Baojai 420

สรุปอัพเดท…บทบัญญัติ กัญชา กัญชง
เรื่องการคุ้มครองประชาชน, ควบคุมวิธีการขาย, ป้องกันสถานที่, กำหนดข้อห้ามการใช้ช่อดอกกัญชาในทางที่ผิด
…
1. การเพาะปลูกเพื่อใช้ในครัวเรือน ทำได้ห้ามจำหน่าย ได้ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ต้น แค่จดแจ้งไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ
2. ผู้ปลูกเชิงพาณิชย์” หรือ ที่ปลูกมากกว่า 10 ต้น หรือปลูกเพื่อขาย ต้องขออนุญาตเท่านั้น ไม่เกิน 5 ไร่ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ และใบอนุญาตทุกประเภทจะมีอายุ 3 ปี
3. การ “คุ้มครองประชาชนบางกลุ่ม” ไม่ให้เข้าถึงกัญชา กัญชง สารสกัด ระบุห้ามขาย กัญชา กัญชง สารสกัด, อาหาร หรือสารสกัดเป็นวัตถุดิบ แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี, สตรีมีครรภ์, สตรีให้นมบุตร หรือบุคคลอื่นใดตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และต้องมีการปิดประกาศและแจ้งผู้บริโภค
4. ห้ามผู้ที่ขายกัญชา กัญชง สารสกัดกระทำในสิ่งต่อไปนี้
- ไม่ให้ส่งเสริมการขายช่อดอก
- ห้ามขายโดยใช้เครื่องขาย
- ห้ามขายผ่านช่องทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์
- ห้ามขายนอกสถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาต
- ห้ามขายโดยวิธีการแจก แถม ให้หรือแลกเปลี่ยนกับสินค้าอื่น หรือสิทธิประโยชน์อื่นแล้วแต่กรณี
- ห้ามขายโดยการลดราคา ณ จุดขาย ในลักษณะจูงใจให้บริโภค
- ห้ามขายสินค้าหรือให้บริการ โดยมีการแจก แถม ให้ หรือแลกเปลี่ยนกับช่อดอก กัญชา กัญชง
- ห้ามเร่ขายช่อดอกกัญชา กัญชง
- ให้ามห้หรือเสนอให้สิทธิในการเข้าชมการแข่งขัน การแสดง การให้บริการ การชิงโชค การชิงรางวัล หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดเป็นการตอบแทน
5. สถานที่ห้ามจำหน่าย
- วัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา
- สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
- หอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก
- สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก
- สถานที่ขนส่งสาธารณะ สนามบิน ท่าเรือ
- สถานที่อื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
6. ห้ามสูบเพื่อนันทนาการในที่สาธารณะ หรือจูงใจ ยุยง ส่งเสริมให้ผู้อื่นสูบ หรือใช้กัญชา กัญชง เพื่อการนันทนาการ”
7. ห้ามใช้ช่อดอกผสมในอาหารเพื่อจำหน่าย
8. ห้ามสูบกัญชา กัญชงก่อนและระหว่างขับรถ

วันที่ 9 กรกฎาคม 2565
เฮมพ์ฮับฟาร์ม

#สารอะไรที่สกัดได้จากกัญชา🤔?

กัญชา หรือชื่อในภาษาอังกฤษที่มักเรียกกัน คือ Cannabis หรือ Ma*****na หรือศัพท์แสลงที่เรียกว่า W**d นั้นเป็นพืชเขตร้อน มีการนำยอดอ่อนและใบมาใช้ในการรักษาโรคยาวนานนับพันปี แต่ที่มีกระแสได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ก็เพราะมีผลการวิจัยที่ระบุว่าสารสกัดจากกัญชาสามารถรักษาโรคมะเร็งได้นั่นเอง

อันที่จริงกัญชามีส่วนประกอบของสารเคมีมากกว่า 550 ชนิด โดยมากกว่า 113 ชนิดเป็นสารประกอบจำพวก Cannabinoid ซึ่งองค์ประกอบหลักจะเป็น Tetrahydrocannabinol หรือ THC และสารชนิดอื่นในกลุ่มเดียวกัน เช่น Cannabinol (CBN), Cannabidiol (CBD), Cannabichtomme (CBC), Cannabigerol (CBG) เป็นต้น

แต่สารสกัดที่มีการนำมาใช้ในการรักษามากที่สุดจะมี 2 ชนิด คือ

Delta-9-tetrahydrocannabinol (THC) ช่วยลดอาการปวดจากมะเร็ง และ อาการคลื่นไส้จากการใช้ยาเคมีบำบัด

Cannabidiol (CBD) ช่วยลดอาการลมชัก ความเครียด และ อาการหวาดระแวง

ทั้งนี้ THC เป็นสารประกอบหลักที่พบในกัญชาซึ่งออกฤทธิ์ทางจิตประสาท และเป็นสารสำคัญที่ผู้คนต้องการนำมาใช้เสพเพื่อให้มีอาการความเคลิบเคลิ้ม หรือที่ชาวฝรั่งๆ เรียกกันว่า “High” นั่นเอง ในขณะที่ CBD จะไม่ก่อให้เกิดการออกฤทธิ์ทางจิตประสาท จึงส่งผลให้ CBD ได้รับความสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงอาการเคลิบเคลิ้ม

เหตุผลที่กัญชาได้รับความสนใจมากขึ้นก็เพราะความคาดหวังว่ากัญชาจะช่วยรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย และในปัจจุบันยังไม่สามารถหาหนทางรักษาโรคมะเร็งที่ได้ผลอย่างชะงัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ป่วยมะเร็งในระยะสุดท้าย ทั้งนี้ จากการศึกษาในระดับห้องทดลองและสัตว์ทดลอง พบว่าภาพรวมออกมาในเชิงบวกทั้ง THC และ CBD โดย

การทดสอบในห้องปฏิบัติการ: สามารถทำลายเซลล์มะเร็งหลายชนิดได้ โดยไม่กระทบต่อเซลล์ปกติ

การทดลองในสัตว์: สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ลดการแพร่กระจาย รวมทั้งลดอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งตับในหนู และอาจลดอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ในหนู

นอกจากนี้ ยังพบว่าสาร delta-9-THC ให้ผลการรักษาที่ดี เช่น ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการให้ยาเคมีบำบัด ลดอาการปวดจากมะเร็งทำให้สามารถลดขนาดยาแก้ปวดกลุ่มฝิ่นหรือมอร์ฟีนลง ช่วยเพิ่มความอยากอาหาร ลดความเครียดวิตกกังวลใจ และช่วยให้นอนหลับดีขึ้นได้

ส่วนในประเทศไทยนั้น ทุกภาคส่วนหันมาให้ความสนใจในการนำกัญชามาเป็นการรักษาทางเลือกมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุด กัญชาที่องค์การเภสัชกรรมปลูกเองเจริญเติบโตสมบูรณ์เต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยวนำเข้าสู่กระบวนการผลิต โดยในวันที่19 มิถุนายน 2562 ได้เริ่มเก็บเกี่ยวดอกกัญชาตัวเมีย และเข้าสู่กระบวนการสกัดผลิตเป็นน้ำมันหยดใต้ลิ้น ส่งให้กรมการแพทย์ใช้สำหรับผู้ป่วยโครงการวิจัยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ในวันที่ 8 สิงหาคม 2562 กระทรวงสาธารณสุขได้มีประกาศราชกิจจานุเบกษา ปลดล็อกผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้าน ในการปรุงตำรับยาโดยใช้กัญชาแบบแยกส่วนได้อีกด้วย