแล้วมีโอกาสได้ถามตอบในครั้งถัดไป ดีกว่าเรียนติดกัน 2 วัน สมองอัดแน่นด้วยความรู้แต่ไม่ได้นำกลับบ้านไปด้วย

ผมจะไม่สอนติดกันทุกวันครับ เคยได้บทเรียนจากอาจารย์คิวทองที่มีตารางสอนแน่นมาก ท่านเตือนว่าอย่าสอนให้มากไป ให้พักบ้าง ไม่งั้นอาจจะฟิวส์ขาดกลายเป็นอัมพฤกษ์แบบท่าน

สนใจเรียนหลักสูตรไหนหรืออยากต่อคิวเรียนกับผม เชิญลงชื่อเป็น waiting list ไว้ก่อนที่
https://www.excelexperttraining.com/private/enrollment/courses-table/wishing-and-waiting/individual-registration

🫶 หรือถ้ามีเพื่อนสนใจเรียนด้วยตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เชิญโทรติดต่อผมเพื่อกำหนดวันเรียนได้เองเลยครับ ไม่ต้องรอให้ผมกำหนดให้หรอก โดยขอให้แจ้งผมล่วงหน้าก่อนสักเดือนเพื่อผมจะได้ประกาศรับผู้ที่สนใจมาเข้าเรียนด้วยเป็นกลุ่มละ 4 คน

เชิญดูวันว่างของผมได้จากปฎิทินกำหนดการอบรมได้ที่
https://www.excelexperttraining.com/private/enrollment/full-calendar

😵‍💫 Now() Today() สูตรหาวันที่และเวลา ที่เสียเวลาคำนวณซ้ำโดยไม่จำเป็น

เคยเปิดแฟ้มขึ้นมาแล้วพอจะปิดแฟ้มก็ถูกถามว่าจะ Save แฟ้มก่อนปิดแฟ้มไหมครับ ทั้งๆที่แฟ้มที่เปิดนั้นไม่ได้แก้ไขอะไรต่างไปจากเดิมแม้แต่น้อย

ที่เป็นแบบนี้เพราะในแฟ้มนั้นมีสูตร Now() หรือ Today() ใช้อยู่ โดย 2 สูตรนี้จะคำนวณเองทันทีเมื่อเปิดแฟ้มขึ้นมา ทำให้ได้วันที่และเวลาต่างไปจากเดิม ทำให้ Excel รับรู้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาแล้ว ต่างไปจากเดิมแล้ว จะ Save ทับไหม

การคำนวณใหม่ที่เกิดขึ้นจาก 2 สูตรนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อเปิดแฟ้มเท่านั้น พอมีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นในแฟ้ม เช่น มีการกรอกค่าใหม่ แก้ไขค่าเดิม หรือมีการคำนวณไม่ว่าตรงไหนก็ตาม จะกระตุ้นให้สูตร Now() Today() คำนวณใหม่เสมอ ซึ่งพฤติกรรมนี้เรียกว่า Volatile Function

ถ้ามีการใช้ 2 สูตรนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายๆที่ Excel ก็จะเสียเวลาคำนวณซ้ำโดยไม่จำเป็น แนะนำให้สร้างสูตรไว้ที่เซลล์หนึ่งแล้วลิงก์ไปใช้ต่อดีกว่าครับ Excel จะได้คำนวณเร็วขึ้น

+++++++++++++++++++

volatile, (วอล'ละไทลฺ) adj. ระเหยเป็นไอได้รวดเร็ว, ปะทุง่าย, ระเบิดง่าย, เปลี่ยนแปลงได้ง่าย, ชั่วคราว, ขึ้น ๆ ลง ๆ , บินได้. n. สารระเหย, สัตว์มีปีก

Send a message to learn more

ได้วิธีใช้ Excel ทำงาน vs ได้แนวทางทำงานโดยใช้ Excel
อยากได้แบบไหนครับ

💥 วิธีใช้ Excel นำหน้าธุรกิจ
ลองซื้อของผ่าน Temu กันแล้วหรือยังครับ พอคลิกเข้าไปจะพบว่าเขาเสนอสินค้าที่เราสนใจให้เห็นในหน้าแรกได้ทันที แสดงว่าเขาได้ทำการบ้านมาก่อนเป็นอย่างดีว่าเราเคยค้นหาสินค้าอะไรมาก่อนบ้าง ในการคลิกเลือกซื้อสินค้า เขาจะทราบแม้กระทั่งว่าเราใช้เวลาในการดูสินค้าแต่ละอย่างนานแค่ไหน สนใจอะไรเป็นพิเศษบ้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เขาวางแผนการผลิดสินค้าที่ขายได้ ขายดี และขายหมดเกลี้ยง ทำให้สามารถลดราคาสินค้าต่ำลงไปอีก
Temu ทำได้เหนือกว่าและสะดวกกว่าเว็บอื่นๆที่เราเคยใช้ เขากล้าท้าทายว่าจะส่งสินค้าถึงมือเราภายในวันไหน ถ้าส่งมาถึงช้ากว่านั้นจะให้แต้มพิเศษเป็นเงินคืนเพื่อใช้ลดราคา และระหว่างที่รอรับสินค้ายังมีลิงก์แจ้งมาตลอดว่าตอนนี้สินค้าที่สั่งไปนั้นอยู่ที่ไหน ผ่านด่าน นำส่งขึ้นเครื่องบินมาแล้วหรือยัง
นี่แหละครับเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการทำธุรกิจ หากเราอยากจะค้าขายสู้กับเขา ไม่ใช่คิดแค่ว่าจะตั้งกำแพงภาษี หรือหาทางป้องกันตัวเอง เราต้องหาทางนำเทคโนโลยี โดยเฉพาะความสามารถของ AI มาช่วยในการเสนอสินค้าของเราให้ได้อย่าง Temu ก่อน
ยังนึกไม่ออกว่า ใครจะเป็นคนที่จะช่วยทำให้ผู้ผลิตสินค้าคนไทย ชาวนา ชาวไร่ หรือ SME สามารถเสนอสินค้าให้ชาวโลกได้เห็นแบบ Temu
ย้อนกลับมาที่ Excel กันบ้าง ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เห็นแต่การเรียนการสอนที่เน้นแต่เรื่องการสร้างรายงาน ดึงข้อมูลที่เก็บไว้เอาไปใช้ด้วยสูตร VLookup XLookup หรือใช้ Power Query แต่ทำไมจึงยังไม่มีคลาสที่สอนวิธีใช้ Excel ให้เป็นอาวุธ นำหน้าธุรกิจกันบ้างเลย ... ทำไม
ปัญหาหนึ่งที่น่าจะตอบว่าทำไมได้ชัดที่สุด เกิดจากคนที่เก่ง Excel ก็มักจะเก่งแค่ Excel ส่วนคนที่เก่งในการค้าขายก็ไม่เก่ง Excel ไม่ทราบว่าจะใช้ Excel ช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆในการค้าขายอะไรได้อีกบ้าง
😵‍💫 ใช้ Excel เป็น แต่ใช้ Excel เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆในการค้าขายไม่เป็น
สาเหตุที่ยังทำไม่เป็น เพราะยังมองไม่ออกว่าจะเปลี่ยนวิธีคิดด้วยเครื่องคิดเลขหรือแม้แต่ใช้ Excel แล้ว เปลี่ยนมาใช้ตารางเพื่อช่วยคำนวณได้ยังไง พอเจอว่าแผนการผลิตหรือการขายต้องคำนึงถึงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ หรือมีวันหยุดทำงานอื่นแทรก แถมมีหลายขั้นตอนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็คิดต่อไม่ไหว กลับไปนับมือกันแทน
👉 ขอเรียนเสนอหลักสูตร ประยุกต์ใช้ Excel ในงานวางแผนกำหนดการ
(Business Planning and Scheduling with Excel Expert)
ดูเนื้อหาและสมัครเรียนได้ที่
https://www.excelexperttraining.com/private/home-of-excel-expert-training/courses-table-2/public-class/2-days/business-planning-and-scheduling-with-excel-expert-14-and-21-sep-2024
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับเจ้าหน้าที่วางแผนการเงิน วางแผนการขาย วางแผนการผลิต วางแผนการจ้างแรงงาน วางแผนลงทุนเพื่อทำ Feasibility Study
ระยะเวลาอบรม 2 วัน ในวันเสาร์ที่ 14 กับ 21 กันยายน 2567 ราคา 8,500 บาท
เรามามุ่งใช้ Excel นำหน้าธุรกิจกันครับ เรียนรู้เคล็ดลับการใช้ตารางเพื่อคำนวณที่ไม่นึกว่าจะทำได้มาก่อน และได้แนวทางในการใช้ Excel วางแผนการค้าขาย ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันที
ไม่ใช่แค่ช่วยในการค้าขายตอนนี้เท่านั้น คุณจะสามารถทำสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำ นึกไม่ออกว่าจะขายได้ยังไงได้ด้วยครับ

🥳 ขอเรียนเสนอหลักสูตรอบรม ประยุกต์ใช้ Excel ในงานวางแผนกำหนดการ (Business Planning and Scheduling with Excel Expert)
เหมาะสำหรับเจ้าหน้าที่วางแผนการเงิน วางแผนการขาย วางแผนการผลิต วางแผนการจ้างแรงงาน วางแผนลงทุนเพื่อทำ Feasibility Study
.
ระยะเวลาอบรม 2 วัน ในวันเสาร์ที่ 14 กับ 21 กันยายน 2567 ราคา 8,500 บาท
🥰 ประโยชน์ที่คุณจะได้รับ
สามารถใช้ Excel นำหน้าธุรกิจ เรียนรู้เคล็ดลับการใช้ตารางเพื่อคำนวณที่ไม่นึกว่าจะทำได้มาก่อน และได้แนวทางในการใช้ Excel วางแผนการค้าขาย ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันที
1. ได้แนวทางการออกแบบตารางเพื่อแก้ปัญหายากๆ เพื่อวางแผนเกี่ยวข้องกับระยะเวลาและกำหนดการในอนาคต สามารถนำไปใช้ในการทำ Feasibility Study
2. สามารถวางแผนธุรกิจให้ตอบสนองต่อความต้องการสั่งซื้อของลูกค้าได้ทันที ช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันค้าขาย
3. สามารถวางแผนกำหนดการที่เกี่ยวข้องกับการรับจ่ายเงิน จัดกำลังคน หรือส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้อย่างแม่นยำ
4. ได้รับแจก add-in พิเศษที่อาจารย์สร้างขึ้น เพื่อช่วยวางแผนกำหนดการได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะวางแผนไปในอนาคตหรือย้อนหลัง โดยคำนึงถึงวันหยุดประจำปีและวันหยุดพิเศษได้เหนือกว่าการใช้สูตรที่ Excel มีอยู่
5. ได้รับแจกแฟ้มทำ Feasibility Study วิเคราะห์โครงการลงทุนในธุรกิจ
👉 คุณสมบัติของผู้เข้าอบรม
1. ทุกคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการวางแผน ต้องการลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในอนาคต
2. เตรียมตัวที่จะก้าวหน้าเป็นผู้บริหาร สามารถนำ Excel ไปใช้เพื่อการตัดสินใจ
3. เคยสร้างสูตร IF และใช้คำสั่งบนเมนูมาก่อนบ้าง คุ้นเคยกับการใช้เมาส์และแป้นพิมพ์
ดูเนื้อหาและลงทะเบียนสมัครได้ที่
https://www.excelexperttraining.com/private/home-of-excel-expert-training/courses-table-2/public-class/2-days/business-planning-and-scheduling-with-excel-expert-14-and-21-sep-2024
☝️ รับเพียงคลาสละ 4 คนเท่านั้น เพื่อให้การเรียนมีคุณภาพดีที่สุดและคุณได้รับประโยชน์สูงสุด สามารถสอบถามได้อย่างใกล้ชิด
(ยังว่างอีก 2 ที่นั่งครับ)
.
🏠 เรียนที่ห้องอบรม Excel Expert Training รามคำแหง ซอย 35
ไปมาสะดวก มีที่จอดรถกว้างขวาง
ทุกคนมีจอภาพด้านหน้าเพื่อทำตัวอย่างตามได้อย่างชัดเจน
สมเกียรติ ฟุ้งเกียรติ
097-140-5555

🤩 ตำนาน Excel Expert Training

ฉลาดใช้ Excel 5.0 ในงานธุรกิจอย่างมืออาชีพ เป็นคลาสแรกในชีวิตการสอน Excel ของผมที่สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) (สสท) และคงเป็นคลาสแรกในประเทศไทยที่เปลี่ยนระบบการสอนจากการแบ่งเป็นขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง มาเป็นแบบนี้

ตอนนั้นเจออาจารย์ที่สอน Excel อยู่ก่อนแล้ว ท่านถามผมว่าที่ผมสอนนั้นเป็นขั้นอะไร ผมเรียนตอบว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นขั้นอะไร ทราบแต่ว่าเป็นเนื้อหาที่ผมคิดว่า จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน

คลาสแรกเริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2539 น่าดีใจมากที่มีผู้สนใจสมัครเข้าเรียนเต็มห้องทุกครั้ง จากเดิมที่ 3 เดือนกว่าจะได้สอนครั้งหนึ่ง ก็เริ่มสอนได้บ่อยขึ้น และที่สำคัญคือเป็นหลักสูตรเดียวที่อยู่รอดได้จากวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้งในปีถัดไป เกิดการลดค่าเงินบาท และปิดสถาบันการเงินหลายแห่ง หลักสูตร Excel ของอาจารย์ท่านอื่นต้องปิดตัวไป มีแต่หลักสูตรของผมเท่านั้นที่อยู่รอด ยังได้เปิดสอนเรื่อยมา และกลายเป็นหลักสูตรที่สร้างชื่อให้กับสสท

"วิธีการใช้งานของคน" คือ ประเด็นสำคัญที่ทำให้เนื้อหาของผมต่างจากหลักสูตรอื่น เปิดมุมมองใหม่ๆให้ผู้ใช้ Excel เข้าใจว่า กว่าจะใช้ Excel ได้ดีนั้น ไม่ได้ขึ้นกับ Excel อย่างเดียว แต่ยังขึ้นกับระบบงาน คนรอบข้างที่ทำงานร่วมกัน ซึ่งผมใช้หลักนี้ในการสอนเรื่อยมา

เพื่อขยายเนื้อหาให้ละเอียดขึ้น จากเดิมที่สอนฉลาดใช้ Excel 5.0 ในงานธุรกิจอย่างมืออาชีพ 3 วัน ก็แตกเป็น 3 หลักสูตร คือ

1. สุดยอดเคล็ดลับและลัดของ Excel
2. หันมาใช้ Excel จัดการข้อมูลก่อน Access กันดีกว่า
3. เคล็ดการเพิ่มผลงาน ลดความซับซ้อนของงานด้วย Excel VBA

ถ้าสนใจเรียน 3 หลักสูตรนี้ เชิญเรียนออนไลน์ ฟรี 10+1 หลักสูตรที่เว็บ XLSiam.com ครับ

😎 อะไรเอ่ย ควรใช้ให้ครบเครื่องก่อน VLookup XLookup Match Index

VLookup XLookup Match เป็นสูตรที่ใช้หาค่า ถ้าหาไม่เจอก็จะ Error ออกมาให้เห็น แต่เคยคิดเผื่อไว้บ้างไหมล่ะครับว่า ถ้าหาเจอ แต่รหัสที่ใช้หานั้นมีซ้ำอยู่หลายค่า สมควรจะนำคำตอบที่ได้ไปใช้ต่อหรือไม่

☝️ CountIF เป็นสูตรที่ควรนำมาใช้ก่อนที่จะใช้ VLookup XLookup Match ครับ

จากภาพนี้เซลล์สีเขียว J3 ใช้สูตร =COUNTIF(B3:B7,F3)
ตอนนี้นับรหัส a002 แล้วมีซ้ำอยู่ 2 ค่า ตามปกติสูตร VLookup จะหาค่าแรกมาให้
ถ้าไม่พบรหัสนั้นก็จะคืนค่าเท่ากับ 0 ซึ่งสูตรก็จะ error ออกมา

ซึ่งไม่ว่าจะนับแล้วเท่ากับ 0 หรือ 2, 3, 4 ก็ตาม ไม่ควรนำค่าที่หาพบไปใช้ต่อ เราควรใช้สูตร VLookup ต่อเมื่อนับรหัสแล้วมีเพียงค่าเดียวเท่ากับ 1 เท่านั้น

ในการหาค่า ให้ใช้ IF ช่วยตัดสินใจว่า ถ้านับแล้วมีค่าเท่ากับ 1 จึงปล่อยให้ VLookup ทำงานต่อ แต่ถ้าไม่ใช่ 1 ให้คืนค่าออกมาเป็น 0 แทน

G3 : =IF($J$3=1, VLOOKUP($F$3,MyData,2,0), 0)
H3 : =IF($J$3=1, VLOOKUP($F$3,MyData,3,0), 0)

☝️ แต่ถ้าทำให้ดีกว่านี้อีก ก่อนจะใช้สูตร CountIF หรือ IF มาช่วย ควรทำให้เซลล์ F3 ที่ไว้กรอกรหัสนั้น สามารถรับรหัสได้เฉพาะที่ตรงกับรหัสที่บันทึกไว้เท่านั้นด้วย โดยใช้ Data Validation ช่วยลิงก์ข้อมูลจากพื้นที่ Id มาให้ครับ

Download ตัวอย่างได้จาก
https://drive.google.com/file/d/17ptaGNSg9wpN1sIfLQSnOcHJSGK6CTuP/view?usp=sharing

Excel Expert Data Management คลาสรอบสองวันเสาร์ 24 สิงหาที่ผ่านมาครับ เรียนกันกลุ่มเล็กๆ 4 คน

สนใจเรียนเชิญลงชื่อเป็น Waiting List ไว้ก่อนที่
https://www.excelexperttraining.com/private/enrollment/courses-table/wishing-and-waiting/individual-registration

😎 ใช้ "" ซ่อน Error ที่ทำได้ง่ายๆ ที่ไม่ง่ายทีหลัง

การซ่อน Error ด้วยเครื่องหมาย "" เพื่อทำให้เห็นเป็นช่องว่างแทน เช่น ใช้สูตร =IfError(สูตร,"") ทราบไหมว่า "" ที่มาแทนที่ Error นั้นน่ะจะส่งผลเสียอะไรบ้าง

ก่อนอื่นการที่สูตรแสดง Error ขึ้นมา เช่น /A ! ! นั้น เป็นการเตือนว่าสูตรไม่สามารถหาค่าออกมาได้ อาจเกิดจากไม่มีค่านั้นเก็บไว้ หรือเกิดจากเหตุอื่นที่ทำให้ไม่สามารถคำนวณได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเตือนให้ทราบว่า ต้องย้อนไปตรวจสอบแก้ไขที่ตัวข้อมูลที่เก็บไว้

☝️ ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็นแล้ว อย่ารีบร้อนไปแก้ Error ล่ะครับ ปล่อยไว้น่ะดีแล้ว จะได้ทราบว่าข้อมูลที่เก็บไว้มีอะไรผิดพลาด ไม่ใช่ว่าพอเห็นแล้วต้องรีบแก้ที่ตัวสูตร VLookup ที่แสดง /A ออกมาให้เห็นเป็นช่องว่างแทน

เซลล์สีเหลือง G7 เปลี่ยน error จาก /A ให้เห็นเป็นช่องว่างด้วยสูตร =IfError(G3,"") ไม่ได้ถือเป็นช่องว่างที่แท้จริง แต่เครื่องหมาย "" เรียกว่า Null Text ถือว่าเป็นตัวอักษรตัวหนึ่งที่เรามองไม่เห็น

ถ้านำเซลล์ว่างๆที่มี "" ไปคำนวณบวกลบต่อจะเกิด Error ! ขึ้นทันที เพราะ Excel ไม่สามารถนำตัวอักษรไปคำนวณบวกลบได้

แต่ถ้าใช้สูตร =IfError(H3,0) เพื่อเปลี่ยน Error ให้เป็นเลข 0 แทน จะยังคงนำไปบวกลบต่อได้

พิสูจน์ให้เห็นกับตาแล้วนะครับ ขอให้ใช้หลักตามนี้เพื่อแก้ Error

👉 "ถ้าข้อมูลเดิมเป็น Text แล้วเกิด Error จะใช้ "" ก็ได้เพราะ "" มีสถานะเป็น Text ตามค่าเดิม แต่ถ้าค่าเดิมเป็นตัวเลข ให้เปลี่ยนเป็นเลข 0 แทนเพราะยังคงมีสถานะเป็นตัวเลขตามค่าเดิม"

Download ตัวอย่างได้จาก
https://drive.google.com/file/d/14SaJDr9bpBTjuSNr0o_n7VImPKYbwGx8/view?usp=sharing

🤩 จะค้าขายได้ดั่งใจ ต้อง Push - Pull เป็น

แบบ Pull : ลูกค้าซื้อสินค้า ต้องการมารับของวันที่ 31 ต้องเริ่มผลิตหรือจัดหาสินค้าตั้งแต่วันไหน ถ้าต้องใช้เวลา 13 วันในการจัดหาสินค้า

แบบ Push : ลูกค้ามาติดต่อซื้อสินค้าวันที่ 5 จะส่งสินค้าให้ลูกค้าได้เร็วที่สุดได้ในวันไหน ถ้าต้องใช้เวลา 13 วันในการจัดหาสินค้า

อย่าคิดแบบง่ายๆว่า แค่เอา 13 วันไปบวกหรือลบกับวันที่ก็ได้คำตอบแล้ว เพราะในชีวิตจริงไม่ง่ายแบบนั้น ถ้าในระยะเวลา 13 วัน มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดพิเศษแทรก

ปัญหาแบบ Pull ถ้าคิดสร้างสูตรเอง จะได้สูตรแบบนี้
=INDEX(LARGE( IF(ISNA(MATCH(WEEKDAY(ROW(INDIRECT (PullTo-MaxDays&":"&PullTo))),WeekdayNum,0))*ISNA(MATCH( ROW(INDIRECT(PullTo-MaxDays&":"&PullTo)),SpecialHoliday,0)),
ROW(INDIRECT(PullTo-MaxDays&":"&PullTo))), ROW(INDIRECT("1:"&MaxDays))),PullWrkDays,1)

🥺 สูตรที่ยาวเหยียดแบบที่เห็นนี้ อย่าว่าแต่ผู้เรียนเลยครับ ตัวผมเองก็ไม่อยากสอน อาจเข้าใจได้แค่ตอนสอนในห้อง พอกลับไปใช้เองสร้างเองก็ลืมไปแล้วว่าคิดกันมาได้ยังไง

👉 หันมาใช้สูตรลัดสั้นๆแบบนี้แทนกันดีกว่าครับ
=FromDate(PullTo,PullWrkDays,WeekdayNum,SpecialHoliday)

พออยากจะสรุปว่าในช่วงการจัดหาสินค้านั้นมีวันทำงานวันไหนบ้าง ผ่านวันหยุดวันไหนก็ใช้สูตรลัดตามนี้กระจายวันออกมาให้เห็น =DaysCount(From,To,WeekdayNum,SpecialHoliday,n)

☝️ สูตรลัดเหล่านี้ไม่มีใน Excel หรอกครับ แต่เป็นสูตรลับที่ผมสร้างเองทำเป็น Add-in สามารถนำไปใช้วางแผนในแฟ้มอื่นได้ทันที เป็นแฟ้มที่มีราคาแพงมาก หาไม่ได้ในที่ใด มีเฉพาะในหลักสูตร ประยุกต์ใช้ Excel ในงานวางแผนกำหนดการ (Business Planning and Scheduling with Excel Expert)

ระยะเวลาอบรม 2 วัน วันเสาร์ที่ 14 กับ 21 กันยายน 2567 : 9.00-16.00 น.

เรียนที่ห้องอบรม Excel Expert Training รามคำแหงซอย 35
รับเพียง 4 ที่นั่งเท่านั้น ตอนนี้ยังว่างอีก 2 ที่นั่ง
ค่าอบรม 8,500 บาท

ดูเนื้อหาและลงทะเบียนสมัครได้ที่
https://www.excelexperttraining.com/private/enrollment/full-calendar/public-class/2-days/business-planning-and-scheduling-with-excel-expert-14-and-21-sep-2024

เมื่อลงทะเบียนแล้วจะมีอีเมลส่งใบเสนอราคาไปให้ โดยยังไม่ต้องโอนเงินค่าอบรมจนกว่าจะได้รับอีเมลแจ้งยืนยันว่ามีผู้สมัครครบแล้วพร้อมจะจัดอบรม

แฟ้ม Excel ในฝัน
หน้าตาเป็นยังไง

Excel ขั้นสูง ขั้นเทพ ขั้นเซียน
จริงๆแล้วเป็นยังไง

☝️ Remove Duplicates ของแท้ vs ของเทียม

พอใช้คำสั่ง Data > Remove Duplicates จะพบว่า Excel จะกาทุกช่องตามภาพที่วงสีแดงให้เองทันที เพื่อเลือกครบทุก column ... ทำไมจึงเป็นแบบนี้ ควรเลือกใหม่เองเฉพาะบาง column หรือเปล่า

👉 อย่าไปตัดกาช่องที่กาไว้หรือเลือกกาช่องให้ต่างไปจากเดิมนะครับ

Remove Duplicates เป็นคำสั่งที่เกิดตามมาทีหลังเพื่อช่วยให้ Pivot Table หาคำตอบได้ถูกต้อง

หากเก็บข้อมูลแยกไว้หลายชีทในแฟ้ม พอจะใช้ Pivot Table หายอดรวมจากตารางทั้งหมด ก็จัดการลอกตารางจากทุกชีทเอามาต่อกัน (Append) แต่อาจทำไปทำมาแล้วจำไม่ได้ว่าเคยเอาตารางนั้นจากชีทไหนๆมาต่อกันซ้ำไว้หรือเปล่า ก็ให้ใช้ Remove Duplicates จัดการลบรายการที่ซ้ำกันทิ้งออกไปให้เหลือเพียงรายการเดียว

☝️ สาเหตุที่คำสั่ง Remove Duplicates กาทุกช่องเอาไว้ให้ตั้งแต่ต้น ทำไว้เพื่อบอกว่าจะตัดรายการที่ซ้ำกันจริงๆ และซ้ำกันทุก column ที่ตรงกันด้วยนะ โดยจะเปรียบเทียบว่าข้อมูลตรงกันไหมทั้งค่าที่ใส่ไว้และ Number Format ก็ต้องตรงกันด้วย (ถ้าใช้ Format ต่างกันก็ไม่ถือว่าซ้ำ)

✋ ที่ต้องระวัง หากใช้คำสั่ง Remove Duplicates จะทำลายลบทิ้งรายการทั้ง Row ออกไป ดังนั้นถ้าต้องการหาเฉพาะรหัสหรือชื่อสินค้าว่ามีอะไรบ้าง ควรเลือกใช้คำสั่ง Data > Advanced แบบ Unique แทน หรือใช้สูตร Filter ใน Excel 365 เพื่อแยกเฉพาะรหัสหรือชื่อออกไปข้างนอก โดยไม่ทำลายรายการที่เก็บไว้

พร้อมสำหรับเสาร์นี้แล้วครับ
คลาส Excel Expert Data Management เรียนกันกลุ่มเล็กๆเพียง 4 คน

จอที่เห็นนี้ใช้แสดงตัวอย่างที่เรียนต่อภาพมาจากเครื่องของผมตรงหัวโต๊ะครับ จะได้เห็นภาพชัดเจนแล้วทำตาม สงสัยตรงไหนชี้บอกผมได้ทันที

แทนที่จะเรียนแบบกว้างๆขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง มาเรียนแบบมีเป้าหมายชัดเจนกันดีกว่า มุ่งจัดการข้อมูลตั้งแต่การจัดเก็บ ค้นหา แล้วดึงข้อมูลมาทำรายงาน เรียนรู้วิธีสร้างปุ่มให้หัวหน้าหรือคนที่เปิดแฟ้มสามารถใช้งานได้ง่าย เห็นได้ชัดบนจอเล็กๆ ดูภาพได้สะดวกขึ้น

สนใจสมัครเรียน เชิญลงชื่อเป็น waiting list ไว้ก่อนที่
https://www.excelexperttraining.com/private/enrollment/courses-table/wishing-and-waiting/individual-registration

พอมีการเปิดเรียน ผมจะส่งอีเมลไปแจ้งให้ทราบครับ

1,138 คน ใน 2 เดือน
มาเรียน Excel ออนไลน์ ฟรี กันครับ
สมัครได้ที่ XLSiam.com

🤓 เคล็ดการลิงก์ข้อมูลจาก Pivot Table ไปใช้ต่อ

เนื่องจากตาราง Pivot Table จะย้ายตำแหน่งเซลล์ของตัวเลขยอดรวมไปที่อื่นได้เสมอเมื่อมีการโยกย้าย field บนหัวตารางต่างไปจากเดิม หากสร้างสูตรตามปกติเช่น =H5 หรือใช้สูตร VLookup เพื่อลิงก์เลข 10 ไปใช้ พอมีการปรับหัวตาราง สูตรที่ทำไว้ก็จะไม่ตามไปหาค่าเดิมมาให้ เพราะตำแหน่งของเลข 10 ย้ายไปอยู่ที่อื่นไปแล้ว

แค่พิมพ์เครื่องหมาย = แล้วคลิกไปที่เซลล์ H5 จะพบว่า Excel สร้างสูตรตามนี้ให้เองทันทีโดยอัตโนมัติ
=GETPIVOTDATA("Amount",$G$3,"Id","a001","Name","a")

จากนั้นลองสลับหัวตารางหรือย้าย Name ที่เป็น field ด้านบนมาวางไว้เป็นหัวตารางด้านข้าง จะพบว่าสูตรนี้ยังคงหาค่าเป็น 10 มาให้ตามเดิม ทำไม...

มาแปลโครงสร้างของสูตรนี้กัน
=GETPIVOTDATA("Amount",$G$3,"Id","a001","Name","a")
=GETPIVOTDATA แปลว่า ให้ดึงค่าจากตาราง Pivot
=GETPIVOTDATA("Amount", ให้หายอดของ Amount
=GETPIVOTDATA("Amount",$G$3, จากตารางที่วางไว้ที่เซลล์ G3
=GETPIVOTDATA("Amount",$G$3,"Id","a001", หาค่าของรหัส a001
=GETPIVOTDATA("Amount",$G$3,"Id","a001","Name","a" ที่มีชื่อ a

ดังนั้นไม่ว่าโครงสร้างตารางจะเปลี่ยนไปยังไง สูตรนี้ก็ยังคงหายอดรวมของรหัส a001 ที่มีชื่อ a ไว้เสมอ

ถ้าอยากทำให้สูตรหาค่าอื่นได้ด้วยล่ะ แค่ลิงก์ค่าที่ต้องการหามาแทนที่ค่าคงที่ a001 ให้เป็นเซลล์ F15 กับ a ที่ลิงก์มาจากเซลล์ F16 ข้างนอกแทน

=GETPIVOTDATA("Amount",$G$3,"Id",F15,"Name",F16)

คราวนี้อยากจะหารหัสอื่นหรือชื่ออื่น เพียงเปลี่ยนค่าในเซลล์ F15 F16 สูตรก็จะตามไปหายอดรวมตามให้ทันที

Download ตัวอย่างได้จาก https://drive.google.com/file/d/1KNmMy78urkfsm8JEKQip0qCk-6GgK2Pd/view?usp=sharing

ชมคลิปได้จากบทเรียนที่ 19 เคล็ดการใช้สูตร GetPivotData เพื่อดึงข้อมูลออกมาใช้ ในหลักสูตร Pivot Table Dashboards ซึ่งเปิดให้สมัครเรียนออนไลน์ ฟรี

*** FREE ***
เชิญสมัครเรียน Excel ออนไลน์ 10+1 หลักสูตร ฟรี 1 ปี

คลิกที่ลิงก์นี้เพื่อดูรายละเอียดและสมัคร
https://xlsiam.com/membership/free1year/

เข้าเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาที่สะดวกโดยไปที่เมนู Dashboard ที่เว็บ XLSiam.com

แชร์ต่อได้ตามสบายครับ

เครื่องมือที่ควรนำมาใช้ร่วมกับ Pivot Table

0. Remove Duplicate ใช้ลบรายการซ้ำที่อาจจะเกิดขึ้น อาจไม่จำเป็นต้องใช้ถ้ามั่นใจว่าฐานข้อมูลไม่ซ้ำ

1. Custom List เพื่อทำให้หัวตารางเรียงลำดับตามที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลามาจัดเรียงเอง

2. Table เพื่อทำให้ Pivot Table ขยายขนาด Source ที่เป็นฐานข้อมูลตามรายการที่เพิ่มให้เองเมื่อสั่ง Refresh

3. Range Name เพื่อใช้เป็น Source ของ Pivot Table ซึ่งจะคงอยู่ตลอดไป ดีกว่าการใช้ Table Name ที่อาจหายไปเมื่อสั่ง Convert to Range

4. Slicer เพื่อแสดงรายการที่แสดงได้ชัดเจนกว่า Filter

5. สูตร GetPivotData เพื่อลิงก์ข้อมูลจาก Pivot Table ไปใช้ต่อ

6. Refresh All เพื่อสั่ง Refresh ทุก cache ที่มีพร้อมกัน ปลอดภัยกว่าการสั่ง Refresh ซึ่งมีผลกับ cache ตัวเดียวของ Pivot Table ตารางนั้นเท่านั้น

☝️UPDATED สูตรชื่อ BahtEng BahtOnly Money เพื่ออ่านตัวเลขออกมาเป็นภาษาอังกฤษ

ExcelExpertTrainingAddins.xlam แฟ้มรวมสูตรอ่านตัวเลขเงินเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ

ถ้าใช้ Excel 365 หรือรุ่นใหม่หน่อย จะไม่สามารถใช้แฟ้ม .xla ได้อีกครับเพราะเป็นแฟ้มใช้กับรุ่นเก่า ต้องหันไปใช้ .xlam แทน ให้ download แฟ้มรุ่นใหม่นี้ครับ
Download :
https://drive.google.com/file/d/1fQiDOBfioVlkccTFrtp2_61xlgKPUpWV/view?usp=sharing

สมมติว่าเซลล์ A1 มีตัวเลข 12345.67

=BahtEng(A1)
จะแสดงคำอ่าน
Twelve Thousand Three Hundred Forty Five Baht and Sixty Seven Satang

=BahtOnly(A1)
จะแสดงคำอ่าน
Twelve Thousand Three Hundred Forty Five Baht and Sixty Seven Satang

=Money(A1,”Baht”,”Satang”)
จะแสดงคำอ่าน
Twelve Thousand Three Hundred Forty Five Baht and Sixty Seven Satang

xlam ใช้กับ Excel 2007 เป็นต้นมา และยังมีสูตรอื่นตามภาพด้วยครับ ช่วยให้ทำงานประจำวันได้ง่ายขึ้น

👉 วิธีการติดตั้ง

Download แฟ้มมาแล้วให้คลิกขวาที่ชื่อแฟ้ม สั่ง File Properties > Unblock > Apply

เปิดโปรแกรม Excel สั่ง File > Options > Add-ins แล้วกดปุ่ม Go ด้านล่างของจอ จะเห็นรายชื่อ Add-ins available แสดงขึ้นมาให้เห็นบนจอ
คลิกปุ่ม Browse ไปหาแฟ้ม ExcelExpertTraining.xlam ที่เก็บไว้ในโฟลเดอร์ แล้วกดปุ่ม OK

จะพบรายชื่อ Add-ins available กาชื่อ Excel Expert Training Spelling Number ซึ่งแสดงว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นสามารถเลือกใช้สูตรพิเศษต่อไปนี้ได้แล้ว

Clip https://www.youtube.com/watch?v=s-WR-YJiI4w

🤓 นับแบบพิสดาร เมื่อใช้ Sum ร่วมกับ CountIF

👉 แบบที่ 1 กับ 2 อยากนับว่ามีรหัส a002 อยู่กี่ค่า ใช้ CountIF ได้อยู่แล้ว แต่ทราบไหมว่าใช้สูตร Sum ก็ได้แบบนี้

=Sum(--(พื้นที่เก็บรหัส=รหัส))

👉 แบบที่ 4 ถ้าอยากนับว่ามีรหัส a002 กับ a004 อยู่กี่ตัว พอใช้สูตร CountIFS จะหาไม่ได้ซึ่งเป็นข้อจำกัดของสูตรนี้ ต้องเปลี่ยนมาเป็นแบบที่ 3

=Sum(CountIF(พื้นที่เก็บรหัสที่ต้องการหา,พื้นที่เก็บรหัส))

👉 แบบที่ 5 กับ 6 กรณีนับรหัสที่มีชื่อตามต้องการ จะใช้ Sum หรือ CountIFS ก็ได้ ตามนี้
=Sum((พื้นที่เก็บรหัส=รหัส)*(พื้นที่เก็บชื่อ=ชื่อ))
=CountIFS(พื้นที่เก็บรหัส,รหัส,พื้นที่เก็บชื่อ,ชื่อ)

👉 แบบที่ 7 กับ 8 ถ้าอยากนับรหัส a002 กับ a004 โดยให้เลือกนับเฉพาะรายการที่มียอดมากกว่า 20 จะพบว่าสูตร CountIFS สอบตกอีกแล้ว ต้องใช้ Sum ร่วมกับ CountIF ตามแบบที่ 3 แล้วคูณเพิ่มด้วยเงื่อนไขของพื้นที่ Amount > 20

😎 หมายเหตุ

1. ถ้าใช้ Excel รุ่นก่อน 365 เวลาสร้างสูตร Sum ในภาพนี้ต้องกดปุ่ม Ctrl+Shift+Enter พร้อมกันแทนการกดปุ่ม Enter หรือเปลียนจาก Sum ไปเป็น SumProduct แทนโดยกดปุม Enter ตามปกติจะใช้กับ Excel ทุกรุ่นได้

2. สูตร CountIFS สอบตกเสมอ ไม่สามารถใช้นับรายการประเภทเดียวกัน โดยสูตรนี้จะนับได้ต่อเมื่อเป็นรายการต่างประเภทกันเท่านั้น

Download ได้จาก https://drive.google.com/file/d/1kQuSxgZQH9MzoCqirwDEwm8AXIhVVKWL/view?usp=sharing

😎 อยากหาอายุเฉลี่ย จะใช้สูตร Average กับ Pivot Table ดีกว่ากัน

ตารางซ้าย เป็นตารางเก็บอายุที่กรอกค่าเอง ซึ่งเซลล์ C5 ยังว่างอยู่ 1 เซลล์
ตารางขวา เป็นตารางที่ลิงก์อายุไปใช้ต่อ ค่าว่างที่ลิงก์มาจะมีค่าเท่ากับ 0

☝️ พอลิงก์ข้อมูลที่เป็นเซลล์ว่างมาใช้ต่อ หรือกรอกเลข 0 ลงไป จะเกิดปัญหาขึ้นมาทันทีว่าจะนำเซลล์เลข 0 มาหาค่าเฉลี่ยด้วยหรือไม่

ตารางซ้าย ค่าเฉลี่ยที่หาด้วยสูตร Average หรือใช้ Pivot จะได้อายุเฉลี่ย 30 ปีเท่ากัน หามาจากอายุรวม 120 ปีหารด้วย 4 คน

ตารางขวา ค่าเฉลี่ยที่หาด้วยสูตร Average หรือใช้ Pivot จะได้อายุเฉลี่ย 24 ปีเท่ากัน หามาจากอายุรวม 120 ปีหารด้วย 5 คน เพราะทั้งสองวิธีมองตัวเลข 0 นำมาใช้นับในการหาค่าเฉลี่ยด้วย

😵‍💫 จะใช้อายุเฉลี่ยตัวไหนดีครับ เพราะอะไร

อีก 6 ปี Excel จะตกสมัยไปเป็น 1930
จริงหรือมั่วนิ่ม

💥 เคล็ดการหาค่าที่ต้องการ
=ยอดทั้งหมด ลบทิ้งด้วย ยอดที่ไม่ต้องการ

หายอดรวมของ aaa+bbb+ddd+eee
=Sum ยอดรวมทั้งหมด - ยอดของ ccc

หาจำนวนตัวอักษร S
=Len ความยาวของทุกตัว - Len ความยาวของคำที่ตัดตัวอักษรนั้นทิ้ง

Save แฟ้มที่ลิงก์กันยังไง
ให้เจ๋ง ไม่เจ๊ง