นิตินิยมกฎหมาย Niti niym LAW

ฎีกาที่ 2325\2565 การซื้อขายที่ดินขาดตกบกพร่องและการสู้คดีด้วยอายุความ

เมื่อรถหายในคอนโด ทางคอนโดต้องรับผิดชอบหรือไม่

สรุป
นิติบุคคลอาคารชุดไม่มีหน้าที่รักษาทรัพย์ส่วนบุคคลแต่ประการใด จึงไม่ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน ส่วนผู้รับผิดใช้ค่าสินไหมก็เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยและตัวยามเองที่ต้องรับผิดในเรื่องนี้

ฎีกาที่ 2369/2557

การที่ลูกจ้างไปกระทำละเมิดก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดให้นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย กรณีที่นายจ้างได้ชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหายไป ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 426 กำหนดให้นายจ้างมีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากลูกจ้างได้ แต่กรณีที่เกี่ยวกับนายจ้างที่เป็นรัฐวิสาหกิจนั้นมีกฎหมายอีกฉบับที่เกี่ยวข้องคือ พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ปัญหาที่จะนำมากล่าวถึงในตอนนี้จะเป็นกรณีที่นายจ้างเป็นรัฐวิสาหกิจจะมีสิทธิไล่เบี้ยลูกจ้างให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการกระทำโดยประมาทตาม ปพพ ม 426 ได้หรือไม่

นาย ก. เป็นพนักงานขับรถของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง นาย ก. ได้ขับรถไปตามหน้าที่ในฐานะพนักงานของรัฐวิสาหกิจดังกล่าว แต่ปรากฏว่าขณะที่นาย ก. กำลังขับรถเลี้ยวขวาเข้าซอยแห่งหนึ่งเกิดชนเข้ากับรถของนาย ข. เป็นเหตุให้นาย ข. ถึงแก่ความตาย ทายาทของนาย ข. จึงได้ฟ้องเรียกร้องให้รัฐวิสาหกิจดังกล่าวรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจนศาลมีคำพิพากษาให้ชดใช้เงินจำนวน 2 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจดังกล่าวจึงใช้สิทธิไล่เบี้ยเรียกร้องให้นาย ก. ชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวคืนแก่รัฐวิสาหกิจ แต่นาย ก. ไม่ยอมชำระ เป็นเหตุให้รัฐวิสาหกิจแห่งนั้นจึงฟ้องนาย ก. เป็นจำเลยต่อศาล
ในกรณีนี้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐวิสาหกิจดังกล่าวกับนาย ก. ถือเป็นนายจ้างและลูกจ้างกัน เมื่อนาย ก. ซึ่งเป็นลูกจ้างไปกระทำละเมิดเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหาย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 จึงได้กำหนดให้นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหายด้วย เพราะถือว่านายจ้างเป็นผู้ควบคุมดูแลการทำงานของลูกจ้าง นอกจากนั้นนายจ้างเองย่อมมีกำลังที่จะชดใช้เยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย
แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 426 กำหนดไว้ด้วยว่าหากนายจ้างได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกไป นายจ้างมีสิทธิที่จะให้ลูกจ้างชดใช้เงินที่ชำระไปคืนแก่นายจ้างได้
อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้เนื่องจากนายจ้างมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งถือเป็นหน่วยงานของรัฐประเภทหนึ่งตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานของรัฐจะมีสิทธิไล่เบี้ยให้เจ้าหน้าที่ที่กระทำละเมิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนคืนให้ได้ต่อเมื่อปรากฎว่าเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเท่านั้น
ในกรณีตามพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นในอุบัติเหตุที่นาย ก. เป็นคนขับรถนั้น ปรากฏว่าขณะเกิดเหตุนาย ก. กำลังจะเลี้ยวขวาเพื่อเข้าซอย ไม่น่าจะใช้ความเร็วได้มาก โดยขณะนั้นก็ไม่ปรากฏว่านาย ก. ดื่มสุราหรือมีอาการมึนเมา การเกิดอุบัติจึงเป็นการกระทำโดยประมาทธรรมดา ไม่ใช่การกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ซึ่งตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
ปัญหาที่มีอยู่คงมีเพียงว่ารัฐวิสาหกิจจะขอใช้สิทธิไล่เบี้ยตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้ได้หรือไม่ ซึ่งเมื่อปรากฏว่าตามหลักเกณฑ์ที่พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 นาย ก. ไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินคืนแก่รัฐวิสาหกิจแล้ว รัฐวิสาหกิจจึงไม่อาจอ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้อีก เนื่องจากสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นเพียงบทบัญญัติให้สิทธิแก่นายจ้างเป็นการทั่วไป แต่เมื่อกรณีนี้การจะใช้สิทธิไล่เบี้ยได้หรือไม่มีกฎหมายเฉพาะกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ต่างหากแล้ว การใช้สิทธิไล่เบี้ยจึงต้องเป็นไปตามกฎหมายเฉพาะนั้น
ดังนั้น นายจ้างที่เป็นรัฐวิสาหกิจจะใช้สิทธิไล่เบี้ยให้พนักงานชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่จ่ายให้แก่บุคคลภายนอกจากการทำละเมิดของพนักงานได้ต่อเมื่อเข้าหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ต้องเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเท่านั้น จะอาศัยสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อันเป็นกฎหมายทั่วไปไม่ได้

(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3529/2565)

CR : https://youtu.be/RC4SO2u9MEo

เล่ากฎหมาย : ยังอยู่ในช่วงของปีใหม่ เห็นหลายท่านได้แต่งงานกันช่วงนี้ วันนี้จึงจะมาเล่าเรื่องของชู้ หากคิดจะมีคิดให้ดีๆ
คุณรู้หรือไม่ว่าการฟ้องหย่าพร้อมเรียกค่าเสียหายจากการที่คนรักเของเราไปมีชู้เนี่ย บางเคสได้เงินสูงถึง 30 ล้านบาท ( จากคนเจ้าชู้ )
จากเหตุการณ์ หนุ่มสาวได้แต่งงานกันพร้อมทั้งจดทะเบียนสมรสในวันที่ 10 สิงหาคม 2555 สามีได้ทำการนอกใจภรรยาโดยไปมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวอื่นเป็นเวลานานทางฝั่งของภรรยาได้ทำการบอกกล่าวสามีอยู่หลายครั้งให้หยุด การกระทำชู้สาว แต่ฝ่ายสามีไม่หยุดจึงเป็นชนวนเหตุนำขึ้นไปสู้กันในศาล ทางฝ่ายหญิงจึงฟ้องต่อศาล ให้พิพากษาหย่าและเรียกค่าเสียหายสูงถึง 100 ล้านบาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลย ( สามี ) หย่ากับ โจทก์ ( ภรรยา ) และชำระค่าทดแทนเป็นจำนวน 15 ล้านบาท
เรื่องไม่จบเพียงเท่านั้นสามีได้ยื่นอุทธรณ์
พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ และให้จำเลยชำระค่าทดแทนให้แก่โจทก์เป็นจำนวน 30 ล้านบาท
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานละเมิดต่อหน้าที่ภริยาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1447 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 1520 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องหย่าจำเลยได้ และจำเลยต้องชำระค่าทดแทนให้แก่โจทก์เป็นจำนวนที่เหมาะสมกับพฤติการณ์ของคดี
คดีนี้ศาลฎีกาพิจารณาจากพฤติการณ์ของคดีว่า จำเลยได้กระทำการนอกใจโจทก์โดยไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับหญิงอื่นเป็นเวลานาน การกระทำของจำเลยส่งผลกระทบต่อจิตใจและศักดิ์ศรีของโจทก์เป็นอย่างมาก สมควรที่จะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายอย่างสูง ดังนั้น จึงพิพากษาให้จำเลยชำระค่าทดแทนให้แก่โจทก์เป็นจำนวน 30 ล้านบาท
คดีฟ้องหย่าจากการที่ไปมีชู้นั้น มูลค่าของค่าทดแทนจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ของคดีเป็นหลัก ศาลจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น
1.ระยะเวลาที่คู่สมรสมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกัน
2.ผลกระทบต่อจิตใจและศักดิ์ศรีของคู่สมรสที่ได้รับผลกระทบ
3.ฐานะทางเศรษฐกิจของคู่สมรสทั้งสองฝ่าย
ดังนั้น มูลค่าของค่าทดแทนจึงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคดี
#คำพิพากษาฎีกาที่ 1322/2562
ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามแต่หากความรักนั้นไปกระทบต่อบุคคลที่รักเรานั้นไม่เรียกว่ารักแค่หลงในกาม เหตุที่ยกเคสนี้เพราะไม่อยากพูดถึงหลักการของกฎหมายว่าด้วยการมีชู้เพราะมีคนพูดเยอะเต็มไปหมด
เหตุผลที่ผมยกเคสนี้มาเพื่อบอกกับท่านว่าทุกความเจ็บปวดของฝ่ายใดเราสามารถคิดเป็นเงินเพื่อล้างแค้นได้เสมอ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นลงมือในการกระทำความผิด เพราะสุดท้ายแล้วคนที่เจ็บใจที่สุดคือตัวเราเอง
( นาย นิยม ดีจันทึก )
ขออนุญาตใช้ภาพของทาง dailynews ทั้งนี้ไม่ได้นำภาพมาสร้าง

การเอาเลขบัตรเครดิต หรือ ข้อมูลต่างๆบนบัตร แอบนำไปใช้ถือเป็นการลักทรัพย์หรือไม่

คำตอบตามคำพิพากษาครับ

อธิบายกฎหมายอาญามาตรา 60 ฉบับ เข้าใจง่าย โดย นิตินิยม

ภาพชัดเอาไว้อ่าน https://drive.google.com/file/d/1e_p4-_qR8f-cRi4g3WFK23U9ZYvAKauI/view?usp=sharing

วันนี้มาทำความเข้าใจในหลักประมวลกฎหมายอาญามาตรา 60 ที่หลายๆคนอาจลืมหรือหลง

ส่วนหากอยากอ่านทั้งหมดหรือโหลด pdf ไปอ่านเพื่อความคมชัดโหลดได้ที่ https://drive.google.com/.../1tdz2kk86Op4fX.../view...

เขียนอธิบายโดย Niyom Deejantuek

โจทย์ถาม ข้อที่ 1 กฎหมายอาญา 1
นายสุขซื้อปืนใหม่มาจึงต้องการยิงทดลองวันเกิดเหตุนายสุขถือปืนเดินเข้าไปในป่าขณะนั้นเห็นนายพุทธนอนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่นายสุขเข้าใจว่านายพุทธถึงแก่ความตายไปก่อนแล้วจึงใช้ปืนยิงไปหนึ่งนัดกระสุนปืนถูกที่ขาของนายพุทธได้รับอันตรายสาหัส

ดังนี้อยากทราบว่านายสุขจะต้องรับผิดฐานพยายามฆ่าหรือไม่เพราะเหตุใด

คำตอบและวินิจฉัย

ภาพชัด : https://drive.google.com/file/d/14z14em1sYlKYnBFi22uqIFs2Kqi2zcar/view?usp=sharing

ฝึกทำข้อสอบที่นี่ : https://drive.google.com/file/d/1WQsjX7UJPgPips0MQuQ54Lmyf3YTLYHG/view?usp=drivesdk

โดย นิตินิยมกฎหมาย

ฝึกทำข้อสอบกฎหมายอาญา 1 ( LAW 2106 ) จำนวน 10 ข้อก่อนสอบกัน

ข้อสอบ : https://drive.google.com/file/d/1WQsjX7UJPgPips0MQuQ54Lmyf3YTLYHG/view?usp=sharing

เมื่อทำเสร็จแล้วอีก 3-5 วันทางทีมงานจะลงเฉลยให้ผ่านทางเฟสบุ๊ค และมีตัวช่วยโดยทางทีมงานจะตรวจให้หรือตรวจเองได้

หากต้องการให้ทีมงานตรวจให้เมื่อทำเสร็จ 10 ข้อ ให้ทำเป็น PDF , JPG ก็ได้แล้วส่งมาที่ email : [email protected] ได้เลยทางทีมงานจะมีเกณฑ์ในการให้ A B C D โดยยึดหลักกฎหมายเป็นหลักในการให้

หรือถ้าใครที่สะดวกตรวจเองก็รอคำเฉลยหน้าเพจได้เลยครับ

อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อนๆได้ฝึกทำข้อสอบกันนะ