Cheetah

มีที่ดีวัดจากความคมไม่ได้มันต้องวัดจากการรักษาคมและชนิดของเหล็กไม่รวมกระบวนการอื่นอ่ะนะ

มีดจะดีไม่ดีไม่ได้แค่ขึ้นอยู่กับการชุบแข็งแค่อย่างเดียวนะครับจริงอยู่ที่การชุบแข็งจะทำเนื้อเหล็กแกร่งขึ้นแต่ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของเหล็กด้วย เช่น แสตนเลส304ไม่สามารถชุบแข็งโดยความร้อนได้ แต่ถ้าเป็นเหล็กแหนบจะเหนียวและแข็งขึ้น ที่สำคัญอุณหภูมิในการชุบและคืนไฟของเหล็กแต่ละชนิดก็ไม่เหมือนกัน สรุปง่ายๆ ชนิดของเหล็กก็สำคัญและถ้าอบชุบได้ดีจะสามารถเค้นความสามารถของมีดได้ดีเช่นกัน

เหล็กแซนวิชหรือเหล็กตีประกอบกันเป็นชั้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความหยืดหยุ่นให้แก่เหล็ก มันเหมาะมากกับมีดที่ใช้งานหนักหรือในห้องครัว มันมีความเหนียวและการรักษาคมรวมถึงต้านทานการสึกหรอได้ดีเพราะส่วนใหญ่ชั้นนอกจะเป็นกลุ่มเหล็กแสตนที่มีความเหนียวที่ดีในขณะที่แกนกลางเป็นเหล็กกล้าแข็งที่รักษาคมได้ดีแต่เปราะกว่าและอาจทนการกัดกร่อนได้ไม่ดีนัก แต่ในปัจจุบันเหล็กชนิดใหม่ที่นำมาทำมีดมีคุณภาพที่ดีกว่าการตีแบบแซนวิชมีความจำเป็นน้อยลง

เหล็ก sk5 เป็นเหล็กกล้าคาร์บอนสูง
มีความเหนียวทนทานต่อแรงการเสียดสี ชุบแข็งง่าย ความแข็ง 58-65 hrc จะว่าเป็นเหล็กสปริงก็ได้เพราะมันใช้ในอุตสาหกรรมจำพวก รถยนต์ เลื่อย ใบมีดตัดเฉือน
รักษาความคมได้ดี(ทั้งนี้รักษาคมและทนการกัดกร่อนของสนิมได้น้อยกว่า d2 หรือ เหล็กของจีนมากเช่น 9cr19mov เมื่อเทียบกับเหล็กกล้าสมัยใหม่ห่างไกลกันมาก) แต่เรื่องความเหนียวและทนแรงตัดเฉือนถือว่าดีในระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นเหล็กคาร์บอนสูงทำให้สนิมกินได้ไวมากพอกับเหล็กตะไบเลย( w1 steel เป็นเหล็กกล้าที่ชุบจุ่มน้ำแล้วแข็งแกร่งมาก)ทั้งนี้เลือกให้เหมาะสมกับชนิดมีดที่เลือกใช้งาน

เหล็กd2 เหล็กกล้าที่ราคาค่าตัวไม่แพงมากนักเมื่อเทียบกับs30v,vg10 ความแข็งของเหล็กd2สามารถเทียบได้กับเหล็กชนิดที่กล่าวมานี้ (ค่าความแข็งประมาณ58-65 hrc)
แต่d2เองอาจจะไม่ทนต่อการกัดกร่อนได้ดีเท่าเหล็กกล้าชนิดอื่นๆแต่ก็เหมาะกับคนที่พึ่งสนใจเล่นมีดพกต่างๆที่หรือเริ่มสะสมราคาไม่แพงคุณสมบัติแทบจะเท่ากันทุกด้านเลยครับแค่เหล็กชนิดที่กล่าวมามีคุนสมบัติเหนือกว่านึดหน่อย