Takน้ำพริกถ้วยเก่า&ขนมจีนเมืองคอน
ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก Takน้ำพริกถ้วยเก่า&ขนมจีนเมืองคอน, ร้านอาหารไทย, ตลาดบั้นท้ายภูเก็ต, Kathu District.
เพจน้ำพริก
ขอปิดการขาย
ขอ อภัย ณ ที่นี้ด้วย
😊🙏
สวัสดีปีใหม่ 🎉🎆🎇ขอให้ทุกคนพบเจอแต่สิ่งดีๆตลอดทั้งปีเทอญ....ขับรถระวังๆกันด้วยนะค่ะ ช่วงนี้เข้มงวด
รู้ทันตำรวจ! ปริมาณแอลกอฮอล์เท่าไร คือ 'เมาแล้วขับ'
..เมาแล้วขับ ตามกฎหมายคืออะไร ไทยรัฐออนไลน์ได้รวบรวมข้อมูลไว้ดังนี้
ที่ผ่านมา กฎหมายกำหนดไว้ว่า เกณฑ์ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ให้ถือว่าผู้ขับขี่นั้นเมาสุรา คือ ปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ตาม
แต่มาปี 2560 มีการปรับปรุงเกณฑ์ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดใหม่ ผู้ขับขี่ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี ถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้ถือว่าเมาสุรา
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ หรือผู้ขับขี่ซึ่งได้รับใบอนุญาตขับรถแบบชั่วคราว ถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้ถือว่าเมาสุราเช่นกัน
ส่วนบุคคลอื่นๆ ที่นอกเหนือจากนี้ ยังคงใช้กฎข้อบังคับตามหลักเกณฑ์เดิม คือ ถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะถือว่าเมาสุรา
สำหรับอัตราโทษในความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุรา คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับขั้นต่ำเพิ่มเป็น 10,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ มีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาต และเพิ่มมาตรการยึดรถในชั้นศาล ไม่เกิน 7 วัน
ส่วนโทษในเรื่องของการเมาแล้วขับ แล้วทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ คือ จำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000 - 100,000 บาท พักใช้ใบอนุญาตฯ ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตฯ
ส่วนเมาแล้วขับ แล้วเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส จำคุก 2-6 ปี ปรับ 40,000 - 120,000 บาท พักใช้ใบอนุญาตฯ ไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาต
แต่หากเมาแล้วขับ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คงโทษจำคุก 3-10 ปี ปรับ 60,000 - 200,000 บาท รวมทั้งเพิกถอนใบอนุญาตฯ ขับขี่
***สาระ น่ารู้***
หากจะกล่าวถึงน้ำจากสมุนไพร “น้ำขิงมะนาว” ที่มีรสเปรี้ยวอมเผ็ดนิดๆ ด้วยสรรพคุณสามารถเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นหวัด ช่วยเบิร์นไขมันหน้าท้องได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแค่นี้ น้ำขิงมะนาวยังมีดีอีกมาก
รู้หรือไม่ว่าการดื่มน้ำขิงมะนาวเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้มีสุขภาพแข็งแรงและป่วยยากขึ้น เพราะในเหง้าของขิงสดจะมีสารจินเจอรอล ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการติดเชื้อของแบคทีเรีย อีกทั้งยังมีรสเผ็ดร้อนสามารถปรับสมดุลระบบทางเดินอาหารได้ เมื่อนำมาผสมกับน้ำมะนาวที่มีวิตามินซีสูง ช่วยกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนเลือดเป็นปกติ อพร้อมกับมีสารไบโอฟลาโวนอยด์ ที่จัดว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย
ประโยชน์ของน้ำขิงมะนาว
เมื่อคุณประโยชน์ของทั้งสองชนิดมาเจอกันจึงส่งผลให้สามารถป้องกันจากโรคเสื่อมต่าง ๆ ได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โรคมะเร็ง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน (Stroke) และยังให้ประโยชน์ดีๆอีก ดังนี้
1. ดีท็อกซ์สารพิษตกค้างในร่างกาย
หากจิบน้ำขิงมะนาวเป็นประจำทุกเช้าจะช่วยทำให้ร่างกายสามารถดีท็อกซ์ของเสียที่ตกค้างอยู่ในตับ อีกทั้งยังช่วยให้ระบบไหลเวียนน้ำเหลืองทำงานได้เป็นปกติ
2. ช่วยลดน้ำหนัก
การจิบน้ำขิงมะนาวอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเอนไซม์ Acyl-CoA oxidase ออกมามากขึ้น แล้วดึงเอาไขมันที่ถูกสะสมไว้มาเผาผลาญเป็นพลังงาน และถูกร่างกายขับออกมาในรูปของปัสสาวะ จึงทำให้ช่วยลดน้ำหนักได้นั่นเอง นอกจากนี้น้ำขิงมะนาวยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้สูงถึงร้อยละ 20 จึงเหมาะกับคนที่มีเวลาออกกำลังกายน้อย แต่อยากให้พุงยุงเร็ว
3. ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ
น้ำขิงมะนาวสามารถบรรเทาอาการเจ็บคอได้ เนื่องจากมะนาวมีรสขมนิดๆ จึงไปกระตุ้นน้ำลายให้ออกมามากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการติดเชื้อในลำคอ ทำให้อาการเจ็บคอดีขึ้น
4. ช่วยบำรุงผิวพรรณ
หากใครกำลังคิดว่าผิวพรรณตัวเองเริ่มหมองคล้ำไม่ค่อยเปล่งปลั่งสดใส ลองดื่มน้ำขิงมะนาวดู เพราะในน้ำขิงมะนาวเต็มไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และไปซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกสารอนุมูลอิสระทำร้าย อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว แบบนี้รับรองผิวดีขึ้นแน่ๆ
5. ชะลอความเสื่อมของเซลล์
นอกจากน้ำขิงมะนาวจะมีสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังมีวิตามินซีและวิตามินบี ช่วยป้องกันเซลล์ผิวไม่ให้ถูกทำร้าย ชะลอความเสื่อมของเซลล์ และมีแร่ธาตุสำคัญอื่นๆอีก เช่น ฟอสฟอรัส แมกนีเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และบำรุงต่อมหมวกไต
6. ช่วยย่อยอาหาร
หากดื่มน้ำขิงมะนาวตอนเช้า จะช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำย่อยออกมามากขึ้น ทำให้เวลากินอาหารไม่อึดอัดท้อง หรือมีอาการท้องอืด
7. บรรเทาอาการหวัด
ถ้ารู้สึกว่ากำลังจะเป็นหวัดหรือเริ่มเป็นหวัดแล้ว ให้รีบจิบน้ำขิงมะนาวเป็นการด่วน เนื่องจากน้ำขิงมะนาวช่วยป้องกันโรคหวัดได้ ด้วยมะนาวที่มีวิตามินซีสูง ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ และประกอบกับความเผ็ดร้อนของขิงจึงช่วยให้ร่างกายขับเหงื่อออกมามาก เป็นการบรรเทาอุณหภูมิความร้อนในร่างกายให้ลดต่ำลง ยิ่งหากจิบน้ำขิงมะนาวอุ่น ๆ เป็นประจำทุกวันก็จะช่วยให้อาการหวัดดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เครื่องดื่มน้ำขิงมะนาวมีวิธีการทำที่แสนง่าย แต่หากต้องการให้ได้รับประโยชน์แบบเต็ม ๆ ควรใช้ขิงสด แทนขิงซอง โดยใช้ น้ำอุ่น 1 แก้ว ฝานขิงประมาณครึ่งนิ้วใส่ แล้วตามด้วยน้ำมะนาว แค่นี้ก็ได้ของดีมีประโยชน์ไว้ดื่มแล้ว!!
ห่างไปนานแต่ไม่หายไปไหน ยังอยู่กับน้ำพริกเหมือนเคย แค่เพิ่มเติมข้าวสวยมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมราดด้วยท๊อปปิ้งที่มีให้เลือก
#ตลาดเปิดขาย ศ,ส,อา,จ,อ
น้ำพริกทำส่งทุกวันค่ะ ในจังหวัดและต่างจังหวัด....อะไรทำแล้วโอเคก็ทำยาวไป อะไรที่ไม่โอเคก็ต้องเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอ คำว่า "โอเคล่ะ นี่แหละ"
้าวคลุกน้ำพริกถ้วยเก่า ไม่รักกันอย่ากลับมา😊 กินแล้วส่ายหน้าเดินไปหาถ้วยใหม่😁พิกัดร้าน📍Takข้าวคลุกน้ำพริก ตลาดบั้นท้ายภูเก็ต
#มาเดิน,มาเที่ยว,มาชิม มีหลากหลายให้เลือกทาน
#ช๊อปปิ้งของสวยๆงามๆแต่งสวยแต่งหล่อ สไตล์ใครสไตล์มัน
#พื้นที่นั่งชิลล์,นั่งดริ้ง,ฟังเพลงเพราะๆ🍻🎤
#โฆษณาได้แม่ค้าขายที่นี่ค่ะ😊👌👍
#กดไลค์กดแชร์ได้ไม่ห้ามค่ะย้ำ "เพจ"😊 มาที่ร้านรับน้ำพริกไปกินฟรี1กระปุก😉👍
Love numpriktouykao
7 คุณประโยชยน์ของ “ไข่ขาว” อาหารของคนรักสุขภาพ
“ไข่” ไม่ว่าจะไข่เป็ด ไข่ไก่ วัตถุดิบบ้านๆ ที่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ราคาถูก สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ด้วยคุณประโยชน์มากมาย สามารถรับประทานได้ทุกวัยไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ทำให้ไข่เป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งที่หลายๆ บ้านมักจะมีติดไว้ที่ก้นครัวอยู่เสมอๆ แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากจะนำไข่มาประกอบอาหารแล้ว ไข่ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกหลายด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ไข่ขาว” ที่มักถูกนำมาใช้ประโยชน์ที่มากกว่าการประกอบอาหารอยู่เสมอๆ มาดูกันดีกว่าว่าประโยชน์ของไข่ขาวนั้นมีดีอะไรบ้าง
#ประโยชน์ของไข่ขาว 7 ประการ
1. ไข่ขาวเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ สำหรับนักเพาะกายหรือเหล่านักออกกำลังกาย ไข่ขาวเป็นอีกหนึ่งในอาหารที่ขาดกันไม่ได้เลยทีเดียว เพราะไข่ขาวมีส่วนประกอบหลักคือโปรตีนและไม่มีไขมันรวมถึงคอเลสเตอรอลเหมือนกับไข่แดง เราจึงเห็นว่าคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อมักกินไข่ขาวหลายๆ ฟองต่อวันโดยไม่ต้องกังวลกับโรคอ้วนหรือโรคหัวใจ โปรตีนในไข่ขาวจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่างๆ ให้แข็งแรงมากขึ้น
2. ไข่ขาวอุดมไปด้วยโพแพสเซียมสูง มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิต โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันโลหิต มีการวิจัยพบว่าในใข่ขาวมีเปปไทด์ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งโปรตีน ช่วยลดความดันโลหิตได้เทียบเท่ากับยา Captopril
3. ไข่ขาวมีวิตามินบี 2 สูง ช่วยเสริมสร้างการเกิดเซลล์เม็ดเลือดแดง จึงช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้อย่างดีเยี่ยม
4. ไข่ขาวเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากไข่ขาวเป็นอาหารที่พลังงานน้อยเพียง 17 กิโลแคลอรี่ต่อหนึ่งฟอง จึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก และถึงแม้จะให้พลังงานน้อยแต่ก็ทำให้รู้สึกอิ่มนานและไม่รู้สึกโหย หิวระหว่างวัน อีกทั้งโปรตีนในไข่ขาวย่อยง่ายมาก ร่างกายสามารถนำโปรตีนที่ได้จากไข่ขาวไปใช้ได้ 100% เต็มๆ เลยทีเดียว
5. ไข่ขาวเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร เพราะโปรตีนจากไข่ขาวไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารเหมือนกับโปรตีนจากแหล่งอื่นๆ จึงเหมาะเป็นเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับดูแล ฟื้นฟูผู้เป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร
6. ประโยชน์ของไข่ขาวนำมาบำรุงผิวพรรณ หากต้องการฟื้นฟูผิวหน้าที่ผ่านการเผชิญกับมลพิษมาทั้งวันให้กลับมาชุ่มชื่น สดใสแข็งแรง วิธีที่ง่ายแสนง่ายก็คือ นำไข่ขาวมาพอกหน้าทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก จะช่วยจัดการกับสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนใบหน้าได้อย่างหมดจด หรือหากมีปัญหาสิวเสี้ยน ฝ้า กระ จุดด่างดำ สามารถใช้ไข่ขาวช่วยได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องเพิ่มน้ำมะนาวลงไปในไข่ขาวอีกสักเล็กน้อย ผสมให้เข้ากันแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยให้หน้าขาว กระจ่างใส ห่างไกลสิว
7. ประโยชน์ของไข่ขาวช่วยบำรุงผม มีผลิตภัณฑ์บำรุงผมมากมายที่วางขายตามท้องตลาดที่มีผสมของไข่ขาว แต่ทั้งนี้เราสามารถบำรุงได้เองที่บ้านเช่นกัน เพียงนำไข่ขาวมาตีให้เกิดฟองผสมกับน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวลงไป นำมาหมักผมทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพียงเท่านี้ผมที่เคยแห้งเสียก็จะกลับมาเงางาม นุ่มสลวย ไม่ขาดหลุดร่วงง่ายๆ อย่างแน่นอน
#ข้อควรระวังในการรับประทานไข่ขาว
1. ทานไข่ขาวมากเกินไปอาจทำให้เกิดโทษ เพราะหากร่างกายรับโปรตีนจากไข่ขาวในปริมาณที่มากกว่าความจำเป็นของร่างกาย ไตก็ต้องทำงานหนักในการจัดการกับโปรตีนส่วนเกิน ดังนั้นควรควบคุมการทานไข่ขาวในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อป้องกันปัญหาที่เกี่ยวกับโรคไต ที่อาจส่งผลตามมาในอนาคต
2. ควรทานไข่ขาวแบบสุก การรับประทานไข่ขาวต้องทำให้สุกก่อนทุกครั้งเพราะร่างกายไม่สามารถดูดซึมไข่ขาวในขณะที่ยังดิบ และป้องกันความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ salmonella อีกด้วย
3. ไข่ขาวดิบลดการดูดซึมโปรตีนและวิตามินบี 2 จึงไม่แนะนำให้ทานไข่ขาวแบบดิบเป็นอันขาด โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในวัยที่ต้องการโปรตีนสูง
เรียกได้ว่าคุณประโยชน์ของไข่ขาวนั้นมีมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะด้านสุขภาพ และความงาม เป็นอาหารที่แสนธรรมดา แต่คุณค่าไม่ธรรมดาอย่างที่คิด แถมยังราคาถูก หาซื้อง่าย "ไข่ขาว" มีประโยชน์ดีๆ เยอะอย่างนี้อย่าลืมรับประทานกันเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสมรวมถึงอย่ารับประทานไข่ดิบเพราะแทนที่จะได้ประโยชน์อาจจะเกิดโทษต่อร่างกายแทนได้
#น้ำพริกไตปลาแห้ง
#น้ำพริกปลาฉิ้งฉ้าง
#น้ำพริกมะขามสด
°°°ถึงเครื่องเน้นเนื้อปลา กระปุกละ60฿ น้ำหนัก250กรัม
สารพัดข้อดีของ น้ำพริก ที่ยิ่งกินก็ยิ่งสวย
นอกจากกับข้าวกับปลาแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ในสำรับอาหารไทยก็คือการทานกับ น้ำพริก นี่ล่ะค่ะ ไม่ใช่แค่ความอร่อยชวนให้ทานผักได้มากอย่างเดียว แต่น้ำพริกยังมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพและผิวพรรณของเรา เหมือนในเพลงที่ร้องว่า “กินข้าวกับน้ำพริกสิจ๊ะ ถึงได้สะได้สวย” นั้นไม่ได้เกินจริงเลยค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าน้ำพริก 1 ถ้วยอัดแน่นไปด้วยประโยชน์อะไรบ้าง แล้วคุณจะอยากทานน้ำพริกมากขึ้นแน่นอนค่ะ
หอม กระเทียม พริก เครื่องแกง
ส่วนประกอบหลักของน้ำพริก
พริก มีสารแคปไซซิน ที่ทำให้เผ็ดร้อนแซบถึงใจ และมีสารแคโรทีนอยด์ ซึ่งล้วนมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้สดชื่น ตื่นตัว ขับลมในลำไส้ กระตุ้นความเจริญอาหาร และยังมีวิตามินซีที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของหลอดเลือด เสริมการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย เหมาะกับใครที่แพ้อากาศหรือเป็นหวัดบ่อยค่ะ
กะปิ โดดเด่นที่แคลเซียมซึ่งมีมากกว่านมวัวถึง 15 เท่า! ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง และมีวิตามินบี 12 ที่ช่วยบำรุงระบบประสาท และเสริมการสร้างเม็ดเลือด ช่วยป้องกันอาการโลหิตจางได้เป็นอย่างดี และที่โดดเด่นสุดๆ ก็คือสารแอสตาแซนทิน (Astaxanthin) ที่พบในสัตว์ทะเลอย่างกุ้ง หรือเคย ถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมากต่อร่างกายและผิวพรรณค่ะ
กระเทียม มี อัลซิลิน (allicin) และซัลเฟอร์ (sulfur) สูง ช่วยลดอาการขาดหลุดร่วงของเส้นผม ลดความดันโลหิต ช่วยไม่ให้เลือดจับตัวเป็นลิ่มหรืออุดตันตามผนังหลอดเลือด จึงช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตและเสริมภูมิต้านทานร่างกายได้อีกด้วย
หอมแดง มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยให้การไหลวียนของเลือดดีขึ้น สามารถป้องกันการติดเชื้อ และช่วยบรรเทาอาการไข้หวัดได้ นอกจากนี้หอมแดงยังมีฟอสฟอรัสปริมาณสูง ช่วยบำรุงประสาทและความจำ ทำให้สมองแจ่มใส
ประโยชน์ของกระเทียม
กระเทียม เป็นพืชชนิดหนึ่งที่เรานำมาประกอบอาหารทั้งใบและหัว นอกจากนั้นยังเป็นพืชสมุนไพรสามารถที่จะรักษาโรคได้หลายชนิด ซึ่งหลายคนยังไม่รู้ว่ากระเทียมนั้นมีประโยชน์มากมาย แม้จะมีกลิ่นที่ฉุนและมีรสเผ็ดก็ตาม ในทางตำราโบราณได้กล่าวถึงการใช้กระเทียมในการรักษาโรคต่างๆมานานแล้วไม่ได้มีแต่ในประเทศไทยเท่านั้นที่อื่นจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์มีการใช้งานในหลายที่เช่นกัน แม้กระทั่งใช้เพื่อกันผีหากเราดูหนังฝรั่งบางเรื่องจะใช้กันผีดูดเลือดแต่ทั้งนี้เป็นความเชื่อของคนโบราณ กระเทียมสามารถรักษาใช้ได้ทั้งภายนอกและภายใน และนำไปแปรรูปเป็นยาชนิดอื่นและมีรูปแบบต่างๆเพื่อให้ง่ายต่อการกิน ทางการแพทย์ในโบราณถือได้ว่าเป็นยาดีที่รักษาโรคได้มากมาย
กระเทียมมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Allium Sotivum Linn เป็นพืชพวกหญ้าที่มีหัวอยู่ในดิน โดยหัวมีลักษณะเป็นกลีบเป็นซีกๆรวมกันเป็นกระจุกใบเรียวยาว มีรสเผ็ดและกลิ่นฉุน และมีหลายพันธุ์ที่เรานำมาใช้ประกอบอาหาร มีข้อมูลว่ากระเทียมได้นำมาใช้ประโยชน์มากกว่า 5 พันปีมาแล้ว ในทางประวัติศาสตร์จีนได้นำกระเทียมมาใช้เมื่อ 4 พันปีมาแล้ว โดยนำมาเป็นยารักษาโรคจนรอดตายมาแล้ว ชาวอียิปต์นำกระเทียมมารักษาโรคต่างๆ เช่น ปวดหัว หอบหืด โรคหวัด บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ ปวดฟัน ขับปัสสาวะ เป็นต้น ชาวยิวได้นำมาประกอบอาหารและมีความเชื่อเรื่องให้โชคลางอีกด้วย ฮิปโปเครติสใช้กระเทียมในการรักษาโรคเรื้อน เมื่อก่อนทางใต้ของฝรั่งเศสเกิดโรคระบาดร้ายแรงขึ้นและมีผู้คนล้มตายจำนวนมากแต่มีคนจำนวนหนึ่งซึ่งดื่มน้ำส้มสายชูผสมกับกระเทียมรอดชีวิตออกมาได้ นอกจากนั้นยังนำกระเทียมมาใช้เป็นยาฆ่าแมลงอีกด้วย
ประโยชน์ของกระเทียมในการนำไปใช้
1.กลาก เกลื้อน มีการใช้งานมานานแล้วโดยการนำกระเทียมมาทารักษา หรือว่าอาการต่างๆตามผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา อาการคันต่างๆ ที่พบว่ากระเทียมมีสารอัลลิซิน มีลักษณะเป็นน้ำมัน สามารถฆ่าเชื้อราได้โดยใช้ระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น มีการทดลองว่าใช้กระเทียมรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราได้หลายชนิด ทั้งเล็บที่เกิดจากเชื้อรา โดยการนำกระเทียม 4 – 5 กลีบบดให้ละเอียดแล้วนำมาทาที่เล็บประมาณ 1 ชั่วโมง หรือใช้วิธีเดียวกันนำไปทาบริเวณที่เป้นกลากเกลื้อนได้ ให้ทาทุกวันจนหาย กระเทียมยังมีสารชนิดอื่นที่ยับยั้งเชื้อรา
2.ลดไขมันและโคเลสเตอรอล มีการทดลองว่าน้ำคั้นจากกระเทียมสามารถลดไขมันในเลือดได้ป้องกันและลดอาการความดันโลหิตสูง โดยมีการพบสารหลายชนิดที่ใช้ลดไขมันเช่น ซีลีเลียม อัลลิซิน สคอร์ดินิน เจอร์เม้นียน ช่วยปรับความสมดุลในเลือดได้ โดยได้ทดลองอยู่หลายแห่ง จึงสรุปว่ากระเทียมช่วยลดไขมันได้ หากรับกระเทียมสด ครั้งละ 1 ช้อนชา วันละ 3 ครั้ง
3.แก้หอบหืด พบว่ากระเทียมในน้ำมันที่เมื่อทานเข้าไปแล้วจะช่วยให้ร่างกายขับสารออกมาที่หลอดลม ทำให้เยื่อบุผนังของหลอดลม มีความแข็งแรงงลดอาการเกร็ง ตัวของหลอดลม ทำให้คนที่กินกระเทียมช่วยอาการหอบหืดลดลงได้
4.อาการไอและขับเสมหะ เนื่องจากมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเกิดจากไวรัสและแบคทีเรีย โดยกระเทียมมีสารต้านไวรัสและแบคทีเรียจึงทำให้อาหารไอและขับเหมหะออกไปได้ โดยนำกระเทียม 1 – 2 กลีบ มาบดละเอียดผสมกับน้ำส้มสายชู 2 – 3 ช้อนโต๊ะนำไปใส่น้ำดื่ม 1 ลิตร หรือนำกระเทียมมาหมักกับข้าวเปลือกแล้วมารับประทานกับอาหาร
5.บำรุงผมและหนังศีรษะ กระเทียมฆ่าเชื้อราได้เป็นอย่างดีซึ่งเป้ฯสาเหตุหนึ่งของอาการคันและมีรังแค นอกจากนั้นกระเทียมยังบำรุงผมได้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีผมมันจะทำให้ผมและหนังศีรษะสะอาด มีซัลเฟอร์ ทำให้ผมแข็งแรงและมีน้ำหนัก โดยนำกระเทียม 5 – 8 กลีบมาบดละเอียดผสมกับน้ำมันละหุ่ง 8 ช้อนโต๊ะ หลังสระผมใช้ชโลมให้ทั่วเหมือนครีมนวดผม
6.รักษาแผล ไม่ว่าจะเป็นแผลสดแผลมีหนองช่วยรักษาได้ เนื่องจากมีสารอัลซีลินในการรักษาแผลที่เป็นหนองได้หากเป็นแผลสดให้ขยี้แล้วทาที่แผลหรือนำผ้ามาผิดทับเอาไว้ที่แผล หากเป็นแผลที่มีหนองให้คั้นเอาน้ำกระเทียม 1 ส่วนต่อน้ำต้มสุก 4 ส่วน ล้าบาดแผลและใส่เป็นยาแผลได้
7.ไข้หวัด กระเทียมมีสาร ซัลไฟล์ แบะไดซัลไฟล์ เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะเสริมสร้างภูมิต้านทานได้ดีขึ้น หรือถ้าหากรู้สึกว่ากำลังจะเป็นหวัดก็ให้กินป้องกันไว้ โดยนำกระเทียมตำกับน้ำมะนาว 1 ช้อนชาเติมน้ำร้อนเข้าไป 1 ถ้วย ดื่มวันละ 3 เวลา
8.ขับพยาธิ เนื่องจากกระเทียมมีสารที่ชื่อ ปิเปอธาซีน มีผลในการฆ่าพยาธิไส้เดือน พยาธิเส้นด้าย โดยการทดลองพบว่าจะทำให้พยาธิซักและอ่อนเพลียแล้วขับออกมา โดยพยาธิแต่ละชนิดจะใช้กระเทียมในการรักษาที่แตกต่างกัน เช่นพยาธิเข็มหมุดให้กินมันละ 1 กรัมก่อนนอนติดต่อกัน 4 – 5 วัน
9.รักษาอาการปวดตามข้อ สามารถที่จะบรรเทาอาการเคล็ดขัดยอก เท้าแพลง ปวดตามข้อ น้ำมันของกระเทียมนั้นสามารถที่จะรักษาอาการต่างๆได้โดยการกินวันละ 7 หัว เป็นรักษาอาการปวดจากภายใน หรือกินกระเทียมดอง 5 -7 กลีบ
10.ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ให้รับประทานกระเทียมสดพร้อมกับอาหารจะช่วยรักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ นอกจากนั้นยังเป็นยารักษาของโรคกระเพาะอาหาร หรือโรคเกี่ยวกับท้องอื่นๆได้ด้วย
11.ผิวอ่อนวัย กระเทียมมีสารกระตุ้นคอลาเจนในผิวได้ดี ทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดี ลดผิวที่มีจุดด่างดำ ช่วยกระซับรูขุมขน โดยการนำกระเทียม 5 – 7 กลีบ ผสมกับมะเขือเทศ 1 ลุก พอกหน้าครั้งละ 20 – 30 นาที
12.ป้องกันยุงและแมลง ในนำกระเทียม 2 กลีบ ผสมน้ำมันยูคาลิปตัส 5 หยด นำมันดอกทานตะวัน 10 หยด ให้กรองเอาแต่น้ำทางที่ผิวจะทำให้ยุงไม่เข้ามากันเราได้
13.แก้ปวดฟัน โดยการนำกระเทียมตำผสมกับเกลือมาพอกบริเวณที่ปวดฟัน
14.แก้ผดผื่น หากมีผื่นขึ้นตามบริเวณต่างๆ นำก้านกระเทียมที่ติดอยู่ที่หัวมา 1 กำมือ ผสมกับน้ำอุ่นอาบเพียงครั้งเดียว จะช่วยรักษาอาการผดผื่นคันขึ้นตามตัวได้
15.แมลงสัตว์กัดต่อย สามารถแก้พิษของแมลงที่กัดได้โดยการนำกระเทียมถูบริเวณที่โดนกัด
ความเป็นพิษของกระเทียม กระเทียมเองก็มีพิษสำหรับคนที่แพ้จึงมีข้อห้ามใช้กับคนที่แพ้ เพราะใช้แล้วจะทำให้เกิดผื่นขึ้นและมีผลต่อเม็ดเลือดแดงหากกินเข้าไปมาเกินไป
สาระสำคัญในกระเทียม กระเทียมมีสารต่างๆ จำนวนมากที่มีประโยชน์ต่อการทำไปใช้ในด้านต่างๆ เช่น
อัลลิซัน ทำหน้าที่ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัสลดอาการอักเสบ
อัลลิอีน เป็นสารที่ใช้ในการสร้างยาปฏิชีวนะ
ได – ซัลไฟล์ ใช้ในการลดคอเลสเตอรอล และความดัน ไขมัน น้ำตาลในร่างกาย
เซเลเนียม ความคุมการทำงานของร่างกาย ป้องกันโรคหัวใจ
ซัลเฟอร์ รักษาอาการเจ็บปวดตามข้อต่างๆ และปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง ผมงอก จุดด่างดำ
นอกจากนั้นยังมีสารตัวอื่นๆอีกมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและใช้ในการรักษาโรค
เตือน“วัยรุ่น” นอนดึกเสี่ยงอ้วน-เตี้ย!!
ความอ้วน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่เกิดจากปัจจัยเดียว คือ การกินแต่จริงๆแล้วความอ้วนเป็นเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อน เกี่ยวโยงตั้งแต่ระดับยีน (มียีนบางตัวที่เพิ่มความเสี่ยงของโรคอ้วน) ไปจนถึงโรคบางอย่าง ความเครียด ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต และการนอน
การนอนดึกหรือนอนไม่พอ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับร่างกายหลายด้านโดยด้านที่เกี่ยวกับความอ้วนมีดังนี้
• การนอนดึกส่งผลให้ฮอร์โมนเครียดที่มีชื่อว่า คอร์ติซอล หลั่งมากขึ้นในวันถัดมา ฮอร์โมนเครียดที่เพิ่มขึ้นนี้จะกระตุ้นให้คุณรู้สึกอยากอาหารหวานๆ หรือน้ำตาลมากกว่าเดิม
• นอกจากฮอร์โมนเครียดแล้ว ฮอร์โมนหิว หรือ เกรลิน ก็จะหลั่งเพิ่มขึ้นด้วย ส่งผลให้คุณหิวเก่งขึ้นคูณสอง
• เท่านั้นยังไม่พอ ฮอร์โมนอิ่ม หรือ เลปติน จะหลั่งลดลง ส่งผลให้คุณรับประทานแล้วไม่ค่อยอิ่ม จึงอ้วนคูณสามด้วยอีกหนึ่งกลไก
นอกจากนอนดึกจะส่งผลให้อ้วนแล้ว ยังส่งผลให้เตี้ยได้ด้วย สำหรับในวัยรุ่นที่ร่างกายกำลังยืดขยาย เนื่องจากช่วงเวลาที่เรานอนเป็นช่วงที่ฮอร์โมนที่กระตุ้นให้ร่างกายยืดขยาย หรือ โกรทฮอร์โมน ถูกหลั่งออกมา การนอนดึกๆ หรือ นอนไม่ค่อยพอ จะรบกวนการหลั่งของโกรทฮอร์โมน ส่งผลให้คุณเตี้ยกว่าที่ควรจะเป็นได้ด้วย
สำหรับคนที่ไม่อยากอ้วนและเตี้ยเพราะนอนดึก มีวิธีการนอนที่ถูกต้องมาแนะนำดังนี้
1. เข้านอนช่วง 21.00 น. – 23.00 น. อย่านอนดึกกว่าเที่ยงคืนเด็ดขาด
2. อย่าเล่นมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือดูโทรทัศน์ ช่วง 30 – 60 นาทีก่อนนอน แสงสว่างจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้
อาจส่งผลให้นอนไม่หลับได้
3. อย่าดื่มชา กาแฟ 6 ชั่วโมงก่อนนอน คาเฟอีนจะรบกวนการนอนของคุณได้
4. ห้องนอนควรมืดสนิท เงียบ อุณหภูมิเย็นสบาย แสงไฟในห้องนอนจะรบกวนการหลั่งของเมลาโทนิน ส่งผลให้นอน
ไม่หลับได้
5. ตื่นนอนในเวลาใกล้เคียงกันทุกวัน การตื่นสายผิดปกติในวันหยุด จะส่งผลให้นอนไม่หลับได้ง่าย
6. การสวดมนต์หรือนั่งสมาธิก่อนนอน จะช่วยให้จิตใจสงบและหลับได้สบายขึ้น
วัยหมดประจำเดือนหรือที่เรียกว่าวัยทองเป็นช่วงหนึ่งที่สำคัญของชีวิตผู้หญิง ผู้หญิงหลายคนรู้สึกกังวลเรื่องนี้มากเพราะจะทำให้ตัวเองจะต้องเปลี่ยนแปลงไปในหลายด้านจนกลายเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้ทั้งร่างกายและจิตใจด้วย จึงส่งผลกระทบให้ผู้ที่อยู่ในวัยนี้มีอารมณ์ที่ผันผวนเป็นอย่างมาก โดยปกติผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปแต่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในแต่ละบุคคล บางคนอาจจะเริ่มที่ช้ากว่านั้นหรือว่าบางคนอาจจะเร็วกกว่านั้น เมื่อเข้าสู่วัยนี้ควรที่จะดูแลตัวเองให้เหมาะสมกับวัย โดยข้อมูลที่จะนำเสนอมีดังนี้
เมื่ออายุเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน : โดยทั่วไปเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไปประจำเดือนก็จะมาน้อยลง และจะหมดไปภายใน 12 เดือนก็จะไม่มีหรือมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในช่วงอายุนั้นอาจจะไม่สามารถกำหนดๆได้ว่าจะเริ่มเข้าสู่วัยทองแต่เมื่อไหร่ บางคนก็เริ่ม 40 บางคนก็เริ่ม 60 ปี อายุที่เข้าสู่วันหมดประจำเดือนนั้นส่วนมากมักจะเท่ากับอายุของผู้เป็นแม่ของตัวเอง เพราะฉะนั้นอยากรู้ว่าตัวเองจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเมื่อไหร่สามารถสังเกตจากผู้เป็นแม่ได้ โดยผู้ที่เริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนจะมีอาการ หงุดหงิดง่าย ร้อนวูบวาบ แต่ประจำเดือนก็ยังมาเป็นปกติ อยู่ในช่วงที่ฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นเอง พอสักระยะประจำเดือนก็จะเริ่มมาน้อยลงและมีระยะห่างขึ้น
น้ำหนักตัวเพิ่ม : เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนน้ำหนักตัวก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากฮอร์โมนเพศไม่สมดุล ใช้พลังงานของร่างกายลดลง ร่างกายจะเก็บไขมันไว้ที่ต้นขาบ้าง ที่สะโพกบ้าง น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากมีการควบคุมอาหารได้รับโภชนาการที่พอเหมาะ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอจะช่วยความคุมน้ำหนักได้
กระดูกไม่แข็งแรง : เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนแล้วจะมีอาการกระดูกเปราะบางเป็นอย่างมาก และมีโอกาสที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนสูง หากไม่ป้องกันก็จะเกิดโรคไขข้ออักเสบ ปวดกระดูก และอาจจะหักได้ง่าย หากต้องการลดความเสี่ยงต้องปรับปรุงคุณภาพในการดำรงชีวิต การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียม และวิตามินดี ออกกำลังจะช่วยได้
ความต้องการเพศลดลง : เนื่องจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนจะทำให้ร่างกายและอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไม่คงที่ส่งผลทำให้น้ำที่ช่องคลอดลดน้อยลง ทำให้เวลาร่วมเพศรู้สึกเจ็บ และด้วยอารมณ์ที่ไม่คงที่ทำให้ไม่ค่อยมีความต้องการหากเราพัฒนาทางด้านอารมณ์จะช่วยได้
สัญญาณแรกของการเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน : โดยทั่วไปก็จะมีประจำเดือนที่ลดลง และมีอาการต่างๆดังนี้
– เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีแรง
– ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือว่ามาเพียงเล็กน้อย
– มีอารมณ์วิตกวังวล หงุดหงิด แปรปรวน
– ผมร่วง
– มีความต้องการทางเพศลดลง
ช่วงอายุของวัยหมดประจำเดือน : ในช่วงเวลาเข้าสู่วัยนี้นั้นจะแล้วแต่ในแต่ละบุคคลโดยไม่เข้าเร็วหรือช้าไม่เท่ากัน โดยมีปัจจัยอื่นร่วมด้วยอย่างเช่น
– อายุของแม่ที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ลูกก็จะเริ่มเข้าเช่นเดียวกับแม่
– การสูบบุหรี่จะทำให้เข้าสู่วัยนี้เร็วขึ้น
– การที่เคยตั้งครรภ์จะทำให้เกิดได้ช้า
– ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จะทำให้เกิดเร็วขึ้น
การดำเนินชีวิตของคนวัยหมดประจำเดือน : การดูแลตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญ ด้วยความไม่สมดุลต่างๆของร่างกายที่เกิด จะต้องดูแลในทุกด้วย เอาใจใส่ในเรื่องของอาหาร อารมณ์ที่ผันผวนอย่างรวดเร็ว อาการต่างๆของร่างกาน ควรได้รับอาการที่เหมาะสมอย่างเช่นถั่วเหลืองที่ช่วยเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน และอาหารอย่างอื่นที่ได้รับจากธรรมชาติ
สมุนไพรที่เหมาะสมกับวัยหมดประจำเดือน : อาการต่างๆที่ผิดปกติบรรเทาอาการผิดปกติของร่างกายได้ สมุนไพรที่เหมาะสมจะทำให้ร่างกายมีความสมดุล และจะทำให้ร่างกายไม่ต้องพึ่งยา อย่างเช่น สะระแหน่ จะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดี ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดี ทำให้ร่างกายได้รับ ฟอสฟอรัส แมงกานีส และวิตามินต่างๆ
อาหารที่เหมาะสมกับวัยหมดประจำเดือน : ความรุนแรงที่เกิดจากผลข้างเคียงของวัยทองขึ้นอยู่กับผู้หญิงในแต่ละคนการรับประทานที่ถูกต้องตามโภชนาการจะช่วยปรับความสมดุลให้กับร่างกายตัวเองได้ โดยแนะนำดังนี้
อาการที่ไขมันต่ำ จะช่วยให้รักษาน้ำหนักไม่ให้เพิ่มขึ้นง่าย และควรรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง
อาหารต่างๆที่เพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน อย่างเช่นถั่วเหลือง ลูกพรุน สเตอเบอรี่ องุ่น ส้ม ส้มโอ ลูกแพร์ แอปเปิ้ล แครอท แตงกวา กะหล่ำปลี จะช่วยให้ความสมดุลของฮอร์โมนได้ดีขึ้น
อาหารที่มีกรดโฟลิก โปรตีน วิตามินบี 6 แคลเซียม จะเหมาะสมและเสริมสร้างความเสี่ยงที่เกิดจากวัยนี้ได้
นอกจากนี้แล้วยังมีวิธีอื่นที่มีความจำเป็นในการบำรุงรักษาสุขภาพของวัยหมดประจำเดือน ได้แก่ การออกกำลังกาย ลดความเครียดจากการพักผ่อนให้เพียงพอ การนั่งสมาธิ ปรับสภาพจิตใจ และการปรึกษาแพทย์จะทำให้ผ่านช่วงได้ไม่ยาก
👏น้ำพริกกากหมูพร้อมเสิร์ฟ
ลูกค้าคนไหน สั่งน้ำพริกมา แม่ค้ากำลังทำการจัดส่งให้นะค่ะ ขอบคุณค่ะ🙏😊
#น้ำพริกมะขาม
#น้ำพริกกุ้งเสียบ
#ไตปลาแห้ง
#น้ำพริกปลาฉิ้งฉ้าง
#น้ำพริกตาแดง
#น้ำพริกปลาร้า
#น้ำพริกปลาฉิ้งฉ้าง
#น้ำพริกมะขามปลา
#กินมื้อไหน ก็ อร่อย
กระปุก60฿ ไม่รวมค่าขนส่ง(คิดตามน้ำหนัก)
รับส่งทั่วไทย
สั่งซื้อ👉ลงชื่อ ที่อยู่ ในข้อความ
#ชำระเงิน ก่อนส่ง 1วัน ค่ะ
ขอบคุณค่ะ🙏😊
#น้ำพริกมะขามสด(ปลา)150กรัม
#กระปุก60฿ ยังไม่บวกค่าส่ง
#ส่งทั่วไทย
In box: ชื่อ,ที่อยู่,เบอโทร🙏😊
ส่งทุกวัน ไม่มีวันหยุด
#ทุกคนจะชอบพูดว่าตายไปก็ไม่ได้อะไรไปสักอย่าง มันคือ เรื่องจริง แต่ก่อนจะตาย ความแตกต่างมันต่างกันตรงที่
ตอนเป็น
👉จน=ลำบาก
👉รวย=สบาย
=ไม่เท่าเทียมกัน
ตอนตาย
👉จน=ลำบาก
👉รวย=ลำบาก
=เท่าเทียมกัน
ฉนั้นก่อนตายก็ควรทำอะไรให้เราสบายและมีความสุขบ้าง
Airinlada SK | LINE TIMELINE
https://timeline.line.me/post/_dY1dPzuQn20MqM5iGH84ls161pGhFOokwlD1VX0/1152663525902036981
timeline.line.me ขาย น้ำพริกปลาฉิ้งฉ้าง ในราคา ฿1 ซื้อได้ที่ Shopee ตอนนี้เลย!https://shopee.co.th/paweena08101983/1168232031
ดำเนินการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์
และเตรียมเปลี่ยนสติ๊กเกอร์ เพื่อการเก็บรักษาที่ดี
18 สรรพคุณของผักบุ้ง ประโยชน์ในการรักษาโรค
1. ผักบุ้งมีสรรพคุณบำรุงสายตา แน่นอนว่าสรรพคุณอันดับหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงก่อนเลยก็คือ การช่วยบำรุงสายตา เนื่องจากผักบุ้งมีเบต้า แคโรทีนสูงมากๆ ซึ่งสามารถเปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอได้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผักบุ้งจึงดูแลสายตาได้ดี ป้องกันดวงตาเสื่อมก่อนวัยไม่ว่าจะเป็นปัญหาสายตาสั้น สายตายาว ตาเป็นต้อหรือฝ้าฟางก็ช่วยได้หมด และยังช่วยให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ
2. ผักบุ้งมีรสเย็นจึงมีสรรพคุณช่วยในการขับพิษได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมาะกับคนที่มีความเสี่ยงจะได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย อาทิ เกษตรกร หรือคนที่อาศัยในเมืองใหญ่และมีมลพิษรอบตัว คนที่เข้ารับการบำบัดยาเสพติด รวมทั้งช่วยบรรเทาอาการร้อนในได้
3. สรรพคุณของผักบุ้งช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็ง เพราะทั้งวิตามินเอ วิตามินซี และเบต้าแคโรทีนในผักบุ้งล้วนเป็นเหล่าแร่ธาตุและวิตามินที่มีความสามารถแกร่งกล้าในการช่วยป้องกันมะเร็ง
4. ผักบุ้งช่วยบำรุงผิว ประโยชน์ของผักบุ้งข้อต่อมาคือ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย แลดูอ่อนเยาว์ ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากพอในผักบุ้ง
5. ผักบุ้งป้องกันอาการท้องผูก ทำให้ระบบการขับถ่ายทำงานอย่างเป็นปกติ คนที่มักถ่ายไม่ค่อยออกเป็นประจำแนะนำว่า ให้กินผักบุ้งสดหรือผักบุ้งลวกเป็นอาหารมื้อเย็น เพราะผักบุ้งมีใยอาหารเยอะ จะทำให้อุจจาระนิ่ม และช่วยทำความสะอาดลำไส้โดยขับของเสียที่ตกค้างออกมาพร้อมกับการขับถ่ายด้วย
6. ผักบุ้งช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ผักบุ้งมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้สมบูรณ์แข็งแรง
7. ประโยชน์ของผักบุ้งช่วยบำรุงเลือด ผักบุ้งสดจะมีสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงเลือด นั่นคือธาตุเหล็ก
8. ผักบุ้งช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เพราะในผักบุ้งมีสารชนิดหนึ่งที่มีโครงสร้างคล้ายอินซูลินจะช่วยลดน้ำตาลลง จึงป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้ด้วย
9. ผักบุ้งช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะที่มีสาเหตุมาจากการกินยาแอสไพริน
10. ผักบุ้งมีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะเหลืองจัดหรือปัสสาวะออกมาเป็นเลือด
11. ผักบุ้งช่วยดูแลสุขภาพภายในช่องปาก แก้อาการเหงือกบวม รักษาแผลร้อนในปาก หรือบรรเทาอาการปวดฟันเพราะฟันผุ ฟันเป็นรู
12. รากผักบุ้งช่วยแก้อาการเหงื่อออกมาก
13. สรรพคุณของผักบุ้งแก้อาการร้อนใน โดยใช้ต้นสดของผักบุ้งใช้เป็นยาดับร้อน
14. ผักบุ้งมีสรรพคุณป้องกันการเสื่อมสมรรถภาพ โดยใช้ยอดผักบุ้งเป็นยาแก้การเสื่อมสมรรถภาพ
15. สรรพคุณของผักบุ้งช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย
16. ผักบุ้งช่วยรักษาแผลร้อนในในปาก โดยนำผักบุ้งสดผสมกับเกลือ อมไว้ในปาก นานประมาณ 2 นาที วันละ 2 ครั้ง เพียงไม่กี่วันแผลร้อนในก็จะหาย
17. สรรพคุณของผักบุ้งขาว (ผักบุ้งจีน) ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการเบื่ออาหาร
18. ผักบุ้งช่วยแก้เลือดกำเดาไหล ให้นำต้นสดมาตำผสมกับน้ำตาลทรายแล้วนำมาชงน้ำร้อนดื่ม จะช่วยหยุดเลือดกำเดาไหลออกมากผิดปกติได้
คงเห็นแล้วว่าผักบุ้งไม่ได้เป็นแค่อาหารอย่างเดียว แต่ผักบุ้งมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย และก็ไม่ได้แค่ช่วยบำรุงสายตาเท่านั้น เพราะในผักบุ้งมีคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย สรรพคุณและประโยชน์ของผักบุ้งช่วยรักษาและป้องกันให้ร่างกายของคนเราห่างไกลจากเหล่าโรคร้ายได้มากทีเดียว
made & Hand made
เตรียมส่งลูกค้า
ขอบคุณค่ะ🙏😊
ประโยชน์และสรรพคุณลูกเนียง
มีโปรตีน มีวิตามินเอ มีวิตามินซี มีแคลเซียม มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีวิตามินบี1 มีธาตุเหล็ก มีแมกนีเซียม มีคาร์โบไฮเดรต มีเส้นใย มีพลังงาน มีไขมัน มีฟอสฟอรัส มีเบต้าแคโรทีน มีกรดโฟลิค มีกรดอะมิโน
ใบช่วยรักษาโรคผิวหนัง เปลือกหุ้มเมล็ดช่วยป้องกันโรคเบาหวาน
ข้อระวัง ลูกเนียงมีกรดเจ็งโคลิค เป็นกรดที่มีกำมะถันสูง ผู้ที่เป็นโรคไต ควรระวังในการรับประทาน
วิธีการลดพิษให้น้อยลงคือ นำเมล็ดไปเพาะในทราย ให้มีหน่อต้นอ่อนงอกออกมา หรือนำเมล็ดไปต้มให้สุก หรือหั่นชิ้นบางๆ แล้วนำไปตากแดดก่อนรับประทาน
(ทานมาก ก็เหมือนยาระบาย ใครเข้าห้องน้ำตามหลัง เตรียมผ้าปิดจมูกไว้เลย😭😄)
#ประโยชน์ของพริก...
ร้าน น้ำพริกถ้วยเก่า ขอนำเสนอข้อมูลดีๆ ให้กับผู้ที่ชื่นชอบทานน้ำพริกได้ทราบถึงประโยชน์ของ "พริกแห้ง, พริกสด" ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของน้ำพริกทุกชนิดให้ท่านได้ทราบ จะได้รู้ไว้ว่า ทานน้ำพริกแล้วจะได้อะไรกลับไปในด้านสุขภาพบ้าง
พริก เป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำพริก ไม่ว่าจะเป็นพริกแห้งหรือพริกสด ซึ่งทั้งพริกแห้งและพริกสดสามารถนำมาดัดแปลงทำน้ำพริกไปทานได้หลายรูปแบบ หลายรสชาติ ในบ้านเรา บางท่านอาจนำพริกสดมาตำน้ำพริกแบบเปียกๆ ทาน พร้อมกับผักลวก ผักสด เช่น น้ำพริกปลาทู น้ำพริกกะปิ น้ำพริกกุ้ง น้ำพริกปลาย่าง เป็นต้น หรืออาจนำพริกขี้หนูแห้งมาทำเป็นน้ำพริกคั่ว น้ำพริกเผา น้ำพริกตาแดง น้ำพริกนรก น้ำพริกผัด ฯลฯ พริกก็มีหลายชนิดด้วยกัน ทั้งพริกกะเหรี่ยง พริกจินดา พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า ฯลฯ การเลือกไปใช้ทำน้ำพริกก็ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำพริกที่ทำ และความชอบ ตามสูตรของแต่ละคน
พริกถือเป็นส่วนหนึ่งของครัวไทยที่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำอาหาร และรู้หรือไม่ว่า "พริก" มีคุณสมบัติ และประโยชน์อย่างไร ขอเล่าให้ฟังพอหอมปากหอมคอ ดังนี้
1. พริก มีสารที่ช่วยขับเสมหะ ทำให้ทางเดินหายใจโปร่ง โล่งสบาย เวลาเป็นหวัด ถ้าได้ทานพริกบ้างจะทำให้ไม่คัดจมูก
2. พริก มีสารแคปไซซินที่มีคุณสมบัติในการลดความไวของปอดต่อการเกิดอาการต่างๆ เช่น การบวมของเซลล์หลอดลมใหญ่และเล็ก ลดการหดเกร็งเนื้อรอบหลอดลม พริกเผ็ดจึงเป็นประโยชน์ต่อคนที่เป็นโรคหอบหืด
3. พริกยังมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยสลายลิ่มเลือดในร่างกายเรา พร้อมช่วยลดการปวดต่างๆ เช่น ลดการปวดฟัน เพราะมีสารแคปไซซินซึ่งตัวสารดังกล่าวนี้จะออกฤทธิ์ต่อเซลประสาท เพื่อชะลอการหลั่งของสาร neurotransmitter ที่ปลายประสาท substance P ทำให้สมองส่วนกลางรับรู้การเจ็บปวดช้าลง จึงปวดน้อยลง
4. พริกยังช่วยกระตุ้นสมองส่วนกลางให้หลั่งสารเอ็นดอร์พิน (endorphins) ซึ่งเป็นสารสร้างความสุข เมื่อรับประทานพริกจะเกิดความสุข และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราอยากจะเพิ่มขนาดพริกในอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ
5. พริกมีสารเอ็นดอร์พินมีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน คือการออกฤทธิ์ทำให้เกิดการผ่อนคลาย ทำให้อยากหลับ (opiates) และทำให้ความดันโลหิตลดลง
6. พริกช่วยเพิ่มความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี สังเกตุได้ว่าถ้าเราทานข้าวกับน้ำพริก หรือมีน้ำพริกในมื้ออาหาร จะช่วยให้เราทานอาหารได้เพิ่มขึ้น เจริญอาหารขึ้น
7. พริกมีส่วนผสมของวิตามิน เอ ซี และโปรตีน จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว พริกยังมีประโยชน์ในทางการแพทย์อีกมากมาย การทานน้ำพริกในมื้ออาหารจึงเป็นการทานของดีเข้าสู่ร่างกาย
👌Delicious street food👍
Confrim ความอร่อย ทั้งน้ำพริกและร้านค้าที่ขายอาหาร วางทุกร้านอร่อยทุกร้าน😊🙏ขอขอบคุณการสนับสนุน..
ยังมีอีกหลายร้านที่ยังไม่ได้แนะนำ
ร้านอร่อยไม่จำเป็นต้องหรู
Cr.Takน้ำพริกถ้วยเก่า
Takน้ำพริกถ้วยเก่า&ขนมจีนเมืองคอน
ติดต่อสั่งน้ำพริกตามนี้ได้ค่ะ
📲063-0638973
รับทำข้าวกล่อง ส่งถึงมือคุณ
..ไข่อ่อน พวงใหญ่ๆ..
ซดน้ำร้อนๆๆๆได้แรงคอ
ลองแล้วจะติดใจ
... #ลูกค้าเรียกร้องข้าวแกง เดียวแม่ค้าจัดให้ครบเซ็ตค่ะ😊
✨ตามรอยแม่ แม่สอนมา😊😀
"ป้าเล็กข้าวแกงนครศรีฯ@ป่าตอง"
👉ขนมจีน น้ำแกงปักต์ใต้ นครศรีฯ
👉น้ำพริก หลากหลายชนิด
👇👇👇👇👇👇👇👇👍👍
- น้ำพริกมะขามสด
- น้ำพริกปลาฉิ้งฉ้าง
- น้ำพริกกุ้งเสียบ
- น้ำพริกหมูผัด
- น้ำพริกตาแดง
- น้ำพริกแมงดา
- น้ำพริกปลาร้า
- น้ำพริกตะไคร้
- น้ำพริกไตปลาแห้ง
- น้ำพริกกะปิ
- น้ำพริกมะม่วง
- น้ำพริกกุ้งสด(ชุบหยำ)
👉 แกงพื้นบ้าน รสชาติซะใจ
นึกถึงความเผ็ด รสชาติถูกปาก
✨นึกถึง Takน้ำพริกถ้วยเก่า&ขนมจีนเมืองคอน เชิญลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ทุกท่านค่ะ
✨ลูกค้าเก่าตามหา ลูกค้าใหม่เชิญลองค่ะ😊
📍แยกน้ำตกกะทู้ตรงข้ามหมู่บ้านพนาสนธิ์ปาร์ควิลล์1
คลิกที่นี่เพื่อเป็นสมาชิก?
วิดีโอทั้งหมด (แสดงผลทั้งหมด)
ประเภท
ติดต่อ ธุรกิจของเรา
เว็บไซต์
ที่อยู่
ตลาดบั้นท้ายภูเก็ต
Kathu District
83120