ศูนย์เรดด์พลัส REDD+ สกลนคร

🥬9 พืชที่ควรปลูกรอบบ้าน สร้างรายได้​🥬

☀️🌳🌲 แหล่งสะสมคาร์บอนในระบบนิเวศป่าไม้☀️🌳🌲

#สมัครงาน
เปิดรับสมัครงานค่ะ
อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก-Phuphalek National Park
เปิดรับสมัครงาน​ ลูกจ้างชั่วคราวรายเดือน
ต.นักวิชาการแผนที่ภาพถ่าย
อัตราเงินเดือน 15,000 บาท
มีประกันสังคม
เริ่มปฎิบัติงาน 1 ส.ค. 2566

*** สนใจสมัคร​ด้วยตนเอง ที่​ อช.ภูผาเหล็ก*** ตั้งแต่​ 1ก.ค.-15​ ก.ค.​ 2566

ติดต่อสอบถาม​ 042 707513

เป็นที่ทราบกันดี .....
ว่าต้นไม้ สามารถกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นอย่างดี
แต่ก็ใช่ว่า ต้นไม้ แต่ละชนิด จะดูดซับได้ในปริมาณเท่าๆ กัน
ในเมื่อมีความแตกต่างเกิดขึ้น
วันนี้ เรามาดูกันครับว่าแต่ละต้น จะสามารถกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากน้อยเพียงใด ไปชมกันเลยครับ
#ส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ⛈⛈💦
ป่าก็จะมีสีสันแปลกตาไป รวมทั้งอาหารจากป่าก็หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 🍄🍄เห็ดป่านานาชนิดก็ออกมาให้ได้ลิ้มลองความอร่อย เรามารู้จักเห็ดกินได้และกินไม่ได้ในเบื้องต้นกันน้าาา🤟

ข้อมูลดีๆ จากกรมควบคุมโรคเค้าฝากมาบอก😘😇🥹

ด้วยความห่วงใย หากไม่แน่ใจชนิดเห็ดกินได้สามารถสอบถามข้อมูลได้ เรายินดีให้บริการน้าาาาาาา😍😍😍😍

8 มิถุนายน
“วันทะเลโลก” (World Ocean Day)
ภายใต้แนวคิด "Planet Ocean: Tides are Changing"
กระแสน้ำทะเลทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไป จะส่งผลให้เกิดสภาพอากาศรูปแบบใหม่ที่รุนแรงมากขึ้น และทำให้ระบบนิเวศทางทะเลเสียหาย
กว่าร้อยละ 70 ของพื้นผิวโลก ถูกปกคลุมไปด้วยทะเล จึงทำให้ทะเลมีความสำคัญต่อสภาพภูมิอากาศโลก โดยทะเลมีความสามารถในการกักเก็บความร้อนได้อย่างดี แล้วจะค่อย ๆ ปลดปล่อยความร้อนออกมา ทำให้เกิดเป็นกระแสน้ำทะเลที่คอยพัดพาสารอาหารและสรรพชีวิตหมุนเวียนไปทั่วโลก
โดยปกติกระแสน้ำทะเลจะเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วที่สมดุลกัน แต่ภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นจะทำให้กระแสน้ำทะเลราว 3 ใน 4 ของมหาสมุทรทั่วโลก เคลื่อนที่เร็วกว่าปกติ เพราะอุณหภูมิผิวน้ำสูง ทำให้มีความบางเบามากขึ้น ในขณะที่บางส่วนที่เหลือกลับเคลื่อนที่ช้าลงกว่าปกติ เพราะน้ำแข็งที่ละลายอย่างรวดเร็ว ทำให้ความแตกต่างของความหนาแน่นลดลง
“Tides are Changing” ส่งผลกระทบต่อโลกอย่างมาก ทั้งทำให้เกิดสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น เช่น เฮอริเคน ไซโคลน แห้งแล้ง ฝนตกหนัก ร้อนจัด และหนาวจัด รวมถึงทำให้การหมุนเวียนธาตุอาหารในทะเลเสียสมดุลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลด้วย ดังนั้น ทุกคนควรร่วมกันต่อสู่กับภาวะโลกร้อนเพื่อช่วยรักษาสมดุลของกระแสน้ำให้กลับมาดั่งเดิม
#ส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ที่มา https://www.bbc.com/thai/international-61805941

#เทคนิคการวางแปลงตัวอย่างและการเก็บข้อมูลนิเวศวิทยาป่าไม้

สาระความรู้ดี ๆ มีมาฝากกันอีกเช่นเคย เทคนิคการวัดความโตจากขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่ระดับความสูงเพียงอกของไม้ต้นจะมีอะไรบ้างนั้น หาคำตอบได้จากโพสต์นี้เลยค่ะ

#รู้ทันClimateChange

🔥จะเกิดอะไรขึ้นถ้า...โลกร้อนขึ้นแค่อีกนิด!
ถ้าหากอุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เราอาจปรับตัวกันไม่ทัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงในอีกระดับของการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานเพื่อรับมือต่อโลกร้อนสูงขึ้น ถ้าอุณหภูมิโลกสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียสก็ทำให้เกิดการละลายของนํ้าแข็งจนหมดทุก 100 ปี ทำให้ฝนตกหนักบ่อยขึ้น 17% และยิ่งริมฝั่งแม่นํ้าไทยจะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น 129% แนวปะการังทั่วโลกก็จะลดลง 70-90% พื้นที่ทั่วโลก 14% จะเผชิญกับความร้อนสูงขึ้น พื้นที่เกษตรกรรมไม่สามารถเพาะปลูกได้ 8% และสัตว์ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อสนองการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ลดความสามารถในการสืบเผ่าพันธุ์ลง
และหากอุณหภูมิของโลกสูงขึ้นมากกว่า 2 องศาเซลเชียส คาดการณ์ว่าพื้นที่ทั่วโลก 37% จะเผชิญกับความร้อนที่สูงขึ้น นํ้าแข็งขั่วโลกจะละลายเร็วขึ้นในทุก 10 ปี ฝนจะยิ่งตกหนักบ่อยขึ้น 36% ทำให้ผู้คนริมฝั่งแม่นํ้าไทยได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น 167% ยิ่งไปกว่านั้นแนวปะการังทั่วโลกอาจตายเกือบทั้งหมด (ระบบนิเวศทางทะเลไม่อาจฟื้นฟูได้) อุตสาหกรรมการเกษตรทั่วโลกจะลดกำลังการผลิตลงเพราะพื้นที่มีประสิทธิภาพลดลง และสัตว์หลากหลายสายพันธุ์เริ่มสูญพันธุ์ไป
แล้วยิ่งอุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 3 องศาเซลเชียส ก็จะทำให้ความเสี่ยงของภัยพิบัติทางธรรมชาติและสภาพภูมิอากาศรุนแรงขึ้นมากกว่า 5 เท่า! โดยระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นรวมถึงภาวะฝนตกหนักบ่อยขึ้นนั้น อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อการดำเนินเศรษฐกิจทั่วโลก ที่สำคัญคือสัตว์โลกและพืชพรรณต่าง ๆ ก็อาจจะล้มหายและสูญพันธุ์ไปด้วย ซึ่งโลกของเรากำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต เราต้องตระหนักถึงภาวะโลกร้อนต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อปกป้องทรัพยากรโลกของพวกเรา
ข้อมูล : https://shorturl.asia/egyHY
#มูลนิธิไทยรักษ์ป่า
#การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

#รู้ทันClimateChange

🌏ปรากฏการณ์เรือนกระจก และภาวะโลกร้อน🔥
ปรากฏการณ์เรือนกระจก คือ ภาวะที่ชั้นบรรยากาศของโลกกระทำตัวเสมือนกระจกที่ยอมให้รังสีคลื่นสั้นผ่านลงมายังผิวโลกได้ แต่จะดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรดที่แผ่ออกจากผิวโลก แล้วคายพลังงานความร้อนปกคลุมโลกเอาไว้ เพื่อช่วยรักษาสภาพสมดุลทางอุณหภูมิปรากฏการณ์เรือนกระจก
ภาวะโลกร้อน คือ ผลกระทบที่เกิดจากปรากฎการณ์เรือนกระจก ที่เกิดขึ้นเนื่องจากโลกไม่สามารถระบายความร้อนที่ได้รับจากรังสีดวงอาทิตย์ออกไปได้อย่างปกติ จึงทำให้อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยมีต้นเหตุจากการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันไปจนถึงอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกของมนุษย์
โดยสาเหตุปรากฏการณ์เรือนกระจก และภาวะโลกร้อนนั้นที่เกิดจากมนุษย์ ได้แก่ จากการคมนาคม โดยรถยนต์ รถบรรทุก เรือ และเครื่องบิน ส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลักทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกออกมาเป็นจำนวนมากจากการคมนาคม จากโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งกิจกรรมในภาคการผลิตอุตสาหกรรม และการทำเหมืองแร่ ล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพื่อให้ได้พลังงานสำหรับการผลิตสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม จากขยะมูลฝอย โดยสิ่งของเหลือทิ้งจากการบริโภคในชีวิตประจำวัน และในอุตสาหกรรม ล้วนแล้วแต่มีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป็นภาระสำคัญในการจัดการขยะมูลฝอย
จากการตัดไม้ทำลายป่า โดยป่าไม้จำนวนหลายล้านไร่ถูกตัดและทำลายมากขึ้นทุก ๆ ปีเพื่อสร้างประโยชน์แก่มนุษย์ ทั้งการใช้ประโยชน์จากไม้ การทำการเกษตรและปศุสัตว์ และอื่น ๆ เป็นการลดขีดความสามารถของธรรมชาติ ในการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกไม่ให้ออกสู่ชั้นบรรยากาศการตัดไม้ทำลายป่า จากการทำฟาร์มปศุสัตว์ ซึ่งการทำฟาร์มจะต้องมีการถางป่าเพื่อสร้างพื้นที่ในการเลี้ยงและปลูกพืชอาหารให้แก่สัตว์มากขึ้น ทำให้พื้นที่สีเขียวลดลงการทำฟาร์มปศุสัตว์ และจากมลพิษทางนํ้า โดยนํ้าที่ถูกปนเปื้อนด้วยมวลสิ่งแปลกปลอมและสารพิษต่าง ๆ ทำให้นํ้าเสื่อมคุณภาพและมีคุณสมบัติเปลี่ยนไปจากธรรมชาติ ทำให้การใช้ประโยชน์จากนํ้าลดลงหรืออาจใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย
เริ่มรักษ์โลกด้วยมือเรา โดยการกินอาหารให้หมด และกินตรงตามฤดูกาลนั้น การกินอาหารให้หมดจะช่วยลดปริมาณขยะมูลฝอยที่จะต้องกำจัด และการกินอาหารตามฤดูกาลจะช่วยลดปริมาณการขนส่งสินค้า ส่งผลให้ช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการขนส่งได้อีกด้วย การแยกขยะ ซึ่งกระบวนการจัดการขยะด้วยการฝังกลบ และกระบวนการจัดการของเสียที่เกิดจากการทิ้งขยะ ทำให้เกิดก๊าซที่เป็นสาเหตุหลักของก๊าซเรือนกระจก การลดและแยกขยะ ช่วยให้เหลือขยะที่ต้องกำจัดน้อยลง ดีต่องบประมาณ ดีต่อคุณภาพชีวิตของเรา และยังดีต่อโลก
การลดปริมาณขยะด้วย 5R (Reduce – Refuse – Reuse - Recycle – Repair) ลดการใช้ ลดการบริโภคที่ไม่จำเป็น ปฎิเสธสินค้าที่ทำลายสิ่งแวดล้อม การใช้ซํ้า การนำกลับมาใช้ใหม่ และซ่อมแซม ล้วนแล้วเป็นวิธีที่ทำให้การใช้ทรัพยากรคุ้มค่าและยั่งยืน การปลูกต้นไม้ทดแทน ซึ่งปัจจุบันมีการตัดไม้ทำลายป่าไปมาก สิ่งที่เราทำได้ จึงเป็นการปลูกต้นใหม่ขึ้นมาทดแทนอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดความสมดุลในระบบนิเวศ และให้ต้นไม้เหล่านั้น ช่วยดูดชับเหล่าก๊าซเรือนกระจกต่อไป การหันมาใช้จักรยานเพื่อเป็นการช่วยลดมลพิษจากการคมนาคม เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดภาวะโลกร้อน ทั้งยังทำให้สภาพแวดล้อมรอบตัวเราน่าอยู่ขึ้น และการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ลดการใช้พลังงานต่าง ๆ ที่ได้จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ด้วยการหันมาใช้พลังงานสะอาดที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษหรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ มาร่วมรักษ์โลกโดยเริ่มต้นปรับเปลี่ยนที่ตัวเราเพื่อทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้นและยาวนานต่อไป
#มูลนิธิไทยรักษ์ป่า
#การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
#ปรากฏการณ์เรือนกระจก
#ภาวะโลกร้อน

10 ลักษณะเห็ดพิษอันตราย! ต้องระวังในช่วงหน้าฝน
หน้าฝนนี้รับประทานเห็ดต้องระวัง ไม่ว่าจะซื้อเห็ดมาจากตลาดหรือเก็บเองก็ตาม เราควรที่จะศึกษาข้อมูล และสังเกตก่อนรับประทานเห็ดเสมอ เพราะถ้าเกิดความเข้าใจผิดนำเห็ดพิษมาประกอบอาหาร อาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต!
ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่าพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากการรับประทานเห็ดพิษจำนวนมาก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 21 พฤษภาคม 2566 พบผู้ป่วยแล้ว 12 ราย และเสียชีวิตถึง 2 รายด้วยกัน
เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด และลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากเห็ดพิษ วันนี้เราจะพาทุกคนมาสังเกต 10 ลักษณะเห็ดพิษที่ต้องระวังก่อนจะเลือกรับประทาน
1. เห็ดที่มีหมวกเห็ดเป็นปุ่มขรุขระ
2. เห็ดที่มีวงแหวนใต้หมวก
3. เห็ดที่มีขนหรือหนามเล็ก ๆ บริเวณโคน
4. เห็ดที่มีกลิ่นรุนแรงเมื่อดอกแก่
5. เห็ดที่หมวกเห็ดมีสีน้ำตาล หรือสีสันฉูดฉาดเพื่อล่อเหยื่อ
6. เห็ดที่มีลักษณะสีขาวทั้งดอก
7. เห็ดที่เกิดใกล้กับมูลสัตว์
8. เห็ดที่หมวกเห็ดมีลักษณะเป็นรูป ๆ แทนที่จะเป็นช่อง ๆ คล้ายครีบปลา
9. เห็ดที่มีลักษณะคล้ายสมอง หรืออานม้า บางชนิดต้มแล้วกินได้ แต่บางชนิดมีพิษร้ายแรง
10. เห็ดตูมที่มีเนื้อในสีขาว เห็ดที่เกิดบนมูลสัตว์ หรือใกล้กับมูลสัตว์
10 ข้อสังเกตเหล่านี้เป็นเพียงลักษณะเบื้องต้น และลักษณะส่วนใหญ่ที่พบของเห็ดพิษเท่านั้น หากเราพบลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ก็ให้เราตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าเห็ดลักษณะแบบนี้อาจจะเป็นเห็ดที่มีพิษ ควรหลีกเลี่ยงในการรับประทาน และเห็ดบางชนิดถึงแม้จะไม่ได้มีสีสันฉูดฉาดและคล้ายคลึงกับเห็ดที่กินได้ทั่วไป ทว่าอาจจะเป็นเห็ดที่มีพิษร้ายแรงได้
ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มเห็ดระโงกพิษ อย่างเห็ดระโงกหิน หรือเห็ดไข่ตายซาก พบสารพิษ amatoxins หรือ amanitins เป็นสารพิษกลุ่มทำลายเซลล์ทำให้เกิดการล้มเหลวของอวัยวะภายในร่างกาย ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเห็ดระโงกขาวมาก เห็ดระโงกพิษจะมีลักษณะหมวกสีขาวล้วน ทั้งช่วงแก่และช่วงอ่อน มีปุยเล็กน้อย ไม่เรียบมัน ก้านกลวงบ้างตันบ้าง ต่างจากเห็นระโงกขาวที่สามารถรับประทานได้ คือกลางหมวกต้องมีสีเหลืองเล็กน้อยตอนอ่อน และจะเหลืองเข้มมากขึ้นตอนแก่ หมวกเรียบมัน ไม่มีปุย ก้านตัน หากจะเก็บเห็ดระโงกช่วงอ่อน ต้องนำมาผ่าเพื่อดูชั้นผิวด้านใน ‘ถ้าผ่าเห็ดตูม แล้วเห็นสีเหลืองที่เปลือกชั้น 2 จากด้านบน แสดงว่ารับประทานได้’ แต่ถ้าเห็นเป็น ‘สีขาวล้วน คือ เห็ดระโงกพิษอย่างแน่นอน’
เห็ดบางชนิดไม่สามารถจำแนกได้ด้วยตาเปล่าว่าเป็นเห็ดชนิดใด ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการเก็บเท่านั้น ดังนั้น ก่อนจะเลือกเห็ด เราควรศึกษาข้อมูล สังเกตลักษณะเห็ดที่บ่งบอกถึงความเป็นพิษ หลีกเลี่ยงดอกอ่อน เพราะสังเกตความแตกต่างได้ยากกว่าดอกแก่ และผ่าเห็ดทุกดอกก่อนนำมารับประทานเสมอ
และสิ่งสำคัญที่สุดที่จะป้องกันอันตรายจากการนำเห็ดพิษมารับประทาน คือหลีกเลี่ยงหรืองดรับประทานเห็ดที่ไม่คุ้นเคย หรือไม่รู้จัก เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และเสียชีวิตจากเห็ดพิษได้
รู้หรือไม่? เห็ดระโงกพิษมีสารทนต่อความร้อน ถึงแม้เราจะนำมาทำให้สุกแล้ว ก็ไม่สามารถทำลายพิษที่มีอยู่เห็ดระโงกพิษได้
ร่วมรักษาป่าใหญ่และสิ่งแวดล้อมกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียร
https://www.seub.or.th/support/donate/thai-qr-code/
อ้างอิง
- กรมควบคุมโรค : https://bit.ly/43eTUA4
- การจำแนกเห็ดพิษด้วยลักษณะทางสัณฐานวิทยาและภูมิปัญญาท้องถิ่นในจังหวัดอุบลราชธานี : https://bit.ly/3WwBV5L
- SCI UPDATE : ‘5 เห็ดพิษ’ ที่ต้องระวังในหน้าฝน – NSTDA : https://bit.ly/3MScUyH

24 พฤษภาคม
"วันป่าชุมชนแห่งชาติ"
ป่าชุมชนจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ชุมชนได้อนุรักษ์ ฟื้นฟู จัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากร สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพรวมกับรัฐอย่างสมดุลและยั่งยืน
#ส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

👦👩 กล้าไม้พร้อมแจกจ่าย สิ่งที่ต้องเตรียม เพื่อมาขอรับกล้าไม้ 🌱

✅ผู้ขอรับกล้าไม้จะต้องเข้ามาติดต่อขอรับกล้าไม้ด้วยตนเองเท่านั้น
❌ไม่สามารถนำเอกสารของผู้อื่นมาขอรับกล้าไม้แทนกันได้
👉ทางโครงการฯ ไม่มีการเปิดจองกล้าไม้ล่วงหน้าเป็นการ walk in เท่านั้น
👉ขอความกรุณาผู้ขอรับกล้าไม้ถ่ายเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนมาให้ครบ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการมารับบริการ
👉ถ้าเป็นรถกระบะไม่มีหลังคาให้เตรียมแสลนหรือผ้าใบมาคลุมกล้าไม้

🌳ชนิดกล้าไม้ที่พร้อมแจกจ่าย🌳
1. ยางนา
2. ตะเคียน
3. ตะแบก
4. อินทนิล
5. ขี้เหล็ก
6. ทองกวาว
7. พิกุล
8. หวาย
9. แคบ้าน
10. มะขามเปรี้ยว
11. คูณ
12. กาฬพฤกษ์
13. ชัยพฤกษ์
14. กัลปพฤกษ์
15. ชิงชัน
16. มะเกลือ
17. มะสัง
18. สัก
19. ทองอุไร
20. ประดู่
21. มะค่าโมง

⏰เวลาทำการ
✅ เปิด จันทร์ - ศุกร์ : 08.00 - 16.00 น.

📄ขั้นตอนการขอรับกล้าไม้ ดังนี้👇

"วันสมเสร็จโลก"

วันสมเสร็จโลกตรงกับวันที่ 27 เมษายนของทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหาปริมาณที่ลดลงอย่างต่อเนื่องของสมเสร็จจากการรุกรานของมนุษย์ ซึ่งสำหรับประเทศไทยนั้น สมเสร็จเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ชนิดหนึ่ง มีสายเลือดใกล้เคียงม้าและแรด

“สมเสร็จ” หรือ ผสมเสร็จ (Tapir)เป็นสัตว์ป่าสงวน 1 ใน 19 ชนิดของประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และตามอนุสัญญา CITES Appendix I รวมถึงเป็นสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ตาม U.S. Endengered Species Act จึงได้มีการรณรงค์และกำหนดให้วันที่ 27 เมษายนของทุกปี เป็น “วันสมเสร็จโลก”

#สมเสร็จ #วันสมเสร็จโลก #กรมอุทยาน #สัตว์ป่าสงวน

ภาวะโลกรวน แค่ได้ยินชื่อก็น่ากลัวแล้วใช่ไหม?
ขณะนี้โลกของเรากำลังเปราะบางและอ่อนแอลงทุกวัน โดยมีสาเหตุมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม จนนำไปสู่ “ภาวะโลกรวน” จากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตในโลก จึงก่อให้เกิดความไม่แน่นอนและ “รวน” ไปเสียทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และชีวิตความเป็นอยู่ ผลกระทบเหล่านี้มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของมนุษย์
เราอย่างมาก จนหลายคนเกิดความกลัวและกังวล โดยความกลัวที่เกิดขึ้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 เหตุการณ์หลัก คือ ภัยพิบัติที่ทวีความรุนแรงขึ้น, การขาดแคลนอาหาร และพื้นที่อยู่อาศัยลดน้อยลง
3 เหตุการณ์นี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาวะโลกรวนที่มีผลกระทบไปถึงทุกชีวิตบนโลก ซึ่งหากมนุษย์ยังละเลยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราก็อาจเจอกับสภาพอากาศที่เริ่มรวน ไม่เป็นไปตามฤดูกาล
การแก้ปัญหาภาวะโลกรวนได้ดีที่สุด คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ในการลดการปล่อยและคงระดับก๊าซเรือนกระจก ซึ่งหากเราไม่ร่วมมือกันเพื่อบรรเทาวิกฤตนี้ ชีวิตของเราก็อาจจะต้องรวนไม่ต่างจากสภาพอากาศเลย
ที่มาข้อมูล : ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน https://bit.ly/3Lt8jCN, ห้องสมุดกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม https://bit.ly/3xXqbxX
#กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
#สิ่งแวดล้อม
#ส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


#เมืองยั่งยืน

นอกจากการปลูกต้นไม้ ลดการตัดไม้ทำลายป่า จะช่วยลดภาวะโลกร้อนแล้วการจัดการขยะภายในชุมชนหรือครัวเรือนก็สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้เช่นกันลองปรับพฤติกรรมการจัดการขยะลองดูนะคะ
#ลดการตัดไม้ทำลายป่า
#ลดการทำให้ป่าเสื่อมโทรม
#เพิ่มการอนุรักษ์ป่า
#เพิ่มการกักเก็ฐคาร์บอนในพื้นที่ป่า
#เพิ่มการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน
ลดโลกร้อนลดโลกรวนเรดด์พลัส

“เปลี่ยนปัญหา” ให้เป็น “การพัฒนา”
สู่การเป็นต้นแบบชุมชนปลอดขยะอย่างยั่งยืน
#ส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

#หยุดเผาป่า...เผาป่าโทษหนัก! จำคุกสูงสุด 20 ปี ปรับสูงสุด 2 ล้านบาท

บุคคลใดเผาป่าในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์หรือสวนรุกขชาติ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปีหรือปรับตั้งแต่ 400,000-2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562

#เลิกจุด #หยุดที่ใจ #ให้ทรัพยากรไทยยั่งยืน

วันนี้แอดขอนอกเรื่องป่าไม้ มาเป็นการลดการใช้เศษไม้มาเป็นเชื้อเพลิงในการประกอบอาหาร นั่นก็คือ การหมักเศษอาหารหรือมูลสัตว์ เพื่อให้ได้ก๊าซที่จุดไฟได้เพื่อใช้ในการประกอบอาหาร
ข้อดี
1.ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อก๊าซหรือถ่าน
2.ลดการเผาเศษไม้ซึ่งเป็นการปลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทำให้เกิดโลกร้อน
3. ภาชนะประกอบอาหารไม่ดำ(เกิดขี้หมินหม้อ)
4. ลดฝุ่นควันก่อให้เกิด PM2.5
5. ได้ปุ๋ยไปเติมแร่ธาตุให้กับดินในการเพาะปลูก(หรือขายได้)
ข้อเสีย
1.อาจมีกลิ่นบ้างตามการจัดการ
2.การผลิตก๊าซอาจไม่มากพอในการประกอบอาหารแต่ละมื้อ(ซึ่งต้องเพิ่มถังหมัก)
ลดโลกร้อนโลกรวนเรดด์พลัส
Cr.พัชรินทร์ ฤชุวรารักษ์
นักวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ต้นไม้นอกจากดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนโลกรวนนั้นยังสามารถดูดซับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ด้วยนะรู้อะยาง มีต้นไม้ประเภทไหหนบ้างที่ช่วยดูดซับ PM 2.5 มาดูด้วยกันเลยคะ
#ลดการตัดไม้ทำลายป่า
#ลดการทำให้ป่าเสื่อมโทรม
#เพิ่มการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่า
#เพิ่มการอนุรักษ์ป่า
#เพิ่มการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน
ลดโลกร้อนลดโลกรวนเรดด์พลัส

“ปลูกต้นไม้”
วิธีง่ายๆ และยั่งยืน ที่ช่วยในการลดฝุ่นละออง PM 2.5
้ชีวิตอย่างชาญฉลาดคืนธรรมชาติสู่สมดุล
#ฝุ่นละออง

หนึ่งในสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คือการตัดไม้ทำลายป่า เผาป่า และหนึ่งในการช่วยลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คือการปลูกต้นไม้ เพื่อดูดซับคาร์บอน หนึ่งในก๊าซที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
ที่แปรเปลี่ยนไป ถือปัญหาใหญ่ที่มวลมนุษยชาติกำลังเผชิญหน้า
ถือเป็นเรื่องที่เราทุกคนบนโลกในนี้ต้องช่วยกันแก้ไข และรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน
วันนี้ เราจะพามาดูเหตุแห่งภัยพิบัติจาก Climate Change กันครับ
เพื่อเรียนรู้ เตรียมพร้อม รับมือ อันนำมาซึ่งแนวทางของการพัฒนา เพื่อการแก้ไขอย่างยั่งยืน
#ส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทีมงานคุณภาพเตรียมการเพาะปลูกต้นไม้เพื่อ ส่งมอบพื้นที่สีเขียวให้กับ เกษตกรผู้สนใจปลูกเสริมเติมป่าแปลงเกษตกรรม ในปีถัดไป
#ลดการตัดไม้ทำลายป่า
#ลดการทำให้ป่าเสื่อมโทรม
#เพิ่มการอนุรักษ์ป่า
#เพิ่มการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่า
#เพิ่มการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน
ลดโลกร้อนลดโลกรวนเรดด์พลัส

สถานการณ์การซื้อขายคาร์บอนเครดิตเดือน ม.ค. - ก.พ.
เริ่มปีพ.ศ. 2566 ตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตของโครงการ T-VER ในรูปแบบการซื้อขายที่ไม่ผ่านตลาดทางการ หรือ Over-the-Counter (OTC) เริ่มคึกคักมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยปริมาณและมูลค่าการซื้อขายคาร์บอนเครดิตใน 2 เดือนแรกของปีพ.ศ. 2566 เติบโตมากกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับปีพ.ศ. 2565 โดยเฉลี่ยราคาอยู่ที่ 20-218 บาทต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
สำหรับโครงการ T-VER ที่ผู้ซื้อให้ความสนใจและซื้อไปเพื่อใช้ชดเชยยังคงเป็นโครงการประเภทพลังงานทดแทน เช่น แสงอาทิตย์ ชีวมวล และชีวภาพ ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากสถิติการรับรองคาร์บอนเครดิตของโครงการ T-VER ประเภทพลังงานทดแทนมีการรับรองคาร์บอนเครดิตเข้าสู่ตลาดคาร์บอนมากที่สุด ในจำนวนกว่า 8.3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า คิดเป็น 59.57% ของปริมาณคาร์บอนเครดิตที่มีการรับรองจาก อบก. ทั้งหมด
,
สำหรับราคาคาร์บอนเครดิตในรูปแบบ OTC ผู้ซื้อและผู้ขายจะพิจารณากำหนดราคาโดยขึ้นกับปัจจัยดังนี้
1. ต้นทุนส่วนเพิ่มในการทำโครงการ T-VER เช่น ค่าจ้างที่ปรึกษา ค่าจ้างผู้ทวนสอบ ค่าธรรมเนียมในการขึ้นทะเบียนและรับรองคาร์บอนเครดิตของ อบก.
2. จำนวนปริมาณการซื้อขายในแต่ละครั้ง
3. ผลประโยชน์รวม (Co-benefit) ของโครงการ
ข้อมูลเพิ่มเติมขั้นตอนการทำโครงการ T-VER: https://ghgreduction.tgo.or.th/th/
ข้อมูลเพิ่มเติมราคาซื้อขายคาร์บอนเครดิต: http://carbonmarket.tgo.or.th/
#คาร์บอนเครดิต #ตลาดคาร์บอน #ก๊าซเรือนกระจก #ปริมาณการซื้อขายคาร์บอนเครดิต #ระบบทะเบียนคาร์บอน

วันที่ 1 มีนาคม 2566 ศูนย์เรดด์พลัส(สกลนคร) ร่วมทำแนวกันไฟป่าบริเวณโดยรอบศูนย์ ฯ ร่วมกับ ผู้แทนชุมชนบ้านค้อน้อย หมู่ 5 และ หมู่ 9 เทศบาลตำบลกุดไห โรงเรียนบ้านค้อน้อย กรมชลประทาน และ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ศูนย์เรดด์พลัส(สกลนคร) ขอขอบคุณผู้ร่วมกิจกรรมทุก ๆ ท่านที่เห็นความสำคัญของการป้องกันไฟป่า ขอบคุณครับ/คะ
#ลดการตัดไม้ทำลายป่า
#ลดการทำให้ป่าเสื่อมโทรม
#เพิ่มการอนุรักษ์ป่า
#เพิ่มการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่า
#เพิ่มการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน

💥🐒🐘3 มีนาคม ของทุกปี
เป็น “วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก”
(World Wildlife Day)🐅🐯

👉วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก ตรงกับวันที่ 3 มีนาคม ของทุกปี เนื่องจากเป็นวันที่ก่อตั้งภาคีอนุสัญญาไซเตส เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2516 เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักให้กับกลุ่มประเทศภาคีอนุสัญญาไซเตส 178 ประเทศ ในการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเพื่อประโยชน์แห่งมวลมนุษยชาติ และเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวันสำคัญ อีกทั้งเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่า และพืชป่า เสริมสร้างจิตสำนึกแก่สาธารณชนให้เห็นคุณค่าและประโยชน์ของสัตว์ป่าและพืชป่า เพื่อกระตุ้นให้ภาคส่วนต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์

ทั้งนี้ ในปีนี้ เป็นปีครบรอบ 50 ปี ของการรับรอง อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) สำนักเลขาธิการไซเตส ได้ประกาศแนวคิดหลักของปีนี้ คือ "Partnerships for Wildlife Conservation" เพื่อให้ความสำคัญแก่ผู้ที่กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงในด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า

นอกจากนี้ ในปีนี้ได้มีการจัดกิจกรรมประกวดภาพถ่าย วีดิทัศน์ และ TikTok Content ภายใต้แนวคิดหลัก (Theme) ประจำปี 2566 คือ "Partnerships for Wildlife Conservation - ร้อยมือ ร่วมรักษ์ พิทักษ์สรรพชีวิต"

💥 ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการประกวดฯ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://wildlifedaythailand.org/

ทำอย่างไรถึงจะใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทำเกษตรให้ได้มากที่สุด?!