Abit Melbourne / Aussie

Hello Tuesday! สวัสดีวันอังคารจ้า
หลังจากทื่ Melbourne ฝนตกมาทั้งอาทิตย์
ก็เพิ่งจะมาแดดออกได้วันสองวันนี้แหละจ้า
weekend ที่ผ่านมาก็เลยได้มีโอกาสออกไปถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสี
สวยยยมากกกกกก นี่แหละเสน่ห์ของ Melbourne =D


PS' อยากกลับไปรับงานถ่ายรูปจังแหะ
อยากถ่ายพวกสัตว์บ้างคราวนี้
ใครมีน้องหมาน้องแมว ชิทแชทมาได้น้าาา

Hello ! สวัสดีวันอังคาร
ช่วงนี้ Melbourne ฝนตกบ่อยมากเลย
และอากาศคือหนาวและลมแรงสุดๆ
ถ้าใครจะมาแนะนำว่าเสื้อกันหนาวต้องเข้า
พวก hoodie หรือหมวกมีประโยชน์มากๆ

ส่วนตอนนี้นี่ได้ย้ายห้องทำงานใหม่
มีหน้าต่างกับเค้าบ้างซะที
วันนี้เลยถือโอกาสเก็บภาพบรรยากาศ
แถวออฟฟิศมาฝากด้วยจ้า
vibes ดีมากไม่ไหววว เลิฟฟฟ 💕

HELLOOOO ! FRIYAYY 🎉
และวันศุกร์ก็วนมาอีกแล้ว
ศุกร์นี้เป็นศุกร์ที่ roller coaster มาก
มีทั้งเรื่องเศร้าและก็เรื่องสนุกๆ

เอาเป็นว่าข้ามเรื่องเศร้าไปเลยแล้วกัน 🤣
วันนี้ตอนเย็นได้มีโอกาสไปดูคอนเสิร์ตเล็กๆ
ชื่อว่า Candlelight โดยสถานที่จัดแปลกมาก
คือจัดกันในคุก old Melbourne gaol จ้า
แต่เราว่ามันเท่และมีสเหน่ห์มากๆเลย

Theme เพลงที่เค้าเล่นวันนี้เป็น
เพลงจากหนังดังต่างๆ แต่รวมๆคือเน้น
ไปทางเพลง Disney ซึ่งมีแต่เพลงดังๆทั้งนั้น
ฟังแล้วชอบมากๆ นักดนตรีก็เล่นเก่งมาก
เสียอย่างเดียวคือเก้าอี้ที่จัดไว้แคบไปหน่อย

จริงๆอีกหนึ่งอย่างที่เราชอบเมลเบิร์นคือ
เมืองนี้มีกิจกรรมกระจุกกระจิกเยอะดี
แปปๆเดี๋ยวมีตลาด แปปๆคอนเสิร์ต
ซักพักงานศิลปะ งานเฟสติเวิล
และอื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วน
สมกับเป็นเมืองแห่งศิลปะจริงๆ 💕

ถ้าใครมีโอกาสได้มาลองตีตั๋วไปรับชมกัน
ราคาไม่แพงมากประมาณ $70 เป็นต้นไป

คราวหน้ามีอะไรน่าอวด
จะแว่บมาอัพเดทกันอีกจ้า เลิฟฟฟ
Happy Friday นะทุกคน 💕

Helloooo Monday!
วันนี้ขอมาแชร์ประสบการณ์ความแตกต่าง
ระหว่าง Client side vs Agency
บางคนไม่ได้ทำงานสายนี้อาจจะงงๆนิดนึงว่า
ไอ่สองอันนี้มันต่างกันยังไง คือถ้าเป็นฝั่ง
Agency เนี่ย คือเรารับงานจากลูกค้ามาทำให้
แต่ถ้าเป็นฝั่ง Client side คือเราทำงาน in house
ให้กับแบรนด์นั้นๆเองจ้า ไม่ต้องทำให้เจ้าอื่น

เนื่องจากตัวข้าพเจ้าทำงานอยู่ฝั่ง Agency
มานานเกือบ 4 ปี พอย้ายฝั่งปุ๊บ เอาแล้วววว
มึนเลยจ่ะ! คือทุกอย่างต่างกันมากๆ แบบมากๆ
เช่น work flow การทำงานที่ต่างกันสุดขั้ว
ฝั่ง AG คุณจะได้รับบรีฟจาก AE
ซึ่ง AE จะเป็นฝ่ายไปรับไปคุยกับลูกค้าอีกที
และหลังจากนั้นเค้าก็จะทำบรีฟและส่งต่อ
มาให้ดีไซน์เนอร์แบบเรา และพอเราทำเสร็จ
เราต้องส่งให้อาร์ตไดตรวจอีกที ถึงจะส่งกลับ
ไปให้ลูกค้าได้ ( แถมบางที AE ไม่ชอบก็โดนแก้อีกจ้า )
แต่พอเราย้ายมาทำฝั่ง CL
เอาละสิ ไม่มี AE ไม่มี Art Director
อยาดทำงานไหนเลือกจาก Ticket
จะส่งเมื่อไหร่ตัดสินใจเองได้เลย ถ้าจะส่งงานก็ส่งให้เพื่อนร่วมงานดูฟีดแบค แต่หลักๆคือเค้าเอาตัวเราเป็นหลัก เราว่าสวยไหม เราว่าโอเคหรือยัง เราตัดสินใจเองได้เลย อะหือออ ซีดเลยจ่ะ มันเหมือนจะง่ายและดีกว่านะ เพราะมัน flexible มากๆ แต่มันใหม่มากๆสำหรับเรา

และคัลเจอร์การทำงานที่นี่ที่เราชอบมากๆเลยคือเค้าให้ความสำคัญกับทุกความเห็น ไม่มีคำถามไหนเป็น stupid question ทุกคนคอยช่วยเหลือกันดีมากๆ แถมทุกคนใจกว้างและครีเอทีฟกันสุดๆ อาจเพราะเป็นฝั่ง CL ด้วย เลยทำอะไรได้เต็มที่มากๆ ถ้างานมันเข้ากับแบรนด์ก็ทำได้เลยเต็มที่ จะ crazy จะ weird แค่ไหนก็ได้ และทุกสองสัปดาห์จะมีคล้ายๆมีตติ้ง พูดคุยกันถึงอะไรที่ชอบระหว่างการทำงาน อะไรที่ไม่ชอบ อะไรที่เพื่อนร่วมงานทำได้ดี อะไรที่ได้เรียนรู้ระหว่างทำงาน ซึ่งเราว่ามันดีมากๆที่ได้ reflect ทุกๆอย่างในระหว่าง 2-3 วีคที่ผ่านมา

และข้อแตกต่างกันอีกอย่างนึงคือ
ที่นี่พอ 5 โมงปุ้บทุกคนแทบจะวิ่งกลับบ้าน
ไม่มีใครอยู่ต่อและทุกคนก็แทบบังคับกันให้ปิดคอม การกลับบ้านตรงเวลาเหมือนเป็น policy อย่างนึงของเค้าเลยก็ว่าได้ วันไหนเรากลับช้าเพราะมันแต่ทำนั่นทำนี่เพื่อนก็จะย้ำว่าห้ามทำงานนะ ห้ามทำงานเด็ดขาด ซึ่งเออ ก็แปลกดี ตอนที่ทำบริษัทเก่ามันก็จะมีบ้างที่ช้าไป 10-15 นาที
ซึ่งอันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งคัลเจอร์ช้อค
ของเราเหมือนกัน 5555

เอาเป็นว่าถ้าใครอยากรู้ว่าการทำงานบริษัท
หรือความแตกต่างของคัลเจอร์เป็นยังไง
โปรดติดตามตอนต่อไปเด้อจ้าาาาา

ด้วยรัก และเจอกันโพสหน้าจ้า💞

Hello Sunday =}
ทุกอย่างตอนนี้ดูจะลงตัวมากขึ้น
เลยมีเวลากลับมาอัพเดทชีวิตแล้ว เย่ๆ

ตอนนี้สามารถบอกได้แล้วว่าตัวเองกลับมาเป็น
ชาว Melbourne แบบเต็มตัวแล้วครับผมมม!

การย้ายกลับบ้านครั้งนี้เป็นฝันที่ไม่กล้าฝันจริงๆ
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากกก เพราะจริงๆ
เราเพิ่งกลับมาออสเมื่อช่วงเดือนมกรา
และได้งานใหม่ช่วงเดือนมีนา และต้องย้ายทันที
ในเดือนเมษา ทุกสิ่งทุกอย่างมันกระทันหันมาก

การกลับมา Melboourne ครั้งนี้อบอุ่น
เหมือนได้กลับบ้าน ร้านรวงอาจจะ
เปลี่ยนไปบ้างแต่ vibes ต่างๆยังดีเหมือนเดิม
เชื่อแล้วคำกล่าวที่เค้าพูดว่า ' อยู่ให้ถูกที่ '
เพราะบอกตามตรงแบบจากใจจริงๆคือ
เราไม่เคยรัก Sydney เลยซักนิด 5555555
ก็คือ bias ขั้นสุดมากๆ มีคนเคยบอกเราว่า
คุณไม่สามารถรักทั้ง Syney และ
Melbourne ไปพร้อมกันได้
นี่ว่าก็จริงอยู่นะ สองเมืองนี้ vibes มันต่างกันมากๆ
ไม่ว่าจะเป็นตึกราบ้านช่อง การเดินทาง
และที่สำคัญคือ Life style จ้าาาาาาา

ใครชอบฟีลแสงสี ความม่วนอกม่วนใจ
หรือกิจกรรมแบบ outdoor ต่างๆ
บอกเลยว่า Sydney น่าจะเหมาะกับคุณมากๆ
แต่ถ้ามาสายคาเฟ่ / park / museum / art
Melbourne น่าจะทำให้คุณตกหลุมรักได้ไม่ยาก


ใครที่กำลังลังเลใจเรื่องเมือง
อยากให้ตัดสินใจให้ดีก่อนมา
อยากให้ทุกคนศึกษาหาข้อมูลต่างๆเยอะๆ
เพราะการได้อยู่ในที่ที่เหมาะกับเราเป็นเรื่องที่สำคัญ
คนส่วนใหญ่เริ่มต้นจากเมืองไหนไม่ค่อยอยากย้าย
เพราะการย้ายเมืองค่อนข้างวุ่นวายพอสมควร
ไว้วันหลังจะมาเล่าถึงความวุ่นวายในการหาบ้าน
และค่าใช้จ่ายต่างๆในการย้ายเมืองกัน
แอบสปอยไว้ตรงนี้นิดนึงว่าเกือบๆ $10K 😅

Hellooo Saturday 💜💖
วันนี้มีองุ่นสุดแปลกมาแนะนำ
เราเคยเห็นผ่านๆทาง Tik Tok มาบ้าง
วันนี้บังเอิญเจอเลยซื้อมาลองหน่อยจ้า
สรุปได้ว่าาาาา … . . มันอร่อยมั่ก!
คือตัวองุ่นหอม Cotton Candy แบบจางๆ
ส่วนเนื้อองุ่นหวานละมุนใช้ได้เลย
สรุป มันอร่อยกว่าองุ่นธรรมดาแหละ
สนนราคาที่ $5.90 จ้าาา
ใครอยู่ออสไปซื้อมาลองได้เด้อ อร่อยยย 😋

Helloooo! หลังจากกลับมา Sydney ได้ซักพัก
ก็เริ่มได้มีเวลาออกไปถ่ายรูปบ้างแล้ว
แต่ประเด็นคืออออ … ตลอดเวลาที่ผ่านมา
ฝนตกทุกวันเลยจ้า ขอย้ำว่าทุกวัน
และช่วง 2 วีคที่ผ่านมาคือตกหนักมากๆ
แบบมากๆ เรียกได้ว่าทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว
ใครจะมาตอนนี้แนะนำให้เตรียมตัว
เตรียมชุดหรือรองเท้าให้เหมาะกับกับอากาศด้วยน้า
เพราะมันตกหนักมากๆจนบางเมืองน้ำท่วมไปแล้ว

ช่วงนี้กระแสย้ายประเทศมาแรง
มีคนมากดติดตามเพจเรื่อยๆเลย
ยังไงจะพยายามหาเรื่องมาอัพบ่อยขึ้นนะจ๊ะ
เพราะเอาจริงๆนี่ไม่รู้จะอัพอะไรเพราะ
ก็ยัง WFH อยู่เลย แต่ในอนาคตอันใกล้นี้
จะได้มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังแน่นอนจ้า

ยังไงขอสวัสดีและยินดีที่ได้รู้จัก
กับทุกท่านอีกครั้งนะค้าบบบบ

Hi ! I’m back 💫

HELLLOOOO FRIYAY! สวัสดีวันศุกร์จ้า
วันนี้มีเรื่องดีๆอยากมาแชร์กัน
ช่วงนี้กระแสย้ายประเทศกำลังมามากๆ
บวกๆกับช่วงนี้เรามีข้อสงสัยเรื่อง visa ด้วย
เราเลยเข้าๆไป search หา และเราก็เจอนี่จ้า

https://podcasts.google.com/feed/aHR0cHM6Ly9hbmNob3IuZm0vcy8xN2M4YzUwL3BvZGNhc3QvcnNz

เป็นพอดแคสที่รวบรวมทุกข้อมูลที่ตามหาอยู่
เราเป็นลูกค้าพี่เค้าแหละ คือจริงๆก็ถามพี่เค้าได้ตลอด
คือพี่เค้าใจดี พยามหาเวลามาตอบตลอด
และคือยิ่งเจอพอดแคสต์นี้เข้าไป
มันตอบปัญหาคาใจได้หลายอย่างมากๆจริงๆ
(ซึ่งลดเวลาการรบกวนพี่เค้าได้เยอะ 🤣 )
เลยอยากมาแนะนำสำหรับคนที่กำลังมีคำถาม
ลองเข้าไปอ่านเพจ อ่านบล้อค ฟัง podcast
เราว่าคลายความสงสัยได้เยอะมากๆเลยจริงๆนะ

สุดท้ายนี้อยากบอกว่าพี่จอห์น
จากเพจ J Migration Team วีซ่าออสเตรเลีย
คือที่สุดแห่งวงการวีซ่าออสเตรเลียแล้วจริงๆ
อันนี้รีวิวเองจากประสบการณ์ตรง
ไม่ได้รับค่าจ้างใดๆเด้อ

J Migration Team วีซ่าออสเตรเลีย ง่าย ๆ ไม่ยาก Podcast ภาษาไทย เกี่ยวกับวีซ่าของประเทศออสเตรเลีย

hello! สวัสดีนะคะทุกคน
ไม่ได้เข้ามาเขียนนานมากๆๆๆ
เพราะตอนนี้ติดอยู่ที่ไทยมาปีกว่าแล้ว
เลยไม่มีอะไรจะอัพเท่าไหร่
ตอนนี้ก็ยังทำงานให้ที่ออสเหมือนเดิมค่ะ
ดีหน่อยที่เวลาเปลี่ยนแล้ว เลยได้ตืนสายกว่าเดิมนิดนึง


หลายคนคงทราบกันดีว่าการย้ายประเทศมันไม่ง่าย
แต่ไม่ได้ยากจนเกินกว่าความพยายามหรอกเนอะ
อันนี้เราไม่ขอเจาะจงในเรื่องหลักๆ
เช่น เรื่องเงิน การเตรียมตัวขอวีซ่า นะคะ
เราขอเน้นไปทางด้านจิตใจแล้วกันเนอะ ฮ่าๆ

ตอนแรกที่เรามาที่ออสเราไม่รู้เหมือนกันค่ะว่า
จะอยู่ประเทศนี้ต่อด้วยวีซ่าอะไร รู้แค่ว่าจะไม่กลับไทยแน่ๆ
ฉะนั้นการวางแผนถึงสำคัญมากๆ
ถ้าตอนนี้เพื่อนๆรู้แพลนคร่าวๆแล้ว อย่ารีรอค่ะ
เวลาเป็นสิ่งสำคัญมากๆในการใช้ชีวิต

เราเชื่อว่าชีวิตมีช่วงเวลาของมัน
บางช่วงถ้าเลยไปจากนี้ มันเอากลับมาไม่ได้อีกแล้วค่ะ

ฉะนั้นความกลัวไม่จำเป็น ไม่ต้องใช้
ทิ้งไปได้เลยค่ะ กระโจนออกมาให้สุดแรง
ในท้ายทีสุดแล้วชีวิตจะมีทางของมันเองค่ะ :D

อีกเรื่องนึงที่เราถือว่าเป็นแกนหลักในชีวิตเรา
เลยนั่นคือความพยายาม การกัดไม่ปล่อยของเรา
ชีวิตเราเอาเข้าจริงๆไม่เคยง่ายเลยค่ะ 5555555
เราใช้เวลาและทุ่มเทอย่างหนักเพื่อที่จะได้วีซ่ามา
ไม่เคยมีดวง ไม่มีฟลุ้ค ไม่มีเส้นสายใดๆ
เราส่งใบสมัครไปเป็นร้อยที่ และโดนปฏิเสธเป็นร้อยที่
ยังดีที่ต่อให้ตัวเองท้อแต่ยังไม่หมดหวัง ก็ส่งมันไปเรื่อยๆ
คิดว่ามันต้องได้ซักที่แหละน่า . . และมันก็ได้จริงๆค่ะ
ซึ่งระหว่างนั้นเรายอมไปทำงานฟรี
เพียงเพราะเราอยากอยู่ในสภาพแวดล้อมของสังคมออฟฟิศ
เราชอบที่จะได้ประชุม ได้ทำงานอยู่หน้าคอม ได้เข้าบริษัท
( อันนี้เค้าไม่ได้เอาเปรียบเรานะ เราเสนอตัวเราไปเอง 🤣)

เรากล้าที่จะเสี่ยงกับอนาคต เราเดิมพันหมดหน้าตักที่มี
ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าความกลัวที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ไทย
มันเป็นแรงผลักดันอย่างสูงมากๆจนทำให้เรามาถึงจุดนี้

แต่ก็ต้องยอมรับเลยค่ะว่าการอยู่ต่างประเทศ
ไม่ง่ายค่ะ ทั้งในแง่สังคม ภาษา วัฒนธรรม
แต่มันดีกว่ามากที่เราได้ออกมาผจญภัย
ได้มาเจอโลกกว้าง ได้มาหาเงิน
ได้มาใช้ชีวิตที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ใช้
ได้ออกจาก comfort zone และ
ที่สำคัญ ได้มาเจอตัวเองค่ะ . .

การมายืนตรงนี้ทำให้รู้ว่าโลกนี้มันกว้างใหญ่เหลือเกิน
ใหญ่เกินกว่าที่จะนั่งมองผ่านจอคอม
ชีวิตนึงคนเราต้องมาได้เจอ ได้มาสัมผัส
และจะได้รู้เลยว่าชีวิตที่เคยคิดว่าเรารู้จักมันดี
ยังมีอะไรให้ได้มาเรียนรู้อีกมากมายเหลือเกิน :)

อันนี้เราพูดในมุมมองส่วนตัวมากๆนะะ
อยากเป็นกำลังใจให้คนที่อยากย้ายประเทศทุกคนค่ะ
เตรียมตัวให้พร้อม แล้วลุยเลยค่ะ สู้วววววววว 💗